HotNews:ทุนจีน จ้องเสียบ IEC
IEC ประกาศ เพิ่มทุน 3.06 หมื่นล้านหุ้น ขายหุ้นเดิม 3:1 -ขายพีพี 2.67หมื่นล้านหุ้น พร้อมปรับโครงสร้าง ตั้ง ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช อดีตผู้บริหารยูคอม -บอร์ด PTTEP นั่งแท่น ประธานกรรมการบริษัท แย้มส่วนขาย PP 2.67หมื่นล้านหุ้นมีนลท. -สถาบันจีนจ้องเสียบ เหตุสนใจธุรกิจพลังงาน
ไม่ถึงปี IEC ปฎิบัติการสูบเงินจากตลาดหุ้นอีกแล้ว หลังจากที่ ช่วงต้นปี ช่วงเดือน ม.ค. 56 IEC เพิ่มทุนให้ 2 พันล้านหุ้น ขาย "Mr. Kenuo Lin" นักลงทุนสัญชาติจีน ในราคาหุ้นละ 0.04 บาท เพราะเห็นว่าเป็นนักลงทุนที่มีศักยภาพเงินทุน ขณะที่วันที่ 19 มี.ค. 56 IEC ประกาศเพิ่มทุน 23,009,772,580 หุ้น ขาย ผถห.เดิม 3 : 1 ในราคาจองซื้อ 0.0225 บ./หุ้น เพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในอำเภอแม่ระมาดจังหวัดตาก และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 180 ลบ. รวมทั้งประมูลโครงการ ICT 150 ลบ. และใช้เป็นเงินหมุนเวียน 187 ลบ.
มาคราวนี้ IEC เปิดฉากสูบเงินจากตลาดหุ้น 2.1 พันล้านบาท โดยกลวิธีการเพิ่มทุน 3.06 หมื่นล้านหุ้น ขายหุ้นเดิม 3:1 -ขายพีพี 2.67หมื่นล้านหุ้น โดยการเพิ่มทุนรอบนี้ กำหนดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นได้ไม่เกินสิทธิ์ ถ้าขายไม่หมดจะขาย PP ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือการเพิ่มทุนรอบนี้ เป็นการนำเม็ดเงินไปลงทุนในโครงการเดิม คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการแม่ระมาด ซึ่งตั้งอยู่ ณ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ซึ่งประเด็นนี้ ตลท. ควรเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสกับผู้ถือหุ้นรายย่อย
ขณะที่มีโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม คือ โครงการแม่มาลัย ซึ่งตั้งอยู่ ณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ วงเงินรวมประมาณ 400 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการโครงการธุรกิจด้าน ICT วงเงินประมาณ 300 ล้านบาท และรองรับโครงการลงทุนด้านธุรกิจ ICT วงเงินประมาณ 100 ล้านบาท และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีกับสถาบันการเงิน ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการลำพูน 1 และลำพูน 2 ซึ่งตั้งอยู่ ณ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ในวงเงินประมาณ 200 ล้านบาท รวมถึงใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในวงเงินรวมประมาณ 1,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มทุน ภายใต้การบริหารงานของทีมใหม่ ที่มติบอร์ดแต่งตั้ง ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช เป็นประธานกรรมการบริษัท-กรรมการ IEC มีผลตั้งแต่ 26 ส.ค.56
ดร.ภูษณ กล่าวว่า การเข้ามาบริหารงานใน IEC โดยมารับตำแหน่ง ประธานกรรมการ IEC เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ ว่าจะมีการเติบโตในอนาคต อีกทั้งมีความรู้ในธุรกิจพลังงานทดแทน และสื่อสารโทรคมนาคม และเคยเป็นผู้บริหารของกลุ่มบริษัทยูคอม รวมถึงเป็นกรรมการใน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)PTTEP ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารงาน และการที่คณะกรรมการบริษัทฯ ตัดสินใจเพิ่มทุนรอบนี้ ก็เพื่อหวังจะนำเงินมาลงทุนโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างมาร์จิ้นให้บริษัทฯ เป็นอย่างดี โดยปีหน้าคาดว่าสัดส่วนกำไรจะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนถึง 80% ขณะที่โดยส่วนตัวถือหุ้น IEC ราว 2%
ย้อนรอย IEC ก่อตั้งเมื่อปี 2465 โดยตอนนั้น เป็นบริษัทฯ ที่เข้าไปรับงานก่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ -อรัญประเทศ จากนั้นปี 2526 ได้ เป็นตัวแทนขายโทรศัพท์เคลื่อนที่"โนเกีย"ซึ่งตอนนั้นครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก และในปีเดียวกัน บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เข้ามาลงทุนในIEC ทำให้ ณ เวลานั้น IEC กลายเป็นบริษัทในเครือของ SCC จนกระทั่งถึงปี 2533 SCC เปลี่ยนนโยบายลงทุน กลุ่มผู้บริหาร IEC จึงเสนอตัวเข้าเป็นผู้ลงทุนทั้งหมดและหานักลงทุนรายใหม่เข้ามา และได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 120 ลบ. ก่อนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2535
มาวันนี้ IEC มีทุนจดทะเบียน 10,103,582,200 บาท ทุนชำระแล้ว 9,204,459,024 บาท ( ข้อมูล ณ วันที่ 26 ส.ค. 56 ) ขณะที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา IEC ปรับโครงสร้างธุรกิจจากการขายโทรสัพท์เคลื่อนที่ มาเน้นลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ แต่ยังไม่ละทิ้งธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งธุรกิจทั้ง2 ส่วนนี้ จะเป็นตัวผลักดันผลประกอบการของ IEC ให้ดีขึ้น
ขณะที่ การปรับโครงสร้างการบริหารงานในองค์กร ของ IEC มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารเป็นว่าเล่น ตั้งแต่ ตั้ง "สมชาย วงศ์รัศมี" นั่งประธานบอร์ดบริหาร ในช่วงปี 54 "ธวัชชัย สุวรรณคำ" เป็นกรรมการ แทน "อรรถวุฒิ เลาหภักดี" กรรมการที่ลาออกไป และช่วงปี 55 "ประเจิด สุขแก้ว" เข้ามานั่ง กรรมการ และกรรมการตรวจสอบ แทน "ดร.สมชาย วงศ์รัศมี" กรรมการที่ลาออกไป รวมทั้ง เปลี่ยนโครงสร้างใหม่บอร์ดใหม่ยกชุด และในปี 56 ช่วงเดือน มิ.ย. บอร์ด IEC "ดร. อรรถวุฒิ เลาหภักดี " กลับมาเป็น รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงิน - บัญชีของบริษัท ล่าสุด บอร์ด IEC อนุมัติแต่งตั้ง ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช เป็นประธานกรรมการบริษัท-กรรมการ มีผลตั้งแต่ 26 ส.ค.56
ล่าสุด IEC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าบอร์ด มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 6,102,857,800 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 61,028,578,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.10 บาท โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 30,681,530,080 หุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.035 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XR วันที่ 3 ต.ค. 2556 วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น 21 ต.ค. 2556 ถึงวันที่ 28 ต.ค. 2556
หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 26,747,047,920 หุ้น จัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) ราคาขายจะไม่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นละ 0.035 บาท
หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 3,600,000,000 หุ้น จัดสรรให้กับ กรรมการและพนักงาน(ESOP) โดยไม่คิดมูลค่า
ดร.ภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) เปิดเผยว่า คาดว่า ได้รับเม็ดเงินจากการเพิ่มทุนรอบนี้ 2,100 ล้านบาท และเชื่อว่าการเพิ่มทุนในครั้งล่าสุดนี้จะได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ซึ่งจะประชุมใน 30 ก.ย. นี้
ขณะที่บริษัทวางเป้ารายได้ปี2557 ไว้ที่903 ล้านบาท ขณะที่คาด กำไรก่อนหักภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจ่าย (Ebitda) จะกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส3/56 จากงวด6เดือนปีนี้ที่ EBITDA ของบริษัทฯ ติดลบอยู่ที่ 47.70 ล้านบาท และคาดมีEbitda ในปี2557 อยู่ที่ 475 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานทดแทน รวมทั้งยังมีรายได้ที่มาจากธุรกิจเทเลคอม ขณะที่บริษัทฯ พยามบริหารจัดการต้นทุนโดตตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และขายกิจการที่ไม่มีกำไรออกไปในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันหากการเพิ่มทุนของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จตามแผนได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ในการประชุมวันที่30 ก.ย. นี้ จะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดเหลือ 0.13 เท่าในปี 2557 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 2.38 เท่า และ IRR (อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน) อยู่ที่ 12-15%
"บริษัทฯ มีขาดทุนสะสมอยู่ราว 2,000-3,000 ล้านบาท ที่จะต้องทยอยแก้ไข "ดร.ภูษณ กล่าว
สำหรับการออกหุ้นเพิ่มทุนให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ปัจจุบันมีนักลงทุนต่างประเทศ และนักลงทุนสถาบันในประเทศจีนให้ความสนใจหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากให้ความสนใจในธุรกิจพลังงานทางเลือก ที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการพลังงานทดแทนราว 5 โครงการ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ขนาดกำลังการผลิต 2 MW โดยบริษัทฯ คาดจะรับรู้รายได้ราว 1.5-2 ล้านบาท/1 MW มีAdder อยู่ที่ 6.5 บาท
ขณะที่ เดือนพฤศจิกายน บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากโครงการ โรงไฟฟ้าแม่ระมาดที่จังหวัดตาก ขนาด 5.25 เมกะวัตต์ ส่วนเดือนธันวาคม นี้ จะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าแม่มาลัย ในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งโครงการ1และโครงการ2 มีกำลังการผลิต 2 MW
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะ ขนาด 6.7 MW ที่อำเภอหาดใหญ่ ในเดือนมกราคมปีหน้า โดยโครงการนี้บริษัทฯ ร่วมทุนกับ EGCO โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ทำให้บริษัทฯ จะรับรู้รายได้เข้ามา 3.35 เมกะวัตต์
สำหรับ การดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง ในส่วนของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทฯ เตรียมยื่นประมูลงานจากโครงการของรัฐวิสาหกิจและภาครัฐ มูลค่ารวมประมาณ 500-1,000 ล้านบาท
ดร.ภูษณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาบริหารงาน โดยมารับตำแหน่ง ประธานกรรมการ IEC เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ ว่าจะมีการเติบโตในอนาคต อีกทั้งมีความรู้ในธุรกิจพลังงานทดแทน และสื่อสารโทรคมนาคม และเคยเป็นผู้บริหารของกลุ่มบริษัทยูคอม รวมถึงเป็นกรรมการใน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)PTTEP ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารงาน และการที่คณะกรรมการบริษัทฯ ตัดสินใจเพิ่มทุนรอบนี้ ก็เพื่อหวังจะนำเงินมาลงทุนโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างมาร์จิ้นให้บริษัทฯ เป็นอย่างดี โดยปีหน้าคาดว่าสัดส่วนกำไรจะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนถึง 80% ขณะที่โดยส่วนตัวถือหุ้น IEC ราว 2%
ดร.ภูษณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเพื่อแก้ไขสัญญาทางธุรกิจ กับอสมท. ให้สามารถตั้งบริษัทใหม่ได้ หลังการแก้ไขสัญญาจะทำให้บริษัทฯสามารถร่วมทุนกับบริษัทอื่นได้ โดยล่าสุดได้เจรจากับกลุ่มผู้ก่อตั้ง CTH เพื่อทำธุรกิจ ดิจิทัล โมบายทีวี
"IEC ยังต้องการเงินลงทุนในโครงการต่างๆ ที่สร้างผลตอบแทนในระยะยาวเป็นBusiness Model ใหม่ ซึ่งเราเชื่อว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทแสดงให้เห็นความมั่นใจของนักลงทุนต่อแผนงานในอนาคตของIEC โดยมั่นใจว่าจากนี้ต่อไปกลุ่มบริษัทจะเริ่มทำกำไรอย่างที่ควรจะเป็น"ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC กล่าว
ดร. อรรถวุฒิ เลาหภักดี กรรมการและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษั อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดสิ้นปีพลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบหลายปี หลังบริษัทฯเดินหน้าสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ โดยปรับโครงสร้างธุรกิจหันมารุกธุรกิจทางเลือกมุ่งเน้นที่โซลาร์เซลล์ซึ่งตั้งเป้าสร้างรายได้จากพลังงานทดแทน50% ส่วนธุรกิจดั้งเดิมคือ สื่อสาร เทคโนโนโลยี และสารสนเทศ จะพัฒนาให้ทันสมัยสามารถแข่งขันในตลาด
พร้อมกันนี้บริษัทฯ จะลงทุนในธุรกิจพลังงาน เพิ่มขึ้นทั้งในรูปแบบการซื้อกิจการและร่วมทุนเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้
ปิดการซื้อขาย ( 27 ส.ค. 56 ) ราคาหุ้น IEC อยู่ที่ 0.04บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 112.36 ล้านบาท
IEC ทุนจีนกำลังมา
IEC ประกาศ เพิ่มทุน 3.06 หมื่นล้านหุ้น ขายหุ้นเดิม 3:1 -ขายพีพี 2.67หมื่นล้านหุ้น พร้อมปรับโครงสร้าง ตั้ง ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช อดีตผู้บริหารยูคอม -บอร์ด PTTEP นั่งแท่น ประธานกรรมการบริษัท แย้มส่วนขาย PP 2.67หมื่นล้านหุ้นมีนลท. -สถาบันจีนจ้องเสียบ เหตุสนใจธุรกิจพลังงาน
ไม่ถึงปี IEC ปฎิบัติการสูบเงินจากตลาดหุ้นอีกแล้ว หลังจากที่ ช่วงต้นปี ช่วงเดือน ม.ค. 56 IEC เพิ่มทุนให้ 2 พันล้านหุ้น ขาย "Mr. Kenuo Lin" นักลงทุนสัญชาติจีน ในราคาหุ้นละ 0.04 บาท เพราะเห็นว่าเป็นนักลงทุนที่มีศักยภาพเงินทุน ขณะที่วันที่ 19 มี.ค. 56 IEC ประกาศเพิ่มทุน 23,009,772,580 หุ้น ขาย ผถห.เดิม 3 : 1 ในราคาจองซื้อ 0.0225 บ./หุ้น เพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในอำเภอแม่ระมาดจังหวัดตาก และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 180 ลบ. รวมทั้งประมูลโครงการ ICT 150 ลบ. และใช้เป็นเงินหมุนเวียน 187 ลบ.
มาคราวนี้ IEC เปิดฉากสูบเงินจากตลาดหุ้น 2.1 พันล้านบาท โดยกลวิธีการเพิ่มทุน 3.06 หมื่นล้านหุ้น ขายหุ้นเดิม 3:1 -ขายพีพี 2.67หมื่นล้านหุ้น โดยการเพิ่มทุนรอบนี้ กำหนดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นได้ไม่เกินสิทธิ์ ถ้าขายไม่หมดจะขาย PP ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือการเพิ่มทุนรอบนี้ เป็นการนำเม็ดเงินไปลงทุนในโครงการเดิม คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการแม่ระมาด ซึ่งตั้งอยู่ ณ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ซึ่งประเด็นนี้ ตลท. ควรเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสกับผู้ถือหุ้นรายย่อย
ขณะที่มีโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม คือ โครงการแม่มาลัย ซึ่งตั้งอยู่ ณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ วงเงินรวมประมาณ 400 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการโครงการธุรกิจด้าน ICT วงเงินประมาณ 300 ล้านบาท และรองรับโครงการลงทุนด้านธุรกิจ ICT วงเงินประมาณ 100 ล้านบาท และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีกับสถาบันการเงิน ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการลำพูน 1 และลำพูน 2 ซึ่งตั้งอยู่ ณ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ในวงเงินประมาณ 200 ล้านบาท รวมถึงใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในวงเงินรวมประมาณ 1,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มทุน ภายใต้การบริหารงานของทีมใหม่ ที่มติบอร์ดแต่งตั้ง ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช เป็นประธานกรรมการบริษัท-กรรมการ IEC มีผลตั้งแต่ 26 ส.ค.56
ดร.ภูษณ กล่าวว่า การเข้ามาบริหารงานใน IEC โดยมารับตำแหน่ง ประธานกรรมการ IEC เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ ว่าจะมีการเติบโตในอนาคต อีกทั้งมีความรู้ในธุรกิจพลังงานทดแทน และสื่อสารโทรคมนาคม และเคยเป็นผู้บริหารของกลุ่มบริษัทยูคอม รวมถึงเป็นกรรมการใน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)PTTEP ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารงาน และการที่คณะกรรมการบริษัทฯ ตัดสินใจเพิ่มทุนรอบนี้ ก็เพื่อหวังจะนำเงินมาลงทุนโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างมาร์จิ้นให้บริษัทฯ เป็นอย่างดี โดยปีหน้าคาดว่าสัดส่วนกำไรจะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนถึง 80% ขณะที่โดยส่วนตัวถือหุ้น IEC ราว 2%
ย้อนรอย IEC ก่อตั้งเมื่อปี 2465 โดยตอนนั้น เป็นบริษัทฯ ที่เข้าไปรับงานก่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ -อรัญประเทศ จากนั้นปี 2526 ได้ เป็นตัวแทนขายโทรศัพท์เคลื่อนที่"โนเกีย"ซึ่งตอนนั้นครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก และในปีเดียวกัน บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เข้ามาลงทุนในIEC ทำให้ ณ เวลานั้น IEC กลายเป็นบริษัทในเครือของ SCC จนกระทั่งถึงปี 2533 SCC เปลี่ยนนโยบายลงทุน กลุ่มผู้บริหาร IEC จึงเสนอตัวเข้าเป็นผู้ลงทุนทั้งหมดและหานักลงทุนรายใหม่เข้ามา และได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 120 ลบ. ก่อนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2535
มาวันนี้ IEC มีทุนจดทะเบียน 10,103,582,200 บาท ทุนชำระแล้ว 9,204,459,024 บาท ( ข้อมูล ณ วันที่ 26 ส.ค. 56 ) ขณะที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา IEC ปรับโครงสร้างธุรกิจจากการขายโทรสัพท์เคลื่อนที่ มาเน้นลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ แต่ยังไม่ละทิ้งธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งธุรกิจทั้ง2 ส่วนนี้ จะเป็นตัวผลักดันผลประกอบการของ IEC ให้ดีขึ้น
ขณะที่ การปรับโครงสร้างการบริหารงานในองค์กร ของ IEC มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารเป็นว่าเล่น ตั้งแต่ ตั้ง "สมชาย วงศ์รัศมี" นั่งประธานบอร์ดบริหาร ในช่วงปี 54 "ธวัชชัย สุวรรณคำ" เป็นกรรมการ แทน "อรรถวุฒิ เลาหภักดี" กรรมการที่ลาออกไป และช่วงปี 55 "ประเจิด สุขแก้ว" เข้ามานั่ง กรรมการ และกรรมการตรวจสอบ แทน "ดร.สมชาย วงศ์รัศมี" กรรมการที่ลาออกไป รวมทั้ง เปลี่ยนโครงสร้างใหม่บอร์ดใหม่ยกชุด และในปี 56 ช่วงเดือน มิ.ย. บอร์ด IEC "ดร. อรรถวุฒิ เลาหภักดี " กลับมาเป็น รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงิน - บัญชีของบริษัท ล่าสุด บอร์ด IEC อนุมัติแต่งตั้ง ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช เป็นประธานกรรมการบริษัท-กรรมการ มีผลตั้งแต่ 26 ส.ค.56
ล่าสุด IEC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าบอร์ด มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 6,102,857,800 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 61,028,578,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.10 บาท โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 30,681,530,080 หุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.035 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XR วันที่ 3 ต.ค. 2556 วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น 21 ต.ค. 2556 ถึงวันที่ 28 ต.ค. 2556
หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 26,747,047,920 หุ้น จัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) ราคาขายจะไม่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นละ 0.035 บาท
หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 3,600,000,000 หุ้น จัดสรรให้กับ กรรมการและพนักงาน(ESOP) โดยไม่คิดมูลค่า
ดร.ภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) เปิดเผยว่า คาดว่า ได้รับเม็ดเงินจากการเพิ่มทุนรอบนี้ 2,100 ล้านบาท และเชื่อว่าการเพิ่มทุนในครั้งล่าสุดนี้จะได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ซึ่งจะประชุมใน 30 ก.ย. นี้
ขณะที่บริษัทวางเป้ารายได้ปี2557 ไว้ที่903 ล้านบาท ขณะที่คาด กำไรก่อนหักภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจ่าย (Ebitda) จะกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส3/56 จากงวด6เดือนปีนี้ที่ EBITDA ของบริษัทฯ ติดลบอยู่ที่ 47.70 ล้านบาท และคาดมีEbitda ในปี2557 อยู่ที่ 475 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานทดแทน รวมทั้งยังมีรายได้ที่มาจากธุรกิจเทเลคอม ขณะที่บริษัทฯ พยามบริหารจัดการต้นทุนโดตตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และขายกิจการที่ไม่มีกำไรออกไปในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันหากการเพิ่มทุนของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จตามแผนได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ในการประชุมวันที่30 ก.ย. นี้ จะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดเหลือ 0.13 เท่าในปี 2557 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 2.38 เท่า และ IRR (อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน) อยู่ที่ 12-15%
"บริษัทฯ มีขาดทุนสะสมอยู่ราว 2,000-3,000 ล้านบาท ที่จะต้องทยอยแก้ไข "ดร.ภูษณ กล่าว
สำหรับการออกหุ้นเพิ่มทุนให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ปัจจุบันมีนักลงทุนต่างประเทศ และนักลงทุนสถาบันในประเทศจีนให้ความสนใจหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากให้ความสนใจในธุรกิจพลังงานทางเลือก ที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการพลังงานทดแทนราว 5 โครงการ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ขนาดกำลังการผลิต 2 MW โดยบริษัทฯ คาดจะรับรู้รายได้ราว 1.5-2 ล้านบาท/1 MW มีAdder อยู่ที่ 6.5 บาท
ขณะที่ เดือนพฤศจิกายน บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากโครงการ โรงไฟฟ้าแม่ระมาดที่จังหวัดตาก ขนาด 5.25 เมกะวัตต์ ส่วนเดือนธันวาคม นี้ จะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าแม่มาลัย ในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งโครงการ1และโครงการ2 มีกำลังการผลิต 2 MW
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะ ขนาด 6.7 MW ที่อำเภอหาดใหญ่ ในเดือนมกราคมปีหน้า โดยโครงการนี้บริษัทฯ ร่วมทุนกับ EGCO โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ทำให้บริษัทฯ จะรับรู้รายได้เข้ามา 3.35 เมกะวัตต์
สำหรับ การดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง ในส่วนของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทฯ เตรียมยื่นประมูลงานจากโครงการของรัฐวิสาหกิจและภาครัฐ มูลค่ารวมประมาณ 500-1,000 ล้านบาท
ดร.ภูษณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาบริหารงาน โดยมารับตำแหน่ง ประธานกรรมการ IEC เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ ว่าจะมีการเติบโตในอนาคต อีกทั้งมีความรู้ในธุรกิจพลังงานทดแทน และสื่อสารโทรคมนาคม และเคยเป็นผู้บริหารของกลุ่มบริษัทยูคอม รวมถึงเป็นกรรมการใน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)PTTEP ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารงาน และการที่คณะกรรมการบริษัทฯ ตัดสินใจเพิ่มทุนรอบนี้ ก็เพื่อหวังจะนำเงินมาลงทุนโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างมาร์จิ้นให้บริษัทฯ เป็นอย่างดี โดยปีหน้าคาดว่าสัดส่วนกำไรจะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนถึง 80% ขณะที่โดยส่วนตัวถือหุ้น IEC ราว 2%
ดร.ภูษณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเพื่อแก้ไขสัญญาทางธุรกิจ กับอสมท. ให้สามารถตั้งบริษัทใหม่ได้ หลังการแก้ไขสัญญาจะทำให้บริษัทฯสามารถร่วมทุนกับบริษัทอื่นได้ โดยล่าสุดได้เจรจากับกลุ่มผู้ก่อตั้ง CTH เพื่อทำธุรกิจ ดิจิทัล โมบายทีวี
"IEC ยังต้องการเงินลงทุนในโครงการต่างๆ ที่สร้างผลตอบแทนในระยะยาวเป็นBusiness Model ใหม่ ซึ่งเราเชื่อว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทแสดงให้เห็นความมั่นใจของนักลงทุนต่อแผนงานในอนาคตของIEC โดยมั่นใจว่าจากนี้ต่อไปกลุ่มบริษัทจะเริ่มทำกำไรอย่างที่ควรจะเป็น"ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC กล่าว
ดร. อรรถวุฒิ เลาหภักดี กรรมการและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษั อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดสิ้นปีพลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบหลายปี หลังบริษัทฯเดินหน้าสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ โดยปรับโครงสร้างธุรกิจหันมารุกธุรกิจทางเลือกมุ่งเน้นที่โซลาร์เซลล์ซึ่งตั้งเป้าสร้างรายได้จากพลังงานทดแทน50% ส่วนธุรกิจดั้งเดิมคือ สื่อสาร เทคโนโนโลยี และสารสนเทศ จะพัฒนาให้ทันสมัยสามารถแข่งขันในตลาด
พร้อมกันนี้บริษัทฯ จะลงทุนในธุรกิจพลังงาน เพิ่มขึ้นทั้งในรูปแบบการซื้อกิจการและร่วมทุนเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้
ปิดการซื้อขาย ( 27 ส.ค. 56 ) ราคาหุ้น IEC อยู่ที่ 0.04บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 112.36 ล้านบาท