หนองคายเตรียมรับกองทัพนักท่องเที่ยวมืดฟ้ามัวดินอีกครั้ง

เป็นประจำทุกปีทีทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวนับหมื่นๆหรือเกือบแสนคนพากันมุ่งสู่จังหวัดหนองคายเพื่อดูปรากฏการาณ์เหนือธรรมชาติที่เรียกว่า บั้งไฟพญานาค ซึ่งชาวหนองคายได้พบเห็นนับเป็นร้อยๆปีมาแล้วและจะได้พบอีกต่อไปทุกปี

จากการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวในเทศกาลออกพรรษานี้ได้สร้างปัญหาการจราจรและการพักอาศัยในตัวจังหวัดและอีกหลายๆอำเภอของหนองคาย  สำหรับในปีนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆ  เทศบาล และบรรดาสส.จะได้นัดประชุมกันในวันที่ 3 กันยายนนี้เพื่อหาทางอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเยือนมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา จะได้จัดแบ่งหน้าที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยบริการผู้คนนับหมื่นๆคน  จะมีการตั้งเต๊นท์และจุดอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะได้พยายามแจ้งให้แขกผู้ไปเยือนทราบว่าวิธีขอความสะดวกจะต้องทำอย่างไรบ้าง

จริงๆแล้วปรากฏการณ์ดังกล่าวทางราชการเองก็ไม่สนับสนุนให้เกิดความเชื่อหลงงมงาย  และก็อำนวยความสะดวกในการที่จะให้คณะบุคคลใดๆมาพิสูจน์   ตราบใดที่ยังพิสูจน์ไม่ได้จะไปบังคับให้ประชาชนหรือชาวบ้านเลิกความเชื่อก็คงทำไม่ได้

จริงๆแล้วปรากฏการณ์แบบเดียวกันนี้ก็ได้เกิดขึ้นในหลายๆแห่งทั่วโลกและรอการพิสูจน์เช่นกัน  
นอกจากประเทศไทยแล้ว ที่อื่น ๆ ในโลกก็มีรายงานการพบปรากฏการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน เช่นที่ รัฐมิสซูรี และ รัฐเทกซัส ของสหรัฐอเมริกา โดยเรียกกันว่า แสงมาร์ฟา (Marfa lights) นอกจากนี้ยังพบที่เมืองเจดด้าห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ริมฝั่งทะเลแดง ในออสเตรเลีย อังกฤษ นอร์เวย์ และในยุโรป บางแห่งมีสีฟ้า สีส้ม สีแดงเข้ม สีขาว สีขาวปนเหลือง สีเหลืองทอง สีรุ้ง ขนาดตั้งแต่เท่าลูกปิงปองถึงลูกบาสเกตบอล มีรูปร่างทรงกลม ทรงรี รีคล้ายลูกอ๊อดหัวขึ้น รูปทรงคล้ายเพชร รูปทรงกระบอก ทรงเหลี่ยม และรูปทรงแปลก ๆ การเคลื่อนที่แตกต่างกันไปทั้งอยู่นิ่ง ลอยขึ้นในแนวดิ่งหรือเคลื่อนที่ในแนวราบ บางที่มีให้เห็นนานเกือบ 12 นาที ในบางทีอาจได้ยินเสียงฟู่ หากพบในระยะใกล้ และบ่อยครั้งที่พบตามแหล่งน้ำ ข้อมูลทั้งภาพและข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์เหล่านี้ยังมีค่อนข้างน้อย มีชื่อเรียกแตกต่างกัน

บริเวณที่พบมีทั้งที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดอื่นๆ
ตำแหน่งที่บั้งไฟพญานาคมักจะปรากฏให้เห็นว่า ทั่วทั้งจังหวัดหนองคาย มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 จุด โดยในจังหวัดหนองคายเกิดขึ้นหลายจุด แต่จุดที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี มีผู้พบเห็นบ่อยครั้งเริ่มจากที่อำเภอสังคม บริเวณ "อ่างปลาบึก" บ้านผาตั้ง บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสังคม ต่อมาที่บริเวณ "วัดหินหมากเป้ง" อำเภอศรีเชียงใหม่

ถัดจากนั้นก็จะพบในเขตอำเภอเมืองบ้านหินโงม ตำบลหินโงม อำเภอเมืองหนองคาย หน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลบ้านเดื่อ ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเมืองหนองคาย พอเข้าสู่เขต อำเภอโพนพิสัยก็จะพบแทบจะตลอดลำน้ำโขง ตั้งแต่ปากห้วยหลวง ตำบลห้วยหลวง ในเขตเทศบาลตำบลจุมพล หน้าวัดไทย วัดจุมพล วัดจอมนาง หนองสรวง เวินพระสุก ท่าทรายรวมโชค ตำบลกุดบง บ้านหนองกุ้ง ซึ่งที่อำเภอโพนพิสัยจะพบมากที่สุด แล้วมาพบอีกที่อำเภอรัตนวาปี บริเวณ ปากห้วยเป บ้านน้ำเป วัดเปงจาเหนือ บ้านหนองแก้ว ในเขตอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ บ้านปากคาดมวลชล ห้วยคาด และที่อำเภอเมืองบึงกาฬ บริเวณวัดอาฮง ตำบลหอคำ ซึ่งเป็นจุดที่ชาวหนองคายเชื่อกันว่าเป็นสะดือแม่น้ำโขง เป็นเมืองหลวงของเมืองบาดาล ก็ปรากฏบั้งไฟพญานาคให้เห็นเช่นกัน
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี มีชาวบ้านพบเห็นในอำเภอโขงเจียม กำหนดจุดชมไว้ 3 แห่ง คือ บ้านกุ่ม บ้านท่าล้ง และบ้านตามุย
สำหรับระยะเวลาในการขึ้นของบั้งไฟพญานาคนั้นจะขึ้น ระหว่างตะวันตกดินถึงประมาณ 23.00 น. ก็จะหมดไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่