วงแตกไปตามๆ กัน เมื่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ปรับลดเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจลงเหลือ 3.8-4.3% จาก 4.2-5.2%
สัญญาณความถดถอยมาจากเศรษฐกิจไตรมาส 2 เติบโตแค่ 2.8% ต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ 5.3% และมีแนวโน้มจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายของรัฐ การลงทุนของเอกชน การใช้จ่ายภาคประชาชน และการส่งออก น่าเป็นห่วงอย่างพร้อมเพรียง
หลายคนมองว่า เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคเรียบร้อยแล้ว แต่หลายคนก็บอกว่า ยังไม่ถดถอย แค่เพียงชะลอตัวลงเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะถดถอยหรือไม่ ภาวะเช่นนี้ ต้องบอกว่าเข้าขั้นน้ำลายเหนียว
เพราะปัจจัยที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจหลักๆ คือ การส่งออก ยังไม่ฟื้นตัว เมื่อส่งออกไม่ฟื้น เศรษฐกิจก็หมดแรงฉุด
ส่วนปัจจัยที่เหลือไม่ต้องพูดถึง ขนาดขนมเทียนไหว้สารทจีนยังต้องลดราคาลงมา เพราะกลัวขายไม่ออก
สภาพที่เป็นอยู่ รัฐบาลเหลืออะไรบ้างในมือ
ลำพังงบประมาณปกติ แทบจะหมดไปกับค่าใช้จ่ายประจำ และสารพัดโครงการประชานิยมหาเสียง
นี่ยังไม่นับผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ถ้าเอามาคิดเมื่อใด เห็นทีงบประมาณต้องติดลบมากขึ้นกว่าเดิม
คำตอบที่เหลืออยู่คือต้องเรียกอาจารย์กู้ มาช่วยกู้สถานการณ์
คาถาอาจารย์กู้มี 2 บทสำคัญเท่านั้น
บทแรกได้แก่คาถาเรียกปลาจาก พ.ร.ก.เงินกู้น้ำ 3.5 แสนล้านบาท ส่วนบทที่ 2 เป็นคาถาเรียกเนื้อจากร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
ทั้งสองบทน่าแปลกตรงที่การสวดเหมือนกันอย่างกับแกะ นั่นคือ กู กู่ กู้ กู๊ กู๋ กู้ กู้ กู้ เท่านั้น
ถ้าไม่กู้ เศรษฐกิจจะสาละวันถอยหลังต่ำเตี้ยอย่างที่เห็น ด้วยเหตุที่หมดอาวุธไปเรียบร้อย แถมภาระที่สร้างไว้ยังทำให้เรี่ยวแรงหดหายไปดื้อๆ
อย่างไรก็ตามการกู้เงินที่เป็นอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เอาเฉพาะ พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท แม้มีผลบังคับใช้ก็ยังใช้เงินไม่ได้สักสลึง
ส่วนร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่เตรียมเข้าสภาวาระสอง เห็นท่าจะเหนื่อยหนัก กว่าจะผ่านสภา
และแม้กระทั่งผ่านสภาแล้วก็ใช่ว่าจะกู้ได้จริงๆ อาจเกิดรายการหัวคว่ำคะมำหงาย เหมือนกับที่เห็นมาแล้วใน พ.ร.ก.เงินกู้น้ำ
ไม่แปลกที่ทำไมบรรยากาศแห่งความอึมครึม หน้าซีด หน้าเซียวจึงปกคลุมไปทั่ว ....ร่อแร่เต็มทนแล้ว
ที่มา:
http://www.posttoday.com/คอลัมน์นิสต์ออนไลน์/241797/ช่วยด้วย
ปล.ต้องมาช่วยกันออกข่าวว่า....ไม่จริง ข่าวออกเกินเหตุ...เอิ๊ก ๆ ๆ
ช่วยด้วย !
สัญญาณความถดถอยมาจากเศรษฐกิจไตรมาส 2 เติบโตแค่ 2.8% ต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ 5.3% และมีแนวโน้มจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายของรัฐ การลงทุนของเอกชน การใช้จ่ายภาคประชาชน และการส่งออก น่าเป็นห่วงอย่างพร้อมเพรียง
หลายคนมองว่า เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคเรียบร้อยแล้ว แต่หลายคนก็บอกว่า ยังไม่ถดถอย แค่เพียงชะลอตัวลงเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะถดถอยหรือไม่ ภาวะเช่นนี้ ต้องบอกว่าเข้าขั้นน้ำลายเหนียว
เพราะปัจจัยที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจหลักๆ คือ การส่งออก ยังไม่ฟื้นตัว เมื่อส่งออกไม่ฟื้น เศรษฐกิจก็หมดแรงฉุด
ส่วนปัจจัยที่เหลือไม่ต้องพูดถึง ขนาดขนมเทียนไหว้สารทจีนยังต้องลดราคาลงมา เพราะกลัวขายไม่ออก
สภาพที่เป็นอยู่ รัฐบาลเหลืออะไรบ้างในมือ
ลำพังงบประมาณปกติ แทบจะหมดไปกับค่าใช้จ่ายประจำ และสารพัดโครงการประชานิยมหาเสียง
นี่ยังไม่นับผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ถ้าเอามาคิดเมื่อใด เห็นทีงบประมาณต้องติดลบมากขึ้นกว่าเดิม
คำตอบที่เหลืออยู่คือต้องเรียกอาจารย์กู้ มาช่วยกู้สถานการณ์
คาถาอาจารย์กู้มี 2 บทสำคัญเท่านั้น
บทแรกได้แก่คาถาเรียกปลาจาก พ.ร.ก.เงินกู้น้ำ 3.5 แสนล้านบาท ส่วนบทที่ 2 เป็นคาถาเรียกเนื้อจากร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
ทั้งสองบทน่าแปลกตรงที่การสวดเหมือนกันอย่างกับแกะ นั่นคือ กู กู่ กู้ กู๊ กู๋ กู้ กู้ กู้ เท่านั้น
ถ้าไม่กู้ เศรษฐกิจจะสาละวันถอยหลังต่ำเตี้ยอย่างที่เห็น ด้วยเหตุที่หมดอาวุธไปเรียบร้อย แถมภาระที่สร้างไว้ยังทำให้เรี่ยวแรงหดหายไปดื้อๆ
อย่างไรก็ตามการกู้เงินที่เป็นอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เอาเฉพาะ พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท แม้มีผลบังคับใช้ก็ยังใช้เงินไม่ได้สักสลึง
ส่วนร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่เตรียมเข้าสภาวาระสอง เห็นท่าจะเหนื่อยหนัก กว่าจะผ่านสภา
และแม้กระทั่งผ่านสภาแล้วก็ใช่ว่าจะกู้ได้จริงๆ อาจเกิดรายการหัวคว่ำคะมำหงาย เหมือนกับที่เห็นมาแล้วใน พ.ร.ก.เงินกู้น้ำ
ไม่แปลกที่ทำไมบรรยากาศแห่งความอึมครึม หน้าซีด หน้าเซียวจึงปกคลุมไปทั่ว ....ร่อแร่เต็มทนแล้ว
ที่มา: http://www.posttoday.com/คอลัมน์นิสต์ออนไลน์/241797/ช่วยด้วย
ปล.ต้องมาช่วยกันออกข่าวว่า....ไม่จริง ข่าวออกเกินเหตุ...เอิ๊ก ๆ ๆ