18 สิงหาคม 2556 DTAC ถ้าต้องทำ4G2100คงต้องแบ่ง10 MHz//ตัดสินใจปรับแพกเกจกำหนด(FUP)เป็นความเร็วขึ้นเป็น128Kbpsยิ่งใช้แพกเกจที่มีราคาสูงขึ้น256 Kbpsและ348 Kbps
ประเด็นหลัก
ชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายไตรเน็ตมีมากกว่า 8,000 เซลไซต์ และในเดือน ต.ค.จะเพิ่มเป็นกว่า 10,000 เซลไซต์ โดยคาดว่าการโอนย้ายเข้าไปสู่เครือข่ายใหม่นี้จะครบ 4.5 ล้านรายภายในช่วงเดือน ต.ค.นี้เช่นกัน โดยดีแทคได้ทำการลงทุนสถานีฐานที่กรุงเทพฯ มากกว่าจังหวัดอื่น เพราะมีผู้ใช้งาน 3G มากกว่า โดยติดตั้งประมาณ 3,000 เซลไซต์
นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับความเร็วหลังจากการใช้ 3G ครบตามที่แพกเกจกำหนด (FUP) โดยปรับความเร็วขึ้นเป็น 128 Mbps แต่ถ้าลูกค้าใช้แพกเกจที่มีราคาสูงขึ้นก็จะเป็น 256 Mbps และ 348 Mbps แล้วแต่แพกเกจ สำหรับการโอนเข้าสู่ไตรเน็ตนั้นดีแทคได้ทำการแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องเปลี่ยนซิม ดีแทคจะมี SMS ให้เปิดทิ้งมือถือไว้และระบบจะส่งตัวอัปเกรดไปให้เปิดอัตโนมัติประมาณเที่ยงคืน หลังจากเที่ยงคืนก็แค่ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ก็จะเข้าสู่เครือข่ายไตรเน็ต
ส่วนกลุ่มที่สองต้องเปลี่ยนซิมเพราะซิมเดิมไม่รองรับเนื่องจากเป็นกลุ่มบริการพิเศษ เช่น กลุ่มบริการข้ามแดนอัตโนมัติ, Multi SIM, Group Bill (Family) หรือใช้แอร์การ์ดและแท็บเล็ตที่มีความประสงค์โอนย้าย จะทยอยได้รับ SMS รวมถึงระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อแจ้งให้ทราบ ลูกค้าสามารถเลือกรับซิมใหม่ด้วยการจัดส่งทางไปรษณีย์ พร้อมคู่มือการดำเนินการที่สามารถทำได้โดยง่าย
หลังจากลูกค้าได้รับซิมแล้วก็ดำเนินการเหมือนกับการเปิดบัตรเครดิตด้วยการโทร.เข้าระบบอัตโนมัติ หลังจากนั้นระบบจะนำเบอร์ลูกค้าถ่ายโอนเข้าไปในเครือข่ายไตรเน็ตตอนเที่ยงคืนเช่นกัน โดยจะมี SMS ทยอยออกตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากที่อยู่ทางไปรษณีย์ไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบันลูกค้าสามารถนำเครื่องมาดำเนินการที่ศูนย์ได้ 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนแล้วลูกค้าสามารถใช้แพกเกจเดิมหรือจะใช้แพกเกจใหม่ของไตรเน็ตก็ได้ เช่นเดียวกับทางด้านบริการต่างๆ นั้นจะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม แต่บริการบางอย่างที่เคยมีระบบเดิมอาจจะไม่มีในระบบใหม่ เช่น เอทีเอ็มซิม จะไม่ได้ให้บริการในไตรเน็ต
***เข้าสู่ไตรเน็ต 3 ความถี่สวิตช์ให้เน็ตเร็วได้อัตโนมัติ
“ไตรเน็ตจะใช้งานคลื่นความถี่ 850 จำนวน 10 MHz คลื่นความถี่ 2100 จำนวน 15 MHz และ 1800 จำนวน 25 MHz รวมกันเป็น 50 MHz ทำให้เรามีถนนที่รองรับลูกค้าที่ใหญ่กว่า รองรับได้มากกว่า โดยแต่ละคลื่นความถี่จะเป็นคนละเซลไซต์แต่คอร์เน็ตเวิร์กเดียวกัน สามารถสวิตช์การใช้งานข้ามคลื่นความถี่ได้ เหมือนถนนสามเส้นต่อกันไม่มีขอบทางจึงไม่มีอุปสรรคในการเปลี่ยนเลนที่หนาแน่น ไปวิ่งในเลนที่ว่างและโล่งมากกว่า โดยในส่วนการใช้งาน 3G นั้นสามารถวิ่งไปวิ่งมาได้ อยู่ที่ว่าตอนนั้นคลื่น 850 หรือ 2100 อะไรดีกว่า ระบบก็จะวิ่งไปหาเพื่อให้ได้สปีดที่ดีกว่า”
ชัยยศกล่าวว่า อีกจุดเด่นของไตรเน็ตคือ เมื่อโอนย้ายซิมแล้วจะสามารถนำไปใช้ในการโรมมิ่งที่ต่างประเทศได้ทันที สามารถครอบคลุม 400 โอเปอเรเตอร์ใน 150 ประเทศ ดังนั้นแม้ลูกค้าจะเดินทางบ่อยก็ไม่มีปัญหาในการสวิตช์ข้ามเครือข่าย และไตรเน็ตที่ใช้ในเมืองไทยไม่ใช่การโรมมิ่งเครือข่ายจึงไม่มีอักษร “อาร์” ขึ้นบนจอ และไม่ต้องเปิดดาต้าโรมมิ่งเหมือนผู้ให้บริการรายอื่นก็สามารถใช้ได้ สำหรับลูกค้าที่ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตเลย และยินดีที่จะอยู่ที่เดิมก็จะยังได้รับบริการเหมือนเดิม เพราะดีแทคยังมีระบบในสัมปทานอยู่ถึงปี 2561
การลงทุนเครือข่ายนั้น ดีแทคเน้นการลงทุนที่สามารถรองรับ 4G ได้ด้วย และหากมีการประมูลความถี่เพิ่มเติมดีแทคก็สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่ดีแทคต้องมีการบริหารคลื่นความถี่ให้เพียงพอ การแบ่งคลื่น 2100 MHz มาใช้จะทำให้การใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพทั้งคู่และอาจจะมีปัญหาทั้งสองอย่าง ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ความถี่จำนวน 10 MHz ถึงจะทำ 4G ได้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการมีคลื่นความถี่ที่มีแบนด์วิดท์มากในระยะยาวถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของดีแทคเพราะรองรับทราฟฟิกได้มากและได้ดีกว่า
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000101554
______________________________________
ดีแทค ไตรเน็ต อาวุธพิฆาตคู่ปรับ!!!
หลังทยอยปูพื้นสร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้า ตั้งแต่ปรับโลโกใหม่ให้ดูทันสมัยมีมิติมากขึ้นทั้งดีแทค และแฮปปี้ การเปิดตัวมือถือใหม่ด้วยแบรนด์ดีแทคที่จ้างหัวเว่ยผลิต รวมทั้งการชูไตรเน็ต อินเทอร์เน็ตฟอร์ออล บริการ 3 ความถี่ทั้ง 850 MHz 1800 MHz และ 2.1 GHz สร้างให้เกิดความคาดหวังของลูกค้าที่อยากจะใช้บริการโมบายล์อินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วถึงใจ
แต่การเปิดตัวไตรเน็ตและการเปิดให้ใช้งานความถี่ 2.1 GHz ของดีแทคนั้นถือว่าล่าช้ากว่าคู่แข่งมากพอสมควร ทำให้ลูกค้าที่มีความต้องการเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเพราะมีความคาดหวังว่าเมื่อเครือข่ายพร้อมแล้วทำไมยังไม่ได้ใช้ ทั้งที่ผ่านมาดีแทคได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเครือข่ายใหม่ผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดหลังจากทุกอย่างเริ่มมีความลงตัวจึงออกมาประกาศว่าภายในเดือน ส.ค.นี้ลูกค้าที่ลงทะเบียนเพื่อเปลี่ยนเครือข่ายจะได้ใช้งานไตรเน็ตจำนวน 1 ล้านราย
ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าแสดงความประสงค์ต้องการโอนย้ายมาใช้ดีแทค ไตรเน็ตมากกว่า 4.5 ล้านราย จากปัจจุบันมีลูกค้าทั้งสิ้น 27.2 ล้ายราย โดยในจำนวนที่แสดงความต้องการใช้บริการไตรเน็ตแบ่งเป็นโพสต์เพดประมาณ 40% และพรีเพด 60%
ชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายไตรเน็ตมีมากกว่า 8,000 เซลไซต์ และในเดือน ต.ค.จะเพิ่มเป็นกว่า 10,000 เซลไซต์ โดยคาดว่าการโอนย้ายเข้าไปสู่เครือข่ายใหม่นี้จะครบ 4.5 ล้านรายภายในช่วงเดือน ต.ค.นี้เช่นกัน โดยดีแทคได้ทำการลงทุนสถานีฐานที่กรุงเทพฯ มากกว่าจังหวัดอื่น เพราะมีผู้ใช้งาน 3G มากกว่า โดยติดตั้งประมาณ 3,000 เซลไซต์
นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับความเร็วหลังจากการใช้ 3G ครบตามที่แพกเกจกำหนด (FUP) โดยปรับความเร็วขึ้นเป็น 128 Mbps แต่ถ้าลูกค้าใช้แพกเกจที่มีราคาสูงขึ้นก็จะเป็น 256 Mbps และ 348 Mbps แล้วแต่แพกเกจ สำหรับการโอนเข้าสู่ไตรเน็ตนั้นดีแทคได้ทำการแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องเปลี่ยนซิม ดีแทคจะมี SMS ให้เปิดทิ้งมือถือไว้และระบบจะส่งตัวอัปเกรดไปให้เปิดอัตโนมัติประมาณเที่ยงคืน หลังจากเที่ยงคืนก็แค่ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ก็จะเข้าสู่เครือข่ายไตรเน็ต
ส่วนกลุ่มที่สองต้องเปลี่ยนซิมเพราะซิมเดิมไม่รองรับเนื่องจากเป็นกลุ่มบริการพิเศษ เช่น กลุ่มบริการข้ามแดนอัตโนมัติ, Multi SIM, Group Bill (Family) หรือใช้แอร์การ์ดและแท็บเล็ตที่มีความประสงค์โอนย้าย จะทยอยได้รับ SMS รวมถึงระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อแจ้งให้ทราบ ลูกค้าสามารถเลือกรับซิมใหม่ด้วยการจัดส่งทางไปรษณีย์ พร้อมคู่มือการดำเนินการที่สามารถทำได้โดยง่าย
หลังจากลูกค้าได้รับซิมแล้วก็ดำเนินการเหมือนกับการเปิดบัตรเครดิตด้วยการโทร.เข้าระบบอัตโนมัติ หลังจากนั้นระบบจะนำเบอร์ลูกค้าถ่ายโอนเข้าไปในเครือข่ายไตรเน็ตตอนเที่ยงคืนเช่นกัน โดยจะมี SMS ทยอยออกตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากที่อยู่ทางไปรษณีย์ไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบันลูกค้าสามารถนำเครื่องมาดำเนินการที่ศูนย์ได้ 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนแล้วลูกค้าสามารถใช้แพกเกจเดิมหรือจะใช้แพกเกจใหม่ของไตรเน็ตก็ได้ เช่นเดียวกับทางด้านบริการต่างๆ นั้นจะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม แต่บริการบางอย่างที่เคยมีระบบเดิมอาจจะไม่มีในระบบใหม่ เช่น เอทีเอ็มซิม จะไม่ได้ให้บริการในไตรเน็ต
***เข้าสู่ไตรเน็ต 3 ความถี่สวิตช์ให้เน็ตเร็วได้อัตโนมัติ
“ไตรเน็ตจะใช้งานคลื่นความถี่ 850 จำนวน 10 MHz คลื่นความถี่ 2100 จำนวน 15 MHz และ 1800 จำนวน 25 MHz รวมกันเป็น 50 MHz ทำให้เรามีถนนที่รองรับลูกค้าที่ใหญ่กว่า รองรับได้มากกว่า โดยแต่ละคลื่นความถี่จะเป็นคนละเซลไซต์แต่คอร์เน็ตเวิร์กเดียวกัน สามารถสวิตช์การใช้งานข้ามคลื่นความถี่ได้ เหมือนถนนสามเส้นต่อกันไม่มีขอบทางจึงไม่มีอุปสรรคในการเปลี่ยนเลนที่หนาแน่น ไปวิ่งในเลนที่ว่างและโล่งมากกว่า โดยในส่วนการใช้งาน 3G นั้นสามารถวิ่งไปวิ่งมาได้ อยู่ที่ว่าตอนนั้นคลื่น 850 หรือ 2100 อะไรดีกว่า ระบบก็จะวิ่งไปหาเพื่อให้ได้สปีดที่ดีกว่า”
ชัยยศกล่าวว่า อีกจุดเด่นของไตรเน็ตคือ เมื่อโอนย้ายซิมแล้วจะสามารถนำไปใช้ในการโรมมิ่งที่ต่างประเทศได้ทันที สามารถครอบคลุม 400 โอเปอเรเตอร์ใน 150 ประเทศ ดังนั้นแม้ลูกค้าจะเดินทางบ่อยก็ไม่มีปัญหาในการสวิตช์ข้ามเครือข่าย และไตรเน็ตที่ใช้ในเมืองไทยไม่ใช่การโรมมิ่งเครือข่ายจึงไม่มีอักษร “อาร์” ขึ้นบนจอ และไม่ต้องเปิดดาต้าโรมมิ่งเหมือนผู้ให้บริการรายอื่นก็สามารถใช้ได้ สำหรับลูกค้าที่ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตเลย และยินดีที่จะอยู่ที่เดิมก็จะยังได้รับบริการเหมือนเดิม เพราะดีแทคยังมีระบบในสัมปทานอยู่ถึงปี 2561
การลงทุนเครือข่ายนั้น ดีแทคเน้นการลงทุนที่สามารถรองรับ 4G ได้ด้วย และหากมีการประมูลความถี่เพิ่มเติมดีแทคก็สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่ดีแทคต้องมีการบริหารคลื่นความถี่ให้เพียงพอ การแบ่งคลื่น 2100 MHz มาใช้จะทำให้การใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพทั้งคู่และอาจจะมีปัญหาทั้งสองอย่าง ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ความถี่จำนวน 10 MHz ถึงจะทำ 4G ได้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการมีคลื่นความถี่ที่มีแบนด์วิดท์มากในระยะยาวถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของดีแทคเพราะรองรับทราฟฟิกได้มากและได้ดีกว่า
***เพิ่มศูนย์บริการดีแทคอีก 100 แห่ง
ดีแทคได้ประกาศเชิญชวนผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่สนใจจะเข้ามาทำธุรกิจร่วมกับดีแทคหลังจากที่ดีแทค ไตรเน็ต พร้อมที่จะให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าของดีแทค และดีแทคไตรเน็ตได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยดีแทคได้เปิดรับผู้สนใจเข้าร่วมธุรกิจแฟรนไชส์กับดีแทคในลักษณะของ dtac Hall, dtac Center และ dtac Express
โดยความร่วมมือในการทำศูนย์บริการดีแทคในครั้งนี้ ดีแทคมองเห็นความสำคัญของรีเทลบิสิเนสว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจทำให้มีคนสนใจเป็นคู่ค้ามากขึ้น ประกอบกับการขยายตัวของ 3G ทำให้เกิดการเปลี่ยนเครื่องเป็นสมาร์ทโฟน การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าดีแทคมีการใช้สมาร์ทโฟนในสัดส่วนที่ต่ำประมาณ 30% เท่านั้น ส่วนอีก 70% ยังไม่ได้ใช้ ดังนั้น ลูกค้าในกลุ่มนี้จะกลายเป็นผู้ที่มีความต้องการในอนาคต นอกจากนี้ในปีนี้ดีแทคจะออกโทรศัพท์มือถือไตรเน็ตรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ดังนั้นการขยายชอปในครั้งนี้จึงถือเป็นการรองรับในทุกๆ ด้าน
“การเปิดแฟรนไชส์นั้นเราจะร่วมลงทุนกับผู้ที่สนใจ โดยดีแทคจะดูศักยภาพของพื้นที่ จัดการไม่ให้เกิดการแข่งขันกันเอง ดูศักยภาพในการรองรับร้านค้า รวมไปถึงการมีพื้นที่ที่เราต้องการจะตั้งชอป โดยจะมีกระบวนการในการสัมภาษณ์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งในส่วนของพนักงานเป็นของคู่ค้า ซึ่งเราจะส่งไปเทรนนิ่งด้วยระบบการจัดการเป็นของดีแทค”
ก่อนที่จะทำการขยายศูนย์บริการดีแทคนั้น ดีแทคได้ดำเนินการปรับโฉมศูนย์บริการดีแทคไปแล้วกว่า 140 สาขาทั่วประเทศภายใน 2 ปี โดยศูนย์บริการดีแทครูปแบบใหม่ได้เปิดตัวสาขาแรกในเดือน ก.ค. 2555 ถือเป็นต้นแบบการให้บริการครบวงจรทั้งการขายและบริการ พร้อมจัดข้อเสนอให้ตรงใจลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งดีแทควางแผนจะปรับโฉมศูนย์ให้บริการลูกค้าครบ 250 สาขาภายในปี 2556 และตั้งเป้าปรับโฉมศูนย์บริการดี
DTAC ถ้าต้องทำ4G2100คงต้องแบ่ง10 MHz/ตัดสินใจปรับแพกเกจกำหนด(FUP)เป็นความเร็วขึ้นเป็น128Kbpsยิ่งใช้แพกเกจสูง(FUP)สูงขึ้น
ประเด็นหลัก
ชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายไตรเน็ตมีมากกว่า 8,000 เซลไซต์ และในเดือน ต.ค.จะเพิ่มเป็นกว่า 10,000 เซลไซต์ โดยคาดว่าการโอนย้ายเข้าไปสู่เครือข่ายใหม่นี้จะครบ 4.5 ล้านรายภายในช่วงเดือน ต.ค.นี้เช่นกัน โดยดีแทคได้ทำการลงทุนสถานีฐานที่กรุงเทพฯ มากกว่าจังหวัดอื่น เพราะมีผู้ใช้งาน 3G มากกว่า โดยติดตั้งประมาณ 3,000 เซลไซต์
นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับความเร็วหลังจากการใช้ 3G ครบตามที่แพกเกจกำหนด (FUP) โดยปรับความเร็วขึ้นเป็น 128 Mbps แต่ถ้าลูกค้าใช้แพกเกจที่มีราคาสูงขึ้นก็จะเป็น 256 Mbps และ 348 Mbps แล้วแต่แพกเกจ สำหรับการโอนเข้าสู่ไตรเน็ตนั้นดีแทคได้ทำการแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องเปลี่ยนซิม ดีแทคจะมี SMS ให้เปิดทิ้งมือถือไว้และระบบจะส่งตัวอัปเกรดไปให้เปิดอัตโนมัติประมาณเที่ยงคืน หลังจากเที่ยงคืนก็แค่ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ก็จะเข้าสู่เครือข่ายไตรเน็ต
ส่วนกลุ่มที่สองต้องเปลี่ยนซิมเพราะซิมเดิมไม่รองรับเนื่องจากเป็นกลุ่มบริการพิเศษ เช่น กลุ่มบริการข้ามแดนอัตโนมัติ, Multi SIM, Group Bill (Family) หรือใช้แอร์การ์ดและแท็บเล็ตที่มีความประสงค์โอนย้าย จะทยอยได้รับ SMS รวมถึงระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อแจ้งให้ทราบ ลูกค้าสามารถเลือกรับซิมใหม่ด้วยการจัดส่งทางไปรษณีย์ พร้อมคู่มือการดำเนินการที่สามารถทำได้โดยง่าย
หลังจากลูกค้าได้รับซิมแล้วก็ดำเนินการเหมือนกับการเปิดบัตรเครดิตด้วยการโทร.เข้าระบบอัตโนมัติ หลังจากนั้นระบบจะนำเบอร์ลูกค้าถ่ายโอนเข้าไปในเครือข่ายไตรเน็ตตอนเที่ยงคืนเช่นกัน โดยจะมี SMS ทยอยออกตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากที่อยู่ทางไปรษณีย์ไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบันลูกค้าสามารถนำเครื่องมาดำเนินการที่ศูนย์ได้ 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนแล้วลูกค้าสามารถใช้แพกเกจเดิมหรือจะใช้แพกเกจใหม่ของไตรเน็ตก็ได้ เช่นเดียวกับทางด้านบริการต่างๆ นั้นจะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม แต่บริการบางอย่างที่เคยมีระบบเดิมอาจจะไม่มีในระบบใหม่ เช่น เอทีเอ็มซิม จะไม่ได้ให้บริการในไตรเน็ต
***เข้าสู่ไตรเน็ต 3 ความถี่สวิตช์ให้เน็ตเร็วได้อัตโนมัติ
“ไตรเน็ตจะใช้งานคลื่นความถี่ 850 จำนวน 10 MHz คลื่นความถี่ 2100 จำนวน 15 MHz และ 1800 จำนวน 25 MHz รวมกันเป็น 50 MHz ทำให้เรามีถนนที่รองรับลูกค้าที่ใหญ่กว่า รองรับได้มากกว่า โดยแต่ละคลื่นความถี่จะเป็นคนละเซลไซต์แต่คอร์เน็ตเวิร์กเดียวกัน สามารถสวิตช์การใช้งานข้ามคลื่นความถี่ได้ เหมือนถนนสามเส้นต่อกันไม่มีขอบทางจึงไม่มีอุปสรรคในการเปลี่ยนเลนที่หนาแน่น ไปวิ่งในเลนที่ว่างและโล่งมากกว่า โดยในส่วนการใช้งาน 3G นั้นสามารถวิ่งไปวิ่งมาได้ อยู่ที่ว่าตอนนั้นคลื่น 850 หรือ 2100 อะไรดีกว่า ระบบก็จะวิ่งไปหาเพื่อให้ได้สปีดที่ดีกว่า”
ชัยยศกล่าวว่า อีกจุดเด่นของไตรเน็ตคือ เมื่อโอนย้ายซิมแล้วจะสามารถนำไปใช้ในการโรมมิ่งที่ต่างประเทศได้ทันที สามารถครอบคลุม 400 โอเปอเรเตอร์ใน 150 ประเทศ ดังนั้นแม้ลูกค้าจะเดินทางบ่อยก็ไม่มีปัญหาในการสวิตช์ข้ามเครือข่าย และไตรเน็ตที่ใช้ในเมืองไทยไม่ใช่การโรมมิ่งเครือข่ายจึงไม่มีอักษร “อาร์” ขึ้นบนจอ และไม่ต้องเปิดดาต้าโรมมิ่งเหมือนผู้ให้บริการรายอื่นก็สามารถใช้ได้ สำหรับลูกค้าที่ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตเลย และยินดีที่จะอยู่ที่เดิมก็จะยังได้รับบริการเหมือนเดิม เพราะดีแทคยังมีระบบในสัมปทานอยู่ถึงปี 2561
การลงทุนเครือข่ายนั้น ดีแทคเน้นการลงทุนที่สามารถรองรับ 4G ได้ด้วย และหากมีการประมูลความถี่เพิ่มเติมดีแทคก็สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่ดีแทคต้องมีการบริหารคลื่นความถี่ให้เพียงพอ การแบ่งคลื่น 2100 MHz มาใช้จะทำให้การใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพทั้งคู่และอาจจะมีปัญหาทั้งสองอย่าง ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ความถี่จำนวน 10 MHz ถึงจะทำ 4G ได้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการมีคลื่นความถี่ที่มีแบนด์วิดท์มากในระยะยาวถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของดีแทคเพราะรองรับทราฟฟิกได้มากและได้ดีกว่า
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000101554
______________________________________
ดีแทค ไตรเน็ต อาวุธพิฆาตคู่ปรับ!!!
หลังทยอยปูพื้นสร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้า ตั้งแต่ปรับโลโกใหม่ให้ดูทันสมัยมีมิติมากขึ้นทั้งดีแทค และแฮปปี้ การเปิดตัวมือถือใหม่ด้วยแบรนด์ดีแทคที่จ้างหัวเว่ยผลิต รวมทั้งการชูไตรเน็ต อินเทอร์เน็ตฟอร์ออล บริการ 3 ความถี่ทั้ง 850 MHz 1800 MHz และ 2.1 GHz สร้างให้เกิดความคาดหวังของลูกค้าที่อยากจะใช้บริการโมบายล์อินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วถึงใจ
แต่การเปิดตัวไตรเน็ตและการเปิดให้ใช้งานความถี่ 2.1 GHz ของดีแทคนั้นถือว่าล่าช้ากว่าคู่แข่งมากพอสมควร ทำให้ลูกค้าที่มีความต้องการเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเพราะมีความคาดหวังว่าเมื่อเครือข่ายพร้อมแล้วทำไมยังไม่ได้ใช้ ทั้งที่ผ่านมาดีแทคได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเครือข่ายใหม่ผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดหลังจากทุกอย่างเริ่มมีความลงตัวจึงออกมาประกาศว่าภายในเดือน ส.ค.นี้ลูกค้าที่ลงทะเบียนเพื่อเปลี่ยนเครือข่ายจะได้ใช้งานไตรเน็ตจำนวน 1 ล้านราย
ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าแสดงความประสงค์ต้องการโอนย้ายมาใช้ดีแทค ไตรเน็ตมากกว่า 4.5 ล้านราย จากปัจจุบันมีลูกค้าทั้งสิ้น 27.2 ล้ายราย โดยในจำนวนที่แสดงความต้องการใช้บริการไตรเน็ตแบ่งเป็นโพสต์เพดประมาณ 40% และพรีเพด 60%
ชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายไตรเน็ตมีมากกว่า 8,000 เซลไซต์ และในเดือน ต.ค.จะเพิ่มเป็นกว่า 10,000 เซลไซต์ โดยคาดว่าการโอนย้ายเข้าไปสู่เครือข่ายใหม่นี้จะครบ 4.5 ล้านรายภายในช่วงเดือน ต.ค.นี้เช่นกัน โดยดีแทคได้ทำการลงทุนสถานีฐานที่กรุงเทพฯ มากกว่าจังหวัดอื่น เพราะมีผู้ใช้งาน 3G มากกว่า โดยติดตั้งประมาณ 3,000 เซลไซต์
นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับความเร็วหลังจากการใช้ 3G ครบตามที่แพกเกจกำหนด (FUP) โดยปรับความเร็วขึ้นเป็น 128 Mbps แต่ถ้าลูกค้าใช้แพกเกจที่มีราคาสูงขึ้นก็จะเป็น 256 Mbps และ 348 Mbps แล้วแต่แพกเกจ สำหรับการโอนเข้าสู่ไตรเน็ตนั้นดีแทคได้ทำการแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องเปลี่ยนซิม ดีแทคจะมี SMS ให้เปิดทิ้งมือถือไว้และระบบจะส่งตัวอัปเกรดไปให้เปิดอัตโนมัติประมาณเที่ยงคืน หลังจากเที่ยงคืนก็แค่ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ก็จะเข้าสู่เครือข่ายไตรเน็ต
ส่วนกลุ่มที่สองต้องเปลี่ยนซิมเพราะซิมเดิมไม่รองรับเนื่องจากเป็นกลุ่มบริการพิเศษ เช่น กลุ่มบริการข้ามแดนอัตโนมัติ, Multi SIM, Group Bill (Family) หรือใช้แอร์การ์ดและแท็บเล็ตที่มีความประสงค์โอนย้าย จะทยอยได้รับ SMS รวมถึงระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อแจ้งให้ทราบ ลูกค้าสามารถเลือกรับซิมใหม่ด้วยการจัดส่งทางไปรษณีย์ พร้อมคู่มือการดำเนินการที่สามารถทำได้โดยง่าย
หลังจากลูกค้าได้รับซิมแล้วก็ดำเนินการเหมือนกับการเปิดบัตรเครดิตด้วยการโทร.เข้าระบบอัตโนมัติ หลังจากนั้นระบบจะนำเบอร์ลูกค้าถ่ายโอนเข้าไปในเครือข่ายไตรเน็ตตอนเที่ยงคืนเช่นกัน โดยจะมี SMS ทยอยออกตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากที่อยู่ทางไปรษณีย์ไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบันลูกค้าสามารถนำเครื่องมาดำเนินการที่ศูนย์ได้ 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนแล้วลูกค้าสามารถใช้แพกเกจเดิมหรือจะใช้แพกเกจใหม่ของไตรเน็ตก็ได้ เช่นเดียวกับทางด้านบริการต่างๆ นั้นจะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม แต่บริการบางอย่างที่เคยมีระบบเดิมอาจจะไม่มีในระบบใหม่ เช่น เอทีเอ็มซิม จะไม่ได้ให้บริการในไตรเน็ต
***เข้าสู่ไตรเน็ต 3 ความถี่สวิตช์ให้เน็ตเร็วได้อัตโนมัติ
“ไตรเน็ตจะใช้งานคลื่นความถี่ 850 จำนวน 10 MHz คลื่นความถี่ 2100 จำนวน 15 MHz และ 1800 จำนวน 25 MHz รวมกันเป็น 50 MHz ทำให้เรามีถนนที่รองรับลูกค้าที่ใหญ่กว่า รองรับได้มากกว่า โดยแต่ละคลื่นความถี่จะเป็นคนละเซลไซต์แต่คอร์เน็ตเวิร์กเดียวกัน สามารถสวิตช์การใช้งานข้ามคลื่นความถี่ได้ เหมือนถนนสามเส้นต่อกันไม่มีขอบทางจึงไม่มีอุปสรรคในการเปลี่ยนเลนที่หนาแน่น ไปวิ่งในเลนที่ว่างและโล่งมากกว่า โดยในส่วนการใช้งาน 3G นั้นสามารถวิ่งไปวิ่งมาได้ อยู่ที่ว่าตอนนั้นคลื่น 850 หรือ 2100 อะไรดีกว่า ระบบก็จะวิ่งไปหาเพื่อให้ได้สปีดที่ดีกว่า”
ชัยยศกล่าวว่า อีกจุดเด่นของไตรเน็ตคือ เมื่อโอนย้ายซิมแล้วจะสามารถนำไปใช้ในการโรมมิ่งที่ต่างประเทศได้ทันที สามารถครอบคลุม 400 โอเปอเรเตอร์ใน 150 ประเทศ ดังนั้นแม้ลูกค้าจะเดินทางบ่อยก็ไม่มีปัญหาในการสวิตช์ข้ามเครือข่าย และไตรเน็ตที่ใช้ในเมืองไทยไม่ใช่การโรมมิ่งเครือข่ายจึงไม่มีอักษร “อาร์” ขึ้นบนจอ และไม่ต้องเปิดดาต้าโรมมิ่งเหมือนผู้ให้บริการรายอื่นก็สามารถใช้ได้ สำหรับลูกค้าที่ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตเลย และยินดีที่จะอยู่ที่เดิมก็จะยังได้รับบริการเหมือนเดิม เพราะดีแทคยังมีระบบในสัมปทานอยู่ถึงปี 2561
การลงทุนเครือข่ายนั้น ดีแทคเน้นการลงทุนที่สามารถรองรับ 4G ได้ด้วย และหากมีการประมูลความถี่เพิ่มเติมดีแทคก็สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่ดีแทคต้องมีการบริหารคลื่นความถี่ให้เพียงพอ การแบ่งคลื่น 2100 MHz มาใช้จะทำให้การใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพทั้งคู่และอาจจะมีปัญหาทั้งสองอย่าง ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ความถี่จำนวน 10 MHz ถึงจะทำ 4G ได้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการมีคลื่นความถี่ที่มีแบนด์วิดท์มากในระยะยาวถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของดีแทคเพราะรองรับทราฟฟิกได้มากและได้ดีกว่า
***เพิ่มศูนย์บริการดีแทคอีก 100 แห่ง
ดีแทคได้ประกาศเชิญชวนผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่สนใจจะเข้ามาทำธุรกิจร่วมกับดีแทคหลังจากที่ดีแทค ไตรเน็ต พร้อมที่จะให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าของดีแทค และดีแทคไตรเน็ตได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยดีแทคได้เปิดรับผู้สนใจเข้าร่วมธุรกิจแฟรนไชส์กับดีแทคในลักษณะของ dtac Hall, dtac Center และ dtac Express
โดยความร่วมมือในการทำศูนย์บริการดีแทคในครั้งนี้ ดีแทคมองเห็นความสำคัญของรีเทลบิสิเนสว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจทำให้มีคนสนใจเป็นคู่ค้ามากขึ้น ประกอบกับการขยายตัวของ 3G ทำให้เกิดการเปลี่ยนเครื่องเป็นสมาร์ทโฟน การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าดีแทคมีการใช้สมาร์ทโฟนในสัดส่วนที่ต่ำประมาณ 30% เท่านั้น ส่วนอีก 70% ยังไม่ได้ใช้ ดังนั้น ลูกค้าในกลุ่มนี้จะกลายเป็นผู้ที่มีความต้องการในอนาคต นอกจากนี้ในปีนี้ดีแทคจะออกโทรศัพท์มือถือไตรเน็ตรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ดังนั้นการขยายชอปในครั้งนี้จึงถือเป็นการรองรับในทุกๆ ด้าน
“การเปิดแฟรนไชส์นั้นเราจะร่วมลงทุนกับผู้ที่สนใจ โดยดีแทคจะดูศักยภาพของพื้นที่ จัดการไม่ให้เกิดการแข่งขันกันเอง ดูศักยภาพในการรองรับร้านค้า รวมไปถึงการมีพื้นที่ที่เราต้องการจะตั้งชอป โดยจะมีกระบวนการในการสัมภาษณ์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งในส่วนของพนักงานเป็นของคู่ค้า ซึ่งเราจะส่งไปเทรนนิ่งด้วยระบบการจัดการเป็นของดีแทค”
ก่อนที่จะทำการขยายศูนย์บริการดีแทคนั้น ดีแทคได้ดำเนินการปรับโฉมศูนย์บริการดีแทคไปแล้วกว่า 140 สาขาทั่วประเทศภายใน 2 ปี โดยศูนย์บริการดีแทครูปแบบใหม่ได้เปิดตัวสาขาแรกในเดือน ก.ค. 2555 ถือเป็นต้นแบบการให้บริการครบวงจรทั้งการขายและบริการ พร้อมจัดข้อเสนอให้ตรงใจลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งดีแทควางแผนจะปรับโฉมศูนย์ให้บริการลูกค้าครบ 250 สาขาภายในปี 2556 และตั้งเป้าปรับโฉมศูนย์บริการดี