Any Day Now .......หนังครอบครัวที่เศร้าแบบอ่อนโยนและสวยงามละเมียดละไม.......
ผู้กำกับ Travis Fine
หน้าหนังเรื่องนี้ใครๆอาจจะคิดว่าเป็นหนังเกย์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่างเกย์สองคนซึ่งก้อใช่หน่ะแหล่ะแต่ไม่ใช่ทั้งหมดและไม่ใช่แก่นของหนัง หนังเน้นเรื่องราวความรักในครอบครัวและความจริงในสังคมที่จ้องแต่จะปิดกั้นคนที่แตกต่างออกจากสังคม หนังเรื่องนี้มีดีกว่าแค่เรื่องรักๆใคร่ๆเยอะมากค่ะ
หนังเป็นเรื่องราวย้อนยุคในสมัย 1970 ที่เรื่องชายรักชายยังไม่ได้รับการยอมรับ แต่ในบาร์เกย์แห่งหนึ่ง เกย์สองคนได้เจอกันและรักกันชั่วข้ามคืน ต่อมาทั้งคู่มีความต้องการที่จะรับเด็กดาวน์ซินโดรมที่แม่เด็กติดคุกอยู่มาเลี้ยง ทั้งคู่จึงต่อสู้ในทุกทางเพื่อให้ได้เด็กคนนี้มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่สังคมจะยอมให้มีครอบครัวประหลาดๆที่มีเกย์เป็นพ่อและแม่แถมมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรมเกิดขึ้นในสังคม
ซึ่งจะเห็นว่าตัวละครหลักทั้งสามคนล้วนเป็นอะไรที่แตกต่างจากที่สังคมเป็นหรือต้องการให้เป็น ดังนั้นสังคมจึงไม่ยุติธรรมกับทั้งสามคนในหลายๆเรื่อง อย่างดีสังคมเพียงแต่หยิบยื่นความสงสารให้ แต่สิ่งที่ทั้งสามคนนี้ต้องการไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นความเท่าเทียมและการยอมรับ......
หนังพาคนดูทุกคนจมดิ่งลงไปในอารมณ์ของหนังได้อย่างง่ายด่ายค่ะ ตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้ายทำอารมณ์ได้ดีทุกฉาก เพลงประกอบแต่ละเพลงออกมาได้ถูกจังหวะและเพราะมากช่วยเสริมอารมณ์ของหนังได้ดีสุดๆ อีกทั้งนักแสดงแต่ละคนทรงพลังมาก แค่เห็นหน้ามาร์โก้ (Isaac Leyva)ที่เป็นเด็กพิเศษก้อทั้งเอ็นดูและสงสารจนแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหวแล้วค่ะ เล่นได้ดีมากจริงๆ แต่ละประโยคที่พูดออกมา สั้นๆแต่ฟังละน้ำตาพุ่งค่ะ ส่วนรูดี้ (อลัน คัมมิ่ง) ก็เล่นเป็นเกย์ได้มีสเน่ห์มากกก และแสดงอารมณ์ออกมาได้ดีเยี่ยมในทุกๆฉากโดยเฉพาะทางแววตา ส่วน พอล ฟริเกอร์(การ์เร็ต ดิลลาฮันต์) ก็ดีค่ะแต่โดนอลันกลบไปเยอะ หนังจะพาทุกคนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ให้ไปสัมผัสถึงความอบอุ่นและความรักที่มีให้กัน หลังจากนั้นหนังก็จะเริ่มพาเราเข้าไปลุ้นและเอาใจช่วยในการต่อสู้คดีให้ครอบครัวนี้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ในความจริงเรื่องบางเรื่องมันไม่จบแบบhappy ending เหมือนนิทานก่อนนอน......
สรุป ใครชอบหนังดราม่าไปดูเลยค่ะหนังดีมากๆและอย่าติดแค่ว่าเป็นหนังเกย์ สำหรับเราหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเกย์อี๋ๆค่ะเป็นหนังเรื่องราวของความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น และงดงาม หนังช่างอ่อนโยนแต่ก็เจ็บปวดในคราวเดียวกัน
คำเตือน เอาผ้าเช็ดหน้าไปด้วยค่ะเพราะน้ำตาคุณจะไหลออกมาแบบไม่รู้ตัวแล้วจะหยุดไม่ได้
คะแนน 8.5/10 หักคะแนนตรงตอนจบที่สามารถคั้นอารมณ์ตอนส่งจดหมายได้มากกว่านี้ค่ะ สั้นไปหน่อย อ้อ หนังฉายแค่ที่ House และ SF นะคะ

"คนทุกคนล้วนมีความแตกต่าง ถ้าเราอยู่ผิดที่ความแตกต่างนั้นจะกลายเป็นความแปลก แต่ถ้าเราอยู่ถูกที่ความแตกต่างนั้นจะกลายเป็นสิ่งพิเศษที่แอบอยู่ในตัวเรา"
"Any Day Now" หนังดีๆที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดค่ะ
ผู้กำกับ Travis Fine
หน้าหนังเรื่องนี้ใครๆอาจจะคิดว่าเป็นหนังเกย์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่างเกย์สองคนซึ่งก้อใช่หน่ะแหล่ะแต่ไม่ใช่ทั้งหมดและไม่ใช่แก่นของหนัง หนังเน้นเรื่องราวความรักในครอบครัวและความจริงในสังคมที่จ้องแต่จะปิดกั้นคนที่แตกต่างออกจากสังคม หนังเรื่องนี้มีดีกว่าแค่เรื่องรักๆใคร่ๆเยอะมากค่ะ
หนังเป็นเรื่องราวย้อนยุคในสมัย 1970 ที่เรื่องชายรักชายยังไม่ได้รับการยอมรับ แต่ในบาร์เกย์แห่งหนึ่ง เกย์สองคนได้เจอกันและรักกันชั่วข้ามคืน ต่อมาทั้งคู่มีความต้องการที่จะรับเด็กดาวน์ซินโดรมที่แม่เด็กติดคุกอยู่มาเลี้ยง ทั้งคู่จึงต่อสู้ในทุกทางเพื่อให้ได้เด็กคนนี้มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่สังคมจะยอมให้มีครอบครัวประหลาดๆที่มีเกย์เป็นพ่อและแม่แถมมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรมเกิดขึ้นในสังคม
ซึ่งจะเห็นว่าตัวละครหลักทั้งสามคนล้วนเป็นอะไรที่แตกต่างจากที่สังคมเป็นหรือต้องการให้เป็น ดังนั้นสังคมจึงไม่ยุติธรรมกับทั้งสามคนในหลายๆเรื่อง อย่างดีสังคมเพียงแต่หยิบยื่นความสงสารให้ แต่สิ่งที่ทั้งสามคนนี้ต้องการไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นความเท่าเทียมและการยอมรับ......
หนังพาคนดูทุกคนจมดิ่งลงไปในอารมณ์ของหนังได้อย่างง่ายด่ายค่ะ ตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้ายทำอารมณ์ได้ดีทุกฉาก เพลงประกอบแต่ละเพลงออกมาได้ถูกจังหวะและเพราะมากช่วยเสริมอารมณ์ของหนังได้ดีสุดๆ อีกทั้งนักแสดงแต่ละคนทรงพลังมาก แค่เห็นหน้ามาร์โก้ (Isaac Leyva)ที่เป็นเด็กพิเศษก้อทั้งเอ็นดูและสงสารจนแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหวแล้วค่ะ เล่นได้ดีมากจริงๆ แต่ละประโยคที่พูดออกมา สั้นๆแต่ฟังละน้ำตาพุ่งค่ะ ส่วนรูดี้ (อลัน คัมมิ่ง) ก็เล่นเป็นเกย์ได้มีสเน่ห์มากกก และแสดงอารมณ์ออกมาได้ดีเยี่ยมในทุกๆฉากโดยเฉพาะทางแววตา ส่วน พอล ฟริเกอร์(การ์เร็ต ดิลลาฮันต์) ก็ดีค่ะแต่โดนอลันกลบไปเยอะ หนังจะพาทุกคนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ให้ไปสัมผัสถึงความอบอุ่นและความรักที่มีให้กัน หลังจากนั้นหนังก็จะเริ่มพาเราเข้าไปลุ้นและเอาใจช่วยในการต่อสู้คดีให้ครอบครัวนี้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป ใครชอบหนังดราม่าไปดูเลยค่ะหนังดีมากๆและอย่าติดแค่ว่าเป็นหนังเกย์ สำหรับเราหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเกย์อี๋ๆค่ะเป็นหนังเรื่องราวของความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น และงดงาม หนังช่างอ่อนโยนแต่ก็เจ็บปวดในคราวเดียวกัน
คำเตือน เอาผ้าเช็ดหน้าไปด้วยค่ะเพราะน้ำตาคุณจะไหลออกมาแบบไม่รู้ตัวแล้วจะหยุดไม่ได้
คะแนน 8.5/10 หักคะแนนตรงตอนจบที่สามารถคั้นอารมณ์ตอนส่งจดหมายได้มากกว่านี้ค่ะ สั้นไปหน่อย อ้อ หนังฉายแค่ที่ House และ SF นะคะ
"คนทุกคนล้วนมีความแตกต่าง ถ้าเราอยู่ผิดที่ความแตกต่างนั้นจะกลายเป็นความแปลก แต่ถ้าเราอยู่ถูกที่ความแตกต่างนั้นจะกลายเป็นสิ่งพิเศษที่แอบอยู่ในตัวเรา"