เช้าวันเสาร์
ศักดาขับรถพาครอบครัวมาถึงบ้านใหม่ วันนี้ทุกคนจะย้ายเข้ามาอยู่เป็นวันแรก มันเป็นทาวน์เฮ้าส์สองชั้นจำนวนสี่หลัง ของเขาเป็นหลังที่สองจากซ้ายมือ เขาเจอบ้านหลังนี้ในงานโฮมเอกซ์โปร์ที่มักไปเดินอยู่เสมอ มันถูกขายทอดตลาดโดยธนาคารแห่งหนึ่งเพราะหลุดจำนอง ราคาไม่แพง พอที่กำลังทรัพย์ของเขากับเมียจะซื้อได้
ทีแรกอรทัยเมียของเขาคัดค้านด้วยเหตุที่มันไกลจากที่ทำงานของเธอและโรงเรียนของลูกๆ แต่ศักดาดึงดันจะซื้อ เขาอยากย้ายออกมาจากบ้านพ่อตาแม่ยายเต็มแก่ถึงได้เก็บหอมรอมริบทุกบาททุกสตางค์ บ้านราคานี้ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจออีก
ศักดาให้สัญญาว่าจะไปรับไปส่งลูกเมียทุกวันโดยไม่ปริปากบ่น หรือหากกลับกันเองก็ไม่อันตรายเพราะด้านหน้าติดถนนใหญ่เป็นหมู่บ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์หลังนี้อยู่ลึกเข้ามาในซอยโดยใช้ทางเข้าออกเดียวกันกับโครงการ
ศักดากับอรทัยมีลูกด้วยกันสองคน ลูกสาวคนโตชื่อผึ้งอายุสิบหกอยู่ชั้นมัธยมปีที่สี่ ลูกชายคนเล็กชื่อต่ออายุเก้าขวบอยู่ชั้นประถมสาม ศักดารักลูกชายคนนี้มากเพราะช่างพูดช่างประจบ
ทาวน์เฮ้าส์เบื้องหน้าสภาพกลางเก่ากลางใหม่ น่าจะสร้างมาสักสิบกว่าปี อรทัยแอบเบ้ปากเมื่อเห็นความคับแคบของมัน หลังซ้ายสุดดูสะอาดเรียบร้อย ปลูกดอกไม้ในกระถางกำลังบานสะพรั่ง หลังถัดจากบ้านของเขาไปทางขวาดูรกรุงรังข้าวของวางระเกะระกะ และหลังสุดท้ายเป็นบ้านว่างไม่มีคนอาศัย
หางตาของเขาสังเกตว่ามีคนแอบมองมาจากหน้าต่างบ้านหลังที่สาม เป็นหญิงชราผมขาวดวงตาขุ่นมัวอุ้มแมวสีดำในมือ เขากำลังจะยิ้มให้แต่นางสะบัดหน้าหนีไปก่อน
ผึ้งทำจมูกฟุดฟิด “กลิ่นอะไรเนี่ย?” กลิ่นฉุนกึกของมูลสัตว์โชยมา
“กลิ่นขี้แมวล่ะมั้ง บ้านนี้เลี้ยงแมว” ศักดาบุ้ยใบ้ไปทางบ้านหญิงชรา
“ต่อเกลียดแมว ต่อชอบหมา เราเลี้ยงหมากันนะ”
“ขี้หมาก็เหม็นพอๆกับขี้แมวนั่นแหละ” ผึ้งว่า
“ไม่เหม็น” ต่อเถียง ทั้งสองเริ่มตะเบ็งเสียงแข่งกัน
เจ้าของบ้านหลังแรกออกมาชะโงกมอง ยิ้มให้ ศักดายิ้มตอบ
“สวัสดีครับเพื่อนบ้านใหม่” ชายร่างท้วมหน้าตาผิวพรรณแบบคนจีนเปิดประตูรั้วออกมาทักทาย “ผมชื่อสุชาติ”
“สวัสดีครับ ผมชื่อศักดา นี่อรทัย”
สุชาติผงกหัวให้แต่อรทัยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอรู้สึกไม่ชอบหน้าเขา ที่จริงเธอไม่ชอบอะไรสักอย่างที่นี่ เธออยากจะกลับไปอยู่บ้านของพ่อแม่มากกว่า
“มากันกี่คนครับเนี่ย” สุชาติถาม
“สี่คนครับ” ศักดาตอบ “แล้วที่บ้านล่ะครับอยู่กันกี่คน”
“ผมอยู่กันสองคนผัวเมียเท่านั้น เมียผมสุขภาพไม่ดีเลยไม่มีลูกด้วยกัน”
“น่าเสียดายจังไม่งั้นต่อคงจะมีเพื่อน” ศักดาดึงลูกชายมาโอบไหล่
สุชาติยิ้ม “ผมขอตัวก่อนนะครับ มีอะไรให้ช่วยก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณครับ”
สุชาติเดินเข้าบ้านไป ศักดารู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมานิดนึง เพื่อนบ้านทางขวาอาจจะดูไม่เป็นมิตรแต่ทางซ้ายดูเป็นคนดี
“เอาล่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่า ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ”
เพื่อนบ้านจากนรก
ศักดาขับรถพาครอบครัวมาถึงบ้านใหม่ วันนี้ทุกคนจะย้ายเข้ามาอยู่เป็นวันแรก มันเป็นทาวน์เฮ้าส์สองชั้นจำนวนสี่หลัง ของเขาเป็นหลังที่สองจากซ้ายมือ เขาเจอบ้านหลังนี้ในงานโฮมเอกซ์โปร์ที่มักไปเดินอยู่เสมอ มันถูกขายทอดตลาดโดยธนาคารแห่งหนึ่งเพราะหลุดจำนอง ราคาไม่แพง พอที่กำลังทรัพย์ของเขากับเมียจะซื้อได้
ทีแรกอรทัยเมียของเขาคัดค้านด้วยเหตุที่มันไกลจากที่ทำงานของเธอและโรงเรียนของลูกๆ แต่ศักดาดึงดันจะซื้อ เขาอยากย้ายออกมาจากบ้านพ่อตาแม่ยายเต็มแก่ถึงได้เก็บหอมรอมริบทุกบาททุกสตางค์ บ้านราคานี้ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจออีก
ศักดาให้สัญญาว่าจะไปรับไปส่งลูกเมียทุกวันโดยไม่ปริปากบ่น หรือหากกลับกันเองก็ไม่อันตรายเพราะด้านหน้าติดถนนใหญ่เป็นหมู่บ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์หลังนี้อยู่ลึกเข้ามาในซอยโดยใช้ทางเข้าออกเดียวกันกับโครงการ
ศักดากับอรทัยมีลูกด้วยกันสองคน ลูกสาวคนโตชื่อผึ้งอายุสิบหกอยู่ชั้นมัธยมปีที่สี่ ลูกชายคนเล็กชื่อต่ออายุเก้าขวบอยู่ชั้นประถมสาม ศักดารักลูกชายคนนี้มากเพราะช่างพูดช่างประจบ
ทาวน์เฮ้าส์เบื้องหน้าสภาพกลางเก่ากลางใหม่ น่าจะสร้างมาสักสิบกว่าปี อรทัยแอบเบ้ปากเมื่อเห็นความคับแคบของมัน หลังซ้ายสุดดูสะอาดเรียบร้อย ปลูกดอกไม้ในกระถางกำลังบานสะพรั่ง หลังถัดจากบ้านของเขาไปทางขวาดูรกรุงรังข้าวของวางระเกะระกะ และหลังสุดท้ายเป็นบ้านว่างไม่มีคนอาศัย
หางตาของเขาสังเกตว่ามีคนแอบมองมาจากหน้าต่างบ้านหลังที่สาม เป็นหญิงชราผมขาวดวงตาขุ่นมัวอุ้มแมวสีดำในมือ เขากำลังจะยิ้มให้แต่นางสะบัดหน้าหนีไปก่อน
ผึ้งทำจมูกฟุดฟิด “กลิ่นอะไรเนี่ย?” กลิ่นฉุนกึกของมูลสัตว์โชยมา
“กลิ่นขี้แมวล่ะมั้ง บ้านนี้เลี้ยงแมว” ศักดาบุ้ยใบ้ไปทางบ้านหญิงชรา
“ต่อเกลียดแมว ต่อชอบหมา เราเลี้ยงหมากันนะ”
“ขี้หมาก็เหม็นพอๆกับขี้แมวนั่นแหละ” ผึ้งว่า
“ไม่เหม็น” ต่อเถียง ทั้งสองเริ่มตะเบ็งเสียงแข่งกัน
เจ้าของบ้านหลังแรกออกมาชะโงกมอง ยิ้มให้ ศักดายิ้มตอบ
“สวัสดีครับเพื่อนบ้านใหม่” ชายร่างท้วมหน้าตาผิวพรรณแบบคนจีนเปิดประตูรั้วออกมาทักทาย “ผมชื่อสุชาติ”
“สวัสดีครับ ผมชื่อศักดา นี่อรทัย”
สุชาติผงกหัวให้แต่อรทัยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอรู้สึกไม่ชอบหน้าเขา ที่จริงเธอไม่ชอบอะไรสักอย่างที่นี่ เธออยากจะกลับไปอยู่บ้านของพ่อแม่มากกว่า
“มากันกี่คนครับเนี่ย” สุชาติถาม
“สี่คนครับ” ศักดาตอบ “แล้วที่บ้านล่ะครับอยู่กันกี่คน”
“ผมอยู่กันสองคนผัวเมียเท่านั้น เมียผมสุขภาพไม่ดีเลยไม่มีลูกด้วยกัน”
“น่าเสียดายจังไม่งั้นต่อคงจะมีเพื่อน” ศักดาดึงลูกชายมาโอบไหล่
สุชาติยิ้ม “ผมขอตัวก่อนนะครับ มีอะไรให้ช่วยก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณครับ”
สุชาติเดินเข้าบ้านไป ศักดารู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมานิดนึง เพื่อนบ้านทางขวาอาจจะดูไม่เป็นมิตรแต่ทางซ้ายดูเป็นคนดี
“เอาล่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่า ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ”