รีวิว Softbank 007SH J by Sharp ฝาพับ Android 3D รุ่นแรก และรุ่นเดียวของโลก

(ภาพจาก softbank.jp)
สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตมารีวิว Softbank 007SH by Sharp หลังจากที่เล็งไว้นานมากแล้ว ก็ได้มีโอกาสได้ครอบครองเสียที
เท่าที่ผมหาดูใน Internet ทั้งช่วงก่อนซื้อและหลังซื้อ แทบจะไม่เจอรีวิวการใช้งานรุ่นนี้เป็นเรื่องเป็นราวเลย ทั้งๆที่ออกขายมานานพอสมควรแล้ว จึงอยากจะมาแชร์ให้ทุกๆท่านในที่นี้ได้อ่านกันครับ ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่อยากได้ รวมถึงท่านที่แค่อยากรู้ว่ารุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เกริ่นก่อนเข้าเรื่อง
Sharp 007SH เปิดตัวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2011 ซึ่งเป็นปีที่โทรศัพท์มือถือในระบบ Android ได้เริ่มเข้ามาครองตลาดมือถือแทนที่Feature Phone หรือโทรศัพท์ธรรมดาๆ ที่ไม่ใช่ Smart Phone แบบจอสัมผัส โดยในบ้านเรา Android Phone ที่เป็นผู้นำตลาดในตอนนั้นก็คือ Galaxy S2 จากซัมซุงนั่นเอง

(เจ้าหน้าที่แนะนำ 007SH ในงานเปิดตัว)
(ภาพจาก mynavi.jp)
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้แตกต่างจากประเทศอื่นๆในโลกเท่าไหร่ในเรื่องนี้ หลังจากที่ iPhone 3G เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2008 โดย Softbank ตลาดโทรศัพท์มือถือญี่ปุ่นเองก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลง จากมือถือฝาพับที่เป็นปุ่มกด มาเป็น Smart Phone จอใหญ่ ไม่มีปุ่มกดตัวเลขเหมือนเดิมอีกต่อไป
การเปลี่ยนผ่านนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งหัวเรือใหญ่ที่เป็นผู้ผลักดัน Android ในญี่ปุ่นก็คือ ntt Docomo ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุด ซึ่งไม่ยอมขาย iPhone (สาเหตุมาจากการที่ระบบโทรศัพท์มือถือในญี่ปุนนั้นต่างจากที่ใดๆในโลก ผู้ให้บริการโทรศัพท์ จะทำการ Service ทุกอย่างด้วยตัวเอง Content ทุกอย่างต้องโหลดจาก Operator เท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่หนัง หรือเพลง ซึ่ง โทรศัพท์มือถือที่ออกขายในญี่ปุ่น จะเป็นการสั่งผลิตเฉพาะเพื่อให้เข้ากับบริการที่ Operator มีอยู่ การขาย iPhone เท่ากับเอาลูกค้าออกนอกระบบอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก ซึ่งจากคำสัมภาษณ์ล่าสุดของผู้บริหารในปี 2013 Docomo ก็ยังไม่ขาย iPhone ด้วยเหตุผลในทำนองเดียวกัน)

(Android รุ่นแรกที่ขายในญี่ปุ่นคือ HTC Magic ช่วงกลางปี 2009 ตามมาด้วย Sony Ericsson Xperia X10 ในปี 2010 จากเครือข่าย Docomo ส่วนในรูปคือ Sharp IS01 จากเครื่อข่าย au ซึ่งเป็น Android รุ่นแรกที่วางขายเฉพาะในญี่ปุ่น)
(ภาพจาก Wikipedia Japan)
Softbank เอง ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นำ Android Phone มาขายแข่งกับ Docomo เช่นกัน ซึ่งที่ต่างออกไปคือ Docomo เลือกที่จะไม่เดินหน้าโครงการ Android ด้วยมือถือฝาพับ (มีที่เป็นแบบสไลด์ปุ่มตัวเลขออกมาได้) แต่ Softbank เลือกที่จะทำ โดย 007SH ได้คลอดออกมาเป็นมือถือ Android ฝาพับรุ่นแรกของญี่ปุ่น ) โดยเลือกใช้ Spec กลางๆ เป็น Single Core 1GHz (ก็ถือว่าค่อนไปทาง Spec กลางๆค่อนไปทางบนๆแล้ว สำหรับตอนนั้น) สิ่งที่ให้มาทดแทน CPU ซึ่งไม่ใข่รุ่น สูงสุดในตอนนั้น ก็คือกล้องที่ให้มา 16 ล้านพิกเซล ซึ่งถ้าดูกันในปี 2013 นี้ ก็มี Android อยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้น ที่มีกล้องขนาดนี้ (ส่วนใหญ่จะเป็น Android ญี่ปุ่น) กับจอ 3มิติ ซึ่งเป็นลูกเล่นที่ค่อนข้างฮิตในช่วงปี 2011

(SH-02D Android แบบ Slide จาก ntt Docomo ผลิตโดย Sharp)
(ภาพจาก ipshop.ru)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
Android ฝาพับรุ่นแรกของโลก ผลิตโดย Sharp เช่นกัน ในรุ่น SH7128U และ SH7228U ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายในประเทศจีนเท่านั้น เป็นร่างอวตารของ SH-01B ที่ขายในญี่ปุ่น (แต่ตัวนี้ไม่ใช่แอนดรอยด์) อย่างไรก็ดี ในเว็บของ Sharp ประเทศจีน ทั้งสองรุ่นนี้ ไม่มีส่วนไหนเขียนเลยว่าใช้ Android OS แต่จะเขียนว่าใช้ระบบ Dian Xin ซึ่งจริงๆแล้วก็คือ Android ที่เอามาดัดแปลง (แนวเดียวกับ rom MIUI ที่ผู้ใช้ Android หลายๆท่าน น่าจะรู้จักกันดี)

(SH-7128U)
(ภาพจาก Ebay.com)

(SH-7228U)
(ภาพจาก Ebay.com)
ทำไมต้องเป็นฝาพับ
ถึงแม้ Android จะเข้ามามีบทบาทในญี่ปุ่นมากแล้ว แต่คนจำนวนมากก็ยังใช้มือถือฝาพับอยู่ ทางผู้ให้บริการ ถึงแม้จะออก Android มาหลายรุ่น แต่ก็ไม่ได้เลิกออกมือถือฝาพับเสียทีเดียว การออก Android ฝาพับ จึงอาจะเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ยังต้องการรูปทรงแบบดั้งเดิม โดยที่ได้ Feature ใหม่ๆ ที่ Smart Phone พึงมี เข้ามาใช้ (ณ ปัจจุบัน ราคามือถือฝาพับใน Yahoo Auction ถือว่าแพง ถ้าเทียบกับ Smart Phone ที่ Spec สูงกว่าอยู่พอสมควร ก็พอจะอนุมานได้ว่า เพราะยังมีความต้องการใช้งานอยู่พอสมควร ถึงสามารถขายกันได้ที่ราคาสูงกว่า Smart Phone )
เล็กน้อยก่อนรีวิว
สำหรับ 007SH ที่ผมซื้อมานั้น ซื้อมาใช้เป็นเครื่องรอง ใส่ซิมของบริษัท โดยทีแรก เล็ง Galaxy Pocket Neo ไว้ เพราะต้องการแค่โทรศัพท์ราคาไม่แพงมากที่สามารถ Sync Contacts กับ Google Account ได้ แต่เนื่องจากอยากได้โทรศัพท์ฝาพับญี่ปุ่นอยู่เป็นทุนเดิม จึงได้ตัดสินใจซื้อมา ซึ่งเป็นรุ่น J หรือรุ่นพิเศษสำหรับผู้หญิง สีชมพู Bitter Pink สาเหตุที่เลือกสีนี้มาเพราะราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับสีอื่น ซึ่งราคาตัวที่ปลดล็อคแล้ว อยู่ที่ 12,xxx (ถึงจะถูกที่สุด แต่ก็เรียกได้ว่าแพงเอาเรื่องเลย สำหรับยุคที่ Android 4คอร์ ราคาเริ่มต้นก็ประมาณนี้) สีฟ้าอ่อน ราคากระโดดไปที่ 16,xxx สำหรับตัวผมนั้น ราคาที่จะต้องจ่ายไปกับมือถือที่ไม่ได้ใช้เป็นเครื่องหลัก ราคา 12,xxx ก็เต็มกลืนจนเกินมาเยอะแล้ว (จากเดิมที่ตั้งงบไว้ 3xxx) แต่ก็ซื้อมาจนได้
[CR] รีวิว Softbank 007SH J by Sharp ฝาพับ Android 3D รุ่นแรก และรุ่นเดียวของโลก
(ภาพจาก softbank.jp)
สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตมารีวิว Softbank 007SH by Sharp หลังจากที่เล็งไว้นานมากแล้ว ก็ได้มีโอกาสได้ครอบครองเสียที
เท่าที่ผมหาดูใน Internet ทั้งช่วงก่อนซื้อและหลังซื้อ แทบจะไม่เจอรีวิวการใช้งานรุ่นนี้เป็นเรื่องเป็นราวเลย ทั้งๆที่ออกขายมานานพอสมควรแล้ว จึงอยากจะมาแชร์ให้ทุกๆท่านในที่นี้ได้อ่านกันครับ ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่อยากได้ รวมถึงท่านที่แค่อยากรู้ว่ารุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เกริ่นก่อนเข้าเรื่อง
Sharp 007SH เปิดตัวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2011 ซึ่งเป็นปีที่โทรศัพท์มือถือในระบบ Android ได้เริ่มเข้ามาครองตลาดมือถือแทนที่Feature Phone หรือโทรศัพท์ธรรมดาๆ ที่ไม่ใช่ Smart Phone แบบจอสัมผัส โดยในบ้านเรา Android Phone ที่เป็นผู้นำตลาดในตอนนั้นก็คือ Galaxy S2 จากซัมซุงนั่นเอง
(เจ้าหน้าที่แนะนำ 007SH ในงานเปิดตัว)
(ภาพจาก mynavi.jp)
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้แตกต่างจากประเทศอื่นๆในโลกเท่าไหร่ในเรื่องนี้ หลังจากที่ iPhone 3G เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2008 โดย Softbank ตลาดโทรศัพท์มือถือญี่ปุ่นเองก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลง จากมือถือฝาพับที่เป็นปุ่มกด มาเป็น Smart Phone จอใหญ่ ไม่มีปุ่มกดตัวเลขเหมือนเดิมอีกต่อไป
การเปลี่ยนผ่านนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งหัวเรือใหญ่ที่เป็นผู้ผลักดัน Android ในญี่ปุ่นก็คือ ntt Docomo ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุด ซึ่งไม่ยอมขาย iPhone (สาเหตุมาจากการที่ระบบโทรศัพท์มือถือในญี่ปุนนั้นต่างจากที่ใดๆในโลก ผู้ให้บริการโทรศัพท์ จะทำการ Service ทุกอย่างด้วยตัวเอง Content ทุกอย่างต้องโหลดจาก Operator เท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่หนัง หรือเพลง ซึ่ง โทรศัพท์มือถือที่ออกขายในญี่ปุ่น จะเป็นการสั่งผลิตเฉพาะเพื่อให้เข้ากับบริการที่ Operator มีอยู่ การขาย iPhone เท่ากับเอาลูกค้าออกนอกระบบอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก ซึ่งจากคำสัมภาษณ์ล่าสุดของผู้บริหารในปี 2013 Docomo ก็ยังไม่ขาย iPhone ด้วยเหตุผลในทำนองเดียวกัน)
(Android รุ่นแรกที่ขายในญี่ปุ่นคือ HTC Magic ช่วงกลางปี 2009 ตามมาด้วย Sony Ericsson Xperia X10 ในปี 2010 จากเครือข่าย Docomo ส่วนในรูปคือ Sharp IS01 จากเครื่อข่าย au ซึ่งเป็น Android รุ่นแรกที่วางขายเฉพาะในญี่ปุ่น)
(ภาพจาก Wikipedia Japan)
Softbank เอง ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นำ Android Phone มาขายแข่งกับ Docomo เช่นกัน ซึ่งที่ต่างออกไปคือ Docomo เลือกที่จะไม่เดินหน้าโครงการ Android ด้วยมือถือฝาพับ (มีที่เป็นแบบสไลด์ปุ่มตัวเลขออกมาได้) แต่ Softbank เลือกที่จะทำ โดย 007SH ได้คลอดออกมาเป็นมือถือ Android ฝาพับรุ่นแรกของญี่ปุ่น ) โดยเลือกใช้ Spec กลางๆ เป็น Single Core 1GHz (ก็ถือว่าค่อนไปทาง Spec กลางๆค่อนไปทางบนๆแล้ว สำหรับตอนนั้น) สิ่งที่ให้มาทดแทน CPU ซึ่งไม่ใข่รุ่น สูงสุดในตอนนั้น ก็คือกล้องที่ให้มา 16 ล้านพิกเซล ซึ่งถ้าดูกันในปี 2013 นี้ ก็มี Android อยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้น ที่มีกล้องขนาดนี้ (ส่วนใหญ่จะเป็น Android ญี่ปุ่น) กับจอ 3มิติ ซึ่งเป็นลูกเล่นที่ค่อนข้างฮิตในช่วงปี 2011
(SH-02D Android แบบ Slide จาก ntt Docomo ผลิตโดย Sharp)
(ภาพจาก ipshop.ru)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
Android ฝาพับรุ่นแรกของโลก ผลิตโดย Sharp เช่นกัน ในรุ่น SH7128U และ SH7228U ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายในประเทศจีนเท่านั้น เป็นร่างอวตารของ SH-01B ที่ขายในญี่ปุ่น (แต่ตัวนี้ไม่ใช่แอนดรอยด์) อย่างไรก็ดี ในเว็บของ Sharp ประเทศจีน ทั้งสองรุ่นนี้ ไม่มีส่วนไหนเขียนเลยว่าใช้ Android OS แต่จะเขียนว่าใช้ระบบ Dian Xin ซึ่งจริงๆแล้วก็คือ Android ที่เอามาดัดแปลง (แนวเดียวกับ rom MIUI ที่ผู้ใช้ Android หลายๆท่าน น่าจะรู้จักกันดี)
(SH-7128U)
(ภาพจาก Ebay.com)
(SH-7228U)
(ภาพจาก Ebay.com)
ทำไมต้องเป็นฝาพับ
ถึงแม้ Android จะเข้ามามีบทบาทในญี่ปุ่นมากแล้ว แต่คนจำนวนมากก็ยังใช้มือถือฝาพับอยู่ ทางผู้ให้บริการ ถึงแม้จะออก Android มาหลายรุ่น แต่ก็ไม่ได้เลิกออกมือถือฝาพับเสียทีเดียว การออก Android ฝาพับ จึงอาจะเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ยังต้องการรูปทรงแบบดั้งเดิม โดยที่ได้ Feature ใหม่ๆ ที่ Smart Phone พึงมี เข้ามาใช้ (ณ ปัจจุบัน ราคามือถือฝาพับใน Yahoo Auction ถือว่าแพง ถ้าเทียบกับ Smart Phone ที่ Spec สูงกว่าอยู่พอสมควร ก็พอจะอนุมานได้ว่า เพราะยังมีความต้องการใช้งานอยู่พอสมควร ถึงสามารถขายกันได้ที่ราคาสูงกว่า Smart Phone )
เล็กน้อยก่อนรีวิว
สำหรับ 007SH ที่ผมซื้อมานั้น ซื้อมาใช้เป็นเครื่องรอง ใส่ซิมของบริษัท โดยทีแรก เล็ง Galaxy Pocket Neo ไว้ เพราะต้องการแค่โทรศัพท์ราคาไม่แพงมากที่สามารถ Sync Contacts กับ Google Account ได้ แต่เนื่องจากอยากได้โทรศัพท์ฝาพับญี่ปุ่นอยู่เป็นทุนเดิม จึงได้ตัดสินใจซื้อมา ซึ่งเป็นรุ่น J หรือรุ่นพิเศษสำหรับผู้หญิง สีชมพู Bitter Pink สาเหตุที่เลือกสีนี้มาเพราะราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับสีอื่น ซึ่งราคาตัวที่ปลดล็อคแล้ว อยู่ที่ 12,xxx (ถึงจะถูกที่สุด แต่ก็เรียกได้ว่าแพงเอาเรื่องเลย สำหรับยุคที่ Android 4คอร์ ราคาเริ่มต้นก็ประมาณนี้) สีฟ้าอ่อน ราคากระโดดไปที่ 16,xxx สำหรับตัวผมนั้น ราคาที่จะต้องจ่ายไปกับมือถือที่ไม่ได้ใช้เป็นเครื่องหลัก ราคา 12,xxx ก็เต็มกลืนจนเกินมาเยอะแล้ว (จากเดิมที่ตั้งงบไว้ 3xxx) แต่ก็ซื้อมาจนได้