( พอดีวันนี้ว่าง ไม่ค่อยสบายนิดหน่อย เลยให้ เมียไปทำงานแทน 555 ) เลยมาลองวิเคราะห์การเมืองเล่นๆดีกว่า ผมจะวิเคราะห์ทีละฝ่ายนะครับ เพื่อนๆลองมาอ่านดูว่าจริงไหม
ฝ่ายคนที่คุณก็รู้ว่าใคร จริงๆฝ่ายนี้สภาพปัจจัย ทำให้อยู่เหนือปัญหา ไม่ว่าหวยจะออกยังไง ฝ่ายนี้ก็ไม่สะเทือน ข้อที่ควรระวัง คือ การถูกโหน ลงมาจนเสียนั้นแหละ เป็นเรื่องเดียวที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ แต่ถ้าเป็นผมฝ่ายคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ผมจะเลือกถือหาง ทักษิน เพราะ ตั้งแต่ คลิป ถังเช่า หลุด มันรับประกันได้อย่างดี ว่าทักษินไม่ใช่ศัตรู แล้วมีประโยชน์อะไร ที่ต้องไปถือ หาง ปชป ที่เข้าหน้า ต่างชาติก็ไม่ติด ในไทยก็ไม่เอา แถมยังมีตราบาปติดตัว ถ้าถือหาง ทักษิน ได้ภาพได้ทั้งกล่อง ไปถือ หาง ปชป เสียทั้งภาพเสียทั้งทรัพย์ มีแต่เสียกับเสีย
ฝ่ายอำมาตย์ ฝ่ายนี้จริงๆใกล้หมดอำนาจไปตามเวลา เพราะปัจจัยการเมืองมันเปลี่ยนไป จากที่เคยกางปีก กุม 2 ขุมอำนาจ ในสายตุลาการ และ กำลังทหาร ก็ไม่สามารถ สร้างความขลังได้เหมือนก่อน สิ่งที่พิสูจณ์ คือ การที่ยิ่งลักษณ์ อยู่ในตำแหน่งได้ ถึง 2 ปีกว่า ทำให้บารมีฝ่ายนี้หมดไป ( เพราะเป็นสิ่งยืนยันว่า อำมาตย์รับประกันความชัวร์ ให้ไม่ได้ ) และ ยิ่งโดน ลากไส้มาประจาน ทำให้ ลูกน้องมือไม้ ไม่ค่อยมั่นใจ ว่าจะเอาอยู่ บวกกับ สภาพตามธรรมชาติเหลือน้อย ลูกหม้อที่จะส่งไม้ต่อ ก็โดนจนเละตั้งแต่ ปฎิวัติ 49
ฝ่ายทหาร ฝ่ายนี้จริงๆแล้ว เป็นนกรู้ ถ้าไม่คอขาดบาดตาย ไม่ยอมออกมาปฎิวัติแล้ว เพราะ ใครจะไปบ้าทำ ทำแล้วเป็นแบบบิ๊กบัง ไม่ทำยังได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรี ถ้าจะทำแล้วหวังมีอำนาจ เหมือน สฤทธิ์ ถนอม ประพาส มันหมดยุคแล้ว ฝ่ายนี้จึงประคองตัว ไปพลิ้วๆ ไม่ลงมาเป็นเครื่องมือให้ใคร นอกจากมันไม่มีทางเลือกจริงๆ คือ ถ้า ไม่หน้ามืดจริงๆ ฝ่ายนี้ไม่ทำ
ฝ่ายนายทุน ผมว่าฝ่ายนี้ต้องปรับตัวแล้ว จากที่เคยสนับสนุน อำมาตย์ และ รอผลประโยชน์ ที่อำมาตย์แบ่งให้ น่าจะยาก คงไม่ได้อีกแล้ว หรือถ้าได้ก็น้อย แต่ไม่ใช่ว่าหาประโยชน์ไม่ได้เลย หาได้แต่ต้องเป็นประโยชน์แบบ ผลประโยชน์ทับซ้อน โอกาส อะไรแบบนี้ คือ ต้องหากินเองด้วย อาจจะได้โอกาสมากกว่าคนอื่น แต่จะมานั่งงอมืองอเท้า แบบทำนาบนหลังคน แล้วมีที่ดิน สปก มาแจกให้ คงยากแล้ว
ฝ่ายปชป ฝ่ายนี้ต้องแยกให้ชัด หลักๆมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ลงไปในโคลนแล้ว เช่น มาร์ค สุเทพ และ สส. ปชป ที่ยังไม่เจ็บตัว เช่น นายกรณ์ นายอลงกรณ์ ส่วน นายชวน ยังอยู่ในสถานะ ที่สามารถ เข้าไปอยู่ได้ทั้ง 2 กลุ่ม ที่ต้องแยก ปชป เป็น 2 กลุ่มเพราะ สถานการณ์มันต่างกัน ฝ่าย ( น้ำโคลน ) มีทางเลือกเดียว ถ้าไม่ออกมาขอโทษ ยอมรับผิด ผ่อนหนักเป็นเบา ก็ต้องเลือกป่วนให้ถึงที่สุด ใครจะผังไม่รู้ ประเทศจะเสียหายยังไงไม่สน ใครจะตายไม่แคร์ เพื่อหวังให้ สถานการณ์ กลับ ไปเหมือน ปี 49 เพื่อให้ตัวเองหลุด และ อาจมีโอกาสมาอยู่ในอำนาจ ในฐานะหุ่นเชิดหน้าฉาก
ส่วนฝ่ายน้ำดี ( ที่ยังไม่เปื้อนโคลน ) แค่ประคองตัว แสดงสปิริต เตรียมพร้อม เป็นทางเลือกในอนาคต
( เดวเอาแค่นี้ก่อน เมียให้ไปรับแล้ว เดว หัวค่ำมาต่อ ....... เหลือ ฝ่าย ทักษิน พธม เสื้อแดง และ สลิ่ม ต้องเขียนให้จบ )
มาแล้วครับ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่เข้ามาอ่านนะครับ เดวเพื่อจะเข้าใจผิด ว่า เรากลัวเมียรักเมีย แค่เมียเราเสียงดัง ขี้โมโห เลยต้องเกรงใจมากหน่อย ( จริงๆรำคาญ ) ต่อนะครับ.........
ส่วนฝ่ายน้ำดี ( ที่ยังไม่เปื้อนโคลน ) แค่ประคองตัว แสดงสปิริต เตรียมพร้อม เป็นทางเลือกในอนาคต ถ้าวันข้างหน้า ฝ่ายน้ำโคลนหมดราคาแล้ว ก็จำเป็นต้องอาบน้ำ สลัดโคลนออก ส่วนตัวผมว่า นายอลงกรณ์ มีภาษี กว่านายกรณ์ แต่ถ้าจะหวังเอาแค่ สส.กลุ่มเดิม คงไม่พอ ต้องหาคนมาเสริมทัพ ถึงจะพอฟัดพอเหวี่ยง กับเพื่อไทย เช่นดึง นายสมคิด นายศุภชัย ในกรณีนี้ ทักษินต้องวางมือ ทางการเมืองจริงๆนะครับ ถึงจะสูสี แต่ถ้าทักษินกลับ มาเล่นการเมืองเต็มตัว ปชป คงชนะยาก
ฝ่ายทักษิน เรื่องกลับบ้าน ช่วงนี้คงยังไม่ได้ น่าจะ รออีก 2 - 3 ปี มีการเลือกตั้งใหม่จบไปแล้ว แล้วการเมืองนิ่งคงได้กลับ ตอนนี้ทักษิน เดินเกมตามที่ผมเคยวิเคราะห์ คือประนีประนอม กับ ฝ่ายอำมาตย์ และ รักษาฐานมวลชน สังเกตุง่ายๆ ทักษินเลือกจำนำข้าว แต่ไม่แตะ หวยบนดิน ด้วยสภาพการอย่างนี้ อย่าหวังว่าจะบริหารประเทศได้ดี เหมือนก่อน ปี 49 เพราะถ้าจะทำอย่างนั้น ต้องเสี่ยงกับการ ทุบหม้อข้าวหม้อแกงอำมาตย์ ทักษินเลยต้องเลือก 2 ล้านๆ เข้ามา เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหานี้ เพราะถ้า 2 ล้านๆผ่าน สภาพเศรษฐกิจจะดีและฐานคะแนน จะคงตัวไป อย่างนี้ อย่างน้อย 2 - 3 ปี เหมือนตอนสร้างสนามบิน
ฝ่ายพธม ฝ่ายนี้นกรู้ตัวพ่อ ตอนนี้เล่นบทเป็นตัวแถม เดินเกมประคองสภาพ เนื่องจาก ไม่ได้จมโคลน เหมือน มาร์คและสุเทพ อีกทั้งยังเคยทะเลาะกับ ปชป ด้วยทำให้สถานะสังคมในสายตาเสื้อแดงดีขึ้น ถือว่า พี่ลิ้ม มองเกมขาดไม่เบา ( เรียกพี่เพราะ ใช้แซ่เดียวกัน ) สามารถต่อรองกับ ปชป และ ลดน้ำหนักการเป็น ศัตรูกับเสื้อแดง ยิ่งเมื่อคืน มาประกาศยุติบทบาท โดยมีจำลองมาด้วย วิเคราะห์ได้อย่างหนึ่ง คือ ทหารไม่เอาด้วยแน่ๆ เพราะจำลองมีสายทหาร และเป็น เพื่อนกับ พัลลภ การทำอย่างนี้ เพื่อเอาตัวรอดทางหนึ่ง จากการจะถูกเช็คบิล แล้วลอยแพ มาร์ค และ สุเทพ รอดูสถานการณ์ อนาคต หวังเป็นทางเลือกที่ 3 หรือ เอาไว้โก่งค่าตัว เวลาหน้ามืดต้องการม๊อบจริงๆ ( เพราะ ปชป ไม่มีน้ำยาทำม๊อบ )
ฝ่ายเสื้อแดง อันนี้พูดถึง กลุ่มแกนนำเฉยๆ ไม่ได้เหมารวม ปชช ( ปชช เดวแยกเป็น เสื้อแดง กับ สลิ่ม ไว้พูดกระทู้หน้า ) แกนนำเสื้อแดง สายที่ไม่ใช่ ฮาดร์คอ ตัวแรงๆ มีอนาคตสดใส และ แกนนำหลักๆก็คงเหมือนกัน ตอนนี้แกนนำ ต้องระวังไม่หลงประเด็น ถึงแม้ ถ้าทักษิน จะเคลียร์ กับ อำมาตย์ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า เผด็จการ จะเคลียร์ กับ ประชาธิปไตยได้ ก็คงต้องฝากแกนนำ ต้องประคองสภาพ พท และ แกนนำแดงไว้ กดดันจนกว่า ปชช จะมีรัฐธรรมนูญ ที่เป็นประชาธิปไตย อย่างน้อย ดีกว่าหรือเท่ากับ 40 อะไรที่หนักเบาก็ต้องอดทน ข้อด้อย ของกลุ่มเสื้อแดง ถ้าวันข้างหน้าทักษิน วางมือ แล้วเสื้อแดง จะขึ้นมาเป็นกลุ่มการเมือง เต็มตัว สิ่งที่ต้องมี คือ นักบริหาร และ การบริหาร ผมเข้าใจนะครับ ว่าท่านอาจจะไม่เก่ง เพราะ แกนนำไม่ได้ เป็น นักธุรกิจ สร้างตัวทำมาหากินเหมือนทักษิน เรื่องนี้ต้องนอมรับ และพัฒนา ถ้าแกนนำได้เก่งเรื่องนี้ จะเหมือนพยัคติดปีก เพราะถ้าจะหวังดึง นักธุรกิจเก่งๆมาเสริมทัพ ก็ไม่เหมือนเก่งด้วยตัวเอง ( จริงๆ ผมว่ามีเสื้อแดง หลายคน ที่เป็นนักบริหารเอกชนเก่งๆ แต่เขาไม่เล่นการเมือง เพราะไม่อยากเสี่ยงกับอำมาตย์ แต่ถ้าในอนาคต ปชต มั่นคง ไม่ต้องเสี่ยงกับอำมาตย์ ก็น่าจะมีคนอาสาเข้ามาเยอะขึ้น )
พรุ่งนี้จะมาต่อ " ทิศทางการเมืองในอนาคต และทางเลือกของ ปชช เสื้อแดง & สลิ่ม " วันนี้ตั้งหมด 4 กระทู้แล้ว
ขออวดโง่ วิเคราะห์การเมือง และทิศทางการเมืองในอนาคต
ฝ่ายคนที่คุณก็รู้ว่าใคร จริงๆฝ่ายนี้สภาพปัจจัย ทำให้อยู่เหนือปัญหา ไม่ว่าหวยจะออกยังไง ฝ่ายนี้ก็ไม่สะเทือน ข้อที่ควรระวัง คือ การถูกโหน ลงมาจนเสียนั้นแหละ เป็นเรื่องเดียวที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ แต่ถ้าเป็นผมฝ่ายคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ผมจะเลือกถือหาง ทักษิน เพราะ ตั้งแต่ คลิป ถังเช่า หลุด มันรับประกันได้อย่างดี ว่าทักษินไม่ใช่ศัตรู แล้วมีประโยชน์อะไร ที่ต้องไปถือ หาง ปชป ที่เข้าหน้า ต่างชาติก็ไม่ติด ในไทยก็ไม่เอา แถมยังมีตราบาปติดตัว ถ้าถือหาง ทักษิน ได้ภาพได้ทั้งกล่อง ไปถือ หาง ปชป เสียทั้งภาพเสียทั้งทรัพย์ มีแต่เสียกับเสีย
ฝ่ายอำมาตย์ ฝ่ายนี้จริงๆใกล้หมดอำนาจไปตามเวลา เพราะปัจจัยการเมืองมันเปลี่ยนไป จากที่เคยกางปีก กุม 2 ขุมอำนาจ ในสายตุลาการ และ กำลังทหาร ก็ไม่สามารถ สร้างความขลังได้เหมือนก่อน สิ่งที่พิสูจณ์ คือ การที่ยิ่งลักษณ์ อยู่ในตำแหน่งได้ ถึง 2 ปีกว่า ทำให้บารมีฝ่ายนี้หมดไป ( เพราะเป็นสิ่งยืนยันว่า อำมาตย์รับประกันความชัวร์ ให้ไม่ได้ ) และ ยิ่งโดน ลากไส้มาประจาน ทำให้ ลูกน้องมือไม้ ไม่ค่อยมั่นใจ ว่าจะเอาอยู่ บวกกับ สภาพตามธรรมชาติเหลือน้อย ลูกหม้อที่จะส่งไม้ต่อ ก็โดนจนเละตั้งแต่ ปฎิวัติ 49
ฝ่ายทหาร ฝ่ายนี้จริงๆแล้ว เป็นนกรู้ ถ้าไม่คอขาดบาดตาย ไม่ยอมออกมาปฎิวัติแล้ว เพราะ ใครจะไปบ้าทำ ทำแล้วเป็นแบบบิ๊กบัง ไม่ทำยังได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรี ถ้าจะทำแล้วหวังมีอำนาจ เหมือน สฤทธิ์ ถนอม ประพาส มันหมดยุคแล้ว ฝ่ายนี้จึงประคองตัว ไปพลิ้วๆ ไม่ลงมาเป็นเครื่องมือให้ใคร นอกจากมันไม่มีทางเลือกจริงๆ คือ ถ้า ไม่หน้ามืดจริงๆ ฝ่ายนี้ไม่ทำ
ฝ่ายนายทุน ผมว่าฝ่ายนี้ต้องปรับตัวแล้ว จากที่เคยสนับสนุน อำมาตย์ และ รอผลประโยชน์ ที่อำมาตย์แบ่งให้ น่าจะยาก คงไม่ได้อีกแล้ว หรือถ้าได้ก็น้อย แต่ไม่ใช่ว่าหาประโยชน์ไม่ได้เลย หาได้แต่ต้องเป็นประโยชน์แบบ ผลประโยชน์ทับซ้อน โอกาส อะไรแบบนี้ คือ ต้องหากินเองด้วย อาจจะได้โอกาสมากกว่าคนอื่น แต่จะมานั่งงอมืองอเท้า แบบทำนาบนหลังคน แล้วมีที่ดิน สปก มาแจกให้ คงยากแล้ว
ฝ่ายปชป ฝ่ายนี้ต้องแยกให้ชัด หลักๆมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ลงไปในโคลนแล้ว เช่น มาร์ค สุเทพ และ สส. ปชป ที่ยังไม่เจ็บตัว เช่น นายกรณ์ นายอลงกรณ์ ส่วน นายชวน ยังอยู่ในสถานะ ที่สามารถ เข้าไปอยู่ได้ทั้ง 2 กลุ่ม ที่ต้องแยก ปชป เป็น 2 กลุ่มเพราะ สถานการณ์มันต่างกัน ฝ่าย ( น้ำโคลน ) มีทางเลือกเดียว ถ้าไม่ออกมาขอโทษ ยอมรับผิด ผ่อนหนักเป็นเบา ก็ต้องเลือกป่วนให้ถึงที่สุด ใครจะผังไม่รู้ ประเทศจะเสียหายยังไงไม่สน ใครจะตายไม่แคร์ เพื่อหวังให้ สถานการณ์ กลับ ไปเหมือน ปี 49 เพื่อให้ตัวเองหลุด และ อาจมีโอกาสมาอยู่ในอำนาจ ในฐานะหุ่นเชิดหน้าฉาก
ส่วนฝ่ายน้ำดี ( ที่ยังไม่เปื้อนโคลน ) แค่ประคองตัว แสดงสปิริต เตรียมพร้อม เป็นทางเลือกในอนาคต
( เดวเอาแค่นี้ก่อน เมียให้ไปรับแล้ว เดว หัวค่ำมาต่อ ....... เหลือ ฝ่าย ทักษิน พธม เสื้อแดง และ สลิ่ม ต้องเขียนให้จบ )
มาแล้วครับ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่เข้ามาอ่านนะครับ เดวเพื่อจะเข้าใจผิด ว่า เรากลัวเมียรักเมีย แค่เมียเราเสียงดัง ขี้โมโห เลยต้องเกรงใจมากหน่อย ( จริงๆรำคาญ ) ต่อนะครับ.........
ส่วนฝ่ายน้ำดี ( ที่ยังไม่เปื้อนโคลน ) แค่ประคองตัว แสดงสปิริต เตรียมพร้อม เป็นทางเลือกในอนาคต ถ้าวันข้างหน้า ฝ่ายน้ำโคลนหมดราคาแล้ว ก็จำเป็นต้องอาบน้ำ สลัดโคลนออก ส่วนตัวผมว่า นายอลงกรณ์ มีภาษี กว่านายกรณ์ แต่ถ้าจะหวังเอาแค่ สส.กลุ่มเดิม คงไม่พอ ต้องหาคนมาเสริมทัพ ถึงจะพอฟัดพอเหวี่ยง กับเพื่อไทย เช่นดึง นายสมคิด นายศุภชัย ในกรณีนี้ ทักษินต้องวางมือ ทางการเมืองจริงๆนะครับ ถึงจะสูสี แต่ถ้าทักษินกลับ มาเล่นการเมืองเต็มตัว ปชป คงชนะยาก
ฝ่ายทักษิน เรื่องกลับบ้าน ช่วงนี้คงยังไม่ได้ น่าจะ รออีก 2 - 3 ปี มีการเลือกตั้งใหม่จบไปแล้ว แล้วการเมืองนิ่งคงได้กลับ ตอนนี้ทักษิน เดินเกมตามที่ผมเคยวิเคราะห์ คือประนีประนอม กับ ฝ่ายอำมาตย์ และ รักษาฐานมวลชน สังเกตุง่ายๆ ทักษินเลือกจำนำข้าว แต่ไม่แตะ หวยบนดิน ด้วยสภาพการอย่างนี้ อย่าหวังว่าจะบริหารประเทศได้ดี เหมือนก่อน ปี 49 เพราะถ้าจะทำอย่างนั้น ต้องเสี่ยงกับการ ทุบหม้อข้าวหม้อแกงอำมาตย์ ทักษินเลยต้องเลือก 2 ล้านๆ เข้ามา เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหานี้ เพราะถ้า 2 ล้านๆผ่าน สภาพเศรษฐกิจจะดีและฐานคะแนน จะคงตัวไป อย่างนี้ อย่างน้อย 2 - 3 ปี เหมือนตอนสร้างสนามบิน
ฝ่ายพธม ฝ่ายนี้นกรู้ตัวพ่อ ตอนนี้เล่นบทเป็นตัวแถม เดินเกมประคองสภาพ เนื่องจาก ไม่ได้จมโคลน เหมือน มาร์คและสุเทพ อีกทั้งยังเคยทะเลาะกับ ปชป ด้วยทำให้สถานะสังคมในสายตาเสื้อแดงดีขึ้น ถือว่า พี่ลิ้ม มองเกมขาดไม่เบา ( เรียกพี่เพราะ ใช้แซ่เดียวกัน ) สามารถต่อรองกับ ปชป และ ลดน้ำหนักการเป็น ศัตรูกับเสื้อแดง ยิ่งเมื่อคืน มาประกาศยุติบทบาท โดยมีจำลองมาด้วย วิเคราะห์ได้อย่างหนึ่ง คือ ทหารไม่เอาด้วยแน่ๆ เพราะจำลองมีสายทหาร และเป็น เพื่อนกับ พัลลภ การทำอย่างนี้ เพื่อเอาตัวรอดทางหนึ่ง จากการจะถูกเช็คบิล แล้วลอยแพ มาร์ค และ สุเทพ รอดูสถานการณ์ อนาคต หวังเป็นทางเลือกที่ 3 หรือ เอาไว้โก่งค่าตัว เวลาหน้ามืดต้องการม๊อบจริงๆ ( เพราะ ปชป ไม่มีน้ำยาทำม๊อบ )
ฝ่ายเสื้อแดง อันนี้พูดถึง กลุ่มแกนนำเฉยๆ ไม่ได้เหมารวม ปชช ( ปชช เดวแยกเป็น เสื้อแดง กับ สลิ่ม ไว้พูดกระทู้หน้า ) แกนนำเสื้อแดง สายที่ไม่ใช่ ฮาดร์คอ ตัวแรงๆ มีอนาคตสดใส และ แกนนำหลักๆก็คงเหมือนกัน ตอนนี้แกนนำ ต้องระวังไม่หลงประเด็น ถึงแม้ ถ้าทักษิน จะเคลียร์ กับ อำมาตย์ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า เผด็จการ จะเคลียร์ กับ ประชาธิปไตยได้ ก็คงต้องฝากแกนนำ ต้องประคองสภาพ พท และ แกนนำแดงไว้ กดดันจนกว่า ปชช จะมีรัฐธรรมนูญ ที่เป็นประชาธิปไตย อย่างน้อย ดีกว่าหรือเท่ากับ 40 อะไรที่หนักเบาก็ต้องอดทน ข้อด้อย ของกลุ่มเสื้อแดง ถ้าวันข้างหน้าทักษิน วางมือ แล้วเสื้อแดง จะขึ้นมาเป็นกลุ่มการเมือง เต็มตัว สิ่งที่ต้องมี คือ นักบริหาร และ การบริหาร ผมเข้าใจนะครับ ว่าท่านอาจจะไม่เก่ง เพราะ แกนนำไม่ได้ เป็น นักธุรกิจ สร้างตัวทำมาหากินเหมือนทักษิน เรื่องนี้ต้องนอมรับ และพัฒนา ถ้าแกนนำได้เก่งเรื่องนี้ จะเหมือนพยัคติดปีก เพราะถ้าจะหวังดึง นักธุรกิจเก่งๆมาเสริมทัพ ก็ไม่เหมือนเก่งด้วยตัวเอง ( จริงๆ ผมว่ามีเสื้อแดง หลายคน ที่เป็นนักบริหารเอกชนเก่งๆ แต่เขาไม่เล่นการเมือง เพราะไม่อยากเสี่ยงกับอำมาตย์ แต่ถ้าในอนาคต ปชต มั่นคง ไม่ต้องเสี่ยงกับอำมาตย์ ก็น่าจะมีคนอาสาเข้ามาเยอะขึ้น )
พรุ่งนี้จะมาต่อ " ทิศทางการเมืองในอนาคต และทางเลือกของ ปชช เสื้อแดง & สลิ่ม " วันนี้ตั้งหมด 4 กระทู้แล้ว