ผมได้มีโอกาศดินเนอร์กับสาวคนหนึ่ง เรารู้จักกันได้เกือบเดือนแล้วครับ เราพบกันที่สวนออกกำลังกายแถวบ้านผมตอนช่วงเย็น เคยออกเดทด้วยกันครั้งแรกวันเข้าพรรษา
ที่ผ่านมา เป็นเดทที่กระทันหันเหมือนกันครับ เพราะเพิ่งรู้จักกันก่อนวันนั้นหนึ่งวันเอง หลังจากนั้น นานๆเราจะเจอกันที ครั้งที่สองผมซื้อดอกกุหลาบปลอมแต่สวยมากสีขาว
พร้อมแจกันให้เธอ เพื่อแสดงให้รู้ว่า ผมไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน เพราะก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์อออกจะเหมือนเพื่อนมากกว่า
จนในครั้งต่อมาผมชวนเธอดินเนอร์ ที่จริงกะว่าจะชวนเธอเล่นๆอยากลองดูว่าเธอจะว่ายังไง เพราะผมเองก็รู้สึกว่าเธออกจะเฉยๆไม่กระตือรือร้นที่จะคบใครเป็นนแฟนอะไร
ผมชวนเธอทางไลน์ ว่า เย็นนี้ไปดินเนอร์กันมั้ย ตอนแรกผมก็ไม่ได้หวังว่าเธอจะรับคำชวนผมมั้ย แต่เฮ้ย!!?? เธอถามว่าไปกันที่ไหนดี เอาล่ะสิ
มันก็ดีอยู่หรอกนะที่รับคำชวนของผม แต่มาคิดอีกที มันเพิ่งผ่านวันหวยกินมาหมาดๆ จะเอาค่าดินเนอร์ที่ไหนมาว่ะ? อีกตั้งนานกว่าจะสิ้นเดือน
อ่อ บอกก่อนว่าฐานะการเงินของผมค่อนข้างจะไม่โอเคเท่าไหร่ เงินเดือนหมื่นกลางๆ ซึ่งต่างกับเธอ เธอเป็นเภสัชกรค่าโอทีชั่วโมงล่ะสองร้อย ฐานะเธอดีกว่าผม อายุมากกว่า
ผมสองปี หน้าตาน่ารัก สวยหุ่นเพรียวบาง ตาใสๆ แต่โอกาสงามๆแบบนี้นานๆทีจะมีสักครั้ง ผมตัดสินใจไปดินเนอร์กับเธอที่ร้านCoffee Worldแห่งหนึ่งตอน1ทุ่ม ผมมีเวลา
เตรียมตัวสองชั่วโมง ผมกลับจากทำงานมาที่ห้อง
อาบน้ำแต่งตัวอย่างอารมณ์ดี ในใจคิดตลอดว่า มันตอ้องเป็นดินเนอร์ที่วิเศษสุดแน่ๆเพราะผมจะได้เฟชทูเฟชกับเธอ ประมาณว่ามองตา สบตา จ้องตาอะไรประมาณนี้
ผมอาบน้ำเสร็จแต่งตัวใส่เสื้อยืดสีชมพูเกงยีน เหลือเวลาอีกประมาณ1ชั่วโมงจนกว่าจะถึงทุ่มหนึ่ง เวลายิ่งใกล้เข้ามาเท่าไหร่ยิ่งตื่นเต้นเท่านั้น เกร็งไปหมด ไม่รู้จะทำอะไรดี
ก็เลยเล่นโยคะรอเวลานัด

เพื่อลดความตื่นเต้น แต่ก็ได้ผลดีนะ พอถึงเวลานัดผมไปรอเธอใกล้ร้านที่จะดินเนอร์กัน รอเธอสักพัก เธอก็เดินยิ้มมา เธอแต่งตัวน่ารัก
มาก ผมไม่เคยเห็นเธอลุคนี้มาก่อน เราเดินเข้าไปที่ร้านแล้วสั่งอาหารมาทานกันคนล่ะอย่าง เธอสั่งข้าวผัดเขียวหวานพร้อมกาแฟที่ใส่วิบครีมผสมช็อคโกแลตมาด้วยหนึ่งแก้ว
เธอให้ผมลองชิมดู แต่ผมว่ามีหลอดเดียวเองนะ ใช้ด้วยกันได้ด้วยหรอ? เธอตอบว่า ไม่เป็นไหร่หรอก ใช้ได้ๆเราไม่ถือ(ผมแอบยิ้มในใจแบบปลื้มๆ)

และก็ชิม
หลังจากนั้นเราก็สนทนากันเรื่องโน้นเรื่องนั้น แต่สมาธิผมไม่ได้อยู่ที่บทสนทนาเลย มันจับจดอยู่แต่บนใบหน้าของเธอ กิริยาท่าทางของเธอ น้ำเสียงเธอ คำพูดเธอ มันทำให้ผม
หลงใหลอธิบายความรู้สึกนี้แบบไม่บอกไม่ถูก คุณรู้มั้ย ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า ผมจะมีช่วงเวลาแบบนี้อีกครั้งได้ เราสองคนทานอาหารเสร็จกันแป้บเดยว เพราะต่างพากัน
ทานไปด้วยและดูซีรีย์ฮอร์โมนตอนล่าสุดไปด้วย หลังจากนั้นถึงเวลาร้านปิดและเช็คบิล ผมอาสาที่จะเลี้ยงเธอมื้อนี้ เธอบอกว่าไม่เป็นไหร่หรอก แชร์กันก็ได้ ผมบอกว่า
ไม่เป็นไหร่เหมือนกัน และบอกว่า ผมเป็นคนชวนเธอเดทเองก็ต้องเลี้ยงเองไง เธอตอบตกลงแบบ อ่ะก็ได้ และกล่าวขอบคุณผมด้วยสายตาแบบการ์ตูนญี่ปุ่นมองมาที่ผม
เราเดินออกมาจากร้าน ด้วยกัน เดินเคียงข้างกันพร้อมกับบทสนทนาเล็กๆน้อยๆ เหมือนเดิมแหล่ะ สมาธิผมมันเพียงแค่พยายามจดจำถึงช่วงเวลานี้และเก็บเอาไว้
เดินมาได้ไม่ไกลก็ถึงตรงจุดที่ต้องแยกทางกลับบ้านแล้ว แต่ที่ผมประทับใจสุดคือ เธอเดินมาส่งผมที่รถมอไซด์ ทั้งที่จริงแล้วเราส่งคนน่าจะแยกกันกลับได้เลยตอนนั้น
ผมก็ชวนเธอคุยไปหลายอย่าง ไม่อยากให้เธอรีบกลับ แต่เธอก็ไม่ได้รีบกลับแต่อย่างใด เป็นผมเองที่รนว่าเธออาจจะรีบกลับ ผมมีโอกาศได้เข้าไปประชิดตัวเธอ ใจผมสั่นแรง
มาก เธอช่างมีเสน่ห์ชวนหลงใหลอะไรอย่างนี้...มันช่างวิเศษสุดเลยนะ ในที่สุดเราสองคนก็แยกทางกันกลับบ้าน เธอบอกให้ผมกลับก่อน แต่ผมบอกเธอให้กลับก่อน ผลัดกันไป
กันมาอยู่นั้น เธอก็ยอมให้ผมให้เธอกลับก่อน พร้อมกับคำว่า ฝันดีนะ บอกเธอ เธอตอบรับด้วยความยินดีและเดินกลับในตอนนั้น ระหว่างทางมาบ้าน ผมรู้สึกใบหน้าผมบาน
กว่าปกติ ยิ้มค้างตลอด เห็นอะไรยิ้มไปหมด พร้อมกับเสียงเพลงจากไอแพด เพลงของคริส บาวน์ ชื่อShold'd be kiss you ยิ่งทำให้ผมมีความสุขสุด พอมาถึงห้อง ยังไม่
อยากนอน มานั่งนอกระเบียง ออกไปคิดถึงค่ำคืนดินเนอร์ที่แสนวิเศษในตอนนั้น และในใจ พร่ำบอกๆ กับตัวเองว่า ผมรักเธอ ผมรักเธอ ผมรักเธอ บอกตรงๆ ไม่เคยรู้สึก
อินเลิฟขนาดนี้มาก่อน
เป็นดินเนอร์ที่ประทับใจ...สุดๆ
ที่ผ่านมา เป็นเดทที่กระทันหันเหมือนกันครับ เพราะเพิ่งรู้จักกันก่อนวันนั้นหนึ่งวันเอง หลังจากนั้น นานๆเราจะเจอกันที ครั้งที่สองผมซื้อดอกกุหลาบปลอมแต่สวยมากสีขาว
พร้อมแจกันให้เธอ เพื่อแสดงให้รู้ว่า ผมไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน เพราะก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์อออกจะเหมือนเพื่อนมากกว่า
จนในครั้งต่อมาผมชวนเธอดินเนอร์ ที่จริงกะว่าจะชวนเธอเล่นๆอยากลองดูว่าเธอจะว่ายังไง เพราะผมเองก็รู้สึกว่าเธออกจะเฉยๆไม่กระตือรือร้นที่จะคบใครเป็นนแฟนอะไร
ผมชวนเธอทางไลน์ ว่า เย็นนี้ไปดินเนอร์กันมั้ย ตอนแรกผมก็ไม่ได้หวังว่าเธอจะรับคำชวนผมมั้ย แต่เฮ้ย!!?? เธอถามว่าไปกันที่ไหนดี เอาล่ะสิ
มันก็ดีอยู่หรอกนะที่รับคำชวนของผม แต่มาคิดอีกที มันเพิ่งผ่านวันหวยกินมาหมาดๆ จะเอาค่าดินเนอร์ที่ไหนมาว่ะ? อีกตั้งนานกว่าจะสิ้นเดือน
อ่อ บอกก่อนว่าฐานะการเงินของผมค่อนข้างจะไม่โอเคเท่าไหร่ เงินเดือนหมื่นกลางๆ ซึ่งต่างกับเธอ เธอเป็นเภสัชกรค่าโอทีชั่วโมงล่ะสองร้อย ฐานะเธอดีกว่าผม อายุมากกว่า
ผมสองปี หน้าตาน่ารัก สวยหุ่นเพรียวบาง ตาใสๆ แต่โอกาสงามๆแบบนี้นานๆทีจะมีสักครั้ง ผมตัดสินใจไปดินเนอร์กับเธอที่ร้านCoffee Worldแห่งหนึ่งตอน1ทุ่ม ผมมีเวลา
เตรียมตัวสองชั่วโมง ผมกลับจากทำงานมาที่ห้อง
อาบน้ำแต่งตัวอย่างอารมณ์ดี ในใจคิดตลอดว่า มันตอ้องเป็นดินเนอร์ที่วิเศษสุดแน่ๆเพราะผมจะได้เฟชทูเฟชกับเธอ ประมาณว่ามองตา สบตา จ้องตาอะไรประมาณนี้
ผมอาบน้ำเสร็จแต่งตัวใส่เสื้อยืดสีชมพูเกงยีน เหลือเวลาอีกประมาณ1ชั่วโมงจนกว่าจะถึงทุ่มหนึ่ง เวลายิ่งใกล้เข้ามาเท่าไหร่ยิ่งตื่นเต้นเท่านั้น เกร็งไปหมด ไม่รู้จะทำอะไรดี
ก็เลยเล่นโยคะรอเวลานัด
มาก ผมไม่เคยเห็นเธอลุคนี้มาก่อน เราเดินเข้าไปที่ร้านแล้วสั่งอาหารมาทานกันคนล่ะอย่าง เธอสั่งข้าวผัดเขียวหวานพร้อมกาแฟที่ใส่วิบครีมผสมช็อคโกแลตมาด้วยหนึ่งแก้ว
เธอให้ผมลองชิมดู แต่ผมว่ามีหลอดเดียวเองนะ ใช้ด้วยกันได้ด้วยหรอ? เธอตอบว่า ไม่เป็นไหร่หรอก ใช้ได้ๆเราไม่ถือ(ผมแอบยิ้มในใจแบบปลื้มๆ)
หลังจากนั้นเราก็สนทนากันเรื่องโน้นเรื่องนั้น แต่สมาธิผมไม่ได้อยู่ที่บทสนทนาเลย มันจับจดอยู่แต่บนใบหน้าของเธอ กิริยาท่าทางของเธอ น้ำเสียงเธอ คำพูดเธอ มันทำให้ผม
หลงใหลอธิบายความรู้สึกนี้แบบไม่บอกไม่ถูก คุณรู้มั้ย ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า ผมจะมีช่วงเวลาแบบนี้อีกครั้งได้ เราสองคนทานอาหารเสร็จกันแป้บเดยว เพราะต่างพากัน
ทานไปด้วยและดูซีรีย์ฮอร์โมนตอนล่าสุดไปด้วย หลังจากนั้นถึงเวลาร้านปิดและเช็คบิล ผมอาสาที่จะเลี้ยงเธอมื้อนี้ เธอบอกว่าไม่เป็นไหร่หรอก แชร์กันก็ได้ ผมบอกว่า
ไม่เป็นไหร่เหมือนกัน และบอกว่า ผมเป็นคนชวนเธอเดทเองก็ต้องเลี้ยงเองไง เธอตอบตกลงแบบ อ่ะก็ได้ และกล่าวขอบคุณผมด้วยสายตาแบบการ์ตูนญี่ปุ่นมองมาที่ผม
เราเดินออกมาจากร้าน ด้วยกัน เดินเคียงข้างกันพร้อมกับบทสนทนาเล็กๆน้อยๆ เหมือนเดิมแหล่ะ สมาธิผมมันเพียงแค่พยายามจดจำถึงช่วงเวลานี้และเก็บเอาไว้
เดินมาได้ไม่ไกลก็ถึงตรงจุดที่ต้องแยกทางกลับบ้านแล้ว แต่ที่ผมประทับใจสุดคือ เธอเดินมาส่งผมที่รถมอไซด์ ทั้งที่จริงแล้วเราส่งคนน่าจะแยกกันกลับได้เลยตอนนั้น
ผมก็ชวนเธอคุยไปหลายอย่าง ไม่อยากให้เธอรีบกลับ แต่เธอก็ไม่ได้รีบกลับแต่อย่างใด เป็นผมเองที่รนว่าเธออาจจะรีบกลับ ผมมีโอกาศได้เข้าไปประชิดตัวเธอ ใจผมสั่นแรง
มาก เธอช่างมีเสน่ห์ชวนหลงใหลอะไรอย่างนี้...มันช่างวิเศษสุดเลยนะ ในที่สุดเราสองคนก็แยกทางกันกลับบ้าน เธอบอกให้ผมกลับก่อน แต่ผมบอกเธอให้กลับก่อน ผลัดกันไป
กันมาอยู่นั้น เธอก็ยอมให้ผมให้เธอกลับก่อน พร้อมกับคำว่า ฝันดีนะ บอกเธอ เธอตอบรับด้วยความยินดีและเดินกลับในตอนนั้น ระหว่างทางมาบ้าน ผมรู้สึกใบหน้าผมบาน
กว่าปกติ ยิ้มค้างตลอด เห็นอะไรยิ้มไปหมด พร้อมกับเสียงเพลงจากไอแพด เพลงของคริส บาวน์ ชื่อShold'd be kiss you ยิ่งทำให้ผมมีความสุขสุด พอมาถึงห้อง ยังไม่
อยากนอน มานั่งนอกระเบียง ออกไปคิดถึงค่ำคืนดินเนอร์ที่แสนวิเศษในตอนนั้น และในใจ พร่ำบอกๆ กับตัวเองว่า ผมรักเธอ ผมรักเธอ ผมรักเธอ บอกตรงๆ ไม่เคยรู้สึก
อินเลิฟขนาดนี้มาก่อน