ฉากนี้จ๊ะ
ครู่ต่อมามิเชลล์เดินตุปัดตุเป๋เข้ามาซุกตัวลงบนที่นอน ฟุบลงกับหมอน ชารีฟ ตามเข้ามา แล้วทรุดคุกเข่าลงข้างๆ ยื่นมือมาแตะ มิเชลล์สะดุ้งเฮือก รีบสะบัดและเขยิบหนีห่าง
“รู้สึกยังไงบ้าง เวียนหัวมั้ย ปวดท้องมั้ย”
มิเชลล์มัท่าทีอ่อนลง ส่ายหน้าไปมา “ฉันพยายามแล้วนะคะ แต่ ท่าน คงคิดว่าฉันไม่มีความอดทน”
“ไม่หรอก” ชารีฟปลอบ
“ทำไมท่านรีบกลับมาล่ะคะ เดี๋ยวเจ้าภาพเขาจะสงสัยเอานะ”
ชารีฟนั่งลง เหยียดขา พิงผนังท่าทีสบายๆ “ประเพณีของคนที่นี่กินเสร็จแล้วต้องลากลับทันที ไม่มีใครสงสัยอะไรหรอก” ชารีฟเหลียวมามองหน้าอย่างเวทนา “แล้ว เธอไม่หิวหรือไม่มีอาหารอีกเลยนะ จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้”
มิเชลล์ส่ายหน้า “กินอะไรไม่ลงอีกแล้วล่ะคะ”
ชารีฟเขยิบเข้ามาใกล้มิอีกหน่อย แล้วเอนตัวลงนอนหนุนที่นอนอย่างเพลียๆ “ทุกคนเอ็นดูเธอมากนะ แต่อีกไม่กี่วันเราจะเดินทางไปซากากา เธอต้องกินให้มากๆ ทำตัวให้แข็งแรงเข้าไว้” ราชองค์รักษ์หนุ่มพลิกตัวหันไปหามิเชลล์ “นอนหลับเสียสิ จะได้ไม่เพลียมาก”
มิเชลล์เบี่ยงตัวลุกขึ้น ถอนใจเศร้าๆ ลอยๆ
“เมื่อไหร่ฉันจะพ้นไปจากฝันร้ายซะทีนะ”
ชารีฟนิ่งไปครู่หนึ่ง ตาลอยคว้างอย่างฝันๆ
“ถ้าเหตุการณ์เรียบร้อย เธอจะแวะไปเที่ยวที่บ้านของฉันบ้างก็ได้”
“ท่านคงมีพี่น้องเต็มบ้าน เพราะบิดาท่านมีภรรยาถึง 4 คน”
ชารีฟชะงัก ตื่นจากภวังค์ “ใครบอก”
“อ้าว ก็เหมือนกับผู้ชายทุกคนที่นี่ ท่านชีคอัสมันเอย หรือพ่อของแคชฟียา”
“มารดาของฉันไม่มีหมายเลข” ชารีฟบอก
“ทำไมล่ะคะ”
“ที่บ้านฉัน บางอย่าง เรามีความเป็นอยู่แบบตะวันตก” ชารีฟกลิ้งตัวไปใกล้มิเชลล์รีบลุกหนีห่างออกไปอีก ชารีฟขำหัวเราะออกมา “เธอนี่ ไม่น่าเป็นผู้หญิงตะวันตกเลย นะ รักนวลสงวนตัวเสียจริง”
มิเชลล์มองชารีฟ สีหน้าระแวงไม่ไว้ใจ ตัวแข็งทื่อ
“ฉันจะบวชชีเมื่อกลับถึงฝรั่งเศส ไม่จำเป็นก็ไม่อยากแตะต้อง เอ้อ ท่านสุภาพบุรุษ”
ชารีฟหัวเราะก๊าก “แต่โหรดูจากดวงดาว ว่าผู้หญิงที่เดินทางเข้ามาในวังตามกฤษ์ยามที่กำหนดไว้ จะให้ลูกชายถึงหกคนกับสามีของนาง”
“ไม่ใช่ฉันแน่ คงจะหมายถึงแคชฟียา มากกว่า ฉันเป็นชาวต่างชาติ” มิเชลล์ถอยจนหลังติดฝา
ชารีฟรุกเข้ามาใกล้ “แต่ตามตำราบอกว่า เธอผู้นั้นเป็นหญิงงามที่สวยแปลกไม่เหมือนใคร ใครได้เป็นสามีของเธอจะรักลุ่มหลงเธอมาก และมีเธอเป็นเมียเพียงคนเดียว ไม่มีหญิงอื่นอีกเลย”
ชารีฟเขยิบเข้ามาจนแทบแนบชิดกับมิเชลล์ จ้องตามิเชลล์อย่างคุกคาม
มิเชลล์รู้สึกสั่นสะท้าน ทำอะไรไม่ถูก ชารีฟจับไหล่ทั้งสองข้าง ก้มหน้าลงมาจนเกือบถึงหน้ามิเชลล์อยู่แล้ว
ทันใดนั้นมีตาคู่หนึ่งแวบที่ผ้าม่าน
มิเชลล์หันไปเห็น ผวา “เอ๊ะนั่นใคร”
หวังว่าจะไม่ตัดนะ เพราะมันเป็นฉากส่งต่อไปบทอื่นอีก
ฉากนี้จะโดนตัดไหม ? (ฟ้าจรดทราย)
ครู่ต่อมามิเชลล์เดินตุปัดตุเป๋เข้ามาซุกตัวลงบนที่นอน ฟุบลงกับหมอน ชารีฟ ตามเข้ามา แล้วทรุดคุกเข่าลงข้างๆ ยื่นมือมาแตะ มิเชลล์สะดุ้งเฮือก รีบสะบัดและเขยิบหนีห่าง
“รู้สึกยังไงบ้าง เวียนหัวมั้ย ปวดท้องมั้ย”
มิเชลล์มัท่าทีอ่อนลง ส่ายหน้าไปมา “ฉันพยายามแล้วนะคะ แต่ ท่าน คงคิดว่าฉันไม่มีความอดทน”
“ไม่หรอก” ชารีฟปลอบ
“ทำไมท่านรีบกลับมาล่ะคะ เดี๋ยวเจ้าภาพเขาจะสงสัยเอานะ”
ชารีฟนั่งลง เหยียดขา พิงผนังท่าทีสบายๆ “ประเพณีของคนที่นี่กินเสร็จแล้วต้องลากลับทันที ไม่มีใครสงสัยอะไรหรอก” ชารีฟเหลียวมามองหน้าอย่างเวทนา “แล้ว เธอไม่หิวหรือไม่มีอาหารอีกเลยนะ จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้”
มิเชลล์ส่ายหน้า “กินอะไรไม่ลงอีกแล้วล่ะคะ”
ชารีฟเขยิบเข้ามาใกล้มิอีกหน่อย แล้วเอนตัวลงนอนหนุนที่นอนอย่างเพลียๆ “ทุกคนเอ็นดูเธอมากนะ แต่อีกไม่กี่วันเราจะเดินทางไปซากากา เธอต้องกินให้มากๆ ทำตัวให้แข็งแรงเข้าไว้” ราชองค์รักษ์หนุ่มพลิกตัวหันไปหามิเชลล์ “นอนหลับเสียสิ จะได้ไม่เพลียมาก”
มิเชลล์เบี่ยงตัวลุกขึ้น ถอนใจเศร้าๆ ลอยๆ
“เมื่อไหร่ฉันจะพ้นไปจากฝันร้ายซะทีนะ”
ชารีฟนิ่งไปครู่หนึ่ง ตาลอยคว้างอย่างฝันๆ
“ถ้าเหตุการณ์เรียบร้อย เธอจะแวะไปเที่ยวที่บ้านของฉันบ้างก็ได้”
“ท่านคงมีพี่น้องเต็มบ้าน เพราะบิดาท่านมีภรรยาถึง 4 คน”
ชารีฟชะงัก ตื่นจากภวังค์ “ใครบอก”
“อ้าว ก็เหมือนกับผู้ชายทุกคนที่นี่ ท่านชีคอัสมันเอย หรือพ่อของแคชฟียา”
“มารดาของฉันไม่มีหมายเลข” ชารีฟบอก
“ทำไมล่ะคะ”
“ที่บ้านฉัน บางอย่าง เรามีความเป็นอยู่แบบตะวันตก” ชารีฟกลิ้งตัวไปใกล้มิเชลล์รีบลุกหนีห่างออกไปอีก ชารีฟขำหัวเราะออกมา “เธอนี่ ไม่น่าเป็นผู้หญิงตะวันตกเลย นะ รักนวลสงวนตัวเสียจริง”
มิเชลล์มองชารีฟ สีหน้าระแวงไม่ไว้ใจ ตัวแข็งทื่อ “ฉันจะบวชชีเมื่อกลับถึงฝรั่งเศส ไม่จำเป็นก็ไม่อยากแตะต้อง เอ้อ ท่านสุภาพบุรุษ”
ชารีฟหัวเราะก๊าก “แต่โหรดูจากดวงดาว ว่าผู้หญิงที่เดินทางเข้ามาในวังตามกฤษ์ยามที่กำหนดไว้ จะให้ลูกชายถึงหกคนกับสามีของนาง”
“ไม่ใช่ฉันแน่ คงจะหมายถึงแคชฟียา มากกว่า ฉันเป็นชาวต่างชาติ” มิเชลล์ถอยจนหลังติดฝา
ชารีฟรุกเข้ามาใกล้ “แต่ตามตำราบอกว่า เธอผู้นั้นเป็นหญิงงามที่สวยแปลกไม่เหมือนใคร ใครได้เป็นสามีของเธอจะรักลุ่มหลงเธอมาก และมีเธอเป็นเมียเพียงคนเดียว ไม่มีหญิงอื่นอีกเลย”
ชารีฟเขยิบเข้ามาจนแทบแนบชิดกับมิเชลล์ จ้องตามิเชลล์อย่างคุกคาม
มิเชลล์รู้สึกสั่นสะท้าน ทำอะไรไม่ถูก ชารีฟจับไหล่ทั้งสองข้าง ก้มหน้าลงมาจนเกือบถึงหน้ามิเชลล์อยู่แล้ว
ทันใดนั้นมีตาคู่หนึ่งแวบที่ผ้าม่าน
มิเชลล์หันไปเห็น ผวา “เอ๊ะนั่นใคร”
หวังว่าจะไม่ตัดนะ เพราะมันเป็นฉากส่งต่อไปบทอื่นอีก