วันศุกร์สบายๆอย่างนี้ ไม่น่าจะมีอะไรดีไปกว่าหาอะไรแปลกๆทำ ก่อนที่วันหยุดจะมาถึงแล้วบอร์ดก็จะซบๆไป เพราะสมาชิกไปเที่ยวกันหมด
...พอวันจันทร์ก็ครึกครื้นกันต่อ เป็นวัฎจักร
ช่วงที่กำลังเงียบๆแบบนี้แหละเหมาะนัก ไม่ต้องแย่งกัน โดยเฉพาะรีวิวเอามันส์แบบนี้


มันเป็นกล้องอายุ 7ปี ย่างเข้าปีที่ 8 กับการใช้งาน (ใช้ทำงาน) เก็บภาพงานทั่วไปเป็นข้อมูลประกอบการทำงานของผม ซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานในโหมด ออโต้ จนย่างเข้าปีที่ 7 นั่นแหละ ถึงได้เริ่มใช้งานมันในแบบที่ ตัวมันเองก็คงอยากให้เป็น
สเปคคร่าวๆเท่าที่พอจะจำได้ มันมีสปีดชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/1250 กับช่วง iso 80-800 (แค่ 200 น้อยซ์ก็เริ่มแห่มากันราวกับ แขกมาร่วมงานบุญขึ้นบ้านใหม่) ชิพประมวลผลดิจิคทู ขนาดของเซนเซอร์ ....ช่างมันเถอะ อย่าไปสนใจมันเลย
มันเป็นกล้องที่เกือบจะถูกผมลืมทิ้งไว้ในห้องเก็บของถาวร เพียงเพราะมันมีฝุ่นในชุดเลนส์ 2-3 เม็ด ซึ่งถ้าหรี่รูรับแสงเกิน 7.1 ขึ้นไป ก็จะเห็นได้ชัดเจนจากค่ารูรับแสง 2.8 - 8
ครั้นเอาไปทิ้งไว้ให้ศูนย์เช็คดู ก็ได้คำตอบใน 1 อาทิตย์ให้หลังว่า ชุดเลนส์นี้รื้อทำความสะอาดไม่ได้ ต้องเบิกเปลี่ยนทั้งชุดประมาณ 5พันบาท.. อั๊ยย่ะ
...ขายเป็นมือสองตอนนี้ ยังไม่ได้เลยมั๊ง เก็บไว้ใช้งาน ขำๆดีกว่า...
เกือบ 8 ปี ใช้มา 5พันแช๊ะ เพิ่งมาเริ่มถ่ายแบบเน้นๆได้ ก็เพราะมาขลุกในห้องห้องนี่แหละ ไม่งั๊นมันต้องไปนอนในห้องเก็บของแน่ๆ ไม่งั๊นก็คงต้องถูกขายไปในราคาถูกๆ เพราะกล้องรุ่นใหม่ๆ 2-3 พัน สเปคก็ล้ำหน้ามันไปซะไกลละ
แต่ถ้ามองในอีกแง่ ....นี่แหละอุปกรณ์การซ้อมมือชั้นดี ในเวลาที่ตีบตันไอเดียไม่รู้จะพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกได้อย่างไร
ข้อจำกัดของมันจะทำให้เราต้องทบทวนตัวเอง และตรึกตรองให้มากขึ้นต่อการกดชัตเตอร์ 1 ครั้ง (เพราะมันกินแบตมากเหลือเกิน อัลคาไลน์ 4ก้อน ได้ไม่ถึง 100ภาพ)
จริงๆ ถ้าแสงดีๆมันก็ทำได้ไม่เลวนะ จะละลายฉากหลังก็ทำได้ง่ายๆ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่สนใจเข้า ห้องกล้องมาแอบดูน้าๆเค้าคุยกัน
....กด ออโต้ให้ตาย มันก็ไม่ได้ภาพแบบนี้
นี่ถ้ายังเข้าใจว่า อุปกรณ์ คือทุกอย่างของการได้ภาพที่ดี โดยไม่สนใจที่จะศึกษาหาความเข้าใจใส่ตัวบ้าง ผมก็คงได้ตีวงอยู่ในขอบเขตความคิดของตัวเองต่อไป ....ต้องขอบคุณห้องกล้องจริงๆ
* หมดเซตที่จะเล่าแล้ว ขอบคุณครับ ถ่าย jpeg ครอปเป็น 3:2 โหมดสี vivid
[CR] KlmB................กล้องเก่า ลืมไม่ลง ^^
...พอวันจันทร์ก็ครึกครื้นกันต่อ เป็นวัฎจักร
ช่วงที่กำลังเงียบๆแบบนี้แหละเหมาะนัก ไม่ต้องแย่งกัน โดยเฉพาะรีวิวเอามันส์แบบนี้
มันเป็นกล้องอายุ 7ปี ย่างเข้าปีที่ 8 กับการใช้งาน (ใช้ทำงาน) เก็บภาพงานทั่วไปเป็นข้อมูลประกอบการทำงานของผม ซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานในโหมด ออโต้ จนย่างเข้าปีที่ 7 นั่นแหละ ถึงได้เริ่มใช้งานมันในแบบที่ ตัวมันเองก็คงอยากให้เป็น
สเปคคร่าวๆเท่าที่พอจะจำได้ มันมีสปีดชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/1250 กับช่วง iso 80-800 (แค่ 200 น้อยซ์ก็เริ่มแห่มากันราวกับ แขกมาร่วมงานบุญขึ้นบ้านใหม่) ชิพประมวลผลดิจิคทู ขนาดของเซนเซอร์ ....ช่างมันเถอะ อย่าไปสนใจมันเลย
มันเป็นกล้องที่เกือบจะถูกผมลืมทิ้งไว้ในห้องเก็บของถาวร เพียงเพราะมันมีฝุ่นในชุดเลนส์ 2-3 เม็ด ซึ่งถ้าหรี่รูรับแสงเกิน 7.1 ขึ้นไป ก็จะเห็นได้ชัดเจนจากค่ารูรับแสง 2.8 - 8
ครั้นเอาไปทิ้งไว้ให้ศูนย์เช็คดู ก็ได้คำตอบใน 1 อาทิตย์ให้หลังว่า ชุดเลนส์นี้รื้อทำความสะอาดไม่ได้ ต้องเบิกเปลี่ยนทั้งชุดประมาณ 5พันบาท.. อั๊ยย่ะ
...ขายเป็นมือสองตอนนี้ ยังไม่ได้เลยมั๊ง เก็บไว้ใช้งาน ขำๆดีกว่า...
เกือบ 8 ปี ใช้มา 5พันแช๊ะ เพิ่งมาเริ่มถ่ายแบบเน้นๆได้ ก็เพราะมาขลุกในห้องห้องนี่แหละ ไม่งั๊นมันต้องไปนอนในห้องเก็บของแน่ๆ ไม่งั๊นก็คงต้องถูกขายไปในราคาถูกๆ เพราะกล้องรุ่นใหม่ๆ 2-3 พัน สเปคก็ล้ำหน้ามันไปซะไกลละ
แต่ถ้ามองในอีกแง่ ....นี่แหละอุปกรณ์การซ้อมมือชั้นดี ในเวลาที่ตีบตันไอเดียไม่รู้จะพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกได้อย่างไร
ข้อจำกัดของมันจะทำให้เราต้องทบทวนตัวเอง และตรึกตรองให้มากขึ้นต่อการกดชัตเตอร์ 1 ครั้ง (เพราะมันกินแบตมากเหลือเกิน อัลคาไลน์ 4ก้อน ได้ไม่ถึง 100ภาพ)
จริงๆ ถ้าแสงดีๆมันก็ทำได้ไม่เลวนะ จะละลายฉากหลังก็ทำได้ง่ายๆ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่สนใจเข้า ห้องกล้องมาแอบดูน้าๆเค้าคุยกัน
....กด ออโต้ให้ตาย มันก็ไม่ได้ภาพแบบนี้
นี่ถ้ายังเข้าใจว่า อุปกรณ์ คือทุกอย่างของการได้ภาพที่ดี โดยไม่สนใจที่จะศึกษาหาความเข้าใจใส่ตัวบ้าง ผมก็คงได้ตีวงอยู่ในขอบเขตความคิดของตัวเองต่อไป ....ต้องขอบคุณห้องกล้องจริงๆ
* หมดเซตที่จะเล่าแล้ว ขอบคุณครับ ถ่าย jpeg ครอปเป็น 3:2 โหมดสี vivid