ก.พ.ร.เผยไทยที่ 3 ระบบราชการรองจากสิงคโปร์-ฮ่องกง และอันดับ 17 เอื้อต่อการลงทุน จาก 183 ประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมครม.วันที่ 20 ส.ค.สำนักงาน ก.พ.ร. ขอความเห็นชอบรายงานการพัฒนาระบบราชการไทย ประจำปี พ.ศ. 2555 และให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป สาระสำคัญของเรื่อง รายงานการพัฒนาระบบราชการไทย ประจำปี พ.ศ. 2555

1. ภาพรวมของระบบราชการ

1.1 หน่วยงานของรัฐ ประเภทที่ 1 ส่วนราชการ มีหน่วยงานในส่วนกลาง รวม 177 หน่วยงาน (20 กระทรวง 157 กรม) ส่วนภูมิภาค รวม 954 หน่วยงาน (76 จังหวัด 878 อำเภอ) ส่วนท้องถิ่น รวม 7,853 หน่วยงาน (องค์การบริหารส่วนจังหวัด 76 แห่ง เทศบาล 2,082 แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล 5,693 แห่ง และ กทม. และเมืองพัทยา) ประเภทที่ 2 รัฐวิสาหกิจ 58 แห่ง ประเภทที่ 3 องค์การมหาชน 68 หน่วยงาน ประเภทที่ 4 หน่วยงานของรัฐรูปแบบอื่น (หน่วยธุรการขององค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ กองทุนที่เป็นิติบุคคล และหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ)

1.2 กำลังคนภาครัฐในฝ่ายพลเรือนทั้งข้าราชการและบุคลากรประเภทอื่น จำนวน 2,724,335 คน

1.3 รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 2,380,000 ล้านบาท เป็นงบบุคลากรจำนวน 547,690.90 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23.0 ของงบประมาณรายจ่ายทั้งหมด อย่างไรก็ดี ยังมีงบบุคลากรภาครัฐบางส่วนปรากฏอยู่ในงบรายจ่ายอื่น ทำให้ค่าใช้จ่ายบุคลากรภาครัฐในงบบุคลากรตามเอกสารงบประมาณต่ำกว่าความเป็นจริง

1.4 สมรรถนะในการแข่งขันของระบบราชการไทยเชิงเปรียบเทียบ

(1) ความเป็นประเทศที่เอื้อต่อการลงทุนประกอบธุรกิจ ในปี พ.ศ. 2555 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 จาก 183 ประเทศ ในส่วนภาวะธรรมาภิบาลพบว่ามิติประสิทธิผลของรัฐบาลและมิติคุณภาพของมาตรการ ควบคุม ยังคงอยู่ใน Percentile Rank ที่ 50-75 ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยพบว่า อยู่ในอันดับที่ 30 จาก 59 ประเทศ ดัชนีภาพลักษณ์คอรัปชันของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 88 จาก 176 ประเทศ (ค่าดัชนี 37 หรือ 3.7 ในฐานคะแนนแบบเดิม) ซึ่งปี พ.ศ. 2554 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 80 จาก 183 ประเทศ (ค่าดัชนี 3.4)  หากพิจารณาจากค่าดัชนีเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2554 ด้วยฐานคะแนนที่เท่ากันแล้ว จะพบว่าค่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้น 0.3 คะแนน โดยประเทศที่มีค่าดัชนีสูงหมายถึง ประเทศที่มีการคอรัปชันน้อยที่สุด และประเทศที่มีค่าดัชนีต่ำ หมายถึงประเทศที่มีการคอรัปชันมากที่สุด

(2) ความพร้อมในการเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยพบว่า อยู่ในอันดับที่ 64, 76 และ 92 ในปี พ.ศ. 2551, พ.ศ. 2553 และ พ.ศ. 2555 ตามลำดับ อันดับความมีประสิทธิภาพของระบบราชการไทยพบว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศแรกที่ระบบราชการมีประสิทธิภาพ รองจากสิงคโปร์และฮ่องกง 1.5 ผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาระบบราชการไทยตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2555) พบว่าผลการบรรลุเป้าหมายในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนใหญ่มีผลการดำเนินการที่สูงกว่าค่าเป้าหมายทั้งสิ้น เช่น ประชาชนมีความพึงพอใจในระบบราชการ ร้อยละ 82.65 ส่วนราชการมีการปรับปรุงรูปแบบหรือวิธีการทำงาน ร้อยละ 89.50 เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐยังไม่สามารถบรรลุตามค่าเป้าหมายการนำเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้ในการให้บริการประชาชน ดังนั้นควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้บริการประชาชน

http://www.thairath.co.th/content/pol/364419
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่