จากนวนิยายเรื่องแรกในชีวิตนักอ่านที่แอบแม่ซื้อ จนวันนี้ก็เกือบสิบปีแล้วที่ "ฟ้าจรดทราย" มาอยู่ในหัวใจ
หลังจากที่อ่านจบ ดิฉันก็เฝ้ารอมาตลอดว่าจะมีใครไหมที่จะชุบชีวิตของ "ชารีฟ" และ "มิเชลล์" ให้มีตัวตน ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือละครหลังข่าวก็ตาม เพราะดิฉันเป็นคนบ้านนอก ไม่ค่อยพิศมัยละครเวทีเท่าไหร่นัก แต่วันหนึ่งฝันของดิฉันก็เป็นจริง...
ข่าวการสร้างละคร "ฟ้าจรดทราย" โดยช่อง 7 ทำให้ดิฉันคิดอยู่ในใจลึกๆว่า กล้าเหรอ? การสร้างจิตนาการอันสวยงามในความคิดของนักอ่านแต่ละคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ดิฉันยอมรับว่าดูถูก เพราะนานมาแล้วที่เลิกดูละครช่องนี้เนื่องจากโปรดักชั่นไม่ถูกใจ และบอกตรงๆเลยว่าไม่ไว้ใจ และไม่เชื่อว่าช่อง 7 จะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง ตั้งแต่ละครฟอร์มยักษ์เรื่อง ฟ้าใหม่ จบลง
ดิฉันติดตามข่าวตั้งแต่การวางตัวละคร ดูคนนั้นคนนี้เถียงกันว่าใครจะได้บทนำไป สุดท้ายขวัญ อุษามณีก็ได้เป็นมิเชลล์ซึ่งตรงใจดิฉันมากที่สุด แต่ชารีฟคือคุณตุ้ย ธีรภัทรซึ่งในใจดิฉันหวังให้เป็นคุณพีท ทองเจือ ด้วยความชอบส่วนตัว แต่ก็ต้องรอดูต่อไปว่าจะหมู่หรือจ่า
ผ่านไปกว่าสามปีที่ดิฉันได้แต่ติดตามข่าว แค่รูปเบื้องหลังกองถ่ายออกมาก็ดีใจแล้ว ยิ่งปล่อยตัวอย่างออกมายิ่งนั่งไม่ติด ลุ้นตัวโก่งว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ในที่สุดวันออกอากาศจริงดิฉันก็ต้องมานั่งร้องไห้เมื่อเพลงละครขึ้น คุณเคยร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลไหมคะ ดิฉันเป็นแบบนั้นค่ะ ภาษานิยายต้องเรียกว่า น้ำตาไหลพราก กันเลยทีเดียว มันดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไง เราจะได้เห็นจินตนาการของเราออกมาโลดแล่นบนจอแก้วแล้ว และนอกจากนั้นยังชื่นชอบการออกแบบตัวหนังสือที่เป็นชื่อเรื่องอย่างมาก ไม่รู้ว่าเขาเรียกอะไร โลโก้รึเปล่า? แต่นั่นแหละ มันดูยิ่งใหญ่อลังการ สื่อสารความเป็นทะเลทรายได้เป็นอย่างดี และเหมือนถูกดึงให้เข้าไปอยู่ในนั้นได้เพียงแค่คำสามคำ
ดิฉันไม่ขอวิจารณ์ในสิ่งที่เรื่องนี้ขาดไปหรือเกินไป เพราะแค่กล้าลงทุนทำก็ถือว่าขอบคุณมากแล้ว อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ารายละเอียดของบทประพันธ์นี้มีมากเหลือเกิน ทำได้ดีเท่านี้ดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ มันเป็นไพรัชนิยาย และเราไม่ใช่ฮอลลีวูดที่จะลงทุนเป็นหลายร้อยล้านเพื่อเก็บรายละเอียดให้ได้ทุกอย่าง และดิฉันก็ไม่ได้อวยแต่อย่างใด เพราะบางฉากก็ยอมรับว่าผิดหวังจริงๆ นั่นก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับผู้สร้างเขาไป แต่ที่ดิฉันอยากจะบอกก็คือ ขอบคุณที่ทำ ขอบคุณที่น้อมรับคำติชมและพยายามแก้ไขเพื่อให้ถูกใจคนดูมากที่สุด ไม่เพิกเฉยต่อคำตำหนิและโจมตีต่างๆนานา วันนี้ความเหนื่อยยากของทีมผู้ผลิตละครเรื่องนี้ไม่สูญเปล่าแล้วนะคะ คุณทำให้ดิฉันศรัทธาในความพยายามของคุณค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เมียชารีฟ
"ฟ้าจรดทราย" ความตื้นตันใจจากแฟนนิยายคนหนึ่ง
หลังจากที่อ่านจบ ดิฉันก็เฝ้ารอมาตลอดว่าจะมีใครไหมที่จะชุบชีวิตของ "ชารีฟ" และ "มิเชลล์" ให้มีตัวตน ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือละครหลังข่าวก็ตาม เพราะดิฉันเป็นคนบ้านนอก ไม่ค่อยพิศมัยละครเวทีเท่าไหร่นัก แต่วันหนึ่งฝันของดิฉันก็เป็นจริง...
ข่าวการสร้างละคร "ฟ้าจรดทราย" โดยช่อง 7 ทำให้ดิฉันคิดอยู่ในใจลึกๆว่า กล้าเหรอ? การสร้างจิตนาการอันสวยงามในความคิดของนักอ่านแต่ละคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ดิฉันยอมรับว่าดูถูก เพราะนานมาแล้วที่เลิกดูละครช่องนี้เนื่องจากโปรดักชั่นไม่ถูกใจ และบอกตรงๆเลยว่าไม่ไว้ใจ และไม่เชื่อว่าช่อง 7 จะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง ตั้งแต่ละครฟอร์มยักษ์เรื่อง ฟ้าใหม่ จบลง
ดิฉันติดตามข่าวตั้งแต่การวางตัวละคร ดูคนนั้นคนนี้เถียงกันว่าใครจะได้บทนำไป สุดท้ายขวัญ อุษามณีก็ได้เป็นมิเชลล์ซึ่งตรงใจดิฉันมากที่สุด แต่ชารีฟคือคุณตุ้ย ธีรภัทรซึ่งในใจดิฉันหวังให้เป็นคุณพีท ทองเจือ ด้วยความชอบส่วนตัว แต่ก็ต้องรอดูต่อไปว่าจะหมู่หรือจ่า
ผ่านไปกว่าสามปีที่ดิฉันได้แต่ติดตามข่าว แค่รูปเบื้องหลังกองถ่ายออกมาก็ดีใจแล้ว ยิ่งปล่อยตัวอย่างออกมายิ่งนั่งไม่ติด ลุ้นตัวโก่งว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ในที่สุดวันออกอากาศจริงดิฉันก็ต้องมานั่งร้องไห้เมื่อเพลงละครขึ้น คุณเคยร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลไหมคะ ดิฉันเป็นแบบนั้นค่ะ ภาษานิยายต้องเรียกว่า น้ำตาไหลพราก กันเลยทีเดียว มันดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไง เราจะได้เห็นจินตนาการของเราออกมาโลดแล่นบนจอแก้วแล้ว และนอกจากนั้นยังชื่นชอบการออกแบบตัวหนังสือที่เป็นชื่อเรื่องอย่างมาก ไม่รู้ว่าเขาเรียกอะไร โลโก้รึเปล่า? แต่นั่นแหละ มันดูยิ่งใหญ่อลังการ สื่อสารความเป็นทะเลทรายได้เป็นอย่างดี และเหมือนถูกดึงให้เข้าไปอยู่ในนั้นได้เพียงแค่คำสามคำ
ดิฉันไม่ขอวิจารณ์ในสิ่งที่เรื่องนี้ขาดไปหรือเกินไป เพราะแค่กล้าลงทุนทำก็ถือว่าขอบคุณมากแล้ว อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ารายละเอียดของบทประพันธ์นี้มีมากเหลือเกิน ทำได้ดีเท่านี้ดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ มันเป็นไพรัชนิยาย และเราไม่ใช่ฮอลลีวูดที่จะลงทุนเป็นหลายร้อยล้านเพื่อเก็บรายละเอียดให้ได้ทุกอย่าง และดิฉันก็ไม่ได้อวยแต่อย่างใด เพราะบางฉากก็ยอมรับว่าผิดหวังจริงๆ นั่นก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับผู้สร้างเขาไป แต่ที่ดิฉันอยากจะบอกก็คือ ขอบคุณที่ทำ ขอบคุณที่น้อมรับคำติชมและพยายามแก้ไขเพื่อให้ถูกใจคนดูมากที่สุด ไม่เพิกเฉยต่อคำตำหนิและโจมตีต่างๆนานา วันนี้ความเหนื่อยยากของทีมผู้ผลิตละครเรื่องนี้ไม่สูญเปล่าแล้วนะคะ คุณทำให้ดิฉันศรัทธาในความพยายามของคุณค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เมียชารีฟ