รายการนี้ถือว่าอาจหาญมาก กับข้าวประเภทนี้ไม่ถนัดเลย เรามันคนเมืองลูกข้าวนึ่ง
ปกติถ้าเป็นอย่างนี้ มือหนึ่งจะเป็นคนทำ เรามีหน้าที่กินอย่างเดียว พอดีช่วงนี้มือหนึ่ง
ไม่อยู่ ต้องลงมือเอง
เมื่อวานเย็นไปตลาดคนเดิน เจอหน่อไผ่ตงเพิ่งตัดออกจากต้นใหม่ ๆ เห็นแล้วอยากซื้อ
เพราะดูแล้วมันสดมาก ๆ และอวบ ๆ สวย ๆ ราคาก็ไม่แพงเหมือนหน่อต้นฤดู
เลือกขนาดย่อม ๆ ให้พ่อค้าชั่งทั้งเปลือก ได้ 2.5 ก.ก. เป็นเงิน 25 บาท พ่อค้าบอกว่าเป็น
หน่อแทงจากดินไม่ใช้ออกที่ตา แบบนี้อร่อยมาก ๆ
รีบวนไปตลาดอีกที ได้ขาหมู 1 ขา 80 บาท ให้แม่ค้าสับเป็นชิ้น ๆ เสร็จแล้วกลับบ้านทันที
เตรียมหั่นเตรียมซอย เรื่องอ่อนไม่ต้องพูดถึง ผมตัดโคนทิ้งไปอีก กลัวมันแข็ง อีกอย่างไม่เน้น
ปริมาณ เพราะอยู่กันแค่ 2 คนกับมือ 3
ขาหมู 1 ขา สับเป็นชิ้น ๆ เรียบร้อย
จะทอดหรือไม่ทอดดี ชั่งใจตั้งนาน ในที่สุดตัดสินใจทอดรีดเอาน้ำมันออก และเวลาตุ๋น
เสร็จหนังจะได้กรุบกรอบด้วย
ได้มาเป็นอย่างนี้
ไม่เคยทำ ไม่ได้เปิดตำรา เอาความรู้สึกตัวเองล้วน ๆ ตั้งหม้อน้ำใส่น้ำตาลกรวด เกลือ
ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย พริกไทยเม็ดทุบ เครื่องตุ๋นยาจีนที่เป็นซองสำเร็จ พอน้ำเดือดใส่ทั้งขาหมู
และหน่อไม้ลงไปพร้อมกันลดไฟเหลือไฟกลางค่อนไปทางอ่อน
ประมาณสองชั่วโมงน่าจะได้ หน่อนิ่มแล้ว ส่วนขาหมูหนังนิ่ม แต่ไม่ถือว่าเปื่อย
จัดการปรุงรอบสอง ใส่ปลาหมึกแห้งซอย กุ้งแห้ง ฟองเต้าหู้แผ่น ลงต้มต่อ
เร่งไฟให้น้ำเดือดครั้งสุดท้าย เหยาะเหล้าจีนปรุงกลิ่น ปิดไฟเปิดฝาหม้อแง้มไว้ ปล่อย
ให้ตุ๋นกันเองทั้งคืน
เช้ามา รีบไปดูอยากรู้ผล หวานครับน้ำแกงหวานกลมกล่อมเลยทีเดียว เปิดไฟอีกครั้ง
กลิ่นปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง เหล้าจีน ผสมกับความหวานของหน่อ บอกได้เลยว่าตุ๋น
หม้อนี้ไม่ธรรมดา (ไม่โม้ไม่ใช่สล่าปู่)
จัดมาชิมเป็นมื้อเช้าเสียเลย ข้าวไม่ต้องหมดไป 2 ถ้วย ตบท้ายด้วยกาแฟ 1 แก้ว สบายไป
มาเร็วเคลมเร็วครับ วันนี้ สวัสดีครับ
หน่อไผ่ตง หน่อหวาน หวานจริง ๆ ครับ
ปกติถ้าเป็นอย่างนี้ มือหนึ่งจะเป็นคนทำ เรามีหน้าที่กินอย่างเดียว พอดีช่วงนี้มือหนึ่ง
ไม่อยู่ ต้องลงมือเอง
เมื่อวานเย็นไปตลาดคนเดิน เจอหน่อไผ่ตงเพิ่งตัดออกจากต้นใหม่ ๆ เห็นแล้วอยากซื้อ
เพราะดูแล้วมันสดมาก ๆ และอวบ ๆ สวย ๆ ราคาก็ไม่แพงเหมือนหน่อต้นฤดู
เลือกขนาดย่อม ๆ ให้พ่อค้าชั่งทั้งเปลือก ได้ 2.5 ก.ก. เป็นเงิน 25 บาท พ่อค้าบอกว่าเป็น
หน่อแทงจากดินไม่ใช้ออกที่ตา แบบนี้อร่อยมาก ๆ
รีบวนไปตลาดอีกที ได้ขาหมู 1 ขา 80 บาท ให้แม่ค้าสับเป็นชิ้น ๆ เสร็จแล้วกลับบ้านทันที
เตรียมหั่นเตรียมซอย เรื่องอ่อนไม่ต้องพูดถึง ผมตัดโคนทิ้งไปอีก กลัวมันแข็ง อีกอย่างไม่เน้น
ปริมาณ เพราะอยู่กันแค่ 2 คนกับมือ 3
ขาหมู 1 ขา สับเป็นชิ้น ๆ เรียบร้อย
จะทอดหรือไม่ทอดดี ชั่งใจตั้งนาน ในที่สุดตัดสินใจทอดรีดเอาน้ำมันออก และเวลาตุ๋น
เสร็จหนังจะได้กรุบกรอบด้วย
ได้มาเป็นอย่างนี้
ไม่เคยทำ ไม่ได้เปิดตำรา เอาความรู้สึกตัวเองล้วน ๆ ตั้งหม้อน้ำใส่น้ำตาลกรวด เกลือ
ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย พริกไทยเม็ดทุบ เครื่องตุ๋นยาจีนที่เป็นซองสำเร็จ พอน้ำเดือดใส่ทั้งขาหมู
และหน่อไม้ลงไปพร้อมกันลดไฟเหลือไฟกลางค่อนไปทางอ่อน
ประมาณสองชั่วโมงน่าจะได้ หน่อนิ่มแล้ว ส่วนขาหมูหนังนิ่ม แต่ไม่ถือว่าเปื่อย
จัดการปรุงรอบสอง ใส่ปลาหมึกแห้งซอย กุ้งแห้ง ฟองเต้าหู้แผ่น ลงต้มต่อ
เร่งไฟให้น้ำเดือดครั้งสุดท้าย เหยาะเหล้าจีนปรุงกลิ่น ปิดไฟเปิดฝาหม้อแง้มไว้ ปล่อย
ให้ตุ๋นกันเองทั้งคืน
เช้ามา รีบไปดูอยากรู้ผล หวานครับน้ำแกงหวานกลมกล่อมเลยทีเดียว เปิดไฟอีกครั้ง
กลิ่นปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง เหล้าจีน ผสมกับความหวานของหน่อ บอกได้เลยว่าตุ๋น
หม้อนี้ไม่ธรรมดา (ไม่โม้ไม่ใช่สล่าปู่)
จัดมาชิมเป็นมื้อเช้าเสียเลย ข้าวไม่ต้องหมดไป 2 ถ้วย ตบท้ายด้วยกาแฟ 1 แก้ว สบายไป
มาเร็วเคลมเร็วครับ วันนี้ สวัสดีครับ