"คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก"

กระทู้สนทนา
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้เงินไปกับโครงการจำนำข้าวไปแล้วไม่น้อยกว่า 6.7 แสนล้านบาท สำหรับการจำนำ

ใน 4 รอบการผลิตที่ผ่านมา เรียกว่าอุ้มกันสุดตัว แทรกแซงกันทุกเม็ด เป็นการเข้าไปรับซื้อโดยตรง ไม่อ้อมค้อมข้าวไหลเข้าสต็อกรัฐทั้งหมด

ขณะที่ใช้เงินไปกับการแทรกแซงยางพารา โดยวิธีการปล่อยเงินกู้ให้สถาบันเกษตรกร เอกชน ไปรวมประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท เป็นตัวเลขที่ทาบกันไม่ได้ ทั้งที่เกษตรกรที่ได้ประโยชน์จากข้าวแค่ 4-5 ล้านครัวเรือน ขณะที่เกษตรกรชาวสวนยางมีมากกว่า 10 ล้านครัวเรือน

การออกมาชี้แจงจากรัฐว่าไม่ได้ 2 มาตรฐานในการช่วยเหลือเกษตรกร แต่พืชต่างชนิดกัน การช่วยเหลือต้องแตกต่างกัน ดูเหมือนเป็นเหตุผลแบบเอาสีข้างเข้าถู เรียกว่าเถียงแบบข้างๆคูๆก็มิเห็นจะไม่เหมาะสม

รัฐบาลแก้ปัญหาให้ชาวสวนยาง ด้วยการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ จากการส่งออกหรือเงินเซส กก.ละ 3 บาท ทำให้ดันราคาไปเหนือ 80 บาทต่อกก.ได้ พร้อมกับเจียดเศษเงินมาให้เป็นค่าปุ๋ยไร่ละ 1,260 บาทให้กับชาวสวนยางที่มีไม่เกิน 10 ไร่ พร้อมกับยืนยันไม่แตะต้องกลไกตลาด เพราะเกรงว่าจะเสียอำนาจการต่อรอง

ขณะที่รัฐบาลทุ่มจำนำข้าวให้ยืนเหนือราคาต้นทุนเกือบ 100% ด้วยการตั้งราคาให้ 1.5 หมื่นบาท จากต้นทุน 7-8 พันบาทและยังใจป้ำให้ครอบครัวละไม่เกิน 5 แสนบาทต่อรอบการผลิต นั่นหมายถึงใครทำสองรอบและใช้เต็มโควตาจะมีรายได้ถึง 1 ล้านบาทต่อปี

ขณะที่รัฐบาลตั้งราคาให้ชาวสวนยางแค่ 80 บาทหรือ 90 บาทต่อกก. จากต้นทุนไม่น้อยกว่า 70 บาทต่อกก. ราคาที่ขยับให้จึงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เปรียบเทียบกันมิได้เลย และชาวสวนยางที่จะได้รายได้ต่อปีถึง 1 ล้านบาทได้ ต้องมีสวนยางไม่น้อยกว่า 50 ไร่ และต้องได้ผลผลิตมาตรฐานไม่น้อยกว่าไร่ละ 3 กก.

ขณะที่สินค้าข้าวรัฐบาลมุ่งเข้าไปอย่างเต็มที่แทรกแซงจนไม่มีเงินเหลือ ตั้งใจที่ยืนเหนืออำนาจตลาดให้ได้ ทั้งที่เราผลิตข้าวได้แค่ปีละ 30-40 ล้านตัน จากทั่วโลกผลิตกว่า 400 ล้านตัน

ขณะที่รัฐบาลเปิดทำเนียบต้อนรับชาวนาข้าว รัฐมนตรีขึ้นบนเวทีของผู้เรียกร้องพร้อมพลิกมติชั่วข้ามคืนในคราวลดราคาจำนำลงมาเหลือ 1.2 หมื่นบาท เพียงแค่ชาวนาขู่จะรวมตัวประท้วงเท่านั้น

ขณะที่รัฐบาลกลับส่งแค่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงไปเจรจากับชาวสวนยาง พร้อมกับการให้ก้อนอิฐและมีท่าทีเตรียมพร้อมเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มชาวสวนยางผู้เดือดร้อนทันที ที่การเจรจายกแรกไม่สำเร็จ

ขณะที่รัฐบาลเปิดปาก เราจะมุ่งไปสู่การปรองดอง ลดละความขัดแย้ง "ปมประเด็นสำคัญหนึ่งที่เงื่อนไขการปรองดองเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะยังมีคนจำนวนมากรู้สึกว่ารัฐและเจ้าหน้าที่รัฐมีสองมาตรฐาน เลือกปฏิบัติ กระทำการโดยเอื้อเฉพาะพวกพ้องตัวเอง"

ปมประเด็นสำคัญหนึ่งที่ทำให้การปรองดองเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต่างชี้นิ้วกล่าวหา"คุณนั่นแหละผิด ฉันไม่ผิด"

อย่าได้ยัดเยียดความผิดให้กับชาวสวนยาง และลอยแพเขา

อย่าได้คิดว่าพวกเขาจะอยู่ตรงข้าม นอกขั้ว

เพียงเพราะเขาเลือกปลูกยางและมีถิ่นฐานอยู่ภาคใต้

อย่าได้แยกชาวสวนยางออกจากนาข้าว

อย่ายัดเยียดให้เขาเป็นดั่งสำนวนที่ว่า"คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก"

ที่มา:http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/ticomeporn/20130902/526820/คนไม่ผิด-ผิดที่ครอบครองหยก.html

ปล.อ่านเองคิดเองครับ...เอิ๊ก  ๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่