คงไม่มีใครไม่ได้ยินว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี มีวันสำคัญที่สำคัญยิ่งต่อชีวิตและครอบครัวอย่าง "วันแม่แห่งชาติ"
และปีนี้ เราก็มีโอกาสได้ดูหนังไทยเรื่องใหม่ล่าสุดที่เล่าเรื่องราวถึงพระคุณของแม่ ในชื่อว่า
"แม่" ที่นำแสดงโดย "นาถยา แดงบุหงา" ดาราเกียรติยศ ดังที่ปรากฏบนโปสเตอร์และตัวอย่าง พร้อมด้วยข้อความจั่วหัวที่ว่า เป็นการหวนคืนจอเงินครั้งสำคัญในชีวิต
เชื่อว่าคนมีรสนิยมชมหนังหลายๆ คนอาจไม่ทันทราบว่ามีหนังฟอร์มเล็กๆ แต่ความหมายดีเรื่องนี้แทรกตัวเข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ชั้นหนึ่งในช่วงคล้อยหลังวันแม่พอดี นอกจากคนที่ติดตามข่าวสารวงการหนังอย่างรอบด้าน(และก็ไม่เกี่ยงค่ายเกี่ยงแนว)เท่านั้นที่เต็มใจจะไปร่วมสัมผัสความรัก ความผูกพัน ความยากลำบากของแม่ที่เลี้ยงดูลูกๆ 4 คน แม้ว่าโอกาสนี้อาจจะหาชมได้น้อยรอบ ซึ่งอีกไม่นานก็จะออกจากโรงแล้ว
อาจเป็นเพราะชื่อผู้สร้างนาม "กรุงไทยดราม่า" ที่แม้จะเป็นน้องใหม่ของวงการ กำลังโปรโมทก็ยังดูไม่แข็งแรงเท่าไรนัก กับภาพลักษณ์ทั้งหน้าหนังและในหนังที่บ่งชี้ชวนให้นึกถึงบรรยากาศการสร้างหนังไทยในสมัยก่อนๆ หรือหนังแผ่นเมื่ิอสักสิบปีที่แล้ว ดังจะเห็นจากขบวนชื่อดาราเจ้าบทบาทที่คุ้นเคยมาช้านานเป็นต้นว่า โกวิท วัฒนกุล, อนุสรณ์ เตชะปัญญา, เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์, ดวงชีวัน โกมลเสน, กล้วย เชิญยิ้ม ฯลฯ รวมถึงนักร้องหน้าฝรั่งหัวใจลูกทุ่งอย่าง โจนัส แอนเดอสัน และตัวแทนลูกๆ ที่นำโดย ณัฏฐ์ เตชะปัญญา
ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าโรงดูหนังเรื่องนี้อย่างเต็มอิ่มในวินาทีแรกถึงวินาทีสุดท้าย สังเกตการณ์เลยว่าในรอบที่ผมดูซึ่งตรงกับวันที่สองที่หนังเปิดฉาย นับคนเข้าชมได้แค่ 2-3 คน ทั้งที่เป็นหนังเรื่องแม่ ชัด ชัด
จากที่รับชม "แม่" ที่มีให้ตลอดสองชั่วโมง แม้คนดูอาจจะน้อย แต่อย่างน้อยเรื่องแม่บนแผ่นฟิล์มครั้งนี้ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในสังคม ในการแสดงความรักความผูกพันระหว่างแม่กับลูกๆ งานโปรดักชั่นก็ถือว่าพอใช้ได้ระดับหนึ่ง แต่บางข้อที่น่าจะปรับปรุงซึ่งผมก็ต้องหัวเราะในใจ ก็อยู่ที่การแต่งหน้าของผู้แสดงเกือบทุกคน ดูจะเกินธรรมชาติหรือเว่อร์จัดไปสักหน่อย นึกว่ามาเล่นลิเกสมัยใหม่อย่างไรอย่างนั้น
ส่วนการเลือกเพลงประกอบ ก็ได้เพลงที่คุ้นเคยกันดีอย่างเช่นเพลง อิ่มอุ่น ที่เสมือนเป็นการตอกย้ำถึงพระคุณของแม่อย่างตรงๆ อยู่แล้ว และไม่ใช่แค่นั้น ยังได้ฟังมนต์เสียงขลุ่ยที่ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรจงไว้สดๆ ใหม่ๆ ให้หนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ก็ขอเอาใจช่วยให้กับผู้สร้างหนังเรื่อง "แม่" หวังว่าอะไรขาดอะไรเกิน ในโอกาสต่อไปคงจะทำให้ดีและแนบเนียนกว่านี้แน่ๆ..
คุณรักแม่แล้ว ดูหนังเรื่องแม่แล้วหรือยัง ก่อนจะหมดโอกาสสำคัญนี้ไป
"แม่"..สิ่งที่คนไทยควรรู้มากที่สุด แต่กลับมีคนดูหนังเรื่องแม่..น้อยที่สุด??
และปีนี้ เราก็มีโอกาสได้ดูหนังไทยเรื่องใหม่ล่าสุดที่เล่าเรื่องราวถึงพระคุณของแม่ ในชื่อว่า "แม่" ที่นำแสดงโดย "นาถยา แดงบุหงา" ดาราเกียรติยศ ดังที่ปรากฏบนโปสเตอร์และตัวอย่าง พร้อมด้วยข้อความจั่วหัวที่ว่า เป็นการหวนคืนจอเงินครั้งสำคัญในชีวิต
เชื่อว่าคนมีรสนิยมชมหนังหลายๆ คนอาจไม่ทันทราบว่ามีหนังฟอร์มเล็กๆ แต่ความหมายดีเรื่องนี้แทรกตัวเข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ชั้นหนึ่งในช่วงคล้อยหลังวันแม่พอดี นอกจากคนที่ติดตามข่าวสารวงการหนังอย่างรอบด้าน(และก็ไม่เกี่ยงค่ายเกี่ยงแนว)เท่านั้นที่เต็มใจจะไปร่วมสัมผัสความรัก ความผูกพัน ความยากลำบากของแม่ที่เลี้ยงดูลูกๆ 4 คน แม้ว่าโอกาสนี้อาจจะหาชมได้น้อยรอบ ซึ่งอีกไม่นานก็จะออกจากโรงแล้ว
อาจเป็นเพราะชื่อผู้สร้างนาม "กรุงไทยดราม่า" ที่แม้จะเป็นน้องใหม่ของวงการ กำลังโปรโมทก็ยังดูไม่แข็งแรงเท่าไรนัก กับภาพลักษณ์ทั้งหน้าหนังและในหนังที่บ่งชี้ชวนให้นึกถึงบรรยากาศการสร้างหนังไทยในสมัยก่อนๆ หรือหนังแผ่นเมื่ิอสักสิบปีที่แล้ว ดังจะเห็นจากขบวนชื่อดาราเจ้าบทบาทที่คุ้นเคยมาช้านานเป็นต้นว่า โกวิท วัฒนกุล, อนุสรณ์ เตชะปัญญา, เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์, ดวงชีวัน โกมลเสน, กล้วย เชิญยิ้ม ฯลฯ รวมถึงนักร้องหน้าฝรั่งหัวใจลูกทุ่งอย่าง โจนัส แอนเดอสัน และตัวแทนลูกๆ ที่นำโดย ณัฏฐ์ เตชะปัญญา
ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าโรงดูหนังเรื่องนี้อย่างเต็มอิ่มในวินาทีแรกถึงวินาทีสุดท้าย สังเกตการณ์เลยว่าในรอบที่ผมดูซึ่งตรงกับวันที่สองที่หนังเปิดฉาย นับคนเข้าชมได้แค่ 2-3 คน ทั้งที่เป็นหนังเรื่องแม่ ชัด ชัด
จากที่รับชม "แม่" ที่มีให้ตลอดสองชั่วโมง แม้คนดูอาจจะน้อย แต่อย่างน้อยเรื่องแม่บนแผ่นฟิล์มครั้งนี้ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในสังคม ในการแสดงความรักความผูกพันระหว่างแม่กับลูกๆ งานโปรดักชั่นก็ถือว่าพอใช้ได้ระดับหนึ่ง แต่บางข้อที่น่าจะปรับปรุงซึ่งผมก็ต้องหัวเราะในใจ ก็อยู่ที่การแต่งหน้าของผู้แสดงเกือบทุกคน ดูจะเกินธรรมชาติหรือเว่อร์จัดไปสักหน่อย นึกว่ามาเล่นลิเกสมัยใหม่อย่างไรอย่างนั้น
ส่วนการเลือกเพลงประกอบ ก็ได้เพลงที่คุ้นเคยกันดีอย่างเช่นเพลง อิ่มอุ่น ที่เสมือนเป็นการตอกย้ำถึงพระคุณของแม่อย่างตรงๆ อยู่แล้ว และไม่ใช่แค่นั้น ยังได้ฟังมนต์เสียงขลุ่ยที่ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรจงไว้สดๆ ใหม่ๆ ให้หนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ก็ขอเอาใจช่วยให้กับผู้สร้างหนังเรื่อง "แม่" หวังว่าอะไรขาดอะไรเกิน ในโอกาสต่อไปคงจะทำให้ดีและแนบเนียนกว่านี้แน่ๆ..
คุณรักแม่แล้ว ดูหนังเรื่องแม่แล้วหรือยัง ก่อนจะหมดโอกาสสำคัญนี้ไป