เมื่อวานมาดามมีเรื่องราวพบเจอเหนื่อยล้าทั้งฝนตก แก่งแย่งกันเข้ารถไฟฟ้า เบียดเสียด ต้องแวะเอาโน๊ตบุคที่ไปส่งซ่อม ซื้อเข้าของ เยอะแยะ หนักและโรยรา รู้สึกเหนื่อยและเพลียมาก ถึงร่างกายจะกำยำแต่ความแข็งแรงไม่ได้แปรผันตรงกับร่างกายของมาดามเลย มาดามถึงคฤหาสน์ของมาดามนั่งลงด้วยสภาพท้อแท้ทั้งกายและใจในหลายเรื่องประเดประดังเข้ามาในความคิด และแล้ว ณ ห่วงเวลานั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์ โทรเข้ามาเจ้าค่ะ เป็นสายจากบุพการีของมาดาม พอมาดามรับสายก็มีคำถามว่า "ทำไรอยู่ เป็นไงบ้าง บลาๆๆๆ" แล้วก็เมาท์มอยเรื่องหลานๆๆ ทั้งสองคนของมาดาม เรื่องของ น้องชาย เรื่องของน้องสะใภ้ เรื่องของคนที่บ้าน ว่าแต่ละคนเป็นยังไงกันบ้าง พอเราได้รับรู้เรื่องราวของคนในครอบครัวว่าทุกคนมีความสุขบ้างไม่สุขบ้าง มาดามก็รู้สึกเต็มเจ้าค่ะ เต็มในที่นี้หมายถึงความรู้สึกสดชื่น กระปรี่กระเปร่า ความเหนื่อยล้า หงุดหงิด สติแตกที่รู้สึกอย่างล้นหลามก่อนหน้านี้หายไปปลิดทิ้งเลยเจ้าค่ะ จากเหตุการณ์นี้ทำให้มาดามได้แง่คิดส่วนตัวว่า ครอบครัวไม่ว่าจะใหญ่หรือจะเล็ก เมื่อเราได้พูดคุยได้พบเจอ เราจะมีความสุข และเติมพลังชีวิตในทุกด้านให้กับเราได้อย่างมหัศจรรย์ มาดามเลยอยากจะแชร์แง่คิดที่เกิดขขึ้นกับมาดาม ว่า เพื่อนๆๆ คนไหนที่รู้สึกท้อแท้หรือหมดกำลังใจ วิธีเติมพลังชีวิต เพียงยกหูโทรศัพท์ พูดคุยกับคนในครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเล่าปัญหาที่ของเราให้เขาฟังก็ได้หากตัวเราไม่สะดวกที่จะเล่าให้ฟัง แค่เราโทรไปคุยสัพเพเหระ เราก็จะได้ชาร์ตพลังชีวิตได้อย่างมหัสจรรย์แล้ว #รู้สึกอบอุ่น
how to เติมพลังชีวิต ยามเมื่อท้อแท้ ที่ได้ผลดีที่สุด-มาดามเทย