[SR] เฉลิมกรุงหนังควบ: Rudimental อัลบั้ม Home / Snoop Lion – Reincarnated \\\ บอยแบนด์DnB VS สุนัขแปลงร่าง

กระทู้รีวิว
นั่งอ่านกันเล่นๆเพลินๆนะครับ เอามาฝากเพื่อนห้องเฉลิมกรุงถ้าเผื่อใครอยากหาอะไรเวิ่นเว้อไร้สาระอ่านเพลินๆอยู่
ขอบคุณเว็บyou2playที่เอื้อเฟื้อข้อมูล(รีวิวผมเอง)มาฝาก
เอาหนุ่มๆวงรูไปอ่านกันก่อน
===============================

Rudimental – Home : ศิลปิน Drum and Bass ผู้คืนชีพการฟิวชั่นระหว่างsoulกับ electronic music



     วงนี้เป็นหนุ่มๆนักแต่งเพลง ดีเจ และผู้โปรดิวซ์ชาวบริติช .. จากลันดั้นตะวันออก แน่นอนว่า UK เค้าฟังเพลงกันยังไง น่าจะพอเดากลิ่นอายออกกันบ้างแล้ว และเชื่อว่า วงนี้น่าจะเป็นที่สนใจพอสมควรสำหรับนักฟังเพลงหูฉมัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทพหูฟัง และ ดีเจ ทั้งหลายแหละเพราะแนวเพลงของพวกเขามันเอื้อให้คนในแวดวงนี้ได้ศึกษางานและเสพซาวด์ดีๆไปพร้อมๆกันเลยทีเดียว กับหนุ่มๆทั้ง 4 Piers Agget  , Kesi Dryden ,Amir Amor และคนสุดท้าย DJ Locksmith .. สาเหตุที่ผมกล่าวถึงtargetเหล่านั้น ก็เพราะว่า Rudimental 4 คนนี้คือหนุ่มบริติชผู้เป็นกลุ่มศิลปิน Drum and Bass หรือจะเรียกย่อสุดๆเป็น DnB ก็เข้าใจได้ตรงกัน แนวดนตรีนี้อาจจะไม่ได้กระจายกว้างขวางในบ้านเรามากนักในวงกว้าง แต่ในหมู่ดีเจและคนที่สนใจงานประเภทนี้ น่าจะคุ้นเคยกันดี  สำหรับ DnB นั้น เอาง่ายๆมันเป็นเพลงแดนซ์ชนิดหนึ่งแหละแต่สไตล์ก็จะค่อนข้างเก่าหน่อย เก่าในที่นี้หมายความว่า มันถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงปลาย 80s ดังนั้น ตัวเพลงมันจะมีกลิ่นอะไรบางอย่างที่ออก retro นิดหน่อย ไม่หวือหวามากนัก  จุดเด่นของ DnB นั้นจะมีจุดสังเกตที่เป็นพื้นฐานหลักอยู่อย่างนั่นก็คือ 160-180 bpm เป็นbreak beatแบบที่มีความเร็วมาก ..”เร็วจนกระเดื่องตามสแนร์ไม่ทัน”(ตัวเบรกบีทจะแค่ 110-130 จะกลางๆไม่ถึงกับเร็วมาก)

        แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามัน 160-180 bpm (นั่นน่ะสิ) อันนี้ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน แต่มันค่อนข้างเร็วน่ะ อย่าง dubstep ก็จะช้าๆหน่วงๆหน่อย ส่วน break beat มันจะเป็นจังหวะขัดๆที่เร็วขึ้นมาอีกนิด แต่ไอ้เจ้า DnB นี่แหละ ผมว่าเร็วสุด  นอกจากความเร็วแล้ว ก็ยังมีไลน์เบสที่เข้มแข็งอีกอย่างหนึ่ง  ทั้งนี้ทั้งนั้น ไอ้เจ้า DnB นี่จะเป็นส่วนขยายของแนวเพลง jungle อีกทีนึง คือถ้า jungle คือ break beat บริสุทธิ์ เจ้า DnB ของพวกเฮีย Rudimental นั้นก็จะเป็น break beat แบบที่มีรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาเช่น ท่อนแยกที่เป็นพวก Jazz หรือ Soul แบบของ Rudimental นี้ (มันก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าลองฟังท่อนที่เมโลดี้สวยๆและได้อารมณ์แจ๊สโซลดูในเพลง จะรู้)   สรุปได้ง่ายๆแค่นั้นแหละครับไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าได้ฟังงานอัลบั้ม Home นี้แล้ว เดี๋ยวก็จะคุ้นๆไปเองว่า ไอ้ DnB ที่ว่าน่ะ มันประมาณไหน เร็วประมาณไหน กลิ่นอายเป็นไงบ้าง


ตัวของหนุ่มๆ Rudimental เองนั้นมีเป้าหมายที่จะนำ Soul แบบเก่าๆที่มีความคลาสสิค ความเรทโทรในตัวอยู่ กลับเข้ามาฟิวชั่น  .. ฮ่ะ!!!  กับดนตรีพวก Electronica ที่เป็นซาวด์สังเคราะห์ทั้งหลายอีกครั้ง และก็ผลิตออกมาเป็นผลงานอัลบั้ม Home นี้ในที่สุด ซึ่งพวกเฮียๆแกก็ได้ทำงานออกมาเป็นแผ่นตัดซิงเกิลก่อนแล้วเรียบร้อยตั้งแต่งานก่อนหน้านี้อย่าง Deep in the valley และ Speeding  ในปี 2011 มาแล้ว ซึ่งก็ได้ผ่านอุปสรรคมาพอสมควร แม้จะออกงานที่มีใน home มาด้วยอย่างเพลง Spoon ก็ยังไม่กระเตื้องเท่าไหร่สำหรับกระแส แต่ก็ได้แอร์ไทม์ในการเปิดในวิทยุไปพอสมควร  และหลังจากนั้น งานเดบิวต์ระดับมหากาฬก็ได้ปล่อยออกมา และผมเชื่อจับใจจริงๆว่า ทำไมเพลงนี้มันถึงดังเปรี้ยงขนาดนั้น เพราะขนาดผมเป็นไอ้ง่อยที่ไม่ใช่คอ DnB ผมยังชอบเลยตั้งแต่ฟังครั้งแรก นั่นก็คือเพลง… ไม่เล่าละกัน 5555 เอาไว้พูดตอนรีวิวแนะนำเพลง นั่นแหละครับ งานนี้ขึ้นอันดับหนึ่ง UK Singles Chart เลยและในที่สุด ก็ทยอยๆปล่อยเพลง และได้ออก Debut Studio Album สำเร็จในที่สุดกับงานที่ชื่อ Home ชุดนี้


สำหรับเพลงแนะนำที่ผมอยากจะลองให้ท่านผู้อ่านได้สัมผัสกับวงนี้ เพลงแรกสุดเลย ก็คงต้องเป็นเพลงที่เปลี่ยนชีวิตพวกเขานั่นแหละครับ นั่นก็คือเพลง Feel the love feat. John Newman  งานนี้แหละ เปรี้ยงเลย และไม่ต้องแปลกใจ เพราะเพลงมันเจ๋งขนาดนั้น  ด้วยความเร็วระดับคีอานูรีฟส์วิ่งตามไม่ทัน .. สปีดแมนมีอาย  ยูเซนโบลท์ชิดซ้าย  เจ็ทโด้ชิดขวา .. พร้อมด้วยเมโลดี้ท่อนแยกเจ๋งๆ กับความเป็นโซลที่ใส่เข้ามา และส่วนที่ดีของอัลบั้มนี้ ก็อยู่ที่ solo เพลงนี้แหละครับ ท่อนที่เป็นพาร์ทเครื่องเป่านาทีที่2  ผมฟังแล้วฟินน้ำตาแตกเลย  มันคลาสสิคมากๆ ฟังแล้วเหมือนได้ย้อนกลับไปยุค 80 ตอนปลายเลยละ (ตอนนั้นผม 5 ขวบ วะฮะฮะฮ่า แล้วจะเล่าทำไม?)  เรทโทรดีครับชอบอารมณ์แบบนี้มากๆ  เพลงนี้โดดเด่นในทุกๆส่วนจริงๆ ถ้าจะให้คะแนน ก็คงคะแนนเต็ม10 เป็นเพลงเชิดหน้าชูตาของวงนี้ได้เด็ดมากๆจริงๆ ซาวด์นี่ไม่ต้องพูดถึง มีลูกเล่นแบบ dubstep เข้ามาแจมในเพลงนิดหน่อย (มันก็สไตล์เดียวกันอย่างที่บอก แค่bpmที่ต่างกันเท่านั้น) เด็ดขาดยอดเยี่ยมครับงานเพลงนี้ MVก็น่าสนใจ ได้ดูน้องม้าน่ารักๆที่ทรงพลัง กับพลังชีวิตที่ระอุของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ MVวงนี้ก็น่าสนใจหลายตัวเลยจากที่ไล่ดูมา และแน่นอน Feel the love กับ 24ล้านวิว ไม่เคยหลอกใคร!

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


         เพลงถัดมา ขอพูดถึงเพลง Right Here ft. Foxes เพลงนี้ก็น่าสนใจในส่วนของตัวดนตรีที่ค่อนข้างเข้มแข็งและทรงพลังมากกว่าเพลงอื่นๆในอัลบั้ม ฟังแล้วอะดรีนาลีนระเบิดแตกซ่านเลย ด้วยบีทระดับความเร็วพอๆกับ Feel the love เพลงนี้เป็นเสียงผู้หญิงทำให้มันมีความอ่อนนุ่มที่ปุ่มอยู่กับความเร็วแรงในเพลง แต่ที่น่าสนใจคือ ท่อนsolo instrumental ช่วงกลางเพลง เพลงนี้อัดรายละเอียดลูกเล่นมาสะใจมาก ฟังเพลงนี้ห้ามพลาดsoloซาวด์นี้เลย เด็ดจริงๆ  และ MV ก็น่าสนใจมากเช่นกัน แม้จะไม่ได้ขึ้นไว้ชัดเจน แต่อย่างที่เราทราบๆกัน ในประเทศไทยเรามีวัดที่เลี้ยงเสืออยู่ นั่นก็คือ วัดป่าหลวงตามหาบัว ที่ อ. ไทรโยค ของจังหวัด กาญนะจ๊ะบุรี .. กาญจนบุรี นั่นแหละครับ และคงใช่เพราะผมแอบเห็นป้ายที่มีภาษาไทยอยู่ คงไม่พลาด มีการปูเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับเพลงดี ทำให้ภาพในMV ที่เป็นความแข็งแกร่งของยิ้มับความแข็งแกร่งของยอดมนุษย์เส้าหลิน..(เมืองไทยตรงไหนฟะ!!?) ยิ่งsupportกันและกันเข้าไปใหญ่ ยอดเยี่ยมครับ พี่คุริลิน!!!

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


Hell Could Freeze ft. Angel Haze อินโทรเริ่มมาก็โคตรจะโซลเลย เพลงนี้ไม่ได้เป็นเพลงโปรโมทหรืออะไรเลยแต่เป็นเพลงที่ผู้เขียนชอบส่วนตัวและอยากนำมาแปะเผื่อแนะนำกัน เพลงนี้เป็น DnB ที่แร็พได้โคตรมันส์เลยพับผ่าสิ!!! Angel Hazeแกเป็นสาวผิวสีมนุษย์แร็พเปอร์อเมริกัน ซึ่งไม่ผิดหวังกับสิ่งที่เธอทำในเพลงนี้ไว้  มันสะใจจริงๆต้องนั่งฟังกันครับ  นอกจากนี้เพลงยังมี space ให้หายใจหายคอกันด้วยไม่ใช่อัดกันเต็มจนหมด 4.40 นาที  และแน่นอน ซาวด์ยังดีเช่นเดิม

         Not giving in feat. John Newman & Alex Clare เพลงนี้ก็เด็ด ผมให้คะแนนโดยรวมเพลงนี้เต็ม10 เหมือน Feel the Love เลยทีเดียว เพราะดนตรีดีมากๆ  ชอบชุดเมโลดี้หลักของดนตรีเพลงนี้มากๆ  และแน่นอน ด้วยความเร็วระดับ DnB ความเร็วไม่ต้องพูดถึง แต่เพราะยิ่งเร็ว มันยิ่งกระตุ้นให้อัตราการเต้นของหัวใจคนฟังเพลง ยิ่งสูบฉีดเลือดมากขึ้นไปอีกด้วยความตื่นเต้นไปตามบีทของเพลง  และเพลงนี้ในส่วนของเมโลดี้แยกที่สวยงามของความเป็นโซล ผสมผสานกับดนตรี electronic ได้เป็นอย่างดี มันได้ความเรทโทรแบบที่เหนือชั้นมากจริงๆ เพลงนี้ผมก็ชอบครับ  และตัวMV ก็โคตรทรงพลังเลย รับกับเพลงมากๆ คือวงนี้ทำMVน่าสนใจนะ เพลงนี้เป็นเรื่องราวของชีวิตเล็กๆในสังคมชุมชนแออัดที่ย่ำแย่หากมองจากมาตรฐานคนทั่วไปแล้ว แต่ในนั้นก็มีมิติอะไรบางอย่างที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันเรื่องการปากกัดตีนถีบพัฒนาชีวิตไปสู่จุดที่ดีขึ้น ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมระดับที่เรียกว่า โหดร้าย ยังจำกัดความได้ไม่พอล่ะ .. ประทับใจเพลงนี้มากครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


อีกเพลงนึง น่าจะหนีไม่พ้น Waiting All Night feat. Ella Eyre ซาวด์เพลงนี้เหนือชั้นมาก  และโฟกัสไปที่ลูกกลอง และไลน์เบส ได้เลย เด็ดมากๆ ผมชอบกลองเพลงนี้มาก มันรัวยิกมันส์ดี พร้อมท่อนเมโลดี้วนลูปทั้งเพลงที่โคตรติดหู ฟังแล้วหลอนเลยทีเดียวกับท่อน Ive been waiting all night for you to tell me that you love me   Tell me, tell me that you need me เป็นชุดเมโลดี้ที่น่าจดจำมาก และช่วงที่เอาเครื่องเป่ามาเล่นตรงท่อนแยกตรงนี้ เยี่ยมไปเลย เพลงนี้ก็ต้องฟังก่อนเลยครับ ผมไม่หาข้อมูลก่อนผมก็ชอบเพลงนี้ตั้งแต่ฟังแรกๆเหมือนกัน เพราะมันติดหูเอามากๆอย่างที่บอกนั่นแหละ  ส่วนMVนั้น ก็ยิ่งใหญ่ทรงพลังไม่ต่างกัน มีช็อตนึงผมเห็นแล้วขนลุกเลย ไม่สปอยล์แล้วกัน เป็นเรื่องราวของนักปั่นจักรยานที่เสียขาไป ก่อนที่จะพยายามลุกขึ้นยืนและต่อสู้เพื่อความเชื่อของชีวิตเค้าอีกครั้ง .. ยอดมากๆ ผมลืมบอกไปว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนประทับใจในงานของ Rudimentalนั้นก็คือMVที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริง และตัวละครจริงจากคนๆนั้นด้วยล่ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สรุปแล้ว งานของ Rudimental ชุด Home นี้ ผมยอมรับตามตรงว่าใช้เวลาฟังมันวนหลายสิบรอบกว่าจะเริ่มจับอะไรบางอย่างได้ มีเหนื่อยนิดหน่อย แต่พอจับได้แล้วมันก็คุ้มค่า กับแนวเพลงที่หลายๆท่านคงคุ้นเคยกับมันอยู่แล้วอย่าง Drum and Bass มีความเก่าและความใหม่ที่ผสมผสานกันอยู่อย่างสวยงามภายใต้soundระดับจักรพรรดิ์  งานฟังไม่ยากจนเกินไปและมีกลิ่นอายในแบบยุโรปหน่อย  ลืมพวกงานจากฝั่งโลกใหม่มะกันจ๋าพวกนั้นไปได้เลย ก็แน่ล่ะพวกเขามาจากบริติช และงานนี้ก็ขึ้นชาร์ทในหลายๆส่วนของโลกที่ชอบแนวเพลงจากเกาะนี้ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลียวิดูก้า  เบลเยี่ยมอาซาร์  สก็อตติชเฟอร์กี้ และประเทศภาคพื้นยุโรปทั้งหลาย และสุดยอดกับ UK Album Chart ในลำดับที่1ช่วงพีค น่าจะการันตีความเยี่ยมของงานชุดนี้ได้ในระดับหนึ่งเลย   เรื่องซาวด์อาจจะต้องซีเรียสหน่อยสำหรับการฟังเพลงวงนี้  พยายามไปเอาหูฟังอันดีๆมานั่งฟังงานของ Rudimental เพราะจะเห็นความแตกต่างชัดมาก(ผมลองแล้ว) โดยเฉพาะพวกไลน์สอดแทรกทั้งหลาย ต้องฟังครับ ฟังเสียงแบนๆไม่มีประโยชน์เท่าไหร่  

          หูฟัง Red China ทั้งหลาย ปาทิ้งไปก่อนนะฮับ!
ชื่อสินค้า:   Rudimental - Home / Snoop Lion - Reincarnated
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่