สมัครสมาชิกมาเพื่อแชร์ประสบการณ์นี้โดยเฉพาะเรยนะเนี๊ย
    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เป็นคนที่ปัญหากับเรื่องหู คอ จมูก บ่อยมากกกกกกกกก
คือในปีนึงจะป่วยเป็นทอลซิลอักเสบ ประมาณ 10 ครั้งได้ (เฉลี่ย ก็เดือนละครั้ง ไม่ก็ 2 ครั้ง)
เลยตัดสินใจ หาข้อมูล เกี่ยวกับการผ่าตัดต่อมทอนซิลดู ก็เห็นมีหลายกระทู้ บางคนก็บอกเจ็บมากก บางคนก็ไม่เจ็บเท่าไหร่
เลยตัดสินใจ ไปปรึกษาหมอ ก็ตัดสินใจผ่าเลยดีกว่า หมอก็เลยทำใบส่งตัวให้
   พอได้คิว ได้วัน ก็เตรียมตัว รู้สึกว่า หมอเค้าจะห้ามกินยาพวกแอสไพริน นะ เพราะมันจะทำให้เลือดออกมาก
หมอเค้านัดให้นอน รพ. ก่อนผ่าตัด 1 วัน ไอ่ตอนนี้แหละสนุก เดินไป เดินมา หาของกิน (รพ.ร้านขายของเยอะมาก)
พอกลางคืน พยาบาลก็มาสวนท้อง (งานนี้แหละหนาว)
(อ้อ!!! ลืมบอกไป หมอเค้าให้งดน้ำ งดอาหารหลังเที่ยงคืน)
พอเช้าก็เริ่มเซง เพราะไม่ได้กินอารายเลย ตั้งแต่เมื่อคืน ความรู้สึกคือ หิวมากกกกกกกก
ประมาณ 8 โมงกว่าๆ ได้ก็มีเตียงมารับ ไปห้องผ่าตัด (คนเยอะมาก...)
ก็นอนรออยู่ในห้องนานมาก จนหลับไปเลย สักพักพยาบาลก้อมาเรียกตื่น บอก "เดี๋ยวค่อยไปหลับต่อนะค่ะ"
แล้วก้อเข็นไปในห้อง เพื่อผ่าตัด จำได้ว่า มีพยาบาลมาถามนู้นนี่ ไปเรื่อย แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้
ตื่นอีกที ก็ได้ยินเสียงพยาบาลเรียกชื่อ เราก็พยายามลืมตา
พอรู้สึกตัวดี ก็สดุ้ง!!!! เครื่องช่วยหายใจ มันคาอยู่ในปาก บอกเลยว่า หายใจไม่ออก เกือบตายยยย++++
(ตอนนั้นยังพูดไม่ได้ ติดเครื่องช่วยหายใจน่ะแหละ) เราก็ดิ้นๆๆๆๆ พยาบาลก็วิ่งวุ่นเรย (จะรู้กันไหม ที่ดิ้นเนี๊ย ให้เอาเครื่องบ้านี่ออกไป....)
สักพักพยาบาลก็ดึงสายที่คาปากอยู่ออก (เฮ้อ.....โล่ง เกือบตายแล้วมั้ยเนี๊ยยยยย )
แล้วก็นอนรอในห้องพักฟื้นสักพัก จนรู้สึกตัวดี ก็เข็นกลับห้อง
พอถึงห้อง สิ่งที่พูดอย่างแรกเรย "ขอน้ำหน่อย" (ต้องกินน้ำเย็น เท่านั้น เอาแบบเย็นๆ เรย)
แล้วก้อเดินไปบ้วนปากในห้องน้ำ โอ้!!! พระเจ้าเลือด ตกใจเลย แต่พอบ้วนอีกที ไม่มีแล้ว (อ๋อ มันคงเป็นเลือดตอนผ่า)
     พอถึงตอนนี้ ยังไม่รู้สึกเจ็บคอมากมายอาราย แต่ก็มีเคืองๆ นิดหน่อย เหมือนมีอะไรติดอยู่ในคอ
หลังผ่าตัด วันนั้นทั้งวัน คือหลับเป็นตาย ไม่ได้กินไรเลย จนถึงตอนเช้าอีกวันน่ะแหละ เค้าเอาอาหารมาส่ง
ว๊าววววววววว.....กับข้าวๆๆๆ เย้ๆๆๆๆ แต่พอเปิดดูถึงกับ ตะลึง มันมีแต่ น้ำขาว,ไมโล (บางวันเป็นโอวัลติน),น้ำซุปผัก (ไม่อร่อยเรย) ,แล้วก็นม
คือว่าอยู่ รพ. 4 วัน ไม่กินอารายเรย กินแต่น้ำเปล่า เย็นๆ (ย้ำว่าต้องเย็นนะ ไม่งั้นมีเจ็บแผล)
ส่วนเรื่องความเจ็บปวด ก็พอทนได้นะ แต่เรื่องหิวเนี๊ย หิวนะ แต่ไม่อยากกิน (เอ๊ะ!! ยังไง) คือขนาดกลืนน้ำลายยังเจ็บเรย ให้กินข้าวคงไม่ไหว
พอออก รพ. ก็กลับบ้าน ได้ยาลดปวด (ยาน้ำ สำหรับเด็ก) มา 2 ขวด กะ ยาบ้วนปากอีก 2 ขวด
หมอนัดไปดูแผล อีก 1 อาทิตย์ ประมาณ 1 เดือนได้ แผลก็หายดี ตอนนี้ หายเป็นปกติแล้ว ไม่เจ็บ ไม่ปวด ใช้ชีวิตปกติมากกกก
ที่สำคัญ ตั้งแต่ ไปผ่ามาได้ประมาณ 4 เดือน เนี๊ย ยังไม่ป่วย ไม่เจ็บคอเรย

เคล็บลับเล็กๆน้อยๆ ที่(แอบ)ทำ ตอนปวดมากๆๆๆๆ และด้วยความตะกละ อยากกินข้าวได้เร็วๆ เรยสรรหาวิธีมาฝากกัน
1 เรื่องการกินยา = คือที่หมอให้มามันจะเป็นยาพาราน้ำ (สำหรับเด็ก) ซึ่งฤทธิยามันอ่อนมาก ต้องกินถึง 4 ช้อนเรย
เราเรยสรรหาวิธี เอายาพาราแบบเม็ด สัก 2 เม็ด มาละลายน้ำ แล้วก็ผสมกับพาราน้ำอีก 2 ช้อนชา (เพื่อความหวาน อร่อย 55+)
แบบว่า หายปวด หายเจ็บดีนะ แต่ต้องกินทุก 4-6 ชั่วโมง (ไม่อยากพบเจอกับความเจ็บปวด) พออาการดีขึ้นก็ลดปริมาณยาลงบ้างก็ได้...
2.ด้วยความที่ว่าตะกละ อยากกินนู้น กินนี่ แต่ติดที่ เจ็บคอ มาก เรยสรรหาวิธี (อีกแล้ว) ด้วยความที่ข้างบ้าน มีใบบัวบก ขึ้นเยอะมาก
ซึ่งใบบัวบก มีสรรคุณ แก้ร้อนใน ต่างๆ (มันคงเหมือนๆกันแหละ ก็เห็นแผลมันมีสีขาวๆ เหมือนร้อนในเรยนิ) เรยจัดการ ปั่นๆๆๆ คั่นๆๆๆๆ
น้ำใบบัวบกกิน (ใส่น้ำตาลนิดหน่อย เติมน้ำแข็งเข้าไปเยอะๆ เอาให้เย็นๆ) ไม่น่าเชื่อ หายไวขึ้นจริงๆด้วย
พอครบกำหนดวันหมอนัดไปดูแผล หมอยังบอกเรยว่า หายเร็วมาก ส่วนใครหาใบบัวบกไม่ได้ จะกินว่านหางจระเข้แทนก็ได้นะ
(แต่สูตรนี้ยังไม่เคยลอง เหมือนกัน แต่เค้าว่า ช่วยให้แผลผ่าตัดหายเร็ว) ลองหาข้อมูลดูนะค่ะ
3.ที่แนะนำเรยก็คือ ยาบ้วนปากที่หมอให้มาน่ะ บ้วนตามที่เค้าเขียนติดที่ขวดด้วยนะค่ะ มันจะช่วยลดเชื้อโรค ในปาก
ลองมาแล้ว คือ ก่อนนอนถ้าไม่บ้วนปาก พอตื่นมา จะปวดในคอมากกกกก แสบด้วย
แต่พอบ้วน หลับสนิทตลอดคืน (ไม่ใช่โฆษณาโซฟี นะเฮ้ย) ตื่นมาก็มีปวดนิดหน่อย แต่ไม่มาก ไม่แสบแผลด้วย
แนะนำให้บ้วนนะค่ะ สำหรับคนที่ไปผ่ามา

ปล.เขียนซะยาวเรย จะมีคัยอ่านจบมั่ยเนี๊ย
ปล.2 หวังว่าคงเป็นประโยชน์ สำหรับคนที่ผ่า และกำลังจะผ่านะค่ะ
"ความเจ็บปวด จะมากหรือน้อย มันอยู่ที่ความอดทน สู้ๆ