ทุกๆ คนมีความฝัน...ความหวังและเป้าหมายหลายๆ อย่างในชีวิต บางคนอยากเป็นนักบินอวกาศ หมอ คุณครู นักวิทยาศาสตร์ หรือบางคนอยากไปขั้วโลก ไปเอเวอร์เรสต์ ฯลฯ อะไรต่างๆ มากมาย....
ความฝันมีทั้งที่ทำให้เป็นจริงได้บ้างหรือไม่ได้บ้าง......แต่ทุกฝันมีคุณสมบัติเดียวที่เหมือนกันคือ "ความฝันไม่มีวันหมดอายุ" credit by Roundfinger บางความฝันถูกทิ้งไว้กลางทางหรือพักไว้ด้วยหลายๆ เหตุ แต่เมื่อไหร่ที่เรากลับมาว่างนึกถึงความฝันนั้นขึ้นมา....แปลกที่มันไม่เคยจะดูหมดความสนุกหรือท้าทายเลย
ญี่ปุ่น.......แรงบันดาลใจ...สำหรับผม
จากโดราเอมอน การ์ตูนที่ทำให้อ่านภาษาไทยออกเร็วกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน (เมืองโตเกียว โตเกียวทาวเวอร์ บ้านเสื่อตาตามิ...
จากเจ้าหนูสิงห์นักเตะซึบาสะ....เมืองชิสึโอกะ ภูเขาไฟฟูจิ ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น......
และอิทธิพลมากมายของ Gen Y ที่โตมากับ Manga สมัยที่ไม่มีลิขสิทธิ์......
ความฝันว่าจะต้องไปญี่ปุ่นถูกหว่านลงบนชีวิตของผมตั้งแต่ 5 ขวบ..........ช่วงที่เรียนมหาลัยได้เห็นเพื่อนหลายคนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เราเองก็ได้แต่เก็บ.....ความฝันไว้กับตัวเบาๆ พอเรียนจบเริ่มทำงานและอยากไปเที่ยวต่างประเทศ......"ญี่ปุ่น"คือตัวเลือกเดียวเท่านั้น
หนังสือ "เที่ยวไม่ง้อทัวร์ตีตี๋วตะลุยญี่ปุ่น" ทุกภาคจากรุ่นพี่ที่รู้จักของผม คือส่วนที่เข้ามาเติมเต็มและเป็นสิ่งกระตุ้นสุดท้ายให้แบคแพคไปญี่ปุ่นเอง...........
และเหมือนกับทุกๆ คนที่ไป "ญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอ......."
ครั้งแรกล้มลุกคลุกคลาน เพราะเป็นทริปที่มีคนร่วมทริปเยอะเกินไป และดื้อเกินไป (จำนวนที่เหมาะคือ 3-4 คนอย่าเกินนี้) โดยบังคับให้พักนาริตะ แต่เข้ามาเที่ยวโตเกียวทุกวัน....แต่ก็ได้ประสบการณ์มากมาย
ครั้งที่สองคือ Kansai ไป 2 คน เป็นทริปที่ยังภูมิใจในการจัดจนถึงวันนี้เพราะมันใกล้กับคำว่า"สมบูรณ์แบบ"มากที่สุด เป็นทริปที่ทำให้ตกหลุมรัก Kyoto เข้าเต็มเปา ♥
และที่คือครั้งที่สาม....สำหรับการตัดสินใจไปญี่ปุ่นเพื่อไล่ตามอีกหนึ่งความฝันที่ก่อตัวขึ้นมา 1-2 ปีแล้ว(โดยพี่บิ๊กคนเดิม คนเขียนหนังสื้อเที่ยวไม่ง้อทัวร์ฯ )
....เราอยากเห็นฟูจิซังนะ...แต่แค่นั้นไม่พอหรอก...
ต้องขึ้นไปยอดบนสุดให้ได้.......และต้องเห็นแสงอาทิตย์แรกของบนจุดสูงสุดของแดนอาทิตย์อุทัยให้ได้........
Let's make this one com
al.....
เป็นทริปที่มีเวลาแค่ 4 วันในการทำทุกอย่างทั้งหาที่พัก หาข้อมูล ฟูจิ ทำพาสปอร์ตใหม่(ที่หมดอายุ) เตรียมเส้นทาง เตรียมอุปกรณ์ปีนเขา....
โชคดีที่ครั้งนี้คือครั้งที่ 3 ที่ไปญี่ปุ่นทำให้หลายๆ อย่างค่อนข้างคุ้นเคยและราบรื่น....ขอบคุณการยกเว้นวีซ่าที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นจริงๆ ครับ
เป็นไฟลท์บินตรงที่ดีที่สุดของ TG ครับ 2210 ลงที่นาริตะ 6 โมงเช้าแล้วเริ่มลุยได้เลย
Japan Mt.Fuji's summit "My independence destiny"
ความฝันมีทั้งที่ทำให้เป็นจริงได้บ้างหรือไม่ได้บ้าง......แต่ทุกฝันมีคุณสมบัติเดียวที่เหมือนกันคือ "ความฝันไม่มีวันหมดอายุ" credit by Roundfinger บางความฝันถูกทิ้งไว้กลางทางหรือพักไว้ด้วยหลายๆ เหตุ แต่เมื่อไหร่ที่เรากลับมาว่างนึกถึงความฝันนั้นขึ้นมา....แปลกที่มันไม่เคยจะดูหมดความสนุกหรือท้าทายเลย
ญี่ปุ่น.......แรงบันดาลใจ...สำหรับผม
จากโดราเอมอน การ์ตูนที่ทำให้อ่านภาษาไทยออกเร็วกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน (เมืองโตเกียว โตเกียวทาวเวอร์ บ้านเสื่อตาตามิ...
จากเจ้าหนูสิงห์นักเตะซึบาสะ....เมืองชิสึโอกะ ภูเขาไฟฟูจิ ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น......
และอิทธิพลมากมายของ Gen Y ที่โตมากับ Manga สมัยที่ไม่มีลิขสิทธิ์......
ความฝันว่าจะต้องไปญี่ปุ่นถูกหว่านลงบนชีวิตของผมตั้งแต่ 5 ขวบ..........ช่วงที่เรียนมหาลัยได้เห็นเพื่อนหลายคนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เราเองก็ได้แต่เก็บ.....ความฝันไว้กับตัวเบาๆ พอเรียนจบเริ่มทำงานและอยากไปเที่ยวต่างประเทศ......"ญี่ปุ่น"คือตัวเลือกเดียวเท่านั้น
หนังสือ "เที่ยวไม่ง้อทัวร์ตีตี๋วตะลุยญี่ปุ่น" ทุกภาคจากรุ่นพี่ที่รู้จักของผม คือส่วนที่เข้ามาเติมเต็มและเป็นสิ่งกระตุ้นสุดท้ายให้แบคแพคไปญี่ปุ่นเอง...........
และเหมือนกับทุกๆ คนที่ไป "ญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอ......."
ครั้งแรกล้มลุกคลุกคลาน เพราะเป็นทริปที่มีคนร่วมทริปเยอะเกินไป และดื้อเกินไป (จำนวนที่เหมาะคือ 3-4 คนอย่าเกินนี้) โดยบังคับให้พักนาริตะ แต่เข้ามาเที่ยวโตเกียวทุกวัน....แต่ก็ได้ประสบการณ์มากมาย
ครั้งที่สองคือ Kansai ไป 2 คน เป็นทริปที่ยังภูมิใจในการจัดจนถึงวันนี้เพราะมันใกล้กับคำว่า"สมบูรณ์แบบ"มากที่สุด เป็นทริปที่ทำให้ตกหลุมรัก Kyoto เข้าเต็มเปา ♥
และที่คือครั้งที่สาม....สำหรับการตัดสินใจไปญี่ปุ่นเพื่อไล่ตามอีกหนึ่งความฝันที่ก่อตัวขึ้นมา 1-2 ปีแล้ว(โดยพี่บิ๊กคนเดิม คนเขียนหนังสื้อเที่ยวไม่ง้อทัวร์ฯ )
....เราอยากเห็นฟูจิซังนะ...แต่แค่นั้นไม่พอหรอก...
ต้องขึ้นไปยอดบนสุดให้ได้.......และต้องเห็นแสงอาทิตย์แรกของบนจุดสูงสุดของแดนอาทิตย์อุทัยให้ได้........
Let's make this one com
เป็นทริปที่มีเวลาแค่ 4 วันในการทำทุกอย่างทั้งหาที่พัก หาข้อมูล ฟูจิ ทำพาสปอร์ตใหม่(ที่หมดอายุ) เตรียมเส้นทาง เตรียมอุปกรณ์ปีนเขา....
โชคดีที่ครั้งนี้คือครั้งที่ 3 ที่ไปญี่ปุ่นทำให้หลายๆ อย่างค่อนข้างคุ้นเคยและราบรื่น....ขอบคุณการยกเว้นวีซ่าที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นจริงๆ ครับ
เป็นไฟลท์บินตรงที่ดีที่สุดของ TG ครับ 2210 ลงที่นาริตะ 6 โมงเช้าแล้วเริ่มลุยได้เลย