ของแพง-หนี้พุ่ง-สินค้าเกษตรตกต่ำ-ใต้เละ นี่ไงผลงานปูกับแม้ว !!




ถ้าจะพูดว่า "ห่วยขั้นเทพ" ก็คงไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย สำหรับฝีมือการบริหารรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้รูปแบบ "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" นาทีนี่ผ่านมาสองปีเศษ ภายใต้ปัจจัยเกื้อหนุนทุกอย่างพร้อมสรรพ ทั้งเสียงข้างมากในสภาที่เบ็ดเสร็จ กลไกข้าราชการก็ล้วนแต่งตั้งจากคนกันเองที่ไว้ใจได้ตามใจชอบ ทุกหน่วยงานสำคัญล้วนคัดเลือกมากับมือ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกก็ไม่ได้อยู่ในช่วงภาวะวิกฤติ แม้ว่าอาจจะไม่สดใส แต่ก็ไม่ใช่ลักษณะวิกฤติเหมือนกับกรณี "ต้มยำกุ้ง" เมื่อปี 40 หรือว่า "แฮมเบอร์เกอร์" เมื่อปี 51-52 ที่ผ่านมา เอาแค่ว่าถ้ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีฝีมืออยู่บ้างก็น่าจะนำพาเศรษฐกิจบ้านเมืองผ่านไปได้ด้วยดีอยู่แล้ว แต่ผลที่ออกมากลับตรงกันข้าม ห่วยแตกล้มเหลวเกินคาดอย่างไม่น่าเชื่อ

ภาระหนี้ท่วมหัว
       
       อาจเป็นเพราะด้วยระบบ ทักษิณ ชินวัตร คิด และภายใต้"ระบอบทักษิณ" ที่คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเฉพาะครอบครัว และเครือข่ายเฉพาะกลุ่มเพื่อหวังรวบรัดกอบโกย เพราะสิ่งที่พวกเขาได้ไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลประโยชน์ของคนไทย เป็นงบประมาณจากภาษีของคนไทยทุกคน ซึงในที่นี้ยังรวมถึงเงินและผลประโยชน์ของคนเสื้อแดงของเขาด้วยนั่นแหละ ไม่ได้ใช้เงินของ ทักษิณ ไม่ใช่เงินของ ยิ่งลักษณ์ สักบาทเดียว
       
       สองปีภายใต้การบริหารของคนในครอบครัว และภายใต้กลไกที่มีอยู่อย่างพร้อมสรรพ ถือว่าไม่อาจปฏิเสธ หรือแก้ตัวไปโทษใครได้เลย เพราะนี่คือความด้อยประสิทธิภาพ และด้อยปัญญาอย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สิ่งไหนก็ตามถ้า"เป็นการแข่งขัน"กับภายนอก หรือกับธุรกิจกลุ่มอื่น ถ้าไม่ใช่เป็นการผูกขาดหรือใช้อำนาจรัฐผูกขาดแล้วละก็ ทักษิณ กับครอบครัวเป็นอันต้องล้มเหลวตลอดเวลา พิสูจน์ได้จากการเป็นรัฐบาลคราวนี้ ถ้าจะพูดว่า รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นบริหารภายใต้การชี้นำจาก ทักษิณ ทุกเรื่อง หรือจะเรียกว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็คือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ ดังนั้นเมื่อสำเร็จหรือล้มเหลว เขาก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งคราวนี้ "ล้มเหลว" แน่นอนว่าทุกอย่างมาจากเขาล้วนๆ

เศรษฐกิจไทย เข้าสู่ภาวะถดถอย
       
       เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในเวลานี้ล้วนมาจากความผิดพลาดของนโยบายของรัฐบาลภายใต้รูปแบบ "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น นโยบายรับจำนำข้าว ที่ขาดทุนบักโกรกสร้างภาระด้านงบประมาณจำนวนมหาศาล เพราะจากการเปิดเผยตัวเลขล่าสุดของผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) สุพัฒน์ ยิ้มวฉาย ที่เป็นธนาคารยิ้มานรับหน้าเสื่อโครงการดังกล่าว ยอมรับว่า เวลานี้ธนาคารกำลังเริ่มขาดเงินหมุนเวียนในโครงการจำนำข้าว เพราะที่ผ่านมาได้สำรองจ่ายไปแล้วกว่า 2.5 แสนล้านบาท ขณะที่ทางกระทรวงพาณิชย์ยังไม่อาจนำเงินที่ได้จากการระบายข้าวเข้ามาจ่ายชดเชยได้ทัน และยังมีตัวเลขที่ชาวนาและคนเสื้อแดงไม่รู้ก็คือจากข้อมูลตัวเลขของผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธกส.คนนี้ทำให้รู้ว่าราคารับจำนำข้าวในฤดูกาลปี 56/57 จะเหลือแค่ตันละ 12,000 บาท ไม่ใช่ตันละ 13,500 บาท และจำกัดโควตาครอบครัวละไม่เกิน 3.5 แสนบาทต่อครัวเรือน ไม่ใช่ 5 แสนบาทต่อครัวเรือนตามที่เคยแถลงกันก่อนหน้านี้
       
       [b]ต่อมาก็เป็นทีเด็ดจากนโยบายที่ ทักษิณ "จัดให้"ก็คือ รถคันแรกไงละพี่น้อง ที่กลายเป็นตัวการสำคัญในการทำให้เศรษฐกิจหดตัว และสร้างภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เพราะคนที่ซื้อรถส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว แทบทุกอย่างต้องซื้อต้องเช่า เพิ่งทำงานได้ไม่นานเงินเดือนยังไม่มาก ดังนั้นเมื่อต้องนำเงินเกือบทั้งหมดไปเป็นค่าผ่อนรถ ก็แทบจะไม่มีเงินเหลือเก็บหรือไปใช้จ่ายในด้านอุปโภคอื่นๆ ทำให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่
       
นโยบายล้มเหลว จำนำข้าว เหลือ 12,000 บาท

       ขณะเดียวกันเมื่อมาพิจารณาในเรื่องราคาสินค้าการเกษตรหลักๆทุกตัวก็ตกต่ำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ซึ่งหล่อเลี้ยงเกษตรกรทั้งประเทศ ทำให้เกษตรกรไม่มีรายได้ เมื่อไม่มีรายได้ก็ต้องเกิดหนี้สินเพิ่มพูน และกลายเป็นว่าเป็นยุคที่หนี้ครัวเรือนพุ่งกระฉูดมากที่สุด กำลังจะทะลุ 80 เปอร์เซ็นต์ และอีกไม่นานหากยังเป็นแบบนี้ก็คงจะเกิน 85 เปอร์เซ็นต์ซึงธนาคารแห่งประเทศไทยได้เตือนไว้ล่วงหน้าแล้ว
       
       ส่วนการส่งออก ซึ่งไทยเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกมากเกินครึ่ง แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามเป้า จากปีก่อน ที่รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเคยโม้เอาไว้ว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 19 เปอร์เซ็นต์เอาเข้าจริงทำได้แค่ร้อยละ 3.12 เท่านั้น อ้างว่าเป็นการ "โกหกสีขาว" เพื่อกระตุ้นการทำงาน มาปีนี้ก็มีการตั้งเป้าเอาไว้สูงแต่ก็ทำไม่ได้อีก
       
       อย่างไรก็ดีสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงจากนโยบายของ ทักษิณคิด ก็คือโครงการจำนำข้าว ที่นอกจากทำลายคุณภาพข้าวไทยป่นปี้แล้ว ยังทำลายตลาดการส่งออกข้าวของไทยที่เคยครองอันดับหนึ่งมาช้านาน จนเวลานี้แทบไม่มีประเทศไหนยอมซื้อข้าวไทย เพราะราคาแพง และไม่มั่นใจในคุณภาพ
       
       นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งผลงานที่ประจานคนในครอบครัวชินวัตร ก็คือการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สร้างความปั่นป่วน ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนในพื้นที่บาดเจ็บล้มตาย ทำลายเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตที่เสี่ยงภัย รวมไปถึงเสี่ยงต่อการเสียดินแดนสูงขึ้นเรื่อยๆ
       
       ดังนั้นการแถลงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างน่าเป็นห่วงของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในครั้งนี้ พร้อมทั้งลดตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งปี เหลือแค่ 3.8-4.3 เปอร์เซ็นต์ นั้นยังถือว่าอาจมองในแง่ดีเกินไป เพราะพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมรอบตัว รวมไปถึงการคาดการณ์ของผู้บริหารเครือสหพัฒน์ที่คลุกคลีอยู่กับสินค้าอุปโภคบริโภคที่ระบุก่อนหน้านี้มาพิจารณาประกอบว่าเศรษฐกิจอาจโตไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ก็เป็นได้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงหายนะของคนไทยทุกคน รวมทั้งคนเสื้อแดงระดับรากหญ้าด้วยทุกคน !!




http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000104061
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่