ผมเป็นคนเมือง  คนไทย 100 %  วันนี้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ได้มีพิธีไหว้บรรพบุรุษ ตามความเชื่อ
ว่าทำให้อยู่เย็นเป็นสุข  ทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้า

แต่ถึงอย่างไรก็ยังได้รับอนิสงส์จากการไหว้ในครั้งนี้  จากความอนุเคราะห์ของน้องสาวของมือ 1 ซึ่งทราบว่า
แม่บ้านไม่อยู่

ตามนี้เลยครับ  มีผลไม้และขนมเปี๊ยะอีกกล่อง  รับไว้ด้วยความขอบคุณอย่างมาก ๆ



ไก่ต้มเสร็จเรียบร้อย  1 ตัว หมู 3 ชั้น  อีก 1 เส้น  มีข้าวมันที่หุงเรียบร้อยมาด้วย 1 ถุง

จำได้ว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผมมาเล่าเรื่องการทำข้าวมันไก่  อ.สะวิน ได้เข้ามาทักทายว่า ข้าวมันไก่ต้องกิน
คู่กับหมูกรอบ  ผมก็นึกว่าแกแซวเล่น  อุตส่าห์ตามไปถามทางหลังไมค์ แกก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
น้ำจิ้มก็ใช้ร่วมกันนั่นแหละ

วันนี้เข้าล๊อคครับ ลองอย่างที่ อ.สะวินว่าเสียเลย

หั่นสามชั้นออกเป็น 2 ท่อน จิ้มพรุน  ทาน้ำส้มสายชูบาง ๆ ผึ่งลมไว้



เสร็จแล้วนำไปเข้าหม้ออบลมร้อน  ไฟ 180  40 นาที มาเร่งไฟตอนสุดท้ายเป็น 220 อีก 20 นาที

กลายเป็นหมูย่างที่พร้อมจะสับกินได้เลยครับ



หลังเย็นแล้วผมเอาลงทอดเฉพาะส่วนหนังอีกครั้ง  ไม่พองฟูแฮะ  ไม่รู้ผิดสูตรท่าไหน แต่เรื่องกรอบ
ท้าชนได้เลยครับ (โม้นะครับ)



หลังปล่อยเย็นแล้ว เอามาสับ  ก็ยังคงเจ๋งคือ กรอบนอกฉ่ำใน  น่ากินครับ ยิ่งฟันคนหนุ่มน่าจะเคี้ยวได้ใจเลยครับ





ดึงเอาน่องติดสะโพกออกมาสับข้างหนึ่ง  กะเป็นมื้อเย็น  ฝีมือต้มไก่ของน้องเขา  ไม่ธรรมดาเหมือนกัน



1 ตัวมี 1 อัน ถูกดึงออกมาด้วย  สังเกตให้ดี

  

เป็นมื้อที่ง่าย ๆ อีกมื้อหนึ่ง กินเท่าที่มี  โปรดสังเกตไม่มีผัก แม้แต่ผักชีสักใบ น้ำซุปก็ไม่มี
น้ำจิ้มปรุงอย่างเร็วและง่าย  เน้นรสชาติถูกปากไว้ก่อน

มื้อเย็นเมื่อ 5 โมง สล่าปู่



ปกติถ้าถือช้อนหรืออะไรก็ตามผมจะใช้มือซ้าย และจะถ่ายรูปด้วยมือขวา  วันนี้ใช้ตะเกียบ
จำเป็นต้องใช้มือซ้ายถ่ายรูป ออกมาคงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

แต่ถ้ามันยั่วน้ำลายท่าน ห้ามด่ากันนะครับ















ปิดท้ายรายการด้วยนี่เลยครับ วันนี้อยู่คนเดียวไม่ต้องมีใครมาแย่ง





เล่าสู่กันฟังประสาฝนตกยาวมาราธอนตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นมา  จนถึง ณ เวลานี้ก็ยังตกอยู่เลยครับ

สวัสดีครับ