เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนจะทะเลาะกันบ่อยๆเรื่องการออกกำลังกายของเค้า
ในห้องเราจะมีตู้หนังสือ ซึ่งก็สูงพอที่จะทำเป็นหิ้งพระไปด้วย
เนื่องจากห้องที่เราอยู่เป็นหอพัก ไม่สามารถไปต่อเติมหรือทำหิ้งพระให้สูงกว่านี้ได้
เราจึงจำเป็นที่จะต้องนำพระทั้งหมด มาวางอยู่ชั้นบนสุดของชั้นหนังสือและทำเป็นหิ้งพระไปเลย
ทีนี้แฟนเราเค้าชอบออกกำลังกาย (ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะคะ ออกกำลังกายจริงๆค่ะ)
แต่บังเอิญเค้าเป็นคนรักสบาย ไม่ทำที่พื้น มาทำที่เตียงเพราะกลัวเจ็บหลัง
ไม่ว่าจะวิดพื้น ซิทอัพ หรือท่าที่เค้าคิดเองก็มาอยู่บนเตียงทั้งนั้นค่ะ
และท่าที่เค้าชอบทำ คือยกขาสูง สูงกว่าพระ ซึ่งอันนี้เราขอเค้าตลอดว่าให้ไปทำที่พื้นได้มั้ย
อย่างน้อยขาก็จะได้ไม่ต้องสูงเทียบพระ ซึ่งทุกครั้งที่เราพูด เค้าก็จะยิ่งยกขาให้สูง ทำหูทวนลมไปเลยค่ะ
จนล่าสุดเราโมโห เพราะยิ่งห้ามเค้าก็ยิ่งทำ เราบอกจะเอาพระไปเก็บที่บ้านแม่ ถ้ามีแล้วไม่เคารพก็ไม่ต้องมี
ซึ่งเค้าพูดออกมาแค่คำเดียวว่า "ตามใจ"
เราก็เลยโมโหพาลต่อว่าเค้าไป (อันนี้เราผิดที่อารมณ์ร้อนค่ะ เรายอมรับ)
เราถามเค้าว่า เธอยอมที่จะไม่มีพระอยู่ในห้องเพื่อจะได้ออกกำลังกายเหรอ
เธอมาทำท่าทางแบบนั้น ยกขาสูงกว่าพระทุกวัน ไม่กลัวทำมาหากินไม่ขึ้นเหรอ เธอทำแบบนี้ก็เหมือนลบหลู่พระนะ
เค้าก็บอกมาแค่ว่า ก็ให้เอาพระไปไว้ที่อื่นแล้วไง เราจะมีปัญหาอะไรอีก สำหรับเค้าคิดว่า พระก็เป็นแค่ "วัตถุ"
บอกให้เราอย่างมงาย แล้วยังมีการท้าทาย ว่าเดี๋ยวเค้าจะเลิกทำ แล้วจะรอดูซิว่า
ถ้าเค้าไม่ยกขาสูงกว่าพระ แล้วชีวิตจะดีขึ้นมั้ย ????????
ต้องบอกก่อนว่านิสัยส่วนตัวของแฟนเรา คือเค้าเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมากถึงมากที่สุด
เค้าจะมั่นใจในความคิดและการกระทำของเค้ามาก เป็นคนมองโลกแบบเป็นลบ มองแบบร้ายไว้ก่อน
ไม่คิดจะช่วยเหลือใคร จะไหว้วานให้ทำอะไรให้ เค้าจะไม่ค่อยทำค่ะ แต่ชอบบอกให้เราช่วยเหลือเค้า ชอบสั่งชอบว่า
ขนาดว่าเราไม่สบาย ลุกไปหยิบยาทานไม่ไหว บอกให้เค้าช่วย เค้ายังบอกเลยค่ะ ว่าน่ารำคาญ !!!
เพราะฉะนั้นเค้าจะไม่ค่อยเชื่อในพระ หรือสิ่งที่มองไม่เห็นซักเท่าไหร่ เพราะเค้าคิดว่าทุกอย่างอยู่ที่ตัวเค้าเพียงคนเดียว
ยิ่งถ้าให้ไปทำบุญ ยิ่งเป็นเรื่องยาก เค้ามักจะหาข้ออ้างว่า ไม่มีคนพาเค้าไปทำบุญ ไปเองไม่ได้
แต่เวลาเราชวนเค้าไปในวันหยุด เค้าจะบอกว่าไม่มีเวลา (ติดเล่นเกมส์) ค่ะ
แม้แต่กล่องข้าว เค้ายังเดินข้ามได้หน้าตาเฉย อันนี้ข้ามจริงๆนะคะ ไม่ใช่แค่เฉียดๆ
ครั้งแรกที่เราเห็นคือ เค้ายืนคร่อมกล่องข้าวผัดกระเพราที่เราซื้อมา คือข้าวอยู่ระหว่างขาเค้าเลยค่ะ แล้วเค้ายืนดื่มน้ำหน้าตาเฉย
ซึ่งเราโมโหมาก โวยวายเค้าไป แต่เค้าถามกลับมาคำเดียวทำเราสะอึก ว่าเค้าข้ามแล้วทำให้ข้าวบูดมั้ย กินไม่ได้เลยเหรอ
หัวนงหัวนอนเค้าก็ไม่เคยเคารพค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังชอบถอดกางเกงในแล้ววางไว้หัวเตียงเราบ่อยๆ หัวเตียงบ้างปลายเตียงบ้าง
ต่อให้เรายังนอนอยู่บนเตียงเค้าก็ไม่สนใจ เอาสะดวกเข้าว่า อยากถอดตรงไหนก็ถอด
บางวันเราตื่นมา เจอบ็อกเซอร์เค้าอยู่ใกล้หน้าเราเลยค่ะ
ซึ่งสำหรับเรา เราจะซีเรียสมาก หัวนอนเรา เราไม่ชอบให้ของต่ำมาวาง เพราะบางทีเราจะมีพระอยู่บนหัวนอนบ้าง
ทั้งหมดที่เล่ามาอันนี้แค่ซอฟท์ๆนะคะ ถ้าเล่าทั้งหมดคงยาวเป็นหางว่าว
เราอยากรู้ว่าเรางมงายไปมั้ย หรือเราควรทำตัวเป็นกลาง ปล่อยให้เค้าทำอะไรก็ทำไป
พูดมากแล้วจะกลายเป็นทะเลาะกัน เพราะทุกครั้งที่เถียงกันเรื่องนี้ คำพูดที่เค้าพยายามสื่อออกมา คือว่าเรางมงายค่ะ
บางครั้งไม่พูดตรงๆ แต่คำพูดและท่าทางมันสื่อออกมาแบบนั้นเลยค่ะ
เราหนักใจกับเค้ามาก หรือเป็นเพราะเรายึดติดกับพระกับเจ้ามากไปมั้ยคะ ???
เราอยากรู้ว่าคนอื่นมีมุมมองยังไงกับเรื่องนี้ค่ะ
ถ้าเป็นเพราะเรามองเค้าในแง่ร้ายและยึดติดมากเกินไป เราพร้อมปรับปรุงค่ะ ขอคำชี้แนะด้วยนะคะ
เราคิดมากหรืองมงายเกินไปไหมคะ ????
ในห้องเราจะมีตู้หนังสือ ซึ่งก็สูงพอที่จะทำเป็นหิ้งพระไปด้วย
เนื่องจากห้องที่เราอยู่เป็นหอพัก ไม่สามารถไปต่อเติมหรือทำหิ้งพระให้สูงกว่านี้ได้
เราจึงจำเป็นที่จะต้องนำพระทั้งหมด มาวางอยู่ชั้นบนสุดของชั้นหนังสือและทำเป็นหิ้งพระไปเลย
ทีนี้แฟนเราเค้าชอบออกกำลังกาย (ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะคะ ออกกำลังกายจริงๆค่ะ)
แต่บังเอิญเค้าเป็นคนรักสบาย ไม่ทำที่พื้น มาทำที่เตียงเพราะกลัวเจ็บหลัง
ไม่ว่าจะวิดพื้น ซิทอัพ หรือท่าที่เค้าคิดเองก็มาอยู่บนเตียงทั้งนั้นค่ะ
และท่าที่เค้าชอบทำ คือยกขาสูง สูงกว่าพระ ซึ่งอันนี้เราขอเค้าตลอดว่าให้ไปทำที่พื้นได้มั้ย
อย่างน้อยขาก็จะได้ไม่ต้องสูงเทียบพระ ซึ่งทุกครั้งที่เราพูด เค้าก็จะยิ่งยกขาให้สูง ทำหูทวนลมไปเลยค่ะ
จนล่าสุดเราโมโห เพราะยิ่งห้ามเค้าก็ยิ่งทำ เราบอกจะเอาพระไปเก็บที่บ้านแม่ ถ้ามีแล้วไม่เคารพก็ไม่ต้องมี
ซึ่งเค้าพูดออกมาแค่คำเดียวว่า "ตามใจ"
เราก็เลยโมโหพาลต่อว่าเค้าไป (อันนี้เราผิดที่อารมณ์ร้อนค่ะ เรายอมรับ)
เราถามเค้าว่า เธอยอมที่จะไม่มีพระอยู่ในห้องเพื่อจะได้ออกกำลังกายเหรอ
เธอมาทำท่าทางแบบนั้น ยกขาสูงกว่าพระทุกวัน ไม่กลัวทำมาหากินไม่ขึ้นเหรอ เธอทำแบบนี้ก็เหมือนลบหลู่พระนะ
เค้าก็บอกมาแค่ว่า ก็ให้เอาพระไปไว้ที่อื่นแล้วไง เราจะมีปัญหาอะไรอีก สำหรับเค้าคิดว่า พระก็เป็นแค่ "วัตถุ"
บอกให้เราอย่างมงาย แล้วยังมีการท้าทาย ว่าเดี๋ยวเค้าจะเลิกทำ แล้วจะรอดูซิว่า
ถ้าเค้าไม่ยกขาสูงกว่าพระ แล้วชีวิตจะดีขึ้นมั้ย ????????
ต้องบอกก่อนว่านิสัยส่วนตัวของแฟนเรา คือเค้าเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมากถึงมากที่สุด
เค้าจะมั่นใจในความคิดและการกระทำของเค้ามาก เป็นคนมองโลกแบบเป็นลบ มองแบบร้ายไว้ก่อน
ไม่คิดจะช่วยเหลือใคร จะไหว้วานให้ทำอะไรให้ เค้าจะไม่ค่อยทำค่ะ แต่ชอบบอกให้เราช่วยเหลือเค้า ชอบสั่งชอบว่า
ขนาดว่าเราไม่สบาย ลุกไปหยิบยาทานไม่ไหว บอกให้เค้าช่วย เค้ายังบอกเลยค่ะ ว่าน่ารำคาญ !!!
เพราะฉะนั้นเค้าจะไม่ค่อยเชื่อในพระ หรือสิ่งที่มองไม่เห็นซักเท่าไหร่ เพราะเค้าคิดว่าทุกอย่างอยู่ที่ตัวเค้าเพียงคนเดียว
ยิ่งถ้าให้ไปทำบุญ ยิ่งเป็นเรื่องยาก เค้ามักจะหาข้ออ้างว่า ไม่มีคนพาเค้าไปทำบุญ ไปเองไม่ได้
แต่เวลาเราชวนเค้าไปในวันหยุด เค้าจะบอกว่าไม่มีเวลา (ติดเล่นเกมส์) ค่ะ
แม้แต่กล่องข้าว เค้ายังเดินข้ามได้หน้าตาเฉย อันนี้ข้ามจริงๆนะคะ ไม่ใช่แค่เฉียดๆ
ครั้งแรกที่เราเห็นคือ เค้ายืนคร่อมกล่องข้าวผัดกระเพราที่เราซื้อมา คือข้าวอยู่ระหว่างขาเค้าเลยค่ะ แล้วเค้ายืนดื่มน้ำหน้าตาเฉย
ซึ่งเราโมโหมาก โวยวายเค้าไป แต่เค้าถามกลับมาคำเดียวทำเราสะอึก ว่าเค้าข้ามแล้วทำให้ข้าวบูดมั้ย กินไม่ได้เลยเหรอ
หัวนงหัวนอนเค้าก็ไม่เคยเคารพค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังชอบถอดกางเกงในแล้ววางไว้หัวเตียงเราบ่อยๆ หัวเตียงบ้างปลายเตียงบ้าง
ต่อให้เรายังนอนอยู่บนเตียงเค้าก็ไม่สนใจ เอาสะดวกเข้าว่า อยากถอดตรงไหนก็ถอด
บางวันเราตื่นมา เจอบ็อกเซอร์เค้าอยู่ใกล้หน้าเราเลยค่ะ
ซึ่งสำหรับเรา เราจะซีเรียสมาก หัวนอนเรา เราไม่ชอบให้ของต่ำมาวาง เพราะบางทีเราจะมีพระอยู่บนหัวนอนบ้าง
ทั้งหมดที่เล่ามาอันนี้แค่ซอฟท์ๆนะคะ ถ้าเล่าทั้งหมดคงยาวเป็นหางว่าว
เราอยากรู้ว่าเรางมงายไปมั้ย หรือเราควรทำตัวเป็นกลาง ปล่อยให้เค้าทำอะไรก็ทำไป
พูดมากแล้วจะกลายเป็นทะเลาะกัน เพราะทุกครั้งที่เถียงกันเรื่องนี้ คำพูดที่เค้าพยายามสื่อออกมา คือว่าเรางมงายค่ะ
บางครั้งไม่พูดตรงๆ แต่คำพูดและท่าทางมันสื่อออกมาแบบนั้นเลยค่ะ
เราหนักใจกับเค้ามาก หรือเป็นเพราะเรายึดติดกับพระกับเจ้ามากไปมั้ยคะ ???
เราอยากรู้ว่าคนอื่นมีมุมมองยังไงกับเรื่องนี้ค่ะ
ถ้าเป็นเพราะเรามองเค้าในแง่ร้ายและยึดติดมากเกินไป เราพร้อมปรับปรุงค่ะ ขอคำชี้แนะด้วยนะคะ