สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
จะบอกว่า"ชอบ"ซีรีส์ญี่ปุ่นไม่ได้ ต้องบอกว่า "รัก" ถึงจะถูก
ผมรักซีรีส์ญี่ปุ่นตรงที่...ซีรีส์ของเขาทุกเรื่อง ไม่ว่าจะแนวรักโรแมนติก แนวครอบครัว แนววัยรุ่นแก่นแก้ว แนวอาชีพ แนวสืบสวน แนวหมอ แนวโบราณ แนวประวัติศาศตร์..
ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ตรงกันหมด
คือทุกคนต้องหาที่ยืนของตนเองบนโลกนี้ให้เจอ เชิดชูความฝันและทำความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นจริง ไม่ว่าจะต้องผ่านบททดสอบอะไรก็ตาม จึงจะเรียกว่า "มีชีวิตอย่างคุ้มค่า"
ผมจึงดูซีรีส์ญี่ปุ่นได้อย่างภาคภูมิใจ และรู้สึกมีแรง"หนุนใจ"ขึ้นมา
ยกตัวอย่างง่ายมาก ซีรีส์ญี่ปุ่นช่วง 3 ทุ่มของทรูเอเซียนทุกวันนี้ 7 วันเต็ม 3 เรื่อง...ตัวเอกทั้ง 3 เรื่องมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือ หาจุดยืนของตนเอง ว่าตนเองเกิดมาเพื่อทำอะไร แล้วก็ทุ่มเทเสียสละทุกอย่างเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
จันทร์-อังคาร Doctor Ume
ในยุคหลังสงครามโลกจบใหม่ๆ อุเมะจังคือน้องเล็กของบ้านที่ไม่เก่งเหมือนพี่สาว ไม่ฉลาดเหมือนพี่ชาย เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะ "หาตัวเองให้เจอ"
เธอได้เจอกับคู่หมั้นของพี่สาว และว่าที่พี่เขยเคยบอกเธอว่าชื่ออุเมะนั้นดีจัง (พลัม) เพราะขณะที่คนชื่นชมแต่ดอกซากุระ คนกลับลืมไปว่าดอกของอุเมะนั้นจะผลิบานก่อนเป็นสิ่งแรก
คำพูดนี้ทำให้อุเมะที่แอบรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า มีกำลังใจขึ้นมา และใช้คำพูดของว่าที่พี่เขย เป็นแรงผลักดันหนุนใจเธอไปตลอดชีวิต
ความฝันของอุเมะที่มีมาตลอด แต่ไม่รู้ตัว และไม่รู้จะแสดงออกมาอย่างไร คือ "มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้คน"
แต่ความฝันเพียงเท่านี้จะไม่มีทางเป็นจริงได้ ถ้าอุเมะเอาแต่ฝัน เธอผ่านการสอบตกแล้วตกอีก ต้องท่องหนังสือท่องแล้วท่องอีก แต่เมื่อเธอเลือกหนทางนี้แล้ว เธอก็พร้อมจะทุ่มเทเพื่อทำสิ่งที่เธอฝันไว้ให้เป็นจริง
พุธ-ศุกร์ Hungry!
ยุคปัจจุบัน พระเอกเป็นอดีตนักเรียนเชฟอัจฉริยะ ผู้หันหลังให้วงการอาหารแล้วมาเป็นหัวหน้าวงร็อค แม้วงของเขาจะมีฝีมือแต่กลับไม่เคยผ่าน debut สักที
จนเมื่อนักร้องนำลาออกจากวงจะไปเป็นศิลปินเดี่ยว และแม่ของพระเอกซึ่งเป็นเชฟมีฝีมือเสียชีวิต วิกฤตครั้งนี้กลับกลายเป็น "เมื่อประตูปิดหน้าต่างก็เปิด"
ความที่รู้สึกผิดที่ทอดทิ้งแม่ให้ดูแลร้านคนเดียว ทำให้เขากลับมาจับมีดทำอาหารอีกครั้ง โดยความฝันของเขาคือ "ทำร้านอาหารฝรั่งเศสที่ใครๆก็สามารถเข้ามาอร่อยที่ร้านเขาได้"
แต่มันไม่ใช่หนทางที่ง่ายเลย เขาต้องผ่านการบริหารงานที่ผิดพลาด เสียเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ผิดใจกับคนรักที่ทำใจลำบากที่จะสนับสนุนเขาให้เปลี่ยนเส้นทางจากการเป็นนักดนตรีซึ่งเธอชอบมาก มาเป็นเชฟซึ่งเธอเกลียดมาก และอาจเสียร้านให้กับบริษัทคู่แข่งซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ไป
ศุกร์-อาทิตย์ Carnation
โอฮาระเป็นเด็กสาวในยุคก่อนสงครามโลก ที่หลงใหลเสื้อผ้าตะวันตกอย่างมาก ความฝันของเธอคือเปิดกิจการร้านตัดเสื้อของตัวเองในนาม "โอฮาระ"
ทว่า ในยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของจังหวัดที่ไม่มีใครริตัดชุดตะวันตก แต่ด้วยความรักและหลงใหลโอฮาระทุ่มเทตนเองในการเรียนรู้วิธีตัดเย็บ เสียสละเวลาส่วนตัวเข้าไปทำงานเป็นลูกจ้างรับใช้ในร้านตัดเสื้อเพียงเพื่อมีโอกาสที่จะ "เรียนวิธีใช้จักรเย็บผ้า" ด้วยตัวเอง
ตลอดเส้นทางการเติบโตของเธอ ผ่านการต่อสู้กับพ่อที่คัดค้าน ผ่านการเสียน้ำตากับความผิดหวัง ล้มเหลว ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งเด็กสาวจะเรียนรู้ "วิธีแก้ปัญหา" ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการหล่อหลอมให้เธอทำความฝันได้สำเร็จ
ถามว่าซีรีส์ที่มีคอนเส็ปต์แบบนี้มันดีตรงไหน?
ผมว่ามันดีมากๆตรงที่...ชีวิตเราแต่ละคนไม่ได้มีเรื่องชิงรักหักสวาทกันตลอดเวลาทุกคนไป และไม่ใช่เราทุกคนที่เกิดมาโคตรรวย รวยโคตร แบบพระเอก หรือจนแสนจนแบบนางเอก
แต่สิ่งที่ทุกคนในโลกมีตรงกันหมด คือเราล้วนใฝ่หาจุดยืนของเราบนโลกใบนี้ทั้งนั้นครับ เราทุกคนต่างมีความฝัน "ซ่อนอยู่" ในหัวใจส่วนลึกของเราแต่ละคน
และเราทุกคนก็ล้วนต้องฟันฝ่าอุปสรรคและความเป็นไปไม่ได้ต่างๆนานา จนบางคนท้อ ถอดใจ ขณะที่บางคนก็ยังสู้อยู่ แต่แทบหมดแรงไปแล้ว
ดังนั้น การมีตัวละครที่สามารถ "สะท้อนถึงสภาพชีวิตและจิตใจเราได้อย่างแท้จริง" จึงมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือน "มีเพื่อน" ที่สื่อสารสิ่งที่เรากำลังรู้สึกอยู่ หรือกำลังเผชิญอยู่ ออกมาเป็นเนื้อหาสาระได้
ตัวละครกับเรา ไม่ได้ต่างกันเลย เราล้วนมีสงครามภายในใจที่ต้องต่อสู้ เราต่างมีความฝันที่เราอยากบรรลุ เราต้องการแรงบันดาลใจที่จะสู้ ที่จะทุ่มเท ที่จะเสียสละเพื่อสิ่งที่เรารัก
ทำให้ขณะที่เราคอยเอาใจช่วยตัวละคร ลึกๆแล้วเหมือนเรากำลังส่งเสียงเชียร์ตัวเองไปด้วย และหลายๆครั้ง...ทำให้เราตระหนักได้ว่า "แล้วเรากำลังทำอะไรกับชีวิตเราเนี่ย เราจะใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่เคยทำฝันของเราให้เป็นจริงหรือ?"
ผมจึงรู้สึกมีความหวังและมีกำลังใจ อุ่นใจทุกครั้งที่ดูซีรีส์ญี่ปุ่นครับ
ผมรักซีรีส์ญี่ปุ่นตรงที่...ซีรีส์ของเขาทุกเรื่อง ไม่ว่าจะแนวรักโรแมนติก แนวครอบครัว แนววัยรุ่นแก่นแก้ว แนวอาชีพ แนวสืบสวน แนวหมอ แนวโบราณ แนวประวัติศาศตร์..
ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ตรงกันหมด
คือทุกคนต้องหาที่ยืนของตนเองบนโลกนี้ให้เจอ เชิดชูความฝันและทำความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นจริง ไม่ว่าจะต้องผ่านบททดสอบอะไรก็ตาม จึงจะเรียกว่า "มีชีวิตอย่างคุ้มค่า"
ผมจึงดูซีรีส์ญี่ปุ่นได้อย่างภาคภูมิใจ และรู้สึกมีแรง"หนุนใจ"ขึ้นมา
ยกตัวอย่างง่ายมาก ซีรีส์ญี่ปุ่นช่วง 3 ทุ่มของทรูเอเซียนทุกวันนี้ 7 วันเต็ม 3 เรื่อง...ตัวเอกทั้ง 3 เรื่องมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือ หาจุดยืนของตนเอง ว่าตนเองเกิดมาเพื่อทำอะไร แล้วก็ทุ่มเทเสียสละทุกอย่างเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
จันทร์-อังคาร Doctor Ume
ในยุคหลังสงครามโลกจบใหม่ๆ อุเมะจังคือน้องเล็กของบ้านที่ไม่เก่งเหมือนพี่สาว ไม่ฉลาดเหมือนพี่ชาย เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะ "หาตัวเองให้เจอ"
เธอได้เจอกับคู่หมั้นของพี่สาว และว่าที่พี่เขยเคยบอกเธอว่าชื่ออุเมะนั้นดีจัง (พลัม) เพราะขณะที่คนชื่นชมแต่ดอกซากุระ คนกลับลืมไปว่าดอกของอุเมะนั้นจะผลิบานก่อนเป็นสิ่งแรก
คำพูดนี้ทำให้อุเมะที่แอบรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า มีกำลังใจขึ้นมา และใช้คำพูดของว่าที่พี่เขย เป็นแรงผลักดันหนุนใจเธอไปตลอดชีวิต
ความฝันของอุเมะที่มีมาตลอด แต่ไม่รู้ตัว และไม่รู้จะแสดงออกมาอย่างไร คือ "มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้คน"
แต่ความฝันเพียงเท่านี้จะไม่มีทางเป็นจริงได้ ถ้าอุเมะเอาแต่ฝัน เธอผ่านการสอบตกแล้วตกอีก ต้องท่องหนังสือท่องแล้วท่องอีก แต่เมื่อเธอเลือกหนทางนี้แล้ว เธอก็พร้อมจะทุ่มเทเพื่อทำสิ่งที่เธอฝันไว้ให้เป็นจริง
พุธ-ศุกร์ Hungry!
ยุคปัจจุบัน พระเอกเป็นอดีตนักเรียนเชฟอัจฉริยะ ผู้หันหลังให้วงการอาหารแล้วมาเป็นหัวหน้าวงร็อค แม้วงของเขาจะมีฝีมือแต่กลับไม่เคยผ่าน debut สักที
จนเมื่อนักร้องนำลาออกจากวงจะไปเป็นศิลปินเดี่ยว และแม่ของพระเอกซึ่งเป็นเชฟมีฝีมือเสียชีวิต วิกฤตครั้งนี้กลับกลายเป็น "เมื่อประตูปิดหน้าต่างก็เปิด"
ความที่รู้สึกผิดที่ทอดทิ้งแม่ให้ดูแลร้านคนเดียว ทำให้เขากลับมาจับมีดทำอาหารอีกครั้ง โดยความฝันของเขาคือ "ทำร้านอาหารฝรั่งเศสที่ใครๆก็สามารถเข้ามาอร่อยที่ร้านเขาได้"
แต่มันไม่ใช่หนทางที่ง่ายเลย เขาต้องผ่านการบริหารงานที่ผิดพลาด เสียเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ผิดใจกับคนรักที่ทำใจลำบากที่จะสนับสนุนเขาให้เปลี่ยนเส้นทางจากการเป็นนักดนตรีซึ่งเธอชอบมาก มาเป็นเชฟซึ่งเธอเกลียดมาก และอาจเสียร้านให้กับบริษัทคู่แข่งซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ไป
ศุกร์-อาทิตย์ Carnation
โอฮาระเป็นเด็กสาวในยุคก่อนสงครามโลก ที่หลงใหลเสื้อผ้าตะวันตกอย่างมาก ความฝันของเธอคือเปิดกิจการร้านตัดเสื้อของตัวเองในนาม "โอฮาระ"
ทว่า ในยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของจังหวัดที่ไม่มีใครริตัดชุดตะวันตก แต่ด้วยความรักและหลงใหลโอฮาระทุ่มเทตนเองในการเรียนรู้วิธีตัดเย็บ เสียสละเวลาส่วนตัวเข้าไปทำงานเป็นลูกจ้างรับใช้ในร้านตัดเสื้อเพียงเพื่อมีโอกาสที่จะ "เรียนวิธีใช้จักรเย็บผ้า" ด้วยตัวเอง
ตลอดเส้นทางการเติบโตของเธอ ผ่านการต่อสู้กับพ่อที่คัดค้าน ผ่านการเสียน้ำตากับความผิดหวัง ล้มเหลว ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งเด็กสาวจะเรียนรู้ "วิธีแก้ปัญหา" ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการหล่อหลอมให้เธอทำความฝันได้สำเร็จ
ถามว่าซีรีส์ที่มีคอนเส็ปต์แบบนี้มันดีตรงไหน?
ผมว่ามันดีมากๆตรงที่...ชีวิตเราแต่ละคนไม่ได้มีเรื่องชิงรักหักสวาทกันตลอดเวลาทุกคนไป และไม่ใช่เราทุกคนที่เกิดมาโคตรรวย รวยโคตร แบบพระเอก หรือจนแสนจนแบบนางเอก
แต่สิ่งที่ทุกคนในโลกมีตรงกันหมด คือเราล้วนใฝ่หาจุดยืนของเราบนโลกใบนี้ทั้งนั้นครับ เราทุกคนต่างมีความฝัน "ซ่อนอยู่" ในหัวใจส่วนลึกของเราแต่ละคน
และเราทุกคนก็ล้วนต้องฟันฝ่าอุปสรรคและความเป็นไปไม่ได้ต่างๆนานา จนบางคนท้อ ถอดใจ ขณะที่บางคนก็ยังสู้อยู่ แต่แทบหมดแรงไปแล้ว
ดังนั้น การมีตัวละครที่สามารถ "สะท้อนถึงสภาพชีวิตและจิตใจเราได้อย่างแท้จริง" จึงมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือน "มีเพื่อน" ที่สื่อสารสิ่งที่เรากำลังรู้สึกอยู่ หรือกำลังเผชิญอยู่ ออกมาเป็นเนื้อหาสาระได้
ตัวละครกับเรา ไม่ได้ต่างกันเลย เราล้วนมีสงครามภายในใจที่ต้องต่อสู้ เราต่างมีความฝันที่เราอยากบรรลุ เราต้องการแรงบันดาลใจที่จะสู้ ที่จะทุ่มเท ที่จะเสียสละเพื่อสิ่งที่เรารัก
ทำให้ขณะที่เราคอยเอาใจช่วยตัวละคร ลึกๆแล้วเหมือนเรากำลังส่งเสียงเชียร์ตัวเองไปด้วย และหลายๆครั้ง...ทำให้เราตระหนักได้ว่า "แล้วเรากำลังทำอะไรกับชีวิตเราเนี่ย เราจะใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่เคยทำฝันของเราให้เป็นจริงหรือ?"
ผมจึงรู้สึกมีความหวังและมีกำลังใจ อุ่นใจทุกครั้งที่ดูซีรีส์ญี่ปุ่นครับ
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับเราละครญึ่ปุ่น
- มีความเป็นจริงและจับต้องได้มากกว่าละครไทยค่ะ คือ ตัวละครแต่ละตัวจะมีมิติ มีลักษณะเป็นคนธรรมดาจริง ๆ คือ มีความดี ความชั่วในตัวเอง มีเหตุผลที่รองรับได้ในการกระทำ เป็นตัวละครสีเทา ๆ คือมีชั่วมีดีปนกัน ไม่เหมือนละครไทยที่มักจะมีตัวดีสุด ๆ นางเอก พระเอกแสนดี ส่วนนางร้าย แม่นางร้ายก็ร้ายกาจมากมาย ซึ่งมันดูโอเว่อร์ในบางครั้ง
- ละครญี่ปุ่นที่เราดู ส่วนมากเน้นเรื่องวิชาชีพ เจาะลึกมันลงไปเลย ว่า เออ อาชีพนี้มันเป็นยังไง เช่น Hero (ตัวเอกเป็นอัยการ) หรือเรื่องที่นางเอกเป็นนักข่าว นักบิน อะไรแบบนั้น ได้เรียนรู้วงการนั้น ๆ อาชีพนั้น ๆ ไปด้วย ในขณะที่ละครไทย หลายคนดูแล้วยังสงสัยว่า ตกลงพระเอกมันทำงานอะไร ? วัน ๆ ตามแต่นางเอก
- ละครมักสอดแทรกข้อคิดที่ซาบซึ้งอ่ะค่ะ ถ้าเป็นเรื่องในครอบครัวก็จะมีแง่คิด ให้เราเห็นความสำคัญของคนรอบข้าง เราว่าละครเขาให้กำลังใจนะ ทำให้คนดูฮึกเหิม มีความกล้าที่จะออกไปใช้ชีวิตมากขึ้น (หรือเพราะประเทศญี่ปุ่นประชากรเขาเครียดก็ไม่รู้นะ เลยออกมาในรูปนี้)
ช่วยได้เท่านี้อ่ะค่ะ เขียนไม่ค่อยออกเหมือนกัน
- มีความเป็นจริงและจับต้องได้มากกว่าละครไทยค่ะ คือ ตัวละครแต่ละตัวจะมีมิติ มีลักษณะเป็นคนธรรมดาจริง ๆ คือ มีความดี ความชั่วในตัวเอง มีเหตุผลที่รองรับได้ในการกระทำ เป็นตัวละครสีเทา ๆ คือมีชั่วมีดีปนกัน ไม่เหมือนละครไทยที่มักจะมีตัวดีสุด ๆ นางเอก พระเอกแสนดี ส่วนนางร้าย แม่นางร้ายก็ร้ายกาจมากมาย ซึ่งมันดูโอเว่อร์ในบางครั้ง
- ละครญี่ปุ่นที่เราดู ส่วนมากเน้นเรื่องวิชาชีพ เจาะลึกมันลงไปเลย ว่า เออ อาชีพนี้มันเป็นยังไง เช่น Hero (ตัวเอกเป็นอัยการ) หรือเรื่องที่นางเอกเป็นนักข่าว นักบิน อะไรแบบนั้น ได้เรียนรู้วงการนั้น ๆ อาชีพนั้น ๆ ไปด้วย ในขณะที่ละครไทย หลายคนดูแล้วยังสงสัยว่า ตกลงพระเอกมันทำงานอะไร ? วัน ๆ ตามแต่นางเอก
- ละครมักสอดแทรกข้อคิดที่ซาบซึ้งอ่ะค่ะ ถ้าเป็นเรื่องในครอบครัวก็จะมีแง่คิด ให้เราเห็นความสำคัญของคนรอบข้าง เราว่าละครเขาให้กำลังใจนะ ทำให้คนดูฮึกเหิม มีความกล้าที่จะออกไปใช้ชีวิตมากขึ้น (หรือเพราะประเทศญี่ปุ่นประชากรเขาเครียดก็ไม่รู้นะ เลยออกมาในรูปนี้)
ช่วยได้เท่านี้อ่ะค่ะ เขียนไม่ค่อยออกเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 4
1. บทชวนติดตาม ใ้ห้แง่คิดแต่ไม่น่าเบื่อ น่าเชื่อสมจริง เช่น อาชีพ การงาน ของตัวละคร
2. ใช้นักแสดงตามคาแร็คเตอร์ อายุมากก็เป็นตัวเอก เป็นพระเอกได้
3. ไม่ค่อยเห็นมีตบตี ทำร้ายร่างกาย
4. เนื้อเรื่องสร้างแรงบันดาลใจ มีส่วนเปลี่ยนสังคมได้ เช่น บันทึกน้ำตา 1 ลิตร, hero, change
5. มิตรภาพ ความรัก ความฝัน ที่นำมาสร้างเป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่น มันไม่ใช่แค่ละครที่ให้ความบันเทิง ที่ดูๆ กันแล้วได้แค่ความสนุก
***ของเขาสนุกด้วย และได้สาระ***
2. ใช้นักแสดงตามคาแร็คเตอร์ อายุมากก็เป็นตัวเอก เป็นพระเอกได้
3. ไม่ค่อยเห็นมีตบตี ทำร้ายร่างกาย
4. เนื้อเรื่องสร้างแรงบันดาลใจ มีส่วนเปลี่ยนสังคมได้ เช่น บันทึกน้ำตา 1 ลิตร, hero, change
5. มิตรภาพ ความรัก ความฝัน ที่นำมาสร้างเป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่น มันไม่ใช่แค่ละครที่ให้ความบันเทิง ที่ดูๆ กันแล้วได้แค่ความสนุก
***ของเขาสนุกด้วย และได้สาระ***
แสดงความคิดเห็น
เหตุผลที่ชอบละคร ญี่ปุ่น ของทุกๆคนคืออะไรครับ
รวมไปถึง จุดเด่นที่ คิดว่า ละครญี่ปุ่นแตกต่างจากละครอื่น (โดยเฉพาะละครไทย)
แล้ว นอกจาก ดาราแล้ว อะไร คือเหตุผลที่ทำให้คุณชอบละครญี่ปุ่นหรอครับ
ขอบคุณมากครับ
ปล. จขกท. ก็แฟนละครญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ตัวเองกลั่นกรองมาเป้นคำพูดไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเอาไปเขียนในงานเร็วๆนี้ T^T
ปล. ขออนุญาติแทคไป แถวนักร้องญี่ปุ่นด้วย เพราะ เผื่อจะมีคนเข้ามาตอบ T^T