พระพุทธเจ้า ได้เคยตรัสกับท่านพระอานนท์ว่า "ปฏิจจสมุปบาทนี้ เป็นธรรมลึกซึ้ง ทั้งมีกระแสความลึกซึ้ง"
อีกทั้งยังเคยตรัสกับ โพธิราชกุมาร ว่า ธรรมอันลึก สงบ ระงับ ประณีต คือ ปฏิจจสมุปบาท
กับ สภาพเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ความสิ้นตัณหา ฯลฯ คือ นิพพาน เป็นฐานะที่เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก !
ประเด็นที่ ผมสนใจ ก็คือ ปฏิจจสมุปบาทที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เป็นธรรมลึกซึ้ง ทั้งมีกระแสความลึกซึ้ง" นี้
เมื่อเทียบกับ ข้อความจาก อาณิสูตร ซึ่งตรัสถึง พระสูตรที่ "มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วย สุญญตธรรม"
จะมีความอันหนึ่งอันเดียวกัน หรือไม่ ?
กล่าวคือ พระสูตรทั้งหลายที่ตรัสถึง ปฏิจจสมุปบาท สามารถกล่าวได้หรือไม่ว่า ต้องเป็นพระสูตรที่มีอรรถอันลึก
เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วย สุญญตธรรม คือ ย่อมว่างเปล่าจาก สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา !
ท่านปยุตโต ได้อธิบายความหมายของ สุญญตา เอาไว้ว่า หมายถึง ความเป็นสภาพที่ว่าง
จากความเป็น สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา คือ ปรมัตถธรรมทั้งหมด และ ปฏิจจสมุปบาท เป็นต้น
หากเราเชื่อตามการอธิบายความหมายจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่านปยุตโต ก็ย่อมสรุปความได้ว่า
พระสูตรทั้งหลายที่เกียวกับ ปฏิจจสมุปบาท ย่อมเป็นพระสูตรเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อาณิสูตร กล่าวคือ
เป็น "พระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตา"
ที่น่าเศร้าใจก็คือ พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระสูตรทั้งหลายที่พระองค์ตรัสไว้(ดีแล้ว) เช่น อริยสัจ ๔ หรือ ปฏิจจสมุปบาท เป็นต้นนี้
ซึ่งเป็นโลกุตตระ และ ประกอบด้วยสุญญตธรรม กล่าวคือ เป็นธรรมที่พ้นวิสัยโลก และว่างจาก สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
กลับมิได้รับความใส่ใจ ในการ ฟัง หรือ เรียนรู้ ในธรรมเหล่านั้น จากคนในโลกอนาคต
ซึ่งตรงกับพฤติกรรมที่ แก๊งส์เม็ดมะขาม และพวก กำลังแสดงให้เห็นอยู่ในบัดนี้ หรือมิใช่ ?
ขออนุญาต กล่าวย้ำอีกครั้งว่า ....................
พระสูตรทั้งหลายที่เกียวกับ ปฏิจจสมุปบาท ย่อมเป็นธรรมอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตา
กล่าวคือ ย่อมเป็นธรรมที่พ้นวิสัยโลก และว่างจาก สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา !
นั่นจึงหมายความว่า หากใครผู้ใดก็ตาม ที่กล่าวอธิบาย ปฏิจจสมุปบาท ด้วย สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
หรือ เพียรพยายาม ในการ "ยัดเยียด" สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เข้าไปใน ปฏิจจสมุปบาท
ย่อมเท่ากับ การกล่าวตู่พระพุทธเจ้า บิดเบือนพระธรรมวินัย และหักล้างทำลาย พระพุทธประสงค์ โดยสิ้นเชิง
และหากใครผู้ใด ต้องการ "โต้แย้ง" มติในกระทู้นี้
ในเบื้องแรก ผมขอแนะนำว่า มันผู้นั้น ควรเข้าไปกราบเรียนให้ท่านปยุตโต "ฉีก" ตำราพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
ออกเสียก่อน ๑ หน้า เพื่อที่ชาวพุทธโดยทั่วไป จะได้ไม่นำข้อความที่ "อาจผิด" ในความเชื่อของคนบางพวก มาใช้อ้างอิง
ให้เป็นที่ระคายเคือง "หัวใจ" ชั่วๆ ของพวกชาวพุทธชายขอบ รวมไปถึง อัญเดียรถีย์(แอ๊บแบ๊ว) ได้อีกต่อไป !
ชัดเจนแล้วนะครับ
ปฏิจจสมุปบาท เป็นธรรมอันลึก ประกอบด้วย สุญญตา หรือไม่ ?
อีกทั้งยังเคยตรัสกับ โพธิราชกุมาร ว่า ธรรมอันลึก สงบ ระงับ ประณีต คือ ปฏิจจสมุปบาท
กับ สภาพเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ความสิ้นตัณหา ฯลฯ คือ นิพพาน เป็นฐานะที่เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก !
ประเด็นที่ ผมสนใจ ก็คือ ปฏิจจสมุปบาทที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เป็นธรรมลึกซึ้ง ทั้งมีกระแสความลึกซึ้ง" นี้
เมื่อเทียบกับ ข้อความจาก อาณิสูตร ซึ่งตรัสถึง พระสูตรที่ "มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วย สุญญตธรรม"
จะมีความอันหนึ่งอันเดียวกัน หรือไม่ ?
กล่าวคือ พระสูตรทั้งหลายที่ตรัสถึง ปฏิจจสมุปบาท สามารถกล่าวได้หรือไม่ว่า ต้องเป็นพระสูตรที่มีอรรถอันลึก
เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วย สุญญตธรรม คือ ย่อมว่างเปล่าจาก สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา !
ท่านปยุตโต ได้อธิบายความหมายของ สุญญตา เอาไว้ว่า หมายถึง ความเป็นสภาพที่ว่าง
จากความเป็น สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา คือ ปรมัตถธรรมทั้งหมด และ ปฏิจจสมุปบาท เป็นต้น
หากเราเชื่อตามการอธิบายความหมายจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่านปยุตโต ก็ย่อมสรุปความได้ว่า
พระสูตรทั้งหลายที่เกียวกับ ปฏิจจสมุปบาท ย่อมเป็นพระสูตรเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อาณิสูตร กล่าวคือ
เป็น "พระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตา"
ที่น่าเศร้าใจก็คือ พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระสูตรทั้งหลายที่พระองค์ตรัสไว้(ดีแล้ว) เช่น อริยสัจ ๔ หรือ ปฏิจจสมุปบาท เป็นต้นนี้
ซึ่งเป็นโลกุตตระ และ ประกอบด้วยสุญญตธรรม กล่าวคือ เป็นธรรมที่พ้นวิสัยโลก และว่างจาก สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
กลับมิได้รับความใส่ใจ ในการ ฟัง หรือ เรียนรู้ ในธรรมเหล่านั้น จากคนในโลกอนาคต
ซึ่งตรงกับพฤติกรรมที่ แก๊งส์เม็ดมะขาม และพวก กำลังแสดงให้เห็นอยู่ในบัดนี้ หรือมิใช่ ?
ขออนุญาต กล่าวย้ำอีกครั้งว่า ....................
พระสูตรทั้งหลายที่เกียวกับ ปฏิจจสมุปบาท ย่อมเป็นธรรมอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตา
กล่าวคือ ย่อมเป็นธรรมที่พ้นวิสัยโลก และว่างจาก สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา !
นั่นจึงหมายความว่า หากใครผู้ใดก็ตาม ที่กล่าวอธิบาย ปฏิจจสมุปบาท ด้วย สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
หรือ เพียรพยายาม ในการ "ยัดเยียด" สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เข้าไปใน ปฏิจจสมุปบาท
ย่อมเท่ากับ การกล่าวตู่พระพุทธเจ้า บิดเบือนพระธรรมวินัย และหักล้างทำลาย พระพุทธประสงค์ โดยสิ้นเชิง
และหากใครผู้ใด ต้องการ "โต้แย้ง" มติในกระทู้นี้
ในเบื้องแรก ผมขอแนะนำว่า มันผู้นั้น ควรเข้าไปกราบเรียนให้ท่านปยุตโต "ฉีก" ตำราพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
ออกเสียก่อน ๑ หน้า เพื่อที่ชาวพุทธโดยทั่วไป จะได้ไม่นำข้อความที่ "อาจผิด" ในความเชื่อของคนบางพวก มาใช้อ้างอิง
ให้เป็นที่ระคายเคือง "หัวใจ" ชั่วๆ ของพวกชาวพุทธชายขอบ รวมไปถึง อัญเดียรถีย์(แอ๊บแบ๊ว) ได้อีกต่อไป !
ชัดเจนแล้วนะครับ