จากกระทู้ก่อนหน้า ผมได้ตั้งกระทู้ว่าอยากจะเปลี่ยนจาก mint ไปใช้ตัวอื่นบ้าง
ผมเลยมาตั้งกระทู้ถามไว้ที่นี่
สาเหตุที่ผมต้องเปลี่ยน
ผมไม่ชอบระบบ apt-get ของ Ubuntu ที่ซับพอร์ตแค่ 18 เดือน หลังจากนั้น apt-get จะไม่สามารถใช้งานได้เพราะ ทาง canonical หยุดการสนับสนุน ทำให้เราต้องลงใหม่ทุกปี
ผมต้องการ linux ที่ lightweight สามารถเลือกลงอะไรได้เอง แต่ยังไม่ถึงขั้น from scratch
ผมต้องการ linux ที่ลงครั้งเดียวแล้วอัพเดทเรื่อยๆ
ผมชอบ inux ที่อัพเดทรวดเร็ว
Arch Linux ตอบโจทย์ผมได้ทุกข้อ
แต่
Arch Linux ไม่ใช่ Linux สำหรับมือใหม่
Arch Linux ถูกออกแบบมาโดยใช้แนวทางแบบ minimalise คือโล่งๆ เมื่อคุณลง Arch linux คถณจะได้แค่ shell เปล่าๆ
ไม่มีคำสั่งอะไรทั้งนั้นแม้แต่ ipconfig ก็ตาม
แต่นี่คือข้อดีก็ได้เพราะมันทำให้เรามีอิสระเป็นอย่างมากในการเลือกใช้ แต่ข้อเสียคือคุณต้องมีความรู้พอสมควร
เพราะแม้แต่ขั้นตอนการติดตั้งยังย้อนยุคไปถึงระบบ Linux เมื่อ 10 ก่อนได้กระมัง คุณต้องมีความเขาใจในการทำงาน การติดตั้งระบบ การใช้คำสั่งต่างๆ ของ linux และ คำสั่งเฉพาะใน Arch Linux ไม่ใช่แค่กดคลิกๆ ไป
การติดตั้งจะเป็นการติดตั้งผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งหมดครับ และผมก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าการติดตั้ง หากจะทำผ่าน wireless จะค่อนข้างมีปัญหา คุณจะได้เจอทั้ง kernel panic และแม้แต่โปรแกรมจัดการ wifi อัตโนมัติมีปัญหากับบางระบบเน็ตเวิร์ค เช่นระบบที่ใช้ WEP
คุณจะต้องสั่งเปิดการเชื่อมต่อเองด้วยมือคุณถึงจะติดตั้งได้
เมื่อลงเสร็จแล้วคุณก็จะได้เจอกับปัญหาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เล่นเสียงไม่ได้เพราะไม่มีไดร์เวอร์เสียง นอกจากคุณจะสั่งติดตั้งมันด้วย
หรือแม้แต่ไดร์เวอร์ไม่สมบูรณ์แต่ไม่พบใน distro อื่นเพราะเค้าแก้ไปแล้ว แต่ arch linux คุณต้องมา patch โค้ดของ driver เอง
ผมเองก็เพิ่งคอมไพล์ไดร์เวอร์ wireless ใหม่ เพราะมีปัญหากับระบบของมหาลัย
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องภาษาไทย อันนี้ไม่น่าแปลกใจ ต้องท้าวความย้อนไปยาวซักหน่อยคือเมื่อก่อน ทาง Nectec มีโครงการสร้าง linux ที่สนับสนุนภาษาไทย หรือ Linux TLE ต่อมาเมื่อยุติโครงการนี้ จึง contribute แพจเก็จภาษาไทยกลับไปยังต้นน้ำคือ RedHat และ Ubuntu ทำให้ระบบทั้งสองสนับสนุนภาษาไทยได้ค่อนข้างดีนับแต่นั้นเป็นต้นมา แต่การที่ผมเอาฟอนต์ภาษาไทยมาลงก็ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งครับ
มีเรื่องตลกอีกอย่างคือเรื่องการจัดการเน็ตเวิร์ก คือ ใน Arch Linux จะต้องจัดการ Network ผ่าน CommandLine เท่านั้น เครื่องมือ GUI ไดๆ เมื่อเอามาลงจะไม่สามารถทำงานได้เลย เพราะว่าระบบการจัดการ Network ของ Arch Linux มีสองระบบแยกกันเป็นอิสระ
ซึ่งโดยปกติ ระบบที่สามารถทำงานร่วมกันกับ GUI จะไม่ติดตั้งมาเป็นค่าเริ่มต้น( แม้แต่ระบบของ Wireless ก็ไม่ติดตั้งมา ) ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้งเอง เรื่องนี้ทำผมหัวปั่นไปสองวันเต็มๆ
แต่เมื่อคุณผ่านมาได้หมด คุณจะพบว่า Arch Linux กินเนื้อที่น้อยมาก และยังเร็วกว่า mint อย่างสังเกตได้ และด้วยการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอของมัน ทำให้เหมาะแก่การนำไปทำ เป็น server มากกว่า Ubuntu
สำหรับ Geek นี่เป็น linux ที่น่าสนใจครับ
สรุปข้อดีข้อเสียของ Arch Linux
ผมเลยมาตั้งกระทู้ถามไว้ที่นี่
สาเหตุที่ผมต้องเปลี่ยน
ผมไม่ชอบระบบ apt-get ของ Ubuntu ที่ซับพอร์ตแค่ 18 เดือน หลังจากนั้น apt-get จะไม่สามารถใช้งานได้เพราะ ทาง canonical หยุดการสนับสนุน ทำให้เราต้องลงใหม่ทุกปี
ผมต้องการ linux ที่ lightweight สามารถเลือกลงอะไรได้เอง แต่ยังไม่ถึงขั้น from scratch
ผมต้องการ linux ที่ลงครั้งเดียวแล้วอัพเดทเรื่อยๆ
ผมชอบ inux ที่อัพเดทรวดเร็ว
Arch Linux ตอบโจทย์ผมได้ทุกข้อ
แต่ Arch Linux ไม่ใช่ Linux สำหรับมือใหม่
Arch Linux ถูกออกแบบมาโดยใช้แนวทางแบบ minimalise คือโล่งๆ เมื่อคุณลง Arch linux คถณจะได้แค่ shell เปล่าๆ
ไม่มีคำสั่งอะไรทั้งนั้นแม้แต่ ipconfig ก็ตาม
แต่นี่คือข้อดีก็ได้เพราะมันทำให้เรามีอิสระเป็นอย่างมากในการเลือกใช้ แต่ข้อเสียคือคุณต้องมีความรู้พอสมควร
เพราะแม้แต่ขั้นตอนการติดตั้งยังย้อนยุคไปถึงระบบ Linux เมื่อ 10 ก่อนได้กระมัง คุณต้องมีความเขาใจในการทำงาน การติดตั้งระบบ การใช้คำสั่งต่างๆ ของ linux และ คำสั่งเฉพาะใน Arch Linux ไม่ใช่แค่กดคลิกๆ ไป
การติดตั้งจะเป็นการติดตั้งผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งหมดครับ และผมก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าการติดตั้ง หากจะทำผ่าน wireless จะค่อนข้างมีปัญหา คุณจะได้เจอทั้ง kernel panic และแม้แต่โปรแกรมจัดการ wifi อัตโนมัติมีปัญหากับบางระบบเน็ตเวิร์ค เช่นระบบที่ใช้ WEP
คุณจะต้องสั่งเปิดการเชื่อมต่อเองด้วยมือคุณถึงจะติดตั้งได้
เมื่อลงเสร็จแล้วคุณก็จะได้เจอกับปัญหาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เล่นเสียงไม่ได้เพราะไม่มีไดร์เวอร์เสียง นอกจากคุณจะสั่งติดตั้งมันด้วย
หรือแม้แต่ไดร์เวอร์ไม่สมบูรณ์แต่ไม่พบใน distro อื่นเพราะเค้าแก้ไปแล้ว แต่ arch linux คุณต้องมา patch โค้ดของ driver เอง
ผมเองก็เพิ่งคอมไพล์ไดร์เวอร์ wireless ใหม่ เพราะมีปัญหากับระบบของมหาลัย
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องภาษาไทย อันนี้ไม่น่าแปลกใจ ต้องท้าวความย้อนไปยาวซักหน่อยคือเมื่อก่อน ทาง Nectec มีโครงการสร้าง linux ที่สนับสนุนภาษาไทย หรือ Linux TLE ต่อมาเมื่อยุติโครงการนี้ จึง contribute แพจเก็จภาษาไทยกลับไปยังต้นน้ำคือ RedHat และ Ubuntu ทำให้ระบบทั้งสองสนับสนุนภาษาไทยได้ค่อนข้างดีนับแต่นั้นเป็นต้นมา แต่การที่ผมเอาฟอนต์ภาษาไทยมาลงก็ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งครับ
มีเรื่องตลกอีกอย่างคือเรื่องการจัดการเน็ตเวิร์ก คือ ใน Arch Linux จะต้องจัดการ Network ผ่าน CommandLine เท่านั้น เครื่องมือ GUI ไดๆ เมื่อเอามาลงจะไม่สามารถทำงานได้เลย เพราะว่าระบบการจัดการ Network ของ Arch Linux มีสองระบบแยกกันเป็นอิสระ
ซึ่งโดยปกติ ระบบที่สามารถทำงานร่วมกันกับ GUI จะไม่ติดตั้งมาเป็นค่าเริ่มต้น( แม้แต่ระบบของ Wireless ก็ไม่ติดตั้งมา ) ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้งเอง เรื่องนี้ทำผมหัวปั่นไปสองวันเต็มๆ
แต่เมื่อคุณผ่านมาได้หมด คุณจะพบว่า Arch Linux กินเนื้อที่น้อยมาก และยังเร็วกว่า mint อย่างสังเกตได้ และด้วยการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอของมัน ทำให้เหมาะแก่การนำไปทำ เป็น server มากกว่า Ubuntu
สำหรับ Geek นี่เป็น linux ที่น่าสนใจครับ