คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้ามองเป็น DC (แต่ไฟบ้านจริงๆ เป็น AC) ก็เป็นไปตามกฎของโอมห์
V=IR
การที่ไฟฟ้าลัดวงจรเปรียบเสมือนวงจรที่มี R เป็น 0
I = V/0 มันผิดหลักคณิตศาสตร์
I เป็นอะไรที่หาค่าไม่ได้(อาจจะมากเป็นอนันต์) โดยปกติแล้วความร้อนของสายไฟ หรืออุปกรณ์ทางไฟฟ้า มันจะอิงอยู่กับค่า I , I เยอะๆ ก็ร้อนมาก
เมื่อมันร้อนมาก ก็มีโอกาศที่จะลุกเป็นไฟได้
วิธีป้องกันง่ายๆ สำหรับไฟฟ้าลัดวงจร (ที่ผมทำอยู่)
- ติดตั้งกล่องตัดไฟ (จำพวกเซฟทีคัด อะไรประมาณนั้น) หลักการของมันคือเมื่อมี I ไหลมากเกินปกติ มันก็จะตัดระบบไฟฟ้า
- ตรวจสอบกล่องฟิวส์ เสมอๆ
- สายไฟที่ลากบนเพดาน อันนี้สำคัญ ตรวจสอบบ้าง หนูกัดหมดหรือยัง
- ปิด/ถอดปลั๊ก อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกตัวในบ้าน แล้ววิ่งไปดูมิเตอร์หน้าบ้านว่ายังวิ่งรึ่ป่าว ถ้ายังวิ่ง อาจจะมีสิ่งผิดปกติ
V=IR
การที่ไฟฟ้าลัดวงจรเปรียบเสมือนวงจรที่มี R เป็น 0
I = V/0 มันผิดหลักคณิตศาสตร์
I เป็นอะไรที่หาค่าไม่ได้(อาจจะมากเป็นอนันต์) โดยปกติแล้วความร้อนของสายไฟ หรืออุปกรณ์ทางไฟฟ้า มันจะอิงอยู่กับค่า I , I เยอะๆ ก็ร้อนมาก
เมื่อมันร้อนมาก ก็มีโอกาศที่จะลุกเป็นไฟได้
วิธีป้องกันง่ายๆ สำหรับไฟฟ้าลัดวงจร (ที่ผมทำอยู่)
- ติดตั้งกล่องตัดไฟ (จำพวกเซฟทีคัด อะไรประมาณนั้น) หลักการของมันคือเมื่อมี I ไหลมากเกินปกติ มันก็จะตัดระบบไฟฟ้า
- ตรวจสอบกล่องฟิวส์ เสมอๆ
- สายไฟที่ลากบนเพดาน อันนี้สำคัญ ตรวจสอบบ้าง หนูกัดหมดหรือยัง
- ปิด/ถอดปลั๊ก อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกตัวในบ้าน แล้ววิ่งไปดูมิเตอร์หน้าบ้านว่ายังวิ่งรึ่ป่าว ถ้ายังวิ่ง อาจจะมีสิ่งผิดปกติ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
กระแสไฟฟ้าในบ้านเรา จะมีอยู่ทั้งหมด 2 - 3 เส้นแล้วแต่ระบบของแต่ละบ้าน
แต่จะมีเพียงเส้นเดียวที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ เรียกว่าเส้น Line
ซึ่งตามปกติ เส้น Line จะไม่มีการสัมผัสกับเส้นอื่นๆ (Neutron, Ground)
การใช้งานกระแสไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะต้องเสียบปลั๊ก ซึ่งคุณจะเห็นปลั๊ก 2 ขา 3 ขา
เพื่อดึงเอากระแสไฟฟ้าไปใช้ จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ แต่ละเครื่อง
หากไม่มีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ เส้น Line ก็จะอยู่ลำพัง ไม่สัมผัสกับเส้นอื่น
อยู่ในสภาวะที่เรียกว่าวงจรเปิด Open Circuit (อย่าสับสนกับคำว่า "เปิด" ที่หมายถึง เปิดไฟ เปิดสวิทธ์นะครับ)
วงจรเปิด คือ ไม่มีกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านสายไฟใดๆ
กระแสไฟฟ้าในเส้น Line ก็จะอั้นอยู่ในเส้นนั้นเส้นเดียวไม่ไหลไปไหน
ทำให้ไม่เกิดความต่างศักย์ ไม่เสียค่าไฟฟ้า
หากมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะกลางเป็น วงจรปิด
คือ เมื่อกระแสไฟฟ้าจากเส้น Line สามารถไหลไปเส้น Neutron, Ground ได้
สภาวะแบบนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเสียบปลั๊กจากเครื่องใช้ไฟฟ้า
เพื่อให้กระแสไฟฟ้าจาก Line ไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า และไหลกลับลงสู่ Neutron
ทำให้การเดินทางของกระแสไฟฟ้าครบวงจร
ปัญหาก็คือ เมื่อมีกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านสายไฟ จะเกิดความร้อน
ยิ่งมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความร้อนมากขึ้นเท่านั้น
ทีนี้ กระแสจะไหลมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาต่อนั้น
มีอัตราการกินไฟ มากหรือน้อย
ซึ่งวิธีการแก้ไขง่ายๆก็คือ การปรับเปลี่ยนไปใช้สายไฟที่เส้นใหญ่ขึ้น
เพื่อให้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก สามารถไหลได้ง่าย และไม่เกิดความร้อน **
การลัดวงจร ก็คือการที่กระแสไฟจาก Line สามารถไหลเข้าสู่ Neutron หรือ Ground
โดยไม่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า ในสภาวะแบบนี้ หมายความว่า
กระแสไฟ จำนวนมหาศาลที่สามารถให้บริการเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั้งบ้าน
ไหลผ่านสายไฟฟ้า ณ จุดที่เกิดการลัดวงจร ที่สามารถทำให้เกิดความร้อนสูงมาก เป็นอันตราย
รูปแบบของการเกิดการลัดวงจรนั้น อาจจะเกิดจาก 1. สายไฟที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
จาก ** เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ความร้อนที่เกิดขึ้นมาก ทำให้เปลือกหุ้มสายไฟมันละลาย
จนทำให้สาย 2 เส้น Line, Neutron มาชนกัน ทำให้เกิดการลัดวงจร
2. การใช้งานจุดกระจายกระแสไฟ อย่างเช่นพวกปลั๊กพ่วงที่เป็นกล่อง มีให้เสียบหลายๆช่อง
ถ้าหากสายไฟจากปลั๊กพ่วง ที่ไปเสียบเข้าแจ๊คไฟบ้าน มีขนาดไม่รองรับกระแสไฟฟ้า
ที่ใช้จากการพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายๆตัว ก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์เดียวกับ (1) ได้
แต่จะมีเพียงเส้นเดียวที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ เรียกว่าเส้น Line
ซึ่งตามปกติ เส้น Line จะไม่มีการสัมผัสกับเส้นอื่นๆ (Neutron, Ground)
การใช้งานกระแสไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะต้องเสียบปลั๊ก ซึ่งคุณจะเห็นปลั๊ก 2 ขา 3 ขา
เพื่อดึงเอากระแสไฟฟ้าไปใช้ จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ แต่ละเครื่อง
หากไม่มีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ เส้น Line ก็จะอยู่ลำพัง ไม่สัมผัสกับเส้นอื่น
อยู่ในสภาวะที่เรียกว่าวงจรเปิด Open Circuit (อย่าสับสนกับคำว่า "เปิด" ที่หมายถึง เปิดไฟ เปิดสวิทธ์นะครับ)
วงจรเปิด คือ ไม่มีกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านสายไฟใดๆ
กระแสไฟฟ้าในเส้น Line ก็จะอั้นอยู่ในเส้นนั้นเส้นเดียวไม่ไหลไปไหน
ทำให้ไม่เกิดความต่างศักย์ ไม่เสียค่าไฟฟ้า
หากมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะกลางเป็น วงจรปิด
คือ เมื่อกระแสไฟฟ้าจากเส้น Line สามารถไหลไปเส้น Neutron, Ground ได้
สภาวะแบบนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเสียบปลั๊กจากเครื่องใช้ไฟฟ้า
เพื่อให้กระแสไฟฟ้าจาก Line ไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า และไหลกลับลงสู่ Neutron
ทำให้การเดินทางของกระแสไฟฟ้าครบวงจร
ปัญหาก็คือ เมื่อมีกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านสายไฟ จะเกิดความร้อน
ยิ่งมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความร้อนมากขึ้นเท่านั้น
ทีนี้ กระแสจะไหลมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาต่อนั้น
มีอัตราการกินไฟ มากหรือน้อย
ซึ่งวิธีการแก้ไขง่ายๆก็คือ การปรับเปลี่ยนไปใช้สายไฟที่เส้นใหญ่ขึ้น
เพื่อให้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก สามารถไหลได้ง่าย และไม่เกิดความร้อน **
การลัดวงจร ก็คือการที่กระแสไฟจาก Line สามารถไหลเข้าสู่ Neutron หรือ Ground
โดยไม่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า ในสภาวะแบบนี้ หมายความว่า
กระแสไฟ จำนวนมหาศาลที่สามารถให้บริการเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั้งบ้าน
ไหลผ่านสายไฟฟ้า ณ จุดที่เกิดการลัดวงจร ที่สามารถทำให้เกิดความร้อนสูงมาก เป็นอันตราย
รูปแบบของการเกิดการลัดวงจรนั้น อาจจะเกิดจาก 1. สายไฟที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
จาก ** เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ความร้อนที่เกิดขึ้นมาก ทำให้เปลือกหุ้มสายไฟมันละลาย
จนทำให้สาย 2 เส้น Line, Neutron มาชนกัน ทำให้เกิดการลัดวงจร
2. การใช้งานจุดกระจายกระแสไฟ อย่างเช่นพวกปลั๊กพ่วงที่เป็นกล่อง มีให้เสียบหลายๆช่อง
ถ้าหากสายไฟจากปลั๊กพ่วง ที่ไปเสียบเข้าแจ๊คไฟบ้าน มีขนาดไม่รองรับกระแสไฟฟ้า
ที่ใช้จากการพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายๆตัว ก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์เดียวกับ (1) ได้
TWIFT# ถูกใจ, planner ถูกใจ, LakeSight ถูกใจ, mor-jeb ถูกใจ, สุกรสยาม ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 700359 ถูกใจ, เด็กหญิงสายรุ้งกับเด็กชายตะวัน หลงรัก
แสดงความคิดเห็น
ไฟฟ้าลัดวงจรคืออะไรคะ?
อยากทราบว่าทำไมไฟฟ้าถึงลัดวงจรคะ แล้วถ้าเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจะเกิดเพลิงไหม้เสมอไปเลยหรอคะ
แล้วเราสามารถป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรยังไงได้บ้างคะ
ปล.กลัวคะT^T โจรเข้าบ้านร้อยครั้งไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว