ผีอำ หรือ??

ตอนแรกก็ไม่อยากโทษเรื่อง ผี สาง อะไรหรอกนะคะ โทษที่สุขภาพ ตัวเองด้วยซ้ำ
เริ่มแรกคือ 2-3ปี ที่แล้ว สมัยเรียนมหาลัย เราอยู่หอA หลัง มหาลัยเเห่งนึง ซึ่งจะเป็นป่าซะส่วนใหญ่ เป็นเขตชุมชน มีวัด มีศาล แถวนั้นเยอะ
ซักทุ่มนึงนี่แทบ ไม่มีรถ วิ่งผ่านแล้ว เงียบและมึดมาก

      ก็ใช้ชีวิตไปปกติ แต่มีอยู่วันนึง กลับเข้าหอเกือบ เที่ยงคืน รู้สึกเหมือนมีคนเดินตามได้ยินเสียง รองเท้าแตะฟาดกับส้นเท้าแรงมาก ห่างจากเราประมาณ3 ฟุต หันไปดูก็ไม่มีใคร  พอเราหยุดมันก็หยุด พอเราขึ้นบันได เสียงยิ่งชัด  เราก็หยุด ก้มดูรองเท้าตัวเอง ก็ไม่ใช้เสียงรองเท้าเรา. พยายามเลิกคิด จนลืมเรื่องนี้ไป
     ประมาณ4-5วันต่อมาตอนกลางคืนอยู่ไฟก็ดับ เลยลุกไปดูสวิตไฟ ปรากฏว่า มันถูกกดลง รอบแรกยังไม่คิดอะไร.  เรากดเปิดพอหันหลังเดิน ไฟก็ดับอีก คราวนี้เสียงกด สวิตไฟ ดัง แป๊ก เต็ม2หู เราก็เปิด และเช็คดูสวิต ว่าเป็นไปได้มั๊ยที่มันจะค้าง แต่พอดูแล้วมันก็ปกติดี
    คืนนั้นเลยโทรไปหาแม่ บอกไม่ให้วางสาย พอหลับไป  ก็ฝันว่านอนอยู่บนเตียงในห้องตัวเอง. แล้วมีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ปลายเตียงแล้วหันมามอง ทุกอย่างเหมือนจริงมากแถมเกิดในห้องตัวเองอีก เค้าคลานมา พยายามจะขึ้นมาทับ แต่เราพยายามก็ถีบ ทั้งสวดมนต์  ทั้งกรี๊ด เค้าก็เรียกเราว่า ที่รัก ที่รัก เค้าพูดว่า เค้ามาหาแล้ว เสียงน่ากลัว โหยหวลและก็ ยานมาก จนเราตะโกนว่า แม่ จึงตื่น กลัวจนตัวสั่น หัวใจเต้นแรงมาก ดูนาฬิกาประมาณตี4 เลยโทรไปหาแม่จนถึงเช้า แล้วรีบไปทำบุญ

หลังจากนั้นเลยไปนอนหอเพื่อนเป็นอาทิตย์ ก็ไม่มีอะไร คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว เลยชวนเพื่อนมานอนที่หอเรา. วันนั้นก็นอนไป เราตื่นกลางดึก เกือบๆตี2 นอนตะเเคงอยู่ จังหวะ พลิกตัว จะหันมาหาเพื่อน
กลายเป็นว่ามีผู้ชาย(หน้าตารูปร่างคนละคนกับคราวที่แล้ว มาแต่ละทีหน้าตาเปลี่ยนไปแต่เรารู้สึกได้ว่าเป็นผู้ชายคนเดิมนั่นแหล่ะ) ตัวขาวมาก ขาวจนซีด หัวโล้น จมูกโด่งเหมือนปีศาส นอนนิ่งๆลืมตาอยู่ข้างๆ  เรากรี๊ดไม่ออก มองอยู่ประมาณ20วิ แน่ใจแล้วว่าไม่ตาฝาด ก็กรี๊ดออกมา เพื่อนเราตกใจรีบลุกไปเปิดไฟ. เราบอกมีผู้ชายเข้ามาในห้อง (ตอนนั้นคิดว่าเป็นคน) แต่หาจนทั่วก็ไม่เจอ.


หลังจากพ่อแม่พาไปวัดทำบุญ ก็เลยย้ายหอ อยู่หลัง มอ. เหมือนเดิม คราวนี้เพื่อนย้ายมาอยู่ด้วย  วันปกติ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่พอวันหยุดเพื่อนกลับบ้าน แล้วเรา ไม่ได้กลับ ก็จะโดนแบบนี้ทุกครั้ง.
จนเรารำคาญ. จนมีอยู่ครั้งนึง คือกึ่งหลับกึ่งตื่น เข้าก็มานั่งทีปลายเตียงอีก
ด้วยความรำคาญจึงกลั้นใจถาม ว่าเป็นใคร ต้องการอะไร เราบอกเค้าว่า ไม่กลัวเเล้ว. เค้า พยายามจะดึงเราไปกอด เราดิ้นจนไม่รู้จะดิ้นยังไง ก็ไม่มีแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้ เป็นอยู่หลายครั้งมาก ครั้งที่น่ากลัวที่สุด คือ เค้าพยายามจะดึงเราไปกอด และเราหันกลับมา เห็นร่างตัวเองนอนอยู่ กรี๊ด จนหลุด รู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง ทิ้งตัวลงนอน ก็สะดุ้ง ลืมตาขึ้นมา

     ครั้งนั้น พ่อกับ แม่พาไปหาหมอรักษาทั่วไป หมอก็คิดว่าควรไปหา จิตแพทย์ เราก็ไป บอกว่าเป็นอาการโรคอะไรไม่รู้(้เป็นภาษาอังกฤษลืมไปแล้ว) สาเหตุมาจาก เหนื่อย นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปวน คิดมาก จนเกิดภาพหลอน

ทั้งที่จริงเเล้ว เราไม่ค่อยเครียด ไม่ค่อยคิดมาก  สนุกสนานไปวันๆ มองโลกในแง่ดี  และที่สำคัญ ไม่เคยกลัวผี มาก่อน

อยู่ หอ ฝั่ง มหาลัยจนจบเทอม พ่อกับแม่เลยให้ย้ายไปอยู่ไกลๆ ในตัวเมือง อีกฝั่งตรงข้าม กับมหาลัย เพราะฝั่งนั้นคนเยอะ 24 ชม.
ปรากฏว่าได้ผล สภาพจิตใจ ความกลัว ทุกอย่างดีขึ้น ไม่โดนผีหลอก ผีอำอีก

จนเราลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

ผ่านมา2-3 ปีเรียนจบ ทำงาน พ่อแม่จึงให้ย้าย มาเช่าบ้านเป็นหลังอยู่ เพราะค่าเช่าถูก ครึ่งต่อครึ่ง ถ้าเทียบกับฝั่งตรงข้าม
และมี น้องชาย กับน้องสาว มาเรียน มาอยู่ เป็นเพื่อน

       ผ่านไปเดือนกว่า ก็เริ่มมีเหตุการณ์ แปลกๆ เกิดขึ้นอีก คือเริ่มแรก ไฟห้องน้ำเปิดเอง เรากับน้องได้แต่มองตากันปริบๆ
หนักขึ้นเรื่อยๆขึ้น มีเสียงกดชักโครกเอง.
เราก็ยัง คิดว่า มันอาจจะค้าง.

ต่อมาคือประตูห้องนอนเราล็อคเอง จากด้านใน พอจะไปเอากุญแจสำรองมาไข มันก็ ไม่ล็อคแล้ว.

อยู่บ้านนี้มา ปีกว่า เริ่มรู้สึก จิตใจ ห่อเหี่ยว กระวานกระวาย ไม่ค่อยสบายใจ เหมือนอยู่ หอเดิม
ไปหาพระ พระท่านก็ว่า ฝั่งที่เราอยู่เป็น ฝากตะวันตก ไม่ถูกโฉลก กับวันเดือน ปีเกิด กับเรา สิ่งเลวร้าย อันตรายเข้าหาง่าย

ไปหาหมอ หมอก็ว่า เราทำงานหนัก คิดมาก นอนน้อย เป็นโรคเดิม. แต่คราวนี้ เราก็คิดว่าเป็นเพราะ ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง นอนไม่พอบ้าง

โทษร่างกายตัวเอง โทษตัวเองที่ลืมดูแลตัวเอง แต่คิดดูอีกทีเราก็ไม่ได้ใช้ร่างกายหนักขนาดนั้น. ก็กินอิ่มนอน หลับดี เรื่องที่ผ่านมาก็ไม่ถึงกับเครียด หรือเก็บมาใส่ใจเท่าไหร่

จนพอมา เมื่อคืนก่อน  ผู้ชายคนนั้นก็กลับมา พยายามจะกอด จะดึงเราอีกแล้ว ทำบุญให้ก็แล้ว.  ใส่สร้อยพระก็แล้ว คราวนี้เค้าไม่พูดอะไรเลย
เราเริ่มเครียด จริงๆหล่ะคราวนี้

วันนี้พี่ที่ทำงานก็ทัก ว่าหน้าตาดูหม่องๆ เล่าให้เค้าฟัง ก็บอกให้ย้ายหนี
ตอนนี้ย้ายไปย้ายมาจนเหนื่อย.

ตอนนี้เราเชื่อเกือบ90% ว่าไม่ได้หลอนไปเอง มีอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นประกอบกัน.  
เราอยากรู้ว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่ เจ้ากรรมนายเวรหรอ???  หรือ เราป่วยจริงๆ ... หรือต้องพึ่ง แม่หมอ ....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่