ผมได้ลอกข้อมูลที่ส่งให้เพื่อนชาวหุ้น ทั้งอีเมล์และ FB (
https://www.facebook.com/#!/nowya.vis )
1....ema5 = + 83.3 + 31.8
2....yinyang = +22.3 - 33.8
เครื่องมือทั้งสองยังชี้บอกเหมือนเดิม คือ มีแรงกดดันให้รีบาวน์สูงขึ้นเรื่อย ๆ (จากแนวรับแนวต้าน ของ ema 5) และหยินหยางบอกว่า ความผันผวนยังจะรุนแรงต่อไป(หยินหยางคือวิธีคำนวณหาค่าสมดุลย์ ไม่ใช่วิธีหมอดู อย่างที่เข้าใจหลายคน) แล้ววันนี้ 28 สค ก็มีสัญญาณปรากฎขึ้น สองอย่าง
1..วอลุ่มปิดมากขึ้นถึง 42 ลบ/จุด ณ ดัชนีปิด ซึ่งถือว่าเข้าข่ายมากพอ (มากพอที่จะรีบาวน์หรือยืนเหนือราคาปิดได้ )
2...จำนวนตัวหุ้นมีการเปลี่ยนมือมากที่สุด ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา มากถึง 900 ตัว (โดยประมาณ) (แสดงว่าทั้งหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องก็ถูกเอาออกมาซื้อขายกันแล้ว vi เริ่มทนไม่ได้แล้ว เอาหุ้นออกมาปล่อย หรืออาจจะไม่ใช่ Vi แต่เป็นกลุ่มสะสมหุ้นมา เริ่มทนไม่ไหว )
แต่....มีเรื่องน่ากังวลยังอยู่ คือ ยอดขายสุทธิ เริ่มมาจากกองทุนไทย ที่เรียกว่าทริกเกอร์ฟัน (กองทุนยิงเร็ว) ซึ่งเป็นศัตรูสำคัญของรายย่อยรองจาก กลุ่มต่างชาติ นั่นคือ ต้องคอยดูกองทุนไทยขายสุทธิเป็นตัวหลัก แทนที่จะสนใจต่างชาติขายเอาเงินออกไป
กลยุทธ ...........คือ พรุ่งนี้ 29 สค 56 โอกาสรีบาวน์สูงมาก ถึง 9 ต่อ 1 หยินหยางให้ซื้อได้แล้ว(ดูโปรแกรม nowya method) เมื่อเป็นเช่นนี้ แทนที่พรุ่งนี้จะตั้งขายก่อน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นซื้อที่ราคาเปิดก่อน แต่เผื่อความปลอดภัยไว้ ไม่ควรตั้งซื้อ ATO เด็ดขาด ควรตั้งซื้อ +1 +2 ช่องโดยวิธี fix price เมื่อได้ของแล้วให้รีบตั้งขายไปก่อน ที่ราคาเพิ่มจากทุนที่ซื้อ +1 + 2 + 3 แล้วแต่ ขนาดราคา และจำนวน deals ที่มีคนเล่นมากน้อยในหุ้นตัวนั้น ๆ ก่อน 1 วัน เช่น หุ้นที่คนเล่นเยอะ ก็ตั้งเพิ่มขาย +3 ช่องจากที่ซื้อได้ รวมกับทุนเก่าที่มี แต่หากทุนเก่าที่มียังขาดทุนอยู่ก็ไม่ต้องขายส่วนนั้น
ขอให้โชคดี และขอให้ช่วยกันลุ้นวันพรุ่งนี้ ให้เล่นแดนเขียวทั้งวันเถิด และอย่าลืมกฎ 7 ส่วนฝีมือ 3 ส่วนโชคต้องช่วยเราด้วย
ฝีมือไม่ได้แค่หมายถึงรู้ข่าวปัจจัย อ่านงบเป็น ฯลฯ แต่มันหมายถึงการตั้งซื้อ ตั้งขาย ณ ราคาใดเหมาะสม และเวลาใดมีโอกาสซื้อได้และขายได้ด้วย ฯลฯ (นั่นคือส่วนหนึ่งของฝีมือ ซึ่งรายย่อยมองข้าม)
สัญญาณ ชัดหรือไม่ว่า จะรีบาวน์ 29 สค
1....ema5 = + 83.3 + 31.8
2....yinyang = +22.3 - 33.8
เครื่องมือทั้งสองยังชี้บอกเหมือนเดิม คือ มีแรงกดดันให้รีบาวน์สูงขึ้นเรื่อย ๆ (จากแนวรับแนวต้าน ของ ema 5) และหยินหยางบอกว่า ความผันผวนยังจะรุนแรงต่อไป(หยินหยางคือวิธีคำนวณหาค่าสมดุลย์ ไม่ใช่วิธีหมอดู อย่างที่เข้าใจหลายคน) แล้ววันนี้ 28 สค ก็มีสัญญาณปรากฎขึ้น สองอย่าง
1..วอลุ่มปิดมากขึ้นถึง 42 ลบ/จุด ณ ดัชนีปิด ซึ่งถือว่าเข้าข่ายมากพอ (มากพอที่จะรีบาวน์หรือยืนเหนือราคาปิดได้ )
2...จำนวนตัวหุ้นมีการเปลี่ยนมือมากที่สุด ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา มากถึง 900 ตัว (โดยประมาณ) (แสดงว่าทั้งหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องก็ถูกเอาออกมาซื้อขายกันแล้ว vi เริ่มทนไม่ได้แล้ว เอาหุ้นออกมาปล่อย หรืออาจจะไม่ใช่ Vi แต่เป็นกลุ่มสะสมหุ้นมา เริ่มทนไม่ไหว )
แต่....มีเรื่องน่ากังวลยังอยู่ คือ ยอดขายสุทธิ เริ่มมาจากกองทุนไทย ที่เรียกว่าทริกเกอร์ฟัน (กองทุนยิงเร็ว) ซึ่งเป็นศัตรูสำคัญของรายย่อยรองจาก กลุ่มต่างชาติ นั่นคือ ต้องคอยดูกองทุนไทยขายสุทธิเป็นตัวหลัก แทนที่จะสนใจต่างชาติขายเอาเงินออกไป
กลยุทธ ...........คือ พรุ่งนี้ 29 สค 56 โอกาสรีบาวน์สูงมาก ถึง 9 ต่อ 1 หยินหยางให้ซื้อได้แล้ว(ดูโปรแกรม nowya method) เมื่อเป็นเช่นนี้ แทนที่พรุ่งนี้จะตั้งขายก่อน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นซื้อที่ราคาเปิดก่อน แต่เผื่อความปลอดภัยไว้ ไม่ควรตั้งซื้อ ATO เด็ดขาด ควรตั้งซื้อ +1 +2 ช่องโดยวิธี fix price เมื่อได้ของแล้วให้รีบตั้งขายไปก่อน ที่ราคาเพิ่มจากทุนที่ซื้อ +1 + 2 + 3 แล้วแต่ ขนาดราคา และจำนวน deals ที่มีคนเล่นมากน้อยในหุ้นตัวนั้น ๆ ก่อน 1 วัน เช่น หุ้นที่คนเล่นเยอะ ก็ตั้งเพิ่มขาย +3 ช่องจากที่ซื้อได้ รวมกับทุนเก่าที่มี แต่หากทุนเก่าที่มียังขาดทุนอยู่ก็ไม่ต้องขายส่วนนั้น
ขอให้โชคดี และขอให้ช่วยกันลุ้นวันพรุ่งนี้ ให้เล่นแดนเขียวทั้งวันเถิด และอย่าลืมกฎ 7 ส่วนฝีมือ 3 ส่วนโชคต้องช่วยเราด้วย
ฝีมือไม่ได้แค่หมายถึงรู้ข่าวปัจจัย อ่านงบเป็น ฯลฯ แต่มันหมายถึงการตั้งซื้อ ตั้งขาย ณ ราคาใดเหมาะสม และเวลาใดมีโอกาสซื้อได้และขายได้ด้วย ฯลฯ (นั่นคือส่วนหนึ่งของฝีมือ ซึ่งรายย่อยมองข้าม)