ป.ป.ช."ชี้มูลความผิดเลขาธิการปรส./ราคากลาง/แม่จัน
--------------------------------------------------------------------------------
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช นำโดยนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เปิดการแถลงผลงานของ ป.ป.ช.ในรอบ 8 เดือน โดยเฉพาะภาพรวมของคดีต่างๆ ที่ได้ชี้มูลไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช.มีคดีที่ค้างอยู่อีก 8,000 คดี ถึงแม้จะทำงานอย่างเต็มท่ี่ จึงได้กำหนดแนวทางการการบริหารคดีให้ลุล่วงภายใน 1ปี และความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. จังหวัด ที่ตั้งแต่งไปแล้ว 32 จังหวัด จาก 76 จังหวัด แต่มีผู้ร้องเรียน 29 จังหวัด
ขณะที่ ป.ป.ช.ยังมีมติชี้มูลความผิดทางวินัยและอาญา กับนายมนตรี เจนวิทย์การ เลขาธิการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือ ปรส. ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ในการขายสินทรัพย์กลุ่มสินเชื่อพาณิชย์ และสินเชื่ออื่นตามสัญญาขาย จำหน่ายให้กองทุนเอเชียรีคอฟเวอร์รี่ 3 ของบริษัทเกรียตินาคิน จำกัด โดยมิชอบ ซึ่งเป็นการยกเว้นกฎ ระเบียบของ ปรส. ทำให้กลุ่มกองทุนของบริษัทเกรียตินาคิน ไม่ต้องชำระภาษี
นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลความผิดทางวินัย กับนายอภิรักษ์ ศักดิ์สนิท นายอำเภอแม่จัน และนายสุชัย สถิรชล ปลัดอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ในการรับรองการเกิดและให้สัญชาติกับบุคคลต่างด้าว ที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย 2 ราย และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนของ ป.ป.ช. อีก 16 ราย
ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้ย้ำเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 107/7 ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เพื่อป้องกันการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ โดยได้กำหนดให้หน่วยงานรัฐเปิดเผยรายละเอียดราคากลางในการจัดซท้อจัดจ้าง และการคำนวนราคากลางไว้ในระบบอิเล็คทรอนิกส์ เพื่อให้ประชนสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงกำหนดให้บริษัทคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายต่อกรมสรรพากร โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา
http://www.newsplus.co.th/10591
มติ ปปช.ชี้อดีตเลขาฯ ปรส.ผิด ส่งอัยการฟ้องต่อ
--------------------------------------------------------------------------------
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช นำโดยนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เปิดการแถลงผลงานของ ป.ป.ช.ในรอบ 8 เดือน โดยเฉพาะภาพรวมของคดีต่างๆ ที่ได้ชี้มูลไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช.มีคดีที่ค้างอยู่อีก 8,000 คดี ถึงแม้จะทำงานอย่างเต็มท่ี่ จึงได้กำหนดแนวทางการการบริหารคดีให้ลุล่วงภายใน 1ปี และความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. จังหวัด ที่ตั้งแต่งไปแล้ว 32 จังหวัด จาก 76 จังหวัด แต่มีผู้ร้องเรียน 29 จังหวัด
ขณะที่ ป.ป.ช.ยังมีมติชี้มูลความผิดทางวินัยและอาญา กับนายมนตรี เจนวิทย์การ เลขาธิการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือ ปรส. ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ในการขายสินทรัพย์กลุ่มสินเชื่อพาณิชย์ และสินเชื่ออื่นตามสัญญาขาย จำหน่ายให้กองทุนเอเชียรีคอฟเวอร์รี่ 3 ของบริษัทเกรียตินาคิน จำกัด โดยมิชอบ ซึ่งเป็นการยกเว้นกฎ ระเบียบของ ปรส. ทำให้กลุ่มกองทุนของบริษัทเกรียตินาคิน ไม่ต้องชำระภาษี
นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลความผิดทางวินัย กับนายอภิรักษ์ ศักดิ์สนิท นายอำเภอแม่จัน และนายสุชัย สถิรชล ปลัดอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ในการรับรองการเกิดและให้สัญชาติกับบุคคลต่างด้าว ที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย 2 ราย และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนของ ป.ป.ช. อีก 16 ราย
ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้ย้ำเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 107/7 ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เพื่อป้องกันการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ โดยได้กำหนดให้หน่วยงานรัฐเปิดเผยรายละเอียดราคากลางในการจัดซท้อจัดจ้าง และการคำนวนราคากลางไว้ในระบบอิเล็คทรอนิกส์ เพื่อให้ประชนสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงกำหนดให้บริษัทคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายต่อกรมสรรพากร โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา
http://www.newsplus.co.th/10591