เหตุผลที่ชอบละคร ญี่ปุ่น ของทุกๆคนคืออะไรครับ

มีหลายๆคนบอกว่า ละครญี่ปุ่นจะมีจุดเด่นบางจุดที่ละครของประเทศอื่นไม่มี
รวมไปถึง จุดเด่นที่ คิดว่า ละครญี่ปุ่นแตกต่างจากละครอื่น (โดยเฉพาะละครไทย)
แล้ว นอกจาก ดาราแล้ว อะไร คือเหตุผลที่ทำให้คุณชอบละครญี่ปุ่นหรอครับ

ขอบคุณมากครับ

ปล. จขกท. ก็แฟนละครญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ตัวเองกลั่นกรองมาเป้นคำพูดไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเอาไปเขียนในงานเร็วๆนี้ T^T
ปล. ขออนุญาติแทคไป แถวนักร้องญี่ปุ่นด้วย เพราะ เผื่อจะมีคนเข้ามาตอบ T^T
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
จะบอกว่า"ชอบ"ซีรีส์ญี่ปุ่นไม่ได้ ต้องบอกว่า "รัก" ถึงจะถูก

ผมรักซีรีส์ญี่ปุ่นตรงที่...ซีรีส์ของเขาทุกเรื่อง ไม่ว่าจะแนวรักโรแมนติก แนวครอบครัว แนววัยรุ่นแก่นแก้ว แนวอาชีพ แนวสืบสวน แนวหมอ แนวโบราณ แนวประวัติศาศตร์..
ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ตรงกันหมด
คือทุกคนต้องหาที่ยืนของตนเองบนโลกนี้ให้เจอ เชิดชูความฝันและทำความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นจริง ไม่ว่าจะต้องผ่านบททดสอบอะไรก็ตาม จึงจะเรียกว่า "มีชีวิตอย่างคุ้มค่า"
ผมจึงดูซีรีส์ญี่ปุ่นได้อย่างภาคภูมิใจ และรู้สึกมีแรง"หนุนใจ"ขึ้นมา

ยกตัวอย่างง่ายมาก ซีรีส์ญี่ปุ่นช่วง 3 ทุ่มของทรูเอเซียนทุกวันนี้ 7 วันเต็ม 3 เรื่อง...ตัวเอกทั้ง 3 เรื่องมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือ หาจุดยืนของตนเอง ว่าตนเองเกิดมาเพื่อทำอะไร แล้วก็ทุ่มเทเสียสละทุกอย่างเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง

จันทร์-อังคาร Doctor Ume
ในยุคหลังสงครามโลกจบใหม่ๆ อุเมะจังคือน้องเล็กของบ้านที่ไม่เก่งเหมือนพี่สาว ไม่ฉลาดเหมือนพี่ชาย เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะ "หาตัวเองให้เจอ"
เธอได้เจอกับคู่หมั้นของพี่สาว  และว่าที่พี่เขยเคยบอกเธอว่าชื่ออุเมะนั้นดีจัง (พลัม) เพราะขณะที่คนชื่นชมแต่ดอกซากุระ คนกลับลืมไปว่าดอกของอุเมะนั้นจะผลิบานก่อนเป็นสิ่งแรก  
คำพูดนี้ทำให้อุเมะที่แอบรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า มีกำลังใจขึ้นมา และใช้คำพูดของว่าที่พี่เขย เป็นแรงผลักดันหนุนใจเธอไปตลอดชีวิต
ความฝันของอุเมะที่มีมาตลอด แต่ไม่รู้ตัว และไม่รู้จะแสดงออกมาอย่างไร คือ "มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้คน"  
แต่ความฝันเพียงเท่านี้จะไม่มีทางเป็นจริงได้ ถ้าอุเมะเอาแต่ฝัน เธอผ่านการสอบตกแล้วตกอีก ต้องท่องหนังสือท่องแล้วท่องอีก  แต่เมื่อเธอเลือกหนทางนี้แล้ว เธอก็พร้อมจะทุ่มเทเพื่อทำสิ่งที่เธอฝันไว้ให้เป็นจริง

พุธ-ศุกร์ Hungry!
ยุคปัจจุบัน  พระเอกเป็นอดีตนักเรียนเชฟอัจฉริยะ ผู้หันหลังให้วงการอาหารแล้วมาเป็นหัวหน้าวงร็อค แม้วงของเขาจะมีฝีมือแต่กลับไม่เคยผ่าน debut สักที
จนเมื่อนักร้องนำลาออกจากวงจะไปเป็นศิลปินเดี่ยว และแม่ของพระเอกซึ่งเป็นเชฟมีฝีมือเสียชีวิต วิกฤตครั้งนี้กลับกลายเป็น "เมื่อประตูปิดหน้าต่างก็เปิด"  
ความที่รู้สึกผิดที่ทอดทิ้งแม่ให้ดูแลร้านคนเดียว ทำให้เขากลับมาจับมีดทำอาหารอีกครั้ง  โดยความฝันของเขาคือ "ทำร้านอาหารฝรั่งเศสที่ใครๆก็สามารถเข้ามาอร่อยที่ร้านเขาได้"
แต่มันไม่ใช่หนทางที่ง่ายเลย  เขาต้องผ่านการบริหารงานที่ผิดพลาด เสียเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ผิดใจกับคนรักที่ทำใจลำบากที่จะสนับสนุนเขาให้เปลี่ยนเส้นทางจากการเป็นนักดนตรีซึ่งเธอชอบมาก มาเป็นเชฟซึ่งเธอเกลียดมาก และอาจเสียร้านให้กับบริษัทคู่แข่งซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ไป

ศุกร์-อาทิตย์ Carnation
โอฮาระเป็นเด็กสาวในยุคก่อนสงครามโลก ที่หลงใหลเสื้อผ้าตะวันตกอย่างมาก ความฝันของเธอคือเปิดกิจการร้านตัดเสื้อของตัวเองในนาม "โอฮาระ"
ทว่า ในยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของจังหวัดที่ไม่มีใครริตัดชุดตะวันตก แต่ด้วยความรักและหลงใหลโอฮาระทุ่มเทตนเองในการเรียนรู้วิธีตัดเย็บ เสียสละเวลาส่วนตัวเข้าไปทำงานเป็นลูกจ้างรับใช้ในร้านตัดเสื้อเพียงเพื่อมีโอกาสที่จะ "เรียนวิธีใช้จักรเย็บผ้า" ด้วยตัวเอง  
ตลอดเส้นทางการเติบโตของเธอ ผ่านการต่อสู้กับพ่อที่คัดค้าน ผ่านการเสียน้ำตากับความผิดหวัง ล้มเหลว ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งเด็กสาวจะเรียนรู้ "วิธีแก้ปัญหา" ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการหล่อหลอมให้เธอทำความฝันได้สำเร็จ

ถามว่าซีรีส์ที่มีคอนเส็ปต์แบบนี้มันดีตรงไหน?
ผมว่ามันดีมากๆตรงที่...ชีวิตเราแต่ละคนไม่ได้มีเรื่องชิงรักหักสวาทกันตลอดเวลาทุกคนไป  และไม่ใช่เราทุกคนที่เกิดมาโคตรรวย รวยโคตร แบบพระเอก หรือจนแสนจนแบบนางเอก
แต่สิ่งที่ทุกคนในโลกมีตรงกันหมด คือเราล้วนใฝ่หาจุดยืนของเราบนโลกใบนี้ทั้งนั้นครับ  เราทุกคนต่างมีความฝัน "ซ่อนอยู่" ในหัวใจส่วนลึกของเราแต่ละคน  
และเราทุกคนก็ล้วนต้องฟันฝ่าอุปสรรคและความเป็นไปไม่ได้ต่างๆนานา จนบางคนท้อ ถอดใจ ขณะที่บางคนก็ยังสู้อยู่ แต่แทบหมดแรงไปแล้ว
ดังนั้น การมีตัวละครที่สามารถ "สะท้อนถึงสภาพชีวิตและจิตใจเราได้อย่างแท้จริง" จึงมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือน "มีเพื่อน" ที่สื่อสารสิ่งที่เรากำลังรู้สึกอยู่ หรือกำลังเผชิญอยู่  ออกมาเป็นเนื้อหาสาระได้
ตัวละครกับเรา ไม่ได้ต่างกันเลย  เราล้วนมีสงครามภายในใจที่ต้องต่อสู้  เราต่างมีความฝันที่เราอยากบรรลุ  เราต้องการแรงบันดาลใจที่จะสู้ ที่จะทุ่มเท ที่จะเสียสละเพื่อสิ่งที่เรารัก
ทำให้ขณะที่เราคอยเอาใจช่วยตัวละคร ลึกๆแล้วเหมือนเรากำลังส่งเสียงเชียร์ตัวเองไปด้วย และหลายๆครั้ง...ทำให้เราตระหนักได้ว่า "แล้วเรากำลังทำอะไรกับชีวิตเราเนี่ย  เราจะใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่เคยทำฝันของเราให้เป็นจริงหรือ?"

ผมจึงรู้สึกมีความหวังและมีกำลังใจ อุ่นใจทุกครั้งที่ดูซีรีส์ญี่ปุ่นครับ
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับเราละครญึ่ปุ่น
- มีความเป็นจริงและจับต้องได้มากกว่าละครไทยค่ะ คือ ตัวละครแต่ละตัวจะมีมิติ มีลักษณะเป็นคนธรรมดาจริง ๆ คือ มีความดี ความชั่วในตัวเอง มีเหตุผลที่รองรับได้ในการกระทำ เป็นตัวละครสีเทา ๆ คือมีชั่วมีดีปนกัน ไม่เหมือนละครไทยที่มักจะมีตัวดีสุด ๆ นางเอก พระเอกแสนดี ส่วนนางร้าย แม่นางร้ายก็ร้ายกาจมากมาย  ซึ่งมันดูโอเว่อร์ในบางครั้ง

- ละครญี่ปุ่นที่เราดู ส่วนมากเน้นเรื่องวิชาชีพ เจาะลึกมันลงไปเลย ว่า เออ อาชีพนี้มันเป็นยังไง เช่น Hero (ตัวเอกเป็นอัยการ) หรือเรื่องที่นางเอกเป็นนักข่าว นักบิน อะไรแบบนั้น ได้เรียนรู้วงการนั้น ๆ อาชีพนั้น ๆ ไปด้วย ในขณะที่ละครไทย หลายคนดูแล้วยังสงสัยว่า ตกลงพระเอกมันทำงานอะไร ? วัน ๆ ตามแต่นางเอก

- ละครมักสอดแทรกข้อคิดที่ซาบซึ้งอ่ะค่ะ ถ้าเป็นเรื่องในครอบครัวก็จะมีแง่คิด ให้เราเห็นความสำคัญของคนรอบข้าง เราว่าละครเขาให้กำลังใจนะ ทำให้คนดูฮึกเหิม มีความกล้าที่จะออกไปใช้ชีวิตมากขึ้น (หรือเพราะประเทศญี่ปุ่นประชากรเขาเครียดก็ไม่รู้นะ เลยออกมาในรูปนี้)

ช่วยได้เท่านี้อ่ะค่ะ เขียนไม่ค่อยออกเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 4
1. บทชวนติดตาม ใ้ห้แง่คิดแต่ไม่น่าเบื่อ น่าเชื่อสมจริง เช่น อาชีพ การงาน ของตัวละคร
2. ใช้นักแสดงตามคาแร็คเตอร์ อายุมากก็เป็นตัวเอก เป็นพระเอกได้
3. ไม่ค่อยเห็นมีตบตี ทำร้ายร่างกาย
4. เนื้อเรื่องสร้างแรงบันดาลใจ มีส่วนเปลี่ยนสังคมได้ เช่น บันทึกน้ำตา 1 ลิตร, hero, change
5. มิตรภาพ ความรัก ความฝัน ที่นำมาสร้างเป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่น มันไม่ใช่แค่ละครที่ให้ความบันเทิง ที่ดูๆ กันแล้วได้แค่ความสนุก  
***ของเขาสนุกด้วย และได้สาระ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่