การผลิตจีน ส่งสัญญาณเติบโตแข็งแกร่ง ผิดคาดการณ์
ผลการสำรวจของ HSBC สะท้อนสัญญาณภาคการผลิตของจีนในเดือนนี้ พลิกกลับมาเติบโตขึ้นอย่างผิดคาด ภายหลังจากเดือนก่อนหน้านี้ ส่งสัญญาณของการตกต่ำมากที่สุดในรอบ 11 เดือน กลายเป็นข่าวดีของเอเชีย
HCBC และสำนักวิจัยเศรษกิจ มาร์กิต รีเสิร์ช รายงานในวันนี้(22 สิงหาคม 56)ถึงผลการสำรวจธุรกรรมการจัดซื้อภาคการผลิตสินค้าในเดือนสิงหาคม เพื่อจัดทำดัชนีการจัดซื้อ(PMI)ปรากฏว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตสินค้าของจีน ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.1 จากเดือนก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ระดับ 47.7
นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตสินค้าของจีนจากการสำรวจของ HSBC ขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 50
รวมทั้งยังเติบโตสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ค่อนข้างจะมากทีเดียว เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า แม้จะเติบโตขึ้นแต่ดัชนีก็จะยังคงต่ำกว่าระดับ 50 อันจะส่งสัญญาณถึงการหดตัวอย่างต่อเนื่อง
(วิธีการอ่านดัชนี PMI ก็คือ หากอยู่ระดับต่ำกว่า 50 จะส่งสัญญาณถึงการถดถอย แต่หากยืนอยู่เหนือระดับ 50 จะส่งสัญญาณถึงการเติบโตขึ้น)
ดังนั้น จากรายงานผลการสำรวจดังกล่าว จึงอ่านได้ว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ ภาคการผลิตสินค้าของจีนจะกลับมามีอัตราการเติบโตอีกครั้ง ผิดกับครั้งก่อนหน้าที่ส่งสัญญาณของการหดตัวอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีลดลงไปทำระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 เดือน
เคน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ บีเอ็น พี พาริบาส์ ในปักกิ่ง กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนนับแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา แสดงสัญญาณให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
“ความต้องการซื้อภายในประเทศแข็งแกร่งพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศจีน โตระดับ 7.5% ตามเป้าหมายของรัฐบาลได้”เคน ปิง ว่า
ดัชนี PMI ซึ่งสะท้อนสัญญาณของการกลับมาเติบโตกว่าเดือนก่อนหน้าค่อนข้างมาก สอดคล้องกับรายงานข้อมูลของทางการจีนก่อนหน้านี้ ที่ออกมาระบุว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนเมื่อเดือนกรกฏาคม เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ รวมทั้งการนำเข้าในเดือนกรกฏาคมที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการฯ จากการรายข้อมูลเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาของทางการจีน
ดังนั้น ข้อมูลดังกล่าวที่เปิดเผยออกมาในวันนี้ ได้รับความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ในจีนตรงกันว่า ความวิตกต่อภาวการณ์ชะลอตัวอย่างรุนแรงของจีนที่วิตกกันมากเมื่อเดือนหน้านี้ กำลังจะผ่อนคลายไป
อย่างไรก็ตาม จีนมีความเสี่ยงกับภาวะความไม่เชื่อมั่นในด้านการเงินอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนได้สั่งให้มีการตรวจสอบทั้งหนี้สินและสถานะทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นทั้งหมดในสองปีที่ผ่านมา
ปล. ก็หวังว่าจีนจะฟื้นตัวโดยเร็ว เพื่อชะลอการเติบโตของเมกา คนเมกาจะได้ตกงานเยอะๆ เพราะเฟดกังวลเรื่องตัวเลขการจ้างงานมากที่สุด ส่วนชาวโลกก็กังวลเฟดมากที่สุดเช่นกันครับ
การผลิตจีน ส่งสัญญาณเติบโตแข็งแกร่ง ผิดคาดการณ์
การผลิตจีน ส่งสัญญาณเติบโตแข็งแกร่ง ผิดคาดการณ์
ผลการสำรวจของ HSBC สะท้อนสัญญาณภาคการผลิตของจีนในเดือนนี้ พลิกกลับมาเติบโตขึ้นอย่างผิดคาด ภายหลังจากเดือนก่อนหน้านี้ ส่งสัญญาณของการตกต่ำมากที่สุดในรอบ 11 เดือน กลายเป็นข่าวดีของเอเชีย
HCBC และสำนักวิจัยเศรษกิจ มาร์กิต รีเสิร์ช รายงานในวันนี้(22 สิงหาคม 56)ถึงผลการสำรวจธุรกรรมการจัดซื้อภาคการผลิตสินค้าในเดือนสิงหาคม เพื่อจัดทำดัชนีการจัดซื้อ(PMI)ปรากฏว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตสินค้าของจีน ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.1 จากเดือนก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ระดับ 47.7
นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตสินค้าของจีนจากการสำรวจของ HSBC ขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 50
รวมทั้งยังเติบโตสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ค่อนข้างจะมากทีเดียว เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า แม้จะเติบโตขึ้นแต่ดัชนีก็จะยังคงต่ำกว่าระดับ 50 อันจะส่งสัญญาณถึงการหดตัวอย่างต่อเนื่อง
(วิธีการอ่านดัชนี PMI ก็คือ หากอยู่ระดับต่ำกว่า 50 จะส่งสัญญาณถึงการถดถอย แต่หากยืนอยู่เหนือระดับ 50 จะส่งสัญญาณถึงการเติบโตขึ้น)
ดังนั้น จากรายงานผลการสำรวจดังกล่าว จึงอ่านได้ว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ ภาคการผลิตสินค้าของจีนจะกลับมามีอัตราการเติบโตอีกครั้ง ผิดกับครั้งก่อนหน้าที่ส่งสัญญาณของการหดตัวอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีลดลงไปทำระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 เดือน
เคน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ บีเอ็น พี พาริบาส์ ในปักกิ่ง กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนนับแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา แสดงสัญญาณให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
“ความต้องการซื้อภายในประเทศแข็งแกร่งพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศจีน โตระดับ 7.5% ตามเป้าหมายของรัฐบาลได้”เคน ปิง ว่า
ดัชนี PMI ซึ่งสะท้อนสัญญาณของการกลับมาเติบโตกว่าเดือนก่อนหน้าค่อนข้างมาก สอดคล้องกับรายงานข้อมูลของทางการจีนก่อนหน้านี้ ที่ออกมาระบุว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนเมื่อเดือนกรกฏาคม เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ รวมทั้งการนำเข้าในเดือนกรกฏาคมที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการฯ จากการรายข้อมูลเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาของทางการจีน
ดังนั้น ข้อมูลดังกล่าวที่เปิดเผยออกมาในวันนี้ ได้รับความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ในจีนตรงกันว่า ความวิตกต่อภาวการณ์ชะลอตัวอย่างรุนแรงของจีนที่วิตกกันมากเมื่อเดือนหน้านี้ กำลังจะผ่อนคลายไป
อย่างไรก็ตาม จีนมีความเสี่ยงกับภาวะความไม่เชื่อมั่นในด้านการเงินอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนได้สั่งให้มีการตรวจสอบทั้งหนี้สินและสถานะทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นทั้งหมดในสองปีที่ผ่านมา
ปล. ก็หวังว่าจีนจะฟื้นตัวโดยเร็ว เพื่อชะลอการเติบโตของเมกา คนเมกาจะได้ตกงานเยอะๆ เพราะเฟดกังวลเรื่องตัวเลขการจ้างงานมากที่สุด ส่วนชาวโลกก็กังวลเฟดมากที่สุดเช่นกันครับ