ผมขอเชียร์ บุญยอดเต็มที่ อย่าถอยนะพี่ สู้ๆ อย่าให้เค้าว่าได้ว่า เราดีแต่พูด.
3 ส.ส.พท.ยกหลักฐาน ท้า‘บุญยอด’ลาออก หลังกล่าวหาบังคับเครื่องบินจอดดอนเมือง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ และนางอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่าส.ส.พรรคเพื่อไทย 3 คน ให้เครื่องบินของบริษัทการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 141 ลงจอดที่สนามบินดอนเมืองแทนการลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยนายสามารถ กล่าวยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมลำดับเหตุการณ์ว่า ในวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากพวกตนปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยได้ขึ้นเครื่องบินเที่ยวดังกล่าวกลับกรุงเทพฯในเวลา 20.40 น. ตามกำหนดการจะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 21.45 น. โดยมีครอบครัวมารอรับ แต่พอใกล้จะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ กัปตันแจ้งว่าการจราจรภาคพื้นดินหนาแน่นทำให้ต้องบินวนอยู่เป็นเวลานานเกือบ 10 นาที ระหว่างบินวนปรากฎว่ามีพายุทำให้เครื่องสั่น จากนั้นกัปตันแจ้งว่าจะนำเครื่องลงจอดและได้ปลดล้อเครื่องบินเตรียมลงจอดแล้ว แต่พอเครื่องกำลังจะลงกัปตันกลับเชิดหัวเครื่องขึ้น พร้อมแจ้งลูกเรือ และผู้โดยสารให้รับทราบว่ารันเวย์ไม่เคลียร์ อีกทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงกำลังจะหมดจำเป็นต้องบินไปเติมน้ำมันที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระหว่างนั้นมีผู้โดยสารคนหนึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าขอลงที่สนามบินดอนเมืองเลย เพราะมีเครื่องบินส่วนตัวอยู่ที่นั่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงประสานหารถมารับผู้โดยสารคนดังกล่าว เพราะได้แสดงความจำนงค์ไว้ ขณะที่พวกตนทั้ง 3 ยืนยันว่าจะไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิตามเดิม โดยเครื่องออกจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 23.30 น. และไปถึงสนามบินสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 24.10 น. ทั้งนี้สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมดได้จากเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน เพราะได้ลำดับเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น
นายสามารถ กล่าวต่อว่า อยากให้นายบุญยอด และกรรมาธิการกิจการสภานำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการกิจการสภาตามที่พูดไว้ เพื่อที่ตนจะได้ขอใช้อำนาจเรียกข้อมูลประกอบด้วย 1.บันทึกการบิน 2.เรียกเจ้าหน้าที่บริการบนเครื่องบินมาให้ข้อมูล 3.รายชื่อบุคคลที่ขอลงสนามบินดอนเมือง และ 4.ขอให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยืนยันในช่วงเวลาดังกล่าวพวกตนทั้ง 3 คน ได้อยู่ในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิจริง
“พวกผมอุตส่าห์สงบเสงี่ยมเพราะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมาถึงขนาดนี้พวกผมก็ต้องป้องกันตัวเองไม่อยากเป็นแพะรับบาป ขอย้ำว่านายบุญยอด อย่าถอย หากถอยผมจะยื่นญัตติด่วนในสภาว่าเหตุใดหอบังคับการบินจึงปล่อยให้กัปตันนำเครื่องลงในขณะที่ยังไม่พร้อม ซึ่งเป็นความเสี่ยงของผู้โดยสารทั้งลำ” นายสามารถ กล่าว
ด้านนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะไม่ฟ้องร้องต่อศาล แต่ขอท้านายบุญยอด ว่าถ้ามีหลักฐานจริงและนำมายืนยันได้พวกตนทั้ง 3 คน จะขอลาออกจากส.ส. และตนในฐานะที่เป็นรองประธานสภาฯ ด้วยก็จะขอลาออก และจะไม่กลับมาเหยียบกรุงเทพฯ อีก แต่ถ้าเรื่องที่นายบุญยอด พูดไม่เป็นความจริงก็ขอให้นายบุญยอด ลาออก พวกตนขอท้า 3 ต่อ 1 และขอย้ำว่านายบุญยอด อย่าถอย
ขอย้ำอีกคนนะพี่ อย่าถอย
ผมขอเชียร์ บุญยอดเต็มที่ อย่าถอยนะพี่ สู้ๆ
3 ส.ส.พท.ยกหลักฐาน ท้า‘บุญยอด’ลาออก หลังกล่าวหาบังคับเครื่องบินจอดดอนเมือง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ และนางอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่าส.ส.พรรคเพื่อไทย 3 คน ให้เครื่องบินของบริษัทการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 141 ลงจอดที่สนามบินดอนเมืองแทนการลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยนายสามารถ กล่าวยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมลำดับเหตุการณ์ว่า ในวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากพวกตนปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยได้ขึ้นเครื่องบินเที่ยวดังกล่าวกลับกรุงเทพฯในเวลา 20.40 น. ตามกำหนดการจะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 21.45 น. โดยมีครอบครัวมารอรับ แต่พอใกล้จะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ กัปตันแจ้งว่าการจราจรภาคพื้นดินหนาแน่นทำให้ต้องบินวนอยู่เป็นเวลานานเกือบ 10 นาที ระหว่างบินวนปรากฎว่ามีพายุทำให้เครื่องสั่น จากนั้นกัปตันแจ้งว่าจะนำเครื่องลงจอดและได้ปลดล้อเครื่องบินเตรียมลงจอดแล้ว แต่พอเครื่องกำลังจะลงกัปตันกลับเชิดหัวเครื่องขึ้น พร้อมแจ้งลูกเรือ และผู้โดยสารให้รับทราบว่ารันเวย์ไม่เคลียร์ อีกทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงกำลังจะหมดจำเป็นต้องบินไปเติมน้ำมันที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระหว่างนั้นมีผู้โดยสารคนหนึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าขอลงที่สนามบินดอนเมืองเลย เพราะมีเครื่องบินส่วนตัวอยู่ที่นั่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงประสานหารถมารับผู้โดยสารคนดังกล่าว เพราะได้แสดงความจำนงค์ไว้ ขณะที่พวกตนทั้ง 3 ยืนยันว่าจะไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิตามเดิม โดยเครื่องออกจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 23.30 น. และไปถึงสนามบินสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 24.10 น. ทั้งนี้สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมดได้จากเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน เพราะได้ลำดับเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น
นายสามารถ กล่าวต่อว่า อยากให้นายบุญยอด และกรรมาธิการกิจการสภานำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการกิจการสภาตามที่พูดไว้ เพื่อที่ตนจะได้ขอใช้อำนาจเรียกข้อมูลประกอบด้วย 1.บันทึกการบิน 2.เรียกเจ้าหน้าที่บริการบนเครื่องบินมาให้ข้อมูล 3.รายชื่อบุคคลที่ขอลงสนามบินดอนเมือง และ 4.ขอให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยืนยันในช่วงเวลาดังกล่าวพวกตนทั้ง 3 คน ได้อยู่ในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิจริง
“พวกผมอุตส่าห์สงบเสงี่ยมเพราะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมาถึงขนาดนี้พวกผมก็ต้องป้องกันตัวเองไม่อยากเป็นแพะรับบาป ขอย้ำว่านายบุญยอด อย่าถอย หากถอยผมจะยื่นญัตติด่วนในสภาว่าเหตุใดหอบังคับการบินจึงปล่อยให้กัปตันนำเครื่องลงในขณะที่ยังไม่พร้อม ซึ่งเป็นความเสี่ยงของผู้โดยสารทั้งลำ” นายสามารถ กล่าว
ด้านนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะไม่ฟ้องร้องต่อศาล แต่ขอท้านายบุญยอด ว่าถ้ามีหลักฐานจริงและนำมายืนยันได้พวกตนทั้ง 3 คน จะขอลาออกจากส.ส. และตนในฐานะที่เป็นรองประธานสภาฯ ด้วยก็จะขอลาออก และจะไม่กลับมาเหยียบกรุงเทพฯ อีก แต่ถ้าเรื่องที่นายบุญยอด พูดไม่เป็นความจริงก็ขอให้นายบุญยอด ลาออก พวกตนขอท้า 3 ต่อ 1 และขอย้ำว่านายบุญยอด อย่าถอย
ขอย้ำอีกคนนะพี่ อย่าถอย