คุณสมบัติของผู้หญิงที่ผมต้องขอแต่งงาน หลังจากรู้จักกันได้ไม่ถึง 2 เดือน

อ่านมาจากเวบๆนึงแล้วชอบค่ะ เลยขอเอามาแชร์ให้อ่านกันนะคะ
************************************************

คุณสมบัติของผู้หญิงที่ผมต้องขอแต่งงาน หลังจากรู้จักกันได้ไม่ถึง 2 เดือน

อยากเอาประสบการณ์ในการเจอคนที่ใช่มาแบ่งปันกัน

เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งเพราะต้องไปติดต่องานที่บริษัทที่เธอทำงานอยู่  ตั้งแต่ได้เห็นหน้าเธอวันแรก ก็รู้แล้วว่าคนนี้แหละ ใช่เลย คนที่ผมกำลังตามหาอยู่  พอคบกันไปได้ไม่ถึง 2 เดือน ผมก็ต้องออกปากขอแต่งงานซะแล้ว  

เธอมีคุณสมบัติอะไรที่ทำให้ผมต้องขอแต่งงาน:

1. สวยตรงสเป๊ค  ผมชอบผู้หญิงผิวขาว หน้าหวาน ตัวเล็กๆ ส่วนสูงไม่เกิน 160 เซ็นติเมตร ถึงแม้ว่าผมจะสูงเกิน 180 เซ็นติเมตร แต่ผมก็ชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ  นี่เป็นคุณสมบัติข้อแรกที่ดึงดูดใจก่อนสิ่งใด

2. พูดจาไพเราะน่าฟัง  เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะผมค่อนข้างเป็นคนละเอียดอ่อน  ถ้าพูดจากระโชกโฮกฮาก  แบบมะนาวไม่มีน้ำ  ผมรับไม่ได้แน่นอน  การพูดจาต้องสุภาพเรียบร้อย ไพเราะอ่อนหวาน  รู้จักฉลาดในการพูด  ไม่พูดจาให้ร้ายนินทาใคร หรือ กระแทก-ดันใคร  และพูดแต่ความจริงเท่านั้น  ไม่โกหกพกลม

3. เป็นคนมีเหตุผล  ฉลาด  มีไหวพริบ ปฏิภาณดี  จากการสนทนากัน จะทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นฉลาดหรือไม่ฉลาด  ก็ดูได้จากการถาม การตอบ การพูดคุยกันนี่เอง  ผมชอบคนมีเหตุผล  ไม่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่เจ้าอารมณ์  

4. เป็นตัวของตัวเอง  คิดเองเป็น  ไม่ตามกระแส   ไม่เชื่อคำยุยงส่งเสริม  รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก   กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง  แต่ไม่ใช่คนดื้อดึง หรือดันทุรัง   ผมจะไม่ชอบเอามากๆ  ถ้าผู้หญิงคิดเองไม่เป็น อะไรๆก็ต้องขอถามแม่ก่อน ขอถามพ่อก่อน  ขอปรึกษาคนนั้นคนนี้ก่อน  ผมชอบคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง

5. เป็นคนเข้มแข็ง   แต่ไม่แข็งกระด้าง  ดูภายนอกเป็นคนอ่อนโยนนุ่มนวล มีเมตตา  แต่ไม่อ่อนแอเลย  หนักเอาเบาสู้  ถ้ามีปัญหาอะไร  เขาจะคิดหาทางแก้ไข  ไม่ร้องไห้  ไม่ฟูมฟาย  กล้าสู้  กล้าเผชิญ  กล้าได้  กล้าเสีย และกล้าที่จะรับความจริงที่จะเกิดขึ้น   คนเข้มแข็ง จะไม่ติดเหล้า  ติดบุหรี่ ติดการพนัน หรือติดเพื่อนมากเกินไป

6. รักเดียวใจเดียว  ไม่วอกแวก  ไม่จับปลาสองมือ  ไม่เจ้าชู้  ไม่เคยแสดงความสนใจผู้ชายคนไหนเลย  ไม่ว่าต่อหน้า หรือลับหลังผม   ผมไม่ชอบผู้หญิงที่รักเผื่อเลือก

7. รักนวลสงวนตัว  ข้อสุดท้ายนี้ บังคับให้ผมต้องแต่งงานเร็ว  เพราะถ้าไม่แต่งงาน ผมก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสคนที่ผมรัก   ก่อนแต่งงานยังพาผมไปตรวจเลือดอย่างละเอียดอีกต่างหาก  นับว่าเป็นผู้หญิงที่รอบคอบมากๆ  ก่อนจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใคร  เธอจะระมัดระวัง  ไม่ปล่อยตามใจตัวเอง   ก่อนจะมีลูก  ต้องดูว่ามีโรคพันธุกรรมอะไรที่จะตกไปถึงลูกหรือไม่  ผมเองก็นึกไม่ถึงว่าเธอจะคิดอะไรลึกซึ้ง รอบคอบขนาดนี้

คุณสมบัติ 7 ประการที่กล่าวมาข้างต้น  ทำให้ผมตัดสินใจขอเธอแต่งงาน   แต่พอหลังจากแต่งงานแล้ว   มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน  คนเราทุกคนนั้น ไม่มีใครดีพร้อม หรือสมบูรณ์แบบ  ไม่มีใครเป็นได้ดังใจเราทุกอย่าง  ทั้งผมและเขาต้องใช้เวลาถึง 8 ปีเต็มในการปรับตัวเข้าหากัน จนกระทั่งรักและเข้าใจกัน ยอมรับซึ่งกันและกันโดยไม่มีความขัดแย้งใดๆ

ข้อเสียที่ผมเพิ่งจะเห็นหลังจากแต่งงานกันแล้ว  อยากจะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์  เพื่อการปรับตัวเข้าหากัน โดยไม่ต้องเกิดการหย่าร้างในภายหลัง   ซึ่งข้อเสียเหล่านี้ ผมคิดว่า ผู้หญิงหลายๆคน คงจะมีกันครบเกือบทุกข้อนะ:

1. ความขึ้หึงขี้ระแวง   ซึ่งทำให้ผมอึดอัดรำคาญใจมาก  ถ้าผมคลาดสายตาเมื่อไร เธอจะต้องระแวงแล้ว  จะคอยเช็คอยู่ตลอดเวลา  ว่าผมไปไหน ไปกับใคร ไปทำอะไรมาบ้าง   กว่าผมจะทำให้เธอมั่นใจ  ว่าการแต่งงาน  คือ  การผูกคนสองคนไว้ด้วยกัน เป็นคนๆเดียวกัน  ไม่มีใครจะทำให้เราแตกแยกกันได้  ก็ใช้เวลานานหลายปีทีเดียว   เธอลองใจผมแล้ว ลองใจผมอีก  ผมก็พิสูจน์แล้ว พิสูจน์อีก  ว่าไม่คิดจะสนใจสาวคนไหนอีกแล้ว   ชีวิตนี้มีภรรยาเพียงคนเดียวเท่านั้น

2. ใจน้อย  แสนงอน   กับคนอื่นเธอไม่เป็นนะ  เป็นแต่กับผมคนเดียว  ถ้าผมอวยพรวันเกิดเธอช้าไปวันเดียว  เป็นเรื่องใหญ่เลย หรือถ้าเธอรู้สึกว่า ผมให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเธอ  เธอก็จะน้อยใจ  เวลางอนขึ้นมา จะไม่พูดไม่จา  ซึ่งผมก็จะอึดอัดและหงุดหงิดมาก กับอาการงอนแบบนี้   ก็ต้องอธิบายกันให้เข้าใจ    ควรหันหน้ามาพูดคุยกันถึงสาเหตุแห่งการงอน  และ  หาทางออกร่วมกัน  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการน้อยใจและงอนอีก

3. อวดดี ทิฐิแรง  ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายต่อชีวิตคู่มากที่สุด   บางครั้ง ทิฐิ  คือ ความโง่  ที่บดบังสติปัญญา  คนฉลาดๆหลายคน  ถ้าเกิดทิฐิขึ้นมา  ก็กลายเป็นคนที่ทำอะไรโง่ๆได้   เธอมักจะถือทิฐิ  ไม่ง้อผม  ถ้าไม่พอใจกัน ก็ เลิกกันก็ได้  ไม่ยอมลดราวาศอก   สามีภรรยากัน บางครั้งก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน  ถ้าโกรธกัน  ก็จะเกิดทิฐิ  ควรปรับความเข้าใจกัน อภัยให้กัน ดีกว่าจะทำหยิ่งใส่กัน

4. จดจำความผิด ไม่ยอมลืม   ถ้าผมเคยผิดพลาดอะไรมา  เธอจะจำไว้ไม่ลืม  แล้ววันดีคืนดี จะเอาเรื่องเก่ามาบ่นซ้ำอีก  มันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจ    อะไรที่แล้วไปแล้ว  ก็น่าจะเลิกแล้วต่อกัน ลืมๆมันซะ  ฝังมันไว้ลึกๆ  อย่าไปขุดขึ้นมาบ่นอีก  

ทำไมผมถึงอดทนได้กับข้อเสีย 4 ประการนี้:

ก็ผมรักของผม  จะมีข้อเสียยังไง  การมีเธอแบบนี้  ก็ดีกว่าการที่ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีเธอ  เวลางอน มีทิฐิขึ้นมา  ก็จะไล่ผม  หรือท้าหย่าประจำ  ผมก็รู้ว่า ไม่ทำจริงหรอก  ถ้าหย่ากันจริงๆ เธอนั่นแหละจะเศร้าโศกเสียใจ    ผมก็ต้องมานั่งคิดหาวิธีปรับตัวเข้าหากัน ก็ลองผิดลองถูกมาหลายปี   แต่ก็ได้ผลนะ   ทุกวันนี้  ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีและมีความสุขกับครอบครัวมาก

กลับจากทำงานมา ภรรยาก็จะดีใจที่ผมกลับมาบ้าน  ทำอาหารอร่อยๆให้ผมทาน   คอยดูแลเอาใจใส่ผม  เธอเป็นคนประหยัด  ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย   ไม่ฟุ้งเฟ้อ   ไม่เห็นแก่ตัว  แคร์ความรู้สึกของผม  อะไรที่ผมไม่ชอบ  เธอก็จะไม่ทำอะไรที่จะทำให้ผมไม่สบายใจ  เธอมักจะฟังผม มากกว่าจะพูด  เวลาผมพูดอะไร เธอจะตั้งอกตั้งใจฟัง  ซักถามเพิ่มเติมถ้าอยากรู้เพิ่ม

นับวัน เราสองคนก็จะรักกันมากขึ้นทุกที  จนขาดกันไม่ได้แล้ว   ทุกวันนี้ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก แค่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน ก็มีความสุขแล้ว รู้ใจกันไปซะทุกอย่าง  รักกันมากกว่าตอนจีบกันใหม่ๆด้วยซ้ำไป  และดูแลถนอมน้ำใจกันมากขึ้น  เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ว่า  จิตใจเป็นเรื่องบอบบาง ละเอียดอ่อน  ผู้ชายก็น้อยใจเป็นเหมือนกันนะ     ผู้ชายก็อยากได้ความรัก ความเข้าใจ  การยอมรับ และการดูแลเอาใจใส่จากผู้หญิง

ขอให้ทุกคนที่กำลังมีความรัก  ขอให้ดูแลคนที่เรารักให้ดี ศึกษานิสัยใจคอกัน ทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น  หนักนิด เบาหน่อย ก็อย่ามีทิฐิเข้าหากัน  อภัยให้กัน  จะได้รักกันตลอดไป

credit : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=152782
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่