เล่นพันทิปมาได้ซักพักแล้วค่ะ อยากระบายบ้าง ยาวหน่อยนะคะ
เราเกิดมาในครอบครัวของวัยรุ่นคู่นึง ที่ได้ให้กำเนิดลูกในวัยเรียน ได้ให้กำเนิดในเวลาที่ไม่พร้อมของช่วงชีวิต
ตั่งแต่จำความได้ เราก็เห็นเพียงแค่หน้า พ่อ ปู่ และย่าเท่านั้น เราโตมาด้วยนมผงที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ย่าเราพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดมาทดแทนนมแม่ให้เรา ย่าเล่าให้ฟังว่าแม่ทิ้งเราไปหลังจากที่คลอดได้ 7 วัน แต่อย่าก็สอนเราเสมอ อย่าเกลียดแม่ เพราะยังไงเค้าก็เป็นแม่เรา เราก็ฟังย่ามาตลอด
จนวันนี้เราโตขึ้นมา จนมีอายุอานามได้ 28 เต็ม เราเคยคิดและเชื่อมาตลอดว่า เราไม่ได้ต้องการความรักจากแม่ซักนิด แค่ที่เรามีอยู่เท่านี้มันก็มากพอแล้ว แต่ยิ่งนานวันเข้าเราก็แค่ผู้หญิงคนนึง ที่อยากได้ความรักจากแม่เหมือนคนอื่นเค้า
เรื่องราวเก่าๆที่แม่เคยได้ทำไว้เราพยายามลืมมันไป
จนมาวันนี้ อยู่ในยุคโซเชียล ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้คนไกลกันใกล้กันได้มากขึ้น
แน่นอนแม่เราเล่นทั้ง Facebook แล้วก็ Line แม่ได้ทำการแอดทั้ง 2 อย่างของเรา เราได้แต่แอบหวังว่า นี่คงจะทำให้เราได้ใกล้ชิดแม่มากขึ้น
แต่!!! มันก็เป็นสิ่งที่เราคิดไปเอง จากเมื่อวันแม่ที่ผ่านมาทำให้เราได้รู้ว่า ลูกสาวคนโตของเค้าคนนี้ แทบจะไม่มีความสำคัญ
วันแม่เราโทรหาเค้า เค้ารับแล้วพูดประมาณว่ายังไม่ว่าง เราก็วางเค้าคงยังไม่ว่างจริงๆ เราก็เลยแท๊กรูปพวงมาลัยไปให้ท่าน พร้อมบอกรัก
เราก็เข้าไปดูในเฟสท่าน แม่เค้าโพสรูปลูกชายเค้าทั้ง 2 คน แล้วก็โพสว่า "ถึงจะเป็นวันแม่ แต่แม่ก็รักลูกทั้งสองคนมากที่สุดในชีวิต"
ยอมรับนะคะ ว่าน้อยใจ คิดมากไปต่างๆนาๆ ว่าเราก็แค่ลูกที่เค้าไม่ต้องการเท่านั้นจริงๆ
แล่วจากนั้นช่วงหลังวันแม่ แม่โทรมาหาเราทุกวัน โทรมาคุยทุกวัน ความน้อยใจที่เกิดขึ้นค่อยๆลดลง
เหมือนมันจะดีขึ้น แต่ป่าวเลย เมื่อเย็นวันนึงท่าน บอกท่านอยากจะยืมเงินเราหน่อย ช่วงนั้นเราไม่มีจริงๆเลยบอกท่านไปว่า "หนูไม่มีเงินเลยเพิ่งกลับจากกรุงเทพเงินเลยหมด" ท่านก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วท่านก็วางโทรศัพท์ไป เราก็เก็บไปคิดนะคะ ว่าเราอกตัญญูหรือป่าว ที่เราไม่ได้ให้เงินท่านแต่ตอนนั้นเราไม่มีจริงๆนะคะ
ท่านก็ไม่โทรหาเราอีกเลย จนก่อนถึงวันเกิด ซึ่งก็คือเมื่อวานนี้ ท่านโทรหาเราวันศุกร์
โทรมาชวนเราไปถวายเพลในวันเกิด เราดีใจนะ เราอยากไป เพราะมันจะเป็นวันเกิดปีแรกในชีวิตที่ผ่านมา 28 ปี ที่เราจะได้อยู่กับแม่
แล้วแม่ก็บอกว่าเดี๋ยววันอาทิตย์แม่จะโทรมาบอกว่าจะไปตอนไหนอะไรยังไง แต่ถ้าไม่โทรมาก็แปลว่าไปไม่ได้นะ วันอาทิตย์เรารอโทรศัพท์แม่จนเที่ยงคืนแม่ก็ไม่โทรมา เราก็ไม่กล้าโทรไป กลัวจะไปรบกวนท่าน จนเช้าวันที่ 26 ซึ่งเป็นวันเกิดแล้ว เราก็แต่งตัวเตรียมเอาไว้เผื่อแม่มารับ แม่จะได้ไม่ต้องรอ จนเลยเวลาเพล เราก็รู้แล้วว่าท่านคงไม่มารับ เราก็นั่งเล่นเฟสไปเรื่อยๆ ซักพัก รูปๆนึงก็มาปรากฏบนหน้า Feed Facebook เรา ทำให้เราเข้าใจแจ่มแจ้ง ว่าทำไมแม่ไม่มารับเรา มันเป็นรูปที่แม่พาน้องไปเที่ยวในตัวเมืองนั่นแหละ เราเสียใจนะยอมรับ เราคิดว่าโลกโซเชียลจะทำให้แม่กับเราได้ใกล้กันมากขึ้น แต่ป่าวเลย เราไม่กล้าแม้แต่จะโทรไป เรากลัวเราร้องไห้ให้เค้าได้ยิน
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่โหยหาอ้อมกอดจากแม่
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่มีเรื่องอะไรที่มันน่าภูมิใจเราก็อยากเอาไปอวดแม่
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่อยากไปงานวันแม่ที่โรงเรียนแบบมีแม่ไปด้วย แต่ก็ทำได้แค่หยุดโรงเรียนในวันแม่ทุกปีๆ
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่พยายามคิดว่าเราอบอุ่นความรักของญาติพี่น้องทดแทนความรักของแม่ได้ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วเราคิดผิด
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่ฝังใจกับคำพูดน้องชายว่า ผมให้ยืมแม่ไปไหว้ในวันแม่ไหม
เราผิดไหมถ้าจะมองแค่ว่าแม่คือผู้ให้กำเนิดแค่นั้น
เราผิดไหมถ้าเราจะไม่รักแม่แต่ไม่เกลียด
วันที่เราเกิดคือวันที่แม่เจ็บที่สุด แล้วก็เป็นวันที่เราเจ็บที่สุดด้วยเหมือนกัน
ป.ล.หลายๆคนอาจจะมองว่า ที่แม่ไม่อะไรกับเราเพราะเกรงใจพ่อของน้องเราหรือป่าว บอกเลยว่ไม่นะคะเพราะ แม่เราเลิกกับพ่อของน้องๆเราแล้ว
จบแล้วค่ะ ถ้ากระทู้นี้รบกวนใครก็ขออภัยด้วยนะคะ ถ้าแท๊กห้องผิดขออภัยนะคะ มือใหม่
ผิดไหมถ้าจะมองแค่ว่า แม่แค่คือผู้ให้กำเนิดเท่านั้น
เราเกิดมาในครอบครัวของวัยรุ่นคู่นึง ที่ได้ให้กำเนิดลูกในวัยเรียน ได้ให้กำเนิดในเวลาที่ไม่พร้อมของช่วงชีวิต
ตั่งแต่จำความได้ เราก็เห็นเพียงแค่หน้า พ่อ ปู่ และย่าเท่านั้น เราโตมาด้วยนมผงที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ย่าเราพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดมาทดแทนนมแม่ให้เรา ย่าเล่าให้ฟังว่าแม่ทิ้งเราไปหลังจากที่คลอดได้ 7 วัน แต่อย่าก็สอนเราเสมอ อย่าเกลียดแม่ เพราะยังไงเค้าก็เป็นแม่เรา เราก็ฟังย่ามาตลอด
จนวันนี้เราโตขึ้นมา จนมีอายุอานามได้ 28 เต็ม เราเคยคิดและเชื่อมาตลอดว่า เราไม่ได้ต้องการความรักจากแม่ซักนิด แค่ที่เรามีอยู่เท่านี้มันก็มากพอแล้ว แต่ยิ่งนานวันเข้าเราก็แค่ผู้หญิงคนนึง ที่อยากได้ความรักจากแม่เหมือนคนอื่นเค้า
เรื่องราวเก่าๆที่แม่เคยได้ทำไว้เราพยายามลืมมันไป
จนมาวันนี้ อยู่ในยุคโซเชียล ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้คนไกลกันใกล้กันได้มากขึ้น
แน่นอนแม่เราเล่นทั้ง Facebook แล้วก็ Line แม่ได้ทำการแอดทั้ง 2 อย่างของเรา เราได้แต่แอบหวังว่า นี่คงจะทำให้เราได้ใกล้ชิดแม่มากขึ้น
แต่!!! มันก็เป็นสิ่งที่เราคิดไปเอง จากเมื่อวันแม่ที่ผ่านมาทำให้เราได้รู้ว่า ลูกสาวคนโตของเค้าคนนี้ แทบจะไม่มีความสำคัญ
วันแม่เราโทรหาเค้า เค้ารับแล้วพูดประมาณว่ายังไม่ว่าง เราก็วางเค้าคงยังไม่ว่างจริงๆ เราก็เลยแท๊กรูปพวงมาลัยไปให้ท่าน พร้อมบอกรัก
เราก็เข้าไปดูในเฟสท่าน แม่เค้าโพสรูปลูกชายเค้าทั้ง 2 คน แล้วก็โพสว่า "ถึงจะเป็นวันแม่ แต่แม่ก็รักลูกทั้งสองคนมากที่สุดในชีวิต"
ยอมรับนะคะ ว่าน้อยใจ คิดมากไปต่างๆนาๆ ว่าเราก็แค่ลูกที่เค้าไม่ต้องการเท่านั้นจริงๆ
แล่วจากนั้นช่วงหลังวันแม่ แม่โทรมาหาเราทุกวัน โทรมาคุยทุกวัน ความน้อยใจที่เกิดขึ้นค่อยๆลดลง
เหมือนมันจะดีขึ้น แต่ป่าวเลย เมื่อเย็นวันนึงท่าน บอกท่านอยากจะยืมเงินเราหน่อย ช่วงนั้นเราไม่มีจริงๆเลยบอกท่านไปว่า "หนูไม่มีเงินเลยเพิ่งกลับจากกรุงเทพเงินเลยหมด" ท่านก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วท่านก็วางโทรศัพท์ไป เราก็เก็บไปคิดนะคะ ว่าเราอกตัญญูหรือป่าว ที่เราไม่ได้ให้เงินท่านแต่ตอนนั้นเราไม่มีจริงๆนะคะ
ท่านก็ไม่โทรหาเราอีกเลย จนก่อนถึงวันเกิด ซึ่งก็คือเมื่อวานนี้ ท่านโทรหาเราวันศุกร์
โทรมาชวนเราไปถวายเพลในวันเกิด เราดีใจนะ เราอยากไป เพราะมันจะเป็นวันเกิดปีแรกในชีวิตที่ผ่านมา 28 ปี ที่เราจะได้อยู่กับแม่
แล้วแม่ก็บอกว่าเดี๋ยววันอาทิตย์แม่จะโทรมาบอกว่าจะไปตอนไหนอะไรยังไง แต่ถ้าไม่โทรมาก็แปลว่าไปไม่ได้นะ วันอาทิตย์เรารอโทรศัพท์แม่จนเที่ยงคืนแม่ก็ไม่โทรมา เราก็ไม่กล้าโทรไป กลัวจะไปรบกวนท่าน จนเช้าวันที่ 26 ซึ่งเป็นวันเกิดแล้ว เราก็แต่งตัวเตรียมเอาไว้เผื่อแม่มารับ แม่จะได้ไม่ต้องรอ จนเลยเวลาเพล เราก็รู้แล้วว่าท่านคงไม่มารับ เราก็นั่งเล่นเฟสไปเรื่อยๆ ซักพัก รูปๆนึงก็มาปรากฏบนหน้า Feed Facebook เรา ทำให้เราเข้าใจแจ่มแจ้ง ว่าทำไมแม่ไม่มารับเรา มันเป็นรูปที่แม่พาน้องไปเที่ยวในตัวเมืองนั่นแหละ เราเสียใจนะยอมรับ เราคิดว่าโลกโซเชียลจะทำให้แม่กับเราได้ใกล้กันมากขึ้น แต่ป่าวเลย เราไม่กล้าแม้แต่จะโทรไป เรากลัวเราร้องไห้ให้เค้าได้ยิน
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่โหยหาอ้อมกอดจากแม่
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่มีเรื่องอะไรที่มันน่าภูมิใจเราก็อยากเอาไปอวดแม่
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่อยากไปงานวันแม่ที่โรงเรียนแบบมีแม่ไปด้วย แต่ก็ทำได้แค่หยุดโรงเรียนในวันแม่ทุกปีๆ
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่พยายามคิดว่าเราอบอุ่นความรักของญาติพี่น้องทดแทนความรักของแม่ได้ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วเราคิดผิด
เราก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่ฝังใจกับคำพูดน้องชายว่า ผมให้ยืมแม่ไปไหว้ในวันแม่ไหม
เราผิดไหมถ้าจะมองแค่ว่าแม่คือผู้ให้กำเนิดแค่นั้น
เราผิดไหมถ้าเราจะไม่รักแม่แต่ไม่เกลียด
วันที่เราเกิดคือวันที่แม่เจ็บที่สุด แล้วก็เป็นวันที่เราเจ็บที่สุดด้วยเหมือนกัน
ป.ล.หลายๆคนอาจจะมองว่า ที่แม่ไม่อะไรกับเราเพราะเกรงใจพ่อของน้องเราหรือป่าว บอกเลยว่ไม่นะคะเพราะ แม่เราเลิกกับพ่อของน้องๆเราแล้ว
จบแล้วค่ะ ถ้ากระทู้นี้รบกวนใครก็ขออภัยด้วยนะคะ ถ้าแท๊กห้องผิดขออภัยนะคะ มือใหม่