ลองแต่งน่ะครับ ลองเอาบทนำไปเสพย์ก่อน ฝากวิจารณ์หน่อยครับ
บทนำ
10 กุมภาพันธ์ 2555
“แกจะทำอะไร แกจับฉันมาทำไม ฉันไปทำอะไรให้แกโกรธ ฉันแค่ต้องการงานนางแบบ”
หญิงสาวคนหนึ่งระบายความรู้สึกออกมาจากใจหลังจากที่เธอเองหลงเข้ามาสมัครงานกับฆาตกรใจบาป ที่ลวงล่อพวกเธอว่าให้มาเป็นนางแบบโฆษณา ก่อนที่มันจะให้เธอดื่มน้ำส้มผสมกับยานอนหลับขนานหนึ่งที่สั่งซื้อมาจากร้านขายยา
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับคุณผู้หญิง”
ชายตรงหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงชอบอกชอบใจ เขารอคอยมากว่าสามวันแล้วสำหรับเหยื่อรายที่ 10 ที่จะต้องถูกบันทึกในไว้ในบัญชีของเขาว่า เธอจะต้องตายอย่างทุกข์ทรมานที่สุด มันเป็นความสะใจของเขาที่สะสมมานาน ทุกอย่างกำลังลงตัวหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นกลัว
“มันก็แค่จะเจ็บนิดหน่อยเอง ไม่นานหรอกคุณก็จะไม่ได้หายใจ”
มันว่าต่อพลางชูมีดเล่มงามที่เป็นอาวุธประจำร่างกายออกมาให้เห็นมันเป็นมีดที่ลับจนคมกริบ มันสามารถปาดคอหญิงตรงหน้าได้ให้ตายได้อย่างเลือดเย็น ในขณะที่อีกฝ่ายยังไม่รู้สึกตัวเลยว่า เธอกำลังโดยเชือดเฉือน
“เจ็บแค่ไหนฉันก็ไม่ยอมออกไปนะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”
เธอโพล่งออกมาด้วยความกลัวสุดชีวิต ความโกรธเกลียดเคียดแค้นเข้ามาสวมรอยชายตรงหน้าช่างใจร้าย ใจดำมันสามารถฆ่าเธอได้อย่างเลือดเย็น แล้วทำไมเธอจะต้องยอมทำไมจะต้องยอมให้ชายที่ไม่รู้จัก ชายที่ได้ชื่อว่าฆาตกรโรคจิตต้องมาเป็นคนกำหนดชีวิตของเธอด้วยเล่า
ฆาตกรหัวเราะสะใจ สมเพชและเวทนากับภาพที่เห็นหญิงสาวที่กำลังตัวสั่นระริก แต่ปากกล้าเหมือนไม่กลัวตาย เขานึกตลกพิลึกนี่เหรอคนที่กำลังจะต้องตายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า มันสบถออกมาด้วยความสะใจ
“ตำรวจแถวนี้ไม่มีหรอกคุณผู้หญิง ถ้ามันรู้ผมก็คงจะไปอยู่ในคุกนานแล้วละ”
เสียงหายใจเริ่มแรงขึ้นความกลัวเริ่มเข้ามาในจิตใจมากยิ่งขึ้น ร่างกายจากที่เริ่มสั่นสะท้านเหงื่อเริ่มตากพรากออกมาตามรูขุมขน น้ำตาเริ่มไกลเธอกำลังร้องไห้โอดครวญ นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอชาติก่อนเธอเคยเป็นฆาตกรอย่างนั้นหรือ ชาตินี้ตรงมาเจอกับไอเลวตรงหน้าที่ไม่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่ามันจะฆ่าเธอเมื่อไหร่กัน
“ไอเลว ไอชั่วสามาน ไอ” เธอสบถคำด่าออกมาจากใจเริ่มหมดความอดทนเต็มที
“เจ็บจังเลยคุณผู้หญิง ไม่ต้องห่วงหรอกคุณจะได้ตายอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกนะ”
มันกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ก่อนจะใช้สายตาที่มองผ่านแว่นตาดำของมัน ร่างกายของเธอเย้ายวนอกเป็นอก สะโพกเพิกผายน่าที่จะลองชวนดมยิ่งนัก
“เอาเป็นว่าคุณแก้ผ้าก่อนเลย”
“ไม่มีทาง !!!” เธอไม่ยอมเด็ดขาด
“ไม่เป็นไรผมถอดเอง...”
มีดปลายแหลมถูกใช้ตัดไปที่เส้นเชือกของเสื้อสายเดียวขาดอย่างรวดเร็ว ไหล่สองสีเผยให้เห็นอย่างเต็มตามันช่างที่น่าจะจุมพิตลงไปให้เธอได้ลิ้มรส แต่ยังก่อนมันคิด
“ผมแค่ล้อเล่น.....ผมไม่ข่มขืนใครก่อนหรอก มันไม่สนุก มันต้องมีอารมณ์ร่วมกับผม”
หญิงสาวตรงหน้ารีบเก็บเสื้อเข้าที่พลางหายใจลงลึกอย่างยากลำบาก จะให้เธอเชื่อใจได้ไงว่าเขาจะไม่ทำอะไรทำนองนั้น มันเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อชายตรงหน้าที่ตอนนี้ เธอจะต้องกลายเป็นศพที่ 10 กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของฆาตกรโรคจิต 2 คนนี้ คนหนึ่งขับอีกคนหนึ่งฆ่า
“ดีที่แกยังมีสัจธรรม” เธอเอ่ย
“สัจธรรมนะเหรอ” เขาขยับร่างกายอันที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเข้ามาใกล้ ๆ แล้วค่อย ๆ เอ่ยเสียงซาบซ่าน
“มันไม่มีในหมู่โจรหรอก”
มันเป็นสิ่งที่เขาชอบทำมาก เวลาที่เห็นเหยื่อเป็นแบบนี้ กระวนกระวายใจ จนไม่สามารถบอกได้ว่า เขากำลังจะทำอะไร แล้วจะฆ่าเธอเมื่อไหร่ ยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามทรมานเขายิ่งชอบใจ
“แกก็ฆ่าฉันเลยสิ จะรอช้าทำไมไม่มีใครรู้อยู่แล้ว”
เธอท้าน้ำเสียงแข็งกระด้างแต่ในจิตใจของหล่อนกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันช่างทรมานจิตใจอะไรเช่นนี้ จะฆ่าก็ไม่ฆ่ามัวแต่ชวนคุยหาเรื่องกวนประสาทอีก
“ฆ่าแกนะเหรอ ง่ายจะตายไป แต่ยังไม่อยากทำ” มันว่าเสียงแข็งก่อนที่จะเดินหายเข้าในมุมมืด
เสียงเครื่องทำความร้อนของเครื่องปรับอากาศดังสนั่นเสียดแก้วหู ตามมาด้วยอากาศที่เย็นลงร่างกายของหญิงสาวเริ่มสั่นสะท้านไปกว่าเดิม ไอน้ำเย็นเริ่มก่อตัวให้เห็นเป็นลาง ๆ ท่ามกลางความมืด ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องทำความเย็นที่เอาไว้แช่ของสด เธอรู้สึกได้ถึงไอเย็นที่มากผิดปกติ
“ไม่ต้องห่วงหรอกผมกลัวคุณร้อน เมื่อคุณไม่แก้ผ้าก็เลยต้องทำแบบนี้ กะว่าจะแอบดูร่างกายคุณเสียหน่อย”
คำกล่าวถูกเอ่ยขึ้นมาจากมุมไหนของห้อง เธอเริ่มหูอื้อเนื่องจากความกดดันของอากาศในห้องทำน้ำแข็งนี่ มันช่างทรมานเสียจริง เธอได้ยินเป็นลาง ๆ ว่ามีชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา มันเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ แม้ว่าเสียงของเครื่องทำความร้อนจากภายนอกจะดัง แต่ภายในเธอได้ยินเสียงมันกำลังเดินวนไปวนมา
“ดูสิ ร่างกายสั่นระริก....น่าสงสารเสียจริง”
ฆาตกรนั่งลงตรงหน้าหล่อนมองไปที่ร่างกายที่เปลือยเปล่าผ่านความมืดมนที่ไม่มีใครนอกจากมัน มันใช้ชีวิตในความมืดจนชินตา ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วนึกเสียดายร่างหญิงสาว ที่จะต้องมาเป็นเหยื่อให้แกฆาตกรอย่างเขา ให้ได้เก็บแต้มมันสนุกจริง ๆ
“แต่คุณคงจะร้อนอยู่ดี ยังมีบางส่วนยังไม่ได้รับความเย็นเลย”
ไม่ทันจะสิ้นเสียงเตือน ชายหนุ่มใช้มีดกีรดไปที่เสื้อผ้าทุกตำแหน่ง มันขาดลุ่ยจนไม่สามารถที่จะพยุงให้มันอยู่ต่อได้ ตอนนี้หญิงสาวกำลังอยู่ในร่างกายที่เปลือยเปล่า
“นอนขดเชียว” มันว่าแกลมหัวเราะร่าชอบใจ “เอาละไม่อยากจะให้เธอ...รอช้า
มันใช้เหล็กแหลมแทงเข้าไปในส่วนสำคัญจนเลือดนองไปทั่ว สีแดงสดของเลือดกระเด็นไปติดกับฝาผนังอย่างน่าสยดสยอง ร่างกายของหล่อนถูกแทงย้ำเข้าหลายที่จนตายในที่สุด เธอนอนตายท่ามกลางความเย็นและค่อย ๆ แข็งตัว
สำนักข่าวไทย
“นี่ก็เป็นอีกครั้งแล้วนะคะ ที่ทางตำรวจได้พบศพหญิงสาวนิรนามคราวนี้ศพถูกพบที่บริเวณเขตบางเขน ซึ่งห่างจากที่เดิมไปประมาณ 10 กิโลเมตร การฆาตกรรมต่อเนื่องในครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้นะคะ มันช่างเป็นอะไรที่เศร้าใจเสียจริง” คำกล่าวจากนักข่าวสาวเอ่ยขึ้นอย่างน่าสลด ด้วยน้ำเสียงที่ปล่อยออกมา
“อีกแล้วเหรอ....แต่ละศพห่างกันแค่สองวัน”
นายตำรวจใหญ่เอ่ยขึ้นระหว่างนั่งชมข่าวทีวีผ่านโทรทัศน์ที่บ้าน เขาติดตามข่าวทำนองนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นฆ่าจนมาถึงศพที่สิบ ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาแค่สองเดือนแต่สิ่งที่มันกลับทำให้ประชาชนไม่อยากจะออกไปไหน ยามค่ำคืนนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันเดินทางไปที่อื่น
“มันเป็นใครทำไมมันช่าง...อุบาทว์ได้เช่นนี้” เขาเอ่ยออกมาอย่างหมดความอดทน
แรงกดดันทั้งทางด้านการเมืองและสังคม ส่งผลให้นายตำรวจใหญ่แห่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องออกแถลงการณ์เตือนเหล่าประชาชน ที่มีสรีระรูปร่างเฉกเช่นเดียวกับ 10 ศพที่ผ่านมาให้ระมัดระวังในการทำงาน และอย่ากลับบ้านดึกหรือรับงานที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะนั่นอาจจะเป็นที่มาของการฆาตกรรมศพรายต่อไป
“ทางเราจะรีบตามหาฆาตกรให้เร็วที่สุด แต่ขอยอมรับนะครับว่าการจะได้ตัวฆาตกรที่ไม่เหลือร่องรอยให้ตามได้ถือว่าเป็นงานช้างพอสมควรครับ”
คำกล่าวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสลดเช่นเดียวกับหลาย ๆ คนในประเทศ ที่ต่างตกใจกลัวฆาตกร
หลังจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวเสร็จผ่านไปทั้งหมดสิบชั่วโมง การทำงานแบบเร่งด่วนของพนักงานสืบสวนสอบสวนก็เริ่มทำงานโดยในทันที การค้นหาฆาตกรเริ่มขึ้นอย่างเข้มข้นโดยทางสนง.ตำรวจแห่งชาติได้ตั้งหน่วยสืบสวนพิเศษขึ้นเพื่อจัดการพวกนี้โดยเฉพาะ โดยมีพลตำรวจโทณรงค์ฤทธิ์ ไกรเลิศเป็นหัวหน้าหน่วย
ลองแต่ง - Serial Killer 20+
บทนำ
10 กุมภาพันธ์ 2555
“แกจะทำอะไร แกจับฉันมาทำไม ฉันไปทำอะไรให้แกโกรธ ฉันแค่ต้องการงานนางแบบ”
หญิงสาวคนหนึ่งระบายความรู้สึกออกมาจากใจหลังจากที่เธอเองหลงเข้ามาสมัครงานกับฆาตกรใจบาป ที่ลวงล่อพวกเธอว่าให้มาเป็นนางแบบโฆษณา ก่อนที่มันจะให้เธอดื่มน้ำส้มผสมกับยานอนหลับขนานหนึ่งที่สั่งซื้อมาจากร้านขายยา
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับคุณผู้หญิง”
ชายตรงหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงชอบอกชอบใจ เขารอคอยมากว่าสามวันแล้วสำหรับเหยื่อรายที่ 10 ที่จะต้องถูกบันทึกในไว้ในบัญชีของเขาว่า เธอจะต้องตายอย่างทุกข์ทรมานที่สุด มันเป็นความสะใจของเขาที่สะสมมานาน ทุกอย่างกำลังลงตัวหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นกลัว
“มันก็แค่จะเจ็บนิดหน่อยเอง ไม่นานหรอกคุณก็จะไม่ได้หายใจ”
มันว่าต่อพลางชูมีดเล่มงามที่เป็นอาวุธประจำร่างกายออกมาให้เห็นมันเป็นมีดที่ลับจนคมกริบ มันสามารถปาดคอหญิงตรงหน้าได้ให้ตายได้อย่างเลือดเย็น ในขณะที่อีกฝ่ายยังไม่รู้สึกตัวเลยว่า เธอกำลังโดยเชือดเฉือน
“เจ็บแค่ไหนฉันก็ไม่ยอมออกไปนะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”
เธอโพล่งออกมาด้วยความกลัวสุดชีวิต ความโกรธเกลียดเคียดแค้นเข้ามาสวมรอยชายตรงหน้าช่างใจร้าย ใจดำมันสามารถฆ่าเธอได้อย่างเลือดเย็น แล้วทำไมเธอจะต้องยอมทำไมจะต้องยอมให้ชายที่ไม่รู้จัก ชายที่ได้ชื่อว่าฆาตกรโรคจิตต้องมาเป็นคนกำหนดชีวิตของเธอด้วยเล่า
ฆาตกรหัวเราะสะใจ สมเพชและเวทนากับภาพที่เห็นหญิงสาวที่กำลังตัวสั่นระริก แต่ปากกล้าเหมือนไม่กลัวตาย เขานึกตลกพิลึกนี่เหรอคนที่กำลังจะต้องตายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า มันสบถออกมาด้วยความสะใจ
“ตำรวจแถวนี้ไม่มีหรอกคุณผู้หญิง ถ้ามันรู้ผมก็คงจะไปอยู่ในคุกนานแล้วละ”
เสียงหายใจเริ่มแรงขึ้นความกลัวเริ่มเข้ามาในจิตใจมากยิ่งขึ้น ร่างกายจากที่เริ่มสั่นสะท้านเหงื่อเริ่มตากพรากออกมาตามรูขุมขน น้ำตาเริ่มไกลเธอกำลังร้องไห้โอดครวญ นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอชาติก่อนเธอเคยเป็นฆาตกรอย่างนั้นหรือ ชาตินี้ตรงมาเจอกับไอเลวตรงหน้าที่ไม่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่ามันจะฆ่าเธอเมื่อไหร่กัน
“ไอเลว ไอชั่วสามาน ไอ” เธอสบถคำด่าออกมาจากใจเริ่มหมดความอดทนเต็มที
“เจ็บจังเลยคุณผู้หญิง ไม่ต้องห่วงหรอกคุณจะได้ตายอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกนะ”
มันกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ก่อนจะใช้สายตาที่มองผ่านแว่นตาดำของมัน ร่างกายของเธอเย้ายวนอกเป็นอก สะโพกเพิกผายน่าที่จะลองชวนดมยิ่งนัก
“เอาเป็นว่าคุณแก้ผ้าก่อนเลย”
“ไม่มีทาง !!!” เธอไม่ยอมเด็ดขาด
“ไม่เป็นไรผมถอดเอง...”
มีดปลายแหลมถูกใช้ตัดไปที่เส้นเชือกของเสื้อสายเดียวขาดอย่างรวดเร็ว ไหล่สองสีเผยให้เห็นอย่างเต็มตามันช่างที่น่าจะจุมพิตลงไปให้เธอได้ลิ้มรส แต่ยังก่อนมันคิด
“ผมแค่ล้อเล่น.....ผมไม่ข่มขืนใครก่อนหรอก มันไม่สนุก มันต้องมีอารมณ์ร่วมกับผม”
หญิงสาวตรงหน้ารีบเก็บเสื้อเข้าที่พลางหายใจลงลึกอย่างยากลำบาก จะให้เธอเชื่อใจได้ไงว่าเขาจะไม่ทำอะไรทำนองนั้น มันเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อชายตรงหน้าที่ตอนนี้ เธอจะต้องกลายเป็นศพที่ 10 กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของฆาตกรโรคจิต 2 คนนี้ คนหนึ่งขับอีกคนหนึ่งฆ่า
“ดีที่แกยังมีสัจธรรม” เธอเอ่ย
“สัจธรรมนะเหรอ” เขาขยับร่างกายอันที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเข้ามาใกล้ ๆ แล้วค่อย ๆ เอ่ยเสียงซาบซ่าน
“มันไม่มีในหมู่โจรหรอก”
มันเป็นสิ่งที่เขาชอบทำมาก เวลาที่เห็นเหยื่อเป็นแบบนี้ กระวนกระวายใจ จนไม่สามารถบอกได้ว่า เขากำลังจะทำอะไร แล้วจะฆ่าเธอเมื่อไหร่ ยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามทรมานเขายิ่งชอบใจ
“แกก็ฆ่าฉันเลยสิ จะรอช้าทำไมไม่มีใครรู้อยู่แล้ว”
เธอท้าน้ำเสียงแข็งกระด้างแต่ในจิตใจของหล่อนกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันช่างทรมานจิตใจอะไรเช่นนี้ จะฆ่าก็ไม่ฆ่ามัวแต่ชวนคุยหาเรื่องกวนประสาทอีก
“ฆ่าแกนะเหรอ ง่ายจะตายไป แต่ยังไม่อยากทำ” มันว่าเสียงแข็งก่อนที่จะเดินหายเข้าในมุมมืด
เสียงเครื่องทำความร้อนของเครื่องปรับอากาศดังสนั่นเสียดแก้วหู ตามมาด้วยอากาศที่เย็นลงร่างกายของหญิงสาวเริ่มสั่นสะท้านไปกว่าเดิม ไอน้ำเย็นเริ่มก่อตัวให้เห็นเป็นลาง ๆ ท่ามกลางความมืด ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องทำความเย็นที่เอาไว้แช่ของสด เธอรู้สึกได้ถึงไอเย็นที่มากผิดปกติ
“ไม่ต้องห่วงหรอกผมกลัวคุณร้อน เมื่อคุณไม่แก้ผ้าก็เลยต้องทำแบบนี้ กะว่าจะแอบดูร่างกายคุณเสียหน่อย”
คำกล่าวถูกเอ่ยขึ้นมาจากมุมไหนของห้อง เธอเริ่มหูอื้อเนื่องจากความกดดันของอากาศในห้องทำน้ำแข็งนี่ มันช่างทรมานเสียจริง เธอได้ยินเป็นลาง ๆ ว่ามีชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา มันเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ แม้ว่าเสียงของเครื่องทำความร้อนจากภายนอกจะดัง แต่ภายในเธอได้ยินเสียงมันกำลังเดินวนไปวนมา
“ดูสิ ร่างกายสั่นระริก....น่าสงสารเสียจริง”
ฆาตกรนั่งลงตรงหน้าหล่อนมองไปที่ร่างกายที่เปลือยเปล่าผ่านความมืดมนที่ไม่มีใครนอกจากมัน มันใช้ชีวิตในความมืดจนชินตา ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วนึกเสียดายร่างหญิงสาว ที่จะต้องมาเป็นเหยื่อให้แกฆาตกรอย่างเขา ให้ได้เก็บแต้มมันสนุกจริง ๆ
“แต่คุณคงจะร้อนอยู่ดี ยังมีบางส่วนยังไม่ได้รับความเย็นเลย”
ไม่ทันจะสิ้นเสียงเตือน ชายหนุ่มใช้มีดกีรดไปที่เสื้อผ้าทุกตำแหน่ง มันขาดลุ่ยจนไม่สามารถที่จะพยุงให้มันอยู่ต่อได้ ตอนนี้หญิงสาวกำลังอยู่ในร่างกายที่เปลือยเปล่า
“นอนขดเชียว” มันว่าแกลมหัวเราะร่าชอบใจ “เอาละไม่อยากจะให้เธอ...รอช้า
มันใช้เหล็กแหลมแทงเข้าไปในส่วนสำคัญจนเลือดนองไปทั่ว สีแดงสดของเลือดกระเด็นไปติดกับฝาผนังอย่างน่าสยดสยอง ร่างกายของหล่อนถูกแทงย้ำเข้าหลายที่จนตายในที่สุด เธอนอนตายท่ามกลางความเย็นและค่อย ๆ แข็งตัว
สำนักข่าวไทย
“นี่ก็เป็นอีกครั้งแล้วนะคะ ที่ทางตำรวจได้พบศพหญิงสาวนิรนามคราวนี้ศพถูกพบที่บริเวณเขตบางเขน ซึ่งห่างจากที่เดิมไปประมาณ 10 กิโลเมตร การฆาตกรรมต่อเนื่องในครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้นะคะ มันช่างเป็นอะไรที่เศร้าใจเสียจริง” คำกล่าวจากนักข่าวสาวเอ่ยขึ้นอย่างน่าสลด ด้วยน้ำเสียงที่ปล่อยออกมา
“อีกแล้วเหรอ....แต่ละศพห่างกันแค่สองวัน”
นายตำรวจใหญ่เอ่ยขึ้นระหว่างนั่งชมข่าวทีวีผ่านโทรทัศน์ที่บ้าน เขาติดตามข่าวทำนองนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นฆ่าจนมาถึงศพที่สิบ ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาแค่สองเดือนแต่สิ่งที่มันกลับทำให้ประชาชนไม่อยากจะออกไปไหน ยามค่ำคืนนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันเดินทางไปที่อื่น
“มันเป็นใครทำไมมันช่าง...อุบาทว์ได้เช่นนี้” เขาเอ่ยออกมาอย่างหมดความอดทน
แรงกดดันทั้งทางด้านการเมืองและสังคม ส่งผลให้นายตำรวจใหญ่แห่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องออกแถลงการณ์เตือนเหล่าประชาชน ที่มีสรีระรูปร่างเฉกเช่นเดียวกับ 10 ศพที่ผ่านมาให้ระมัดระวังในการทำงาน และอย่ากลับบ้านดึกหรือรับงานที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะนั่นอาจจะเป็นที่มาของการฆาตกรรมศพรายต่อไป
“ทางเราจะรีบตามหาฆาตกรให้เร็วที่สุด แต่ขอยอมรับนะครับว่าการจะได้ตัวฆาตกรที่ไม่เหลือร่องรอยให้ตามได้ถือว่าเป็นงานช้างพอสมควรครับ”
คำกล่าวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสลดเช่นเดียวกับหลาย ๆ คนในประเทศ ที่ต่างตกใจกลัวฆาตกร
หลังจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวเสร็จผ่านไปทั้งหมดสิบชั่วโมง การทำงานแบบเร่งด่วนของพนักงานสืบสวนสอบสวนก็เริ่มทำงานโดยในทันที การค้นหาฆาตกรเริ่มขึ้นอย่างเข้มข้นโดยทางสนง.ตำรวจแห่งชาติได้ตั้งหน่วยสืบสวนพิเศษขึ้นเพื่อจัดการพวกนี้โดยเฉพาะ โดยมีพลตำรวจโทณรงค์ฤทธิ์ ไกรเลิศเป็นหัวหน้าหน่วย