คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ข่าวเก่าหน่อยแต่พอเห็นภาพรวม
เอชเอสบีซี เผยผลสำรวจ ประเทศไทยเหมาะเป็นที่อยู่สำหรับชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด
ในปี 2011 นี้ "เอชเอสบีซี" ธนาคารระหว่างประเทศรายใหญ่ของโลก ได้ทำการสำรวจโดยการสอบถามชาวต่างชาติที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ประเทศตามสัญชาติตนเองจำนวน 3,385 คนในมากกว่า 100 ประเทศจากทั่วโลก โดยวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานจากวิถีชีวิต ข้อมูลด้านการเงิน และรูปแบบที่เด็กถูกเลี้ยงดูในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดตัวเอง
ผลการสำรวจปรากฎว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยการพิจารณาจากเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ และรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยจากการสำรวจพบว่า 3 เหตุผลที่ทำให้ไทยเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด มีดังนี้
1. รัฐบาลไทยยกเว้นภาษีสำหรับชาวต่างชาติที่มีรายได้จำกัด หรือ แม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเหมาะแก่ชาวต่างชาติผู้เกษียณอายุแล้วเป็นอย่างมาก
2. ค่าครองชีพที่ถือว่าต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก ชาวตะวันตก โดยเฉพาะคนอังกฤษจึงสามารถมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหาแน่นอน
3. วิถีชีวิตที่เรียบง่าย เหมาะสมซึ่งทำให้ประเทศไทยเหมาะมากสำหรับผู้ที่เกษียณอายุและต้องการความสงบในชีวิต ตลอดจนปัจจัยเรื่องสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เพราะอากาศไม่หนาวมาก และมีแสงแดดตลอดทั้งปี
และก็อ่านข่าวเจอเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลอังกฤษกำลังพิจารณาเรื่องประชากรเกษียณอายุของเขานำบำนาญไปใช้นอกประเทศ ประมาณว่าเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศเค๊า และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยซิ ไม่นานคงมีมาตรการอะไรออกมาสกัดละมั๊ง
เอชเอสบีซี เผยผลสำรวจ ประเทศไทยเหมาะเป็นที่อยู่สำหรับชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด
ในปี 2011 นี้ "เอชเอสบีซี" ธนาคารระหว่างประเทศรายใหญ่ของโลก ได้ทำการสำรวจโดยการสอบถามชาวต่างชาติที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ประเทศตามสัญชาติตนเองจำนวน 3,385 คนในมากกว่า 100 ประเทศจากทั่วโลก โดยวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานจากวิถีชีวิต ข้อมูลด้านการเงิน และรูปแบบที่เด็กถูกเลี้ยงดูในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดตัวเอง
ผลการสำรวจปรากฎว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยการพิจารณาจากเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ และรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยจากการสำรวจพบว่า 3 เหตุผลที่ทำให้ไทยเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด มีดังนี้
1. รัฐบาลไทยยกเว้นภาษีสำหรับชาวต่างชาติที่มีรายได้จำกัด หรือ แม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเหมาะแก่ชาวต่างชาติผู้เกษียณอายุแล้วเป็นอย่างมาก
2. ค่าครองชีพที่ถือว่าต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก ชาวตะวันตก โดยเฉพาะคนอังกฤษจึงสามารถมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหาแน่นอน
3. วิถีชีวิตที่เรียบง่าย เหมาะสมซึ่งทำให้ประเทศไทยเหมาะมากสำหรับผู้ที่เกษียณอายุและต้องการความสงบในชีวิต ตลอดจนปัจจัยเรื่องสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เพราะอากาศไม่หนาวมาก และมีแสงแดดตลอดทั้งปี
และก็อ่านข่าวเจอเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลอังกฤษกำลังพิจารณาเรื่องประชากรเกษียณอายุของเขานำบำนาญไปใช้นอกประเทศ ประมาณว่าเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศเค๊า และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยซิ ไม่นานคงมีมาตรการอะไรออกมาสกัดละมั๊ง
แสดงความคิดเห็น
หนึ่งในของดี " อุดรธานี " ก็คงเป็นลูกครึ่งนี่ล่ะครับ
เป็นอะไรที่น่าประทับใจมากที่ถ้าหากว่าเราเข้าไปในเมืองอุดรฯแล้วเราจะต้องได้พบเจอกับลูกครึ่งทุกครั้งไป จขกทอยู่ที่นั่นได้เจอทุกวันครับ วันละ 2-3 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนที่แอบเยอะเลยล่ะนะแบบนี้ เพราะขนาดในกรุงเทพฯจขกทยังไม่ได้เห็นลูกครึ่งถี่ขนาดนี้เลยครับ คือก็อาจจะเป็นไปได้ว่ากรุงเทพฯเป็นเมืองใหญ่กว่า การกระจายตัวก็คงมีมากกว่าก็เป็นไปได้เหมือนกัน
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ดีตรงที่ว่าจังหวัดที่ห่างไกลจากเมืองหลวง อย่างอุดรธานีนี้ กลับมีประชากรที่เป็นลูกผสมของเชื้อสายคอเคเซี่ยนเยอะกว่าที่เราเคยคิดเลยล่ะครับ
รุ่นน้องจขกทบอกว่าที่โรงเรียนดังๆในอุดรฯจะมีนักเรียนที่เป็นลูกครึ่งอยู่หลายคน ฟังแล้วก็ยิ่งสนใจว่ามีเยอะขนาดนั้นเชียวหรอ ที่กรุงเทพฯนี่เรายังไม่รู้สึกว่ามีเยอะเท่านี้เลย ถึงแม้ว่าจขกทเองก็มีรุ่นพี่, เพื่อน, รุ่นน้อง, และอาจารย์ในสมัยโรงเรียนและมหาวิทยาลัยบางคนเป็นลูกครึ่งก็เถอะครับ
ยุค G.I. ในอุดรธานีแม้ว่าจะจบลงไปแล้วแต่ลูกครึ่งก็ยังคงหาได้ง่ายๆในอุดรธานีมาโดยตลอด ผมมองว่าเจ๋งดีครับจังหวัดนี้
ชอบมาก เพราะพูดถึงเรื่องความสุขก็ได้ไปหลายเรื่องอยู่ รวมถึงเรื่องนี้ด้วยครับ หน้าตาดีๆกันแทบทั้งนั้น