ในเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว ซึ่งเข้าใจและเห็นใจทุกภาคส่วนเป็นอย่างยิ่ง เจ้าของกระทู้เองเมื่อชอบละครเรื่องไหน หรือ ติดตามละครเรื่องไหนชาวเฉลิมไทยบางท่านอาจเคยจะชินกันแล้วกับร้อยกรองประกอบภาพละคร หรือ คลิปหากเหตุการณ์อำนวยให้แต่งได้ คำกลอนนี้คิดเสียว่าเป็นคำกลอนธรรมดาบรรยายถึงคนสองคนที่เปิดเผยหัวใจต่อกันและกันโดยฉากหลังเป็นทะเลทราย ร้อยกรองมาให้อ่านกันเป็นการประพันธ์เพื่อแสดงอารมณ์รักใคร่เสน่หาตามที่ได้อ่านจากบทประพันธ์ที่เป็นนิยายเพียงเท่านั้นไม่ได้มีจุดประสงค์เป็นอย่างอื่น โปรดอย่าจุดประเด็นใด ๆ เลยนะคะ (ขอร้องนะไม่เอาดราม่านะตัวเธอ) เอาล่ะ ... ใครไม่ฟิน ขอฟินไปล่วงหน้าก่อนนะจ๊ะ บอกไว้ก่อนภาพไม่มีนะ มีแต่ร้อยกรอง
กลางทะเลทราย : ชารีฟ
มองฟ้ากว้างทางไกลสุดปลายหล้า
โอ้ชีวาสิ้นแล้วหรือความหวัง
เสี้ยววิญญาคือซากปรักหักพัง
ที่ไล่หลังตามติดคือความตาย
เวลาเอยผ่านไปใจร่ำร้อง
ถูกจำจองอ้างว้างน่าใจหาย
ต้องเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลทราย
เย็นลมหนาวบาดผิวกายไม่วายครวญ
จะให้วารผ่านไปเสียดายนัก
เกิดประจักษ์ความรักให้คิดหวน
ถึงวาระสุดท้ายได้ทบทวน
ใจที่ครวญคำนึงถึงมานาน
น้ำค้างย้อยเยือกหนาวฟ้าพราวพร่าง
เผยความนัยไม่จางซึ่งความหวาน
ใจที่เก็บกักไว้เกือบวายปราณ
เสน่หาสืบสานผ่านสายใย
ลมหมุนคว้างกลางทรายให้ลอยลิ่ว
กระโจมพลิ้วระริกระริ้วไหว
เนตรประสานสบซ่านถึงทรวงใน
ลมเรื่อยไหลแนบชิดติดกายา
ดารกาทอดแสงสำแดงส่อง
ความผุดผ่องโสภิตชิดนาสา
ลากระเรื่อยลาดไหล่ล่วงลงมา
ประคองนวลเกศาเคล้าตระกอง
ค่อยนิ่งกอดพรอดพร่ำคำว่ารัก
ใจสลักภักดิ์หนึ่งไม่มีสอง
เที่ยวไต่ถามเตือนย้ำตามทำนอง
นวลละอองตอบมาว่าอย่างไร
ทรายสะอาดสีนวลชวนเพลินพิศ
แนบสนิทกลมกลืนดุจเกลียวไหม
หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวทั้งกายใจ
รักฉันแล้วหรือไม่ช่วยตอบที
เพิ่งประจักษ์รักกลางทะเลทราย
ก่อนความตายมาพรากต่อจากนี้
หากสัมพันธ์เสน่หาในฤดี
ผูกสมัครภักดีไม่มีคลาย
ใต้ทะเลดาว : มิเชลล์
ดารดาษพาดผ่านข้ามขอบฟ้า
มองนภาเข้มครามแล้วใจหาย
ที่สุดแล้วปลายทางคือความตาย
นี่ละหรือความหมายของชีวี
กาลเลยผ่านผันไปใจยังคิด
นี่หรือฤทธิ์ความรักเป็นเช่นนี้
ผิดแผกกันที่ธรรมเนียมประเพณี
ดวงฤดีซุกซ่อนอ่อนระอา
เมื่อสบเนตรคมพราวแพรวระยับ
ใจก็กลับวิบวับมหาศาล
สิ้นสุดแล้วความมืดอนธการ
พรอดคำหวานจรดแนบแทบฤทัย
เย็นไอหนาวค่ำคืนเงียบสงบ
หากเนตรสบร้อนเร่าเพลิงพลิ้วไหว
ลมกระพือไม่เท่าแรงรักจากใจ
ที่เก็บกักซ่อนไว้มาเนิ่นนาน
ระส่ำเสียงกระซิบซาบที่ริมหู
พร่ำถามอยู่มธุรสด้วยพจน์หวาน
ถึงความรักแรกประจักษ์สลักจาร
ที่ซาบซ่านทรวงลึกถึงวิญญา
เล็มเลาะเรื่อยลากไล้จดปลายก้อย
แล้วค่อยค่อยตักตวงดวงยิหวา
โลหิตซ่านพวงแก้มแกมกัญญา
ชิดนาสาเคล้าคลอละออองค์
ลมกระบัดพัดลิ่วทรายปลิวฟุ้ง
ได้แต่มุ่งตามลมสมประสงค์
ทะเลดาวพราวพร่างทอดแสงลง
กระพริบส่งประกายเป็นพยาน
ลมสงบทะเลทรายนิ่งสงัด
ที่ร้อยรัดคือใยรักอ่อนหวาน
ทรายสีนวลชวนพิศสุขสราญ
เปรียบเหมือนบ้านกว้างใหญ่ไร้เขตแดน
ทะเลทรายผูกสมัครรักไม่สิ้น
กอดยุพินพร่ำรักด้วยหวงแหน
ทะเลดาวกลางทรายถิ่นดินแดน
ไม่แร้นแค้นรักมั่นนิรันดร
เอ้าโหวตดีกว่านาทีนี้ "กลางทะเลทราย" หรือ "ใต้ทะเลดาว"
*** ปิดโหวต วันที่ 03 กันยายน พ.ศ.2556 เวลา 21:56:51 น.
ฟ้าจรดทราย : กลางทะเลทราย ... ใต้ทะเลดาว
กลางทะเลทราย : ชารีฟ
มองฟ้ากว้างทางไกลสุดปลายหล้า
โอ้ชีวาสิ้นแล้วหรือความหวัง
เสี้ยววิญญาคือซากปรักหักพัง
ที่ไล่หลังตามติดคือความตาย
เวลาเอยผ่านไปใจร่ำร้อง
ถูกจำจองอ้างว้างน่าใจหาย
ต้องเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลทราย
เย็นลมหนาวบาดผิวกายไม่วายครวญ
จะให้วารผ่านไปเสียดายนัก
เกิดประจักษ์ความรักให้คิดหวน
ถึงวาระสุดท้ายได้ทบทวน
ใจที่ครวญคำนึงถึงมานาน
น้ำค้างย้อยเยือกหนาวฟ้าพราวพร่าง
เผยความนัยไม่จางซึ่งความหวาน
ใจที่เก็บกักไว้เกือบวายปราณ
เสน่หาสืบสานผ่านสายใย
ลมหมุนคว้างกลางทรายให้ลอยลิ่ว
กระโจมพลิ้วระริกระริ้วไหว
เนตรประสานสบซ่านถึงทรวงใน
ลมเรื่อยไหลแนบชิดติดกายา
ดารกาทอดแสงสำแดงส่อง
ความผุดผ่องโสภิตชิดนาสา
ลากระเรื่อยลาดไหล่ล่วงลงมา
ประคองนวลเกศาเคล้าตระกอง
ค่อยนิ่งกอดพรอดพร่ำคำว่ารัก
ใจสลักภักดิ์หนึ่งไม่มีสอง
เที่ยวไต่ถามเตือนย้ำตามทำนอง
นวลละอองตอบมาว่าอย่างไร
ทรายสะอาดสีนวลชวนเพลินพิศ
แนบสนิทกลมกลืนดุจเกลียวไหม
หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวทั้งกายใจ
รักฉันแล้วหรือไม่ช่วยตอบที
เพิ่งประจักษ์รักกลางทะเลทราย
ก่อนความตายมาพรากต่อจากนี้
หากสัมพันธ์เสน่หาในฤดี
ผูกสมัครภักดีไม่มีคลาย
ใต้ทะเลดาว : มิเชลล์
ดารดาษพาดผ่านข้ามขอบฟ้า
มองนภาเข้มครามแล้วใจหาย
ที่สุดแล้วปลายทางคือความตาย
นี่ละหรือความหมายของชีวี
กาลเลยผ่านผันไปใจยังคิด
นี่หรือฤทธิ์ความรักเป็นเช่นนี้
ผิดแผกกันที่ธรรมเนียมประเพณี
ดวงฤดีซุกซ่อนอ่อนระอา
เมื่อสบเนตรคมพราวแพรวระยับ
ใจก็กลับวิบวับมหาศาล
สิ้นสุดแล้วความมืดอนธการ
พรอดคำหวานจรดแนบแทบฤทัย
เย็นไอหนาวค่ำคืนเงียบสงบ
หากเนตรสบร้อนเร่าเพลิงพลิ้วไหว
ลมกระพือไม่เท่าแรงรักจากใจ
ที่เก็บกักซ่อนไว้มาเนิ่นนาน
ระส่ำเสียงกระซิบซาบที่ริมหู
พร่ำถามอยู่มธุรสด้วยพจน์หวาน
ถึงความรักแรกประจักษ์สลักจาร
ที่ซาบซ่านทรวงลึกถึงวิญญา
เล็มเลาะเรื่อยลากไล้จดปลายก้อย
แล้วค่อยค่อยตักตวงดวงยิหวา
โลหิตซ่านพวงแก้มแกมกัญญา
ชิดนาสาเคล้าคลอละออองค์
ลมกระบัดพัดลิ่วทรายปลิวฟุ้ง
ได้แต่มุ่งตามลมสมประสงค์
ทะเลดาวพราวพร่างทอดแสงลง
กระพริบส่งประกายเป็นพยาน
ลมสงบทะเลทรายนิ่งสงัด
ที่ร้อยรัดคือใยรักอ่อนหวาน
ทรายสีนวลชวนพิศสุขสราญ
เปรียบเหมือนบ้านกว้างใหญ่ไร้เขตแดน
ทะเลทรายผูกสมัครรักไม่สิ้น
กอดยุพินพร่ำรักด้วยหวงแหน
ทะเลดาวกลางทรายถิ่นดินแดน
ไม่แร้นแค้นรักมั่นนิรันดร
เอ้าโหวตดีกว่านาทีนี้ "กลางทะเลทราย" หรือ "ใต้ทะเลดาว"