ถ้าเป็นของที่เราอยากซื้อ พอลดราคาเราจะดีใจว่าซื้อได้ถูกลง
แต่ถ้าเป็นของที่เพิ่งซื้อได้ 3 วันลดราคา
รู้งี้....ทีหลังใครจะซื้อ
ถ้าเป็นของลดราคา หากไม่จำเป็นต้องซื้ออีก เราคงไม่ซื้อเพื่อมาถัว
แล้วถ้าเป็นหุ้นล่ะ เชื่อว่าทุกคนคงเคยเห็น เคยได้ยิน
เจ้าทุบ เจ้ากดราคา แล้วเจ้ามันไม่กลัวคนมาซื้อราคาถูกๆหรือแย่งหุ้นเหรอ
เจ้ามือ มันไม่ดูราคา มันดูแค่จำนวนหุ้นที่มีอยู่ในมือ ต่อให้ติดลบ มันก็คือตัวเลขทางบัญชี เพราะมันมีราคาในใจที่จะเอาไปขายอยู่แล้ว
ยิ่งลงเจ้ายิ่งเก็บ ถ้ามีคนแย่งหุ้นในมือ เอาลงอีก จนได้หุ้นคืนครบตามจำนวน
การซื้อทางเทคนิค จะซื้อเวลาที่เจ้าเอาหุ้นขึ้นไปขายแพงๆ
การซื้อทาง vi คือซื้อตอนที่เจ้ากดราคาหุ้น ตอนที่จะให้เม่าคายหุ้น
ไม่ว่าจะซื้อวิธีไหน จะชนะได้ ผู้ซื้อต้องกล้าและเอาชนะความกลัว
ซื้อทางเทคนิค ต้องกล้าที่จะซื้อแพง ไม่กลัวที่จะคัทเมื่อผิดทาง
ซื้อแบบ vi ต้องกล้าที่จะซื้อถูก ไม่กลัวหากมันลงไปอีก
แต่ไม่มีวิธีไหนบอกให้ซื้อตอนโลภ
ทั้ง 2 วิธีเป็นศิลป์ ไม่ใช่ศาสตร์ ที่จะมี solution ท่องจำแล้วหาคำตอบได้
เพราะฉะนั้น อย่าได้แปลกใจ หากพบเห็นจอมยุทธทั้ง 2 สาย วืด แล้วลูกศิษย์ออกมาข่มกันบ่อยๆ
หุ้นลงไม่ดีใจกันเหรอครับ
แต่ถ้าเป็นของที่เพิ่งซื้อได้ 3 วันลดราคา
รู้งี้....ทีหลังใครจะซื้อ
ถ้าเป็นของลดราคา หากไม่จำเป็นต้องซื้ออีก เราคงไม่ซื้อเพื่อมาถัว
แล้วถ้าเป็นหุ้นล่ะ เชื่อว่าทุกคนคงเคยเห็น เคยได้ยิน
เจ้าทุบ เจ้ากดราคา แล้วเจ้ามันไม่กลัวคนมาซื้อราคาถูกๆหรือแย่งหุ้นเหรอ
เจ้ามือ มันไม่ดูราคา มันดูแค่จำนวนหุ้นที่มีอยู่ในมือ ต่อให้ติดลบ มันก็คือตัวเลขทางบัญชี เพราะมันมีราคาในใจที่จะเอาไปขายอยู่แล้ว
ยิ่งลงเจ้ายิ่งเก็บ ถ้ามีคนแย่งหุ้นในมือ เอาลงอีก จนได้หุ้นคืนครบตามจำนวน
การซื้อทางเทคนิค จะซื้อเวลาที่เจ้าเอาหุ้นขึ้นไปขายแพงๆ
การซื้อทาง vi คือซื้อตอนที่เจ้ากดราคาหุ้น ตอนที่จะให้เม่าคายหุ้น
ไม่ว่าจะซื้อวิธีไหน จะชนะได้ ผู้ซื้อต้องกล้าและเอาชนะความกลัว
ซื้อทางเทคนิค ต้องกล้าที่จะซื้อแพง ไม่กลัวที่จะคัทเมื่อผิดทาง
ซื้อแบบ vi ต้องกล้าที่จะซื้อถูก ไม่กลัวหากมันลงไปอีก
แต่ไม่มีวิธีไหนบอกให้ซื้อตอนโลภ
ทั้ง 2 วิธีเป็นศิลป์ ไม่ใช่ศาสตร์ ที่จะมี solution ท่องจำแล้วหาคำตอบได้
เพราะฉะนั้น อย่าได้แปลกใจ หากพบเห็นจอมยุทธทั้ง 2 สาย วืด แล้วลูกศิษย์ออกมาข่มกันบ่อยๆ