สำหรับผมมองในแง่ดีว่า 1. เราไม่ควรโลภ ผมขาดทุนหนักเพราะไม่รู้ตัวว่า overtrade มารู้อีกทีก็ขาดทุนแล้ว ทำให้ผมเข้าใจ concept เรื่อง overtrade อย่างเป็นรูปธรรม เพราะต่อให้เรามีระบบดีแค่ไหน แต่การเล่นเยอะเกินไปทำให้เราโลภเวลาหุ้นขึ้นก็ไม่ขายตามระบบ หุ้นตกก็ไม่ cut ตามระบบเพราะจำนวนเงินมันเยอะเกินไปที่จะทำให้ take action อย่างมีเหตุผลได้ อารมณ์โลภ และกลัวมันแปรผันตรงกับจำนวนเงินที่ลง ทำให้ต่อไปนี้ด้วยเงินประมาณ 1 ล้านที่เหลือ ผมจะซื้อขายปริมาณน้อยๆ ให้เรามีเหตุผลตลอดเวลาในการซื้อขาย ซึ่งเชื่อว่าถ้าเราไม่ถูกอารมณ์โลภและกลัวเข้าสิงพอร์ตจะดีขึ้นในระยะยาว แม้จะใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีก็ตาม 2. อย่าถัว และอย่ากลัวเสียเงินน้อย ที่ระบบผมเสียเพราะผมไปถัวหุ้นที่ติดถัวไปเรื่อยๆ จนหมดพอร์ตแต่มันลงมากกว่าที่คิด ดังนั้นถ้าไม่ถัวก็ไม่มีวันนี้ เคยมีเซียนต่อว่าผมใน fb ที่ผมเคยไป post ว่าไม่มีใเพราะ cut ผมเคยเชื่อแก แต่ตอนนี้ผมขอ cut ไว้ก่อนและจะเลิกซื้อถัวตลอดชีวิต 3. ผมเชื่อว่าการเสียเงินมาก ๆ เป็นเรื่องที่ดีเพราะโดยธรรมชาติมนุษย์มันทำให้เกิดแรงฮึดที่จะศึกษาวิธีหาเงินคืน ไม่มีใครนอนไม่หลับเพราะอยากรวยร้อยล้าน มีแต่คนนอนไม่หลับที่เสียเงินแค่ 1 ล้าน ผมว่ามันเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เราจะขยันศึกษาหาความรู่เรื่องการลงทุนในอนาคตเพื่อหาวิธีเอาพอร์ตกลับคืนมา 4. สุดท้ายมองในแง่ดีเราขาดทุนตามตลาด ดังนั้นอย่าใจเสียเลิกลงทุนหาทางปรับพอร์ตหุ้นถูกหุ้นดีเต็มตลาด ถือเงินสดไว้รอจังหวะเข้าซื้อ หากโชคดีอาจได้ทุนคืนพร้อมกำไรในระยะยาวหากฟ้าเปิด เพื่อนๆ มีมุมมองดี ๆ อะไรมาช่วยแบ่งปันกันนะครับในเวลาเช่นนี้
มาช่วยกัน Share มุมมองในแง่ดีตอนขาดทุนหนักกันครับ ผมเองขาดทุนและทยอย cut อยู่รวม 1.3 ล้าน จากต้นทุน 2.3 ล้าน