กว่า20ปี ที่เตรียมการสร้าง
กว่า20ปี ที่แฟนๆรอคอย
กว่า3ปี ที่ดำเนินการถ่ายทำ
กว่าจะมีวันนี้ .... "ฟ้าจรดทราย"
หากลองมองย้อนกลับไป หลายๆคนคงทราบกันดีว่านวนิยายเรื่อง "ฟ้าจรดทราย" ของโสภาค สุวรรณ นี้ ถูกซื้อลิขสิทธิ์มาโดยดาราวิดีโอ มาเกือบ20ปี และวันนี้ก็ลงจอให้ได้ชมกันแล้วท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบต่างๆนานา วันนี้เราลองมารวบรวมปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับละครเรื่องนี้กัน
1.มีข่าววางตัวนักแสดงผู้จะมารับบท "มิเชลล์" ไว้หลายต่อหลายคน ไล่มาตั้งแต่ เปิ้ล-จารุณี, แอน-สิเรียม, นาตาชา (ภรรยาชารีฟของเรานี่เอง), หมิว-ลลิตา, มาช่า, แหม่ม-คัทลียา, แคทรียา อิงลิช, ชมพู่-อารยา, ปู-ไปรยา, พิงค์กี้-สาวิกา รวมถึง อั้ม-พัชราภา ซึ่งหากพินิจดูแล้วแต่ละคนสวยเข้าขั้นกันทั้งนั้น แต่แล้วบทนี้ก็ตกมาอยู่ที่ ขวัญ-อุษามณี (ผู้ที่กำลังครองใจแฟนละครได้อย่างมากมายอยู่ในตอนนี้)
2.บท "ชารีฟ" เองก็ไม่น้อยหน้า มีนักแสดงหลายต่อหลายคนเคยถูกวางตัวไว้ไม่น้อยไปกว่านางเอกของเรื่องเลย อาทิ แซม-ยุรนันท์, พีท-ทองเจือ, วิลลี่, ป๋อ-ณัฐวุฒิ, อานัส, วี-วีรภาพ แต่แล้วบทนี้ก็ตกมาอยู่กับ ตุ้ย-ธีรภัทร์ (ผู้ที่กำลังทำให้สาวๆทั่วประเทศใจละลาย)
3.ทางดาราวิดีโอเคยเตรียมที่จะสร้างมาหลายต่อหลายครั้ง หาโลเกชั่นไว้มากมาย รวมถึงมีการนำทรายมาถมไว้ที่โรงถ่าย แต่สุดท้ายก็ต้องพับโครงการเก็บไปด้วยหลายๆปัจจัย
4.จนในที่สุดดาราวิดีโอประกาศเดินกล้องละครเรื่องนี้ในปี 2553 พร้อมกับการโดนวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของนักแสดงต่างๆนานา
5.ก่อนการบวงสรวงละครได้ไม่ถึงอาทิตย์ พ่อนางเอกสาวขวัญ-อุษามณี ก็ได้จากไปอย่างกระทันหันด้วยโรคประจำตัว แต่เจ้าตัวก็แสดงสปิริตมาร่วมพิธีบวงสรวงละคร
6.กำหนดการแรกที่ทีมงานนักแสดงจะบินไปถ่ายทำที่ประเทศอียิปต์คือเดือนกุมภาพันธ์ ของปี2554 แต่แล้วเกิดเหตุการณ์จราจลขึ้นที่ประเทศอียิปต์ทำให้ต้องมีการเลื่อนออกไป
7.แต่แล้วทางดาราวิดีโอก็ได้ฤกษ์บินไปถ่ายทำที่ประเทศอียิปต์ เป็นเวลากว่า2อาทิตย์ในเดือนกันยายน ปี2554 ขณะถ่ายทำที่ประเทศอียิปต์ก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น สร้างความหวาดกลัวให้กับทีมงานนักแสดง จึงทำให้ถ่ายได้ไม่ครบตามที่ตั้งเป้าไว้
8.ตอนแรกที่ทางดาราวิดีโอเลือกไปถ่ายทำในเดือนกุมภาพันธ์เพราะอากาศที่อียิปต์ไม่ร้อนมาก อุณหภูมิถือว่าเย็นสบาย แต่ในเมื่อไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ จึงต้องไปถ่ายทำกันในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นหน้าร้อนของที่นั่น อุณหภูมิอยู่ที่40-50องศาเลยทีเดียว
9.หลังจากกลับมาได้ยังไม่ทันหายร้อนจากที่นู่น ประเทศไทยของเราก็เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้ฉากที่ทีมงานทำไว้ที่โรงถ่ายลาดหลุมแก้วถูกน้ำท่วมไปด้วย ต้องลงทุนทำใหม่หมด การถ่ายทำก็หยุดชะงักไป
10.อย่างที่บอกไปว่าขณะถ่ายทำที่อียิปต์ ที่นั่นเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นทำให้ถ่ายทำได้ไม่ครบตามที่ตั้งเป้าไว้ จึงทำให้ทีมงานดาราวิดีโอต้องหาสถานที่ถ่ายทำฉากที่ยังไม่ได้ถ่าย และในประเทศไทยก็อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศของเราไม่มีทะเลทราย ทีมงานใช้เวลาในการหาสถานที่ถ่ายทำอยู่นาน จนเล็งกันว่าจะบินไปถ่ายทำกันที่ประเทศเวียดนาม แต่แล้วทีมงานก็ค้นพบสถานที่ที่คล้ายคลึงกับทะเลทรายในประเทศไทยนั่นก็คือ หาดหงส์ จ.อุบลราชธานี
11.แน่นอนว่างบประมาณของเรื่องบานปลายเกินกว่าทุนที่ทางช่องวางไว้ให้ ทำให้ผู้จัดต้องควักกระเป๋าตัวเองจ่ายต่อไปเพื่อจะทำละครเรื่องนี้ให้เสร็จจนได้ เรื่องของกำไรจึงไม่ต้องพูดถึง
12.เมื่อฟ้าจรดทรายได้ฤกษ์งามยามดีลงจอให้ได้ชมกันในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ทุกอย่างเหมือนจะกำลังไปได้ดี เพราะกระแสวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ออกมาในเชิงบวก แต่ก็เริ่มมีกระแสความไม่พอใจของพี่น้องชาวมุสลิม-อิสลาม ทำให้การฉายในตอนที่3ของฟ้าจรดทราย ได้ขึ้นข้อความประมาณว่าละครเรื่องนี้เป็นสิ่งสมมติ มิได้เจตนาดูถูกดูหมิ่นศาสนาแต่อย่างใด
13.หลังจากนั้นไม่นานผู้กำกับละคร-ภาพยนตร์ชื่อดังได้ออกมาโพสท์บนหน้าเฟสบุคของตัวเองถึงความไม่พอใจในละครเรื่องนี้ว่าไม่สมจริง ดูถูกคนดู ฯลฯ ทำให้แฟนละครออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตัวผู้กำกับชื่อดังไปต่างๆนานา
14.และกับประเด็นล่าสุดที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ออกข่าวโทรทัศน์ วิทยุ รวมถึงหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าละครเรื่องนี้มีประเด็นเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวอยู่บ้าง ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน(ในที่นี้จึงขอไม่พูดถึง) ทำให้มีมูลนิธิหนึ่งทำหนังสือให้สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง7 ยุติการออกอากาศของละครฟ้าจรดทราย
15.เนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้ ณ ตอนนี้ ทางช่อง7และbugaboo tv ลบคลิปทุกอย่างที่เกี่ยวกับละครฟ้าจรดทราย ทั้งละครย้อนหลังและข่าวโปรโมท (แล้วคนที่พลาดชมจะทำอย่างไร?)
16.และคงมีปัญหาอีกมากมายที่เราไม่รู้ไม่ทราบกันที่เป็นปัญหาภายใน
ที่พิมพ์มาจนถึงตรงนี้ เพราะอยากจะบอกว่ากว่าจะมาเป็น "ฟ้าจรดทราย" ในวันนี้ ทีมงานนักแสดงรวมถึงผู้จัด ต่างเหนื่อยกันมามาก กว่า3ปีที่ร่วมกันฟันฝ่า ต้องสูญเสียอะไรหลายๆอย่างไปเพื่อสร้างละครเรื่องนี้ขึ้นมาจนสำเร็จ การยุติการออกอากาศจึงดูเหมือนจะเป็นการดูรุนแรงไปเสียหน่อย ทุกปัญหามีทางออกหากเราหันหน้ามาคุยกัน และฝากถึงผู้วิพากษ์วิจารณ์ที่คิดแต่จะติอย่างเดียว ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ของคุณนั้นมันสามารถบั่นทอนจิตใจของคนทำงาน หรือจากข่าวที่เราเห็นๆกันการนินทาว่าร้ายผู้อื่นสามารถทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเลยทีเดียว เราเป็นคนไทยเหมือนกันอาศัยอยู่ในประเทศเดียวกันหากไม่รักกันไม่อุดหนุนกันแล้วใครจะมารักมาอุดหนุนเรา ความวุ่นวายตอนนี้ในบ้านเมืองเราก็มากพออยู่แล้ว อย่าให้ความบันเทิงของไทยต้องกลายเป็นปัญหาระดับชาติ มันไม่ได้ส่งผลดีต่อใคร หากมีอะไรที่มันผิดพลาดก็ติติงกันไปเพื่อผู้จัดจะได้นำไปแก้ไข แต่ก็ไม่ใช่แต่จะติติงอย่างเดียวจนไม่มองในส่วนดีๆของเขาเลย อย่าให้มันต้องกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีกเลยนะคะ แค่ตอนนี้วงการบันเทิงไทยก็ชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวันแล้ว
เส้นทางของ "ฟ้าจรดทราย" ไม่ได้ต่างไปกับความรักของ "มิเชลล์" และ "ชารีฟ" ที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยหลายๆอุปสรรคทำให้คนสองคนรักกัน ทำให้คนสองคนแข็งแกร่ง ลมหายใจที่เคยแผ่วกลับมาดังเดิมอีกครั้งเพราะความรัก เช่นเดียวกับฟ้าจรดทรายที่ต้องเจออุปสรรคมากมาย แต่ละครเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จ ได้ความรักความประทับใจจากแฟนละครมากมาย และชื่อของฟ้าจรดทรายจะอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป ....
กว่าจะเป็น "ฟ้าจรดทราย" ในวันนี้
กว่า20ปี ที่แฟนๆรอคอย
กว่า3ปี ที่ดำเนินการถ่ายทำ
กว่าจะมีวันนี้ .... "ฟ้าจรดทราย"
หากลองมองย้อนกลับไป หลายๆคนคงทราบกันดีว่านวนิยายเรื่อง "ฟ้าจรดทราย" ของโสภาค สุวรรณ นี้ ถูกซื้อลิขสิทธิ์มาโดยดาราวิดีโอ มาเกือบ20ปี และวันนี้ก็ลงจอให้ได้ชมกันแล้วท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบต่างๆนานา วันนี้เราลองมารวบรวมปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับละครเรื่องนี้กัน
1.มีข่าววางตัวนักแสดงผู้จะมารับบท "มิเชลล์" ไว้หลายต่อหลายคน ไล่มาตั้งแต่ เปิ้ล-จารุณี, แอน-สิเรียม, นาตาชา (ภรรยาชารีฟของเรานี่เอง), หมิว-ลลิตา, มาช่า, แหม่ม-คัทลียา, แคทรียา อิงลิช, ชมพู่-อารยา, ปู-ไปรยา, พิงค์กี้-สาวิกา รวมถึง อั้ม-พัชราภา ซึ่งหากพินิจดูแล้วแต่ละคนสวยเข้าขั้นกันทั้งนั้น แต่แล้วบทนี้ก็ตกมาอยู่ที่ ขวัญ-อุษามณี (ผู้ที่กำลังครองใจแฟนละครได้อย่างมากมายอยู่ในตอนนี้)
2.บท "ชารีฟ" เองก็ไม่น้อยหน้า มีนักแสดงหลายต่อหลายคนเคยถูกวางตัวไว้ไม่น้อยไปกว่านางเอกของเรื่องเลย อาทิ แซม-ยุรนันท์, พีท-ทองเจือ, วิลลี่, ป๋อ-ณัฐวุฒิ, อานัส, วี-วีรภาพ แต่แล้วบทนี้ก็ตกมาอยู่กับ ตุ้ย-ธีรภัทร์ (ผู้ที่กำลังทำให้สาวๆทั่วประเทศใจละลาย)
3.ทางดาราวิดีโอเคยเตรียมที่จะสร้างมาหลายต่อหลายครั้ง หาโลเกชั่นไว้มากมาย รวมถึงมีการนำทรายมาถมไว้ที่โรงถ่าย แต่สุดท้ายก็ต้องพับโครงการเก็บไปด้วยหลายๆปัจจัย
4.จนในที่สุดดาราวิดีโอประกาศเดินกล้องละครเรื่องนี้ในปี 2553 พร้อมกับการโดนวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของนักแสดงต่างๆนานา
5.ก่อนการบวงสรวงละครได้ไม่ถึงอาทิตย์ พ่อนางเอกสาวขวัญ-อุษามณี ก็ได้จากไปอย่างกระทันหันด้วยโรคประจำตัว แต่เจ้าตัวก็แสดงสปิริตมาร่วมพิธีบวงสรวงละคร
6.กำหนดการแรกที่ทีมงานนักแสดงจะบินไปถ่ายทำที่ประเทศอียิปต์คือเดือนกุมภาพันธ์ ของปี2554 แต่แล้วเกิดเหตุการณ์จราจลขึ้นที่ประเทศอียิปต์ทำให้ต้องมีการเลื่อนออกไป
7.แต่แล้วทางดาราวิดีโอก็ได้ฤกษ์บินไปถ่ายทำที่ประเทศอียิปต์ เป็นเวลากว่า2อาทิตย์ในเดือนกันยายน ปี2554 ขณะถ่ายทำที่ประเทศอียิปต์ก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น สร้างความหวาดกลัวให้กับทีมงานนักแสดง จึงทำให้ถ่ายได้ไม่ครบตามที่ตั้งเป้าไว้
8.ตอนแรกที่ทางดาราวิดีโอเลือกไปถ่ายทำในเดือนกุมภาพันธ์เพราะอากาศที่อียิปต์ไม่ร้อนมาก อุณหภูมิถือว่าเย็นสบาย แต่ในเมื่อไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ จึงต้องไปถ่ายทำกันในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นหน้าร้อนของที่นั่น อุณหภูมิอยู่ที่40-50องศาเลยทีเดียว
9.หลังจากกลับมาได้ยังไม่ทันหายร้อนจากที่นู่น ประเทศไทยของเราก็เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้ฉากที่ทีมงานทำไว้ที่โรงถ่ายลาดหลุมแก้วถูกน้ำท่วมไปด้วย ต้องลงทุนทำใหม่หมด การถ่ายทำก็หยุดชะงักไป
10.อย่างที่บอกไปว่าขณะถ่ายทำที่อียิปต์ ที่นั่นเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นทำให้ถ่ายทำได้ไม่ครบตามที่ตั้งเป้าไว้ จึงทำให้ทีมงานดาราวิดีโอต้องหาสถานที่ถ่ายทำฉากที่ยังไม่ได้ถ่าย และในประเทศไทยก็อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศของเราไม่มีทะเลทราย ทีมงานใช้เวลาในการหาสถานที่ถ่ายทำอยู่นาน จนเล็งกันว่าจะบินไปถ่ายทำกันที่ประเทศเวียดนาม แต่แล้วทีมงานก็ค้นพบสถานที่ที่คล้ายคลึงกับทะเลทรายในประเทศไทยนั่นก็คือ หาดหงส์ จ.อุบลราชธานี
11.แน่นอนว่างบประมาณของเรื่องบานปลายเกินกว่าทุนที่ทางช่องวางไว้ให้ ทำให้ผู้จัดต้องควักกระเป๋าตัวเองจ่ายต่อไปเพื่อจะทำละครเรื่องนี้ให้เสร็จจนได้ เรื่องของกำไรจึงไม่ต้องพูดถึง
12.เมื่อฟ้าจรดทรายได้ฤกษ์งามยามดีลงจอให้ได้ชมกันในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ทุกอย่างเหมือนจะกำลังไปได้ดี เพราะกระแสวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ออกมาในเชิงบวก แต่ก็เริ่มมีกระแสความไม่พอใจของพี่น้องชาวมุสลิม-อิสลาม ทำให้การฉายในตอนที่3ของฟ้าจรดทราย ได้ขึ้นข้อความประมาณว่าละครเรื่องนี้เป็นสิ่งสมมติ มิได้เจตนาดูถูกดูหมิ่นศาสนาแต่อย่างใด
13.หลังจากนั้นไม่นานผู้กำกับละคร-ภาพยนตร์ชื่อดังได้ออกมาโพสท์บนหน้าเฟสบุคของตัวเองถึงความไม่พอใจในละครเรื่องนี้ว่าไม่สมจริง ดูถูกคนดู ฯลฯ ทำให้แฟนละครออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตัวผู้กำกับชื่อดังไปต่างๆนานา
14.และกับประเด็นล่าสุดที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ออกข่าวโทรทัศน์ วิทยุ รวมถึงหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าละครเรื่องนี้มีประเด็นเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวอยู่บ้าง ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน(ในที่นี้จึงขอไม่พูดถึง) ทำให้มีมูลนิธิหนึ่งทำหนังสือให้สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง7 ยุติการออกอากาศของละครฟ้าจรดทราย
15.เนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้ ณ ตอนนี้ ทางช่อง7และbugaboo tv ลบคลิปทุกอย่างที่เกี่ยวกับละครฟ้าจรดทราย ทั้งละครย้อนหลังและข่าวโปรโมท (แล้วคนที่พลาดชมจะทำอย่างไร?)
16.และคงมีปัญหาอีกมากมายที่เราไม่รู้ไม่ทราบกันที่เป็นปัญหาภายใน
ที่พิมพ์มาจนถึงตรงนี้ เพราะอยากจะบอกว่ากว่าจะมาเป็น "ฟ้าจรดทราย" ในวันนี้ ทีมงานนักแสดงรวมถึงผู้จัด ต่างเหนื่อยกันมามาก กว่า3ปีที่ร่วมกันฟันฝ่า ต้องสูญเสียอะไรหลายๆอย่างไปเพื่อสร้างละครเรื่องนี้ขึ้นมาจนสำเร็จ การยุติการออกอากาศจึงดูเหมือนจะเป็นการดูรุนแรงไปเสียหน่อย ทุกปัญหามีทางออกหากเราหันหน้ามาคุยกัน และฝากถึงผู้วิพากษ์วิจารณ์ที่คิดแต่จะติอย่างเดียว ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ของคุณนั้นมันสามารถบั่นทอนจิตใจของคนทำงาน หรือจากข่าวที่เราเห็นๆกันการนินทาว่าร้ายผู้อื่นสามารถทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเลยทีเดียว เราเป็นคนไทยเหมือนกันอาศัยอยู่ในประเทศเดียวกันหากไม่รักกันไม่อุดหนุนกันแล้วใครจะมารักมาอุดหนุนเรา ความวุ่นวายตอนนี้ในบ้านเมืองเราก็มากพออยู่แล้ว อย่าให้ความบันเทิงของไทยต้องกลายเป็นปัญหาระดับชาติ มันไม่ได้ส่งผลดีต่อใคร หากมีอะไรที่มันผิดพลาดก็ติติงกันไปเพื่อผู้จัดจะได้นำไปแก้ไข แต่ก็ไม่ใช่แต่จะติติงอย่างเดียวจนไม่มองในส่วนดีๆของเขาเลย อย่าให้มันต้องกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีกเลยนะคะ แค่ตอนนี้วงการบันเทิงไทยก็ชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวันแล้ว
เส้นทางของ "ฟ้าจรดทราย" ไม่ได้ต่างไปกับความรักของ "มิเชลล์" และ "ชารีฟ" ที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยหลายๆอุปสรรคทำให้คนสองคนรักกัน ทำให้คนสองคนแข็งแกร่ง ลมหายใจที่เคยแผ่วกลับมาดังเดิมอีกครั้งเพราะความรัก เช่นเดียวกับฟ้าจรดทรายที่ต้องเจออุปสรรคมากมาย แต่ละครเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จ ได้ความรักความประทับใจจากแฟนละครมากมาย และชื่อของฟ้าจรดทรายจะอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป ....