เหตุการณ์ เกิดขึ้นวันที่ 14 สิงหาคม 2556 เนื่องจากต้องการลองใช้มือถือจอใหญ่ แต่คุณภาพดี และราคาไม่แพงมาก ส่วนตัวแล้วใช้มือถือ ไอโฟน อยู่ จึงตัดสินไปเดินดูที่มาบุญครอง และเลือกซื้อ Samsung S3 ในราคาไม่แพง เพราะเป็นมือสอง ราคา 8500 คนขายบอกว่าเป็นเครื่องศูนย์ แต่คนใช้ไปอัพให้ใช้ภาษาอาหรับได้เลยไม่มีเมนู ภาษาไทย ก็ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน และแนะนำว่าหากต้องการแฟลชเป็นของศูนย์ไทยให้มาที่ร้านเมื่อไรก็ได้
วันแรกก็เจอปัญหาสายชาร์จแบตชาร์จไม่เข้า ก็ไม่เป็นไรอีกเลยไปซื้อมาใหม่ พิมพ์ไม่ได้ ก็โหลดคีย์บอดมา แรมเหลือน้อยตลอดเวลา เครื่องร้อนก็ไม่บ่น เข้าใจเรื่องดี เพราะชอบที่จอใหญ่เล่นวีดีโอดูหนังสะใจกว่าไอโฟนเยอะ สีสันสดใส ใช้สองวัน แต่ชอบเปลี่ยนเคสก็ซื้อไว้ 3 อัน เรียกว่าจัดกะไว้สลับเปลี่ยนกัน จัดเต็มเพราะชอบจริงๆ
วันนี้เลิกงานไว ตัดสินใจจะไปแฟลชที่ร้าน ไปถึง 17.40 ก็รอเวลาให้ทำเสร็จ กลับมาเอาเครื่องก็ไม่ดีเองที่ไม่ได้ลองเครื่องที่หน้าร้าน เริ้มสังเกตุเครื่องเหมือนจะไม่ใช่ของเดิมแปลกๆไปก็ไม่ดีเองอีกที่ปล่อยผ่าน คิดแค่ว่าใช้งานก็พอ เดินสักพัก ใส่ซิมแต่ไม่มีสัญญาณอีก ไปเปลี่ยนซิมใหม่ก็แล้วลองหลายทางไม่ได้ ที่ศูนย์ก็บอกว่าเครื่องแปลกๆ ทำไมดำครึ่งขาวครึ่ง เค้าถามว่าเครื่องซ่อมมาหรือเปล่าเริ่มใจไม่ดีเลยกลับไปที่ร้าน
ร้านบอกจะแก้ไขให้ เพราะเหมือนเลขอีมี่เครื่องหายไม่ตรง สุดท้ายร้านเอาไปให้ร้านเดิมในเครือข่ายแก้คืน ก็นั่งรอเกือบ 3ทุ่มก็ยังไม่ได้ เราเลยบอกว่าถ้างั้นขอเงินคืน เค้าก็พยายามจะให้เรารอ โทรตามร้านในเครือข่ายนานมากก็ไม่รับสาย และเครื่องก็หายไปเลย เรารอไม่ได้แล้ว ร้านเลยยื่นข้อเสนอให้เอาs3เครื่องให้เราจ่ายเพิ่มอีก 1000 บาทได้เครื่องใหม่ เราบอกว่าขอเงินคืนเถอะยอมไม่เอาเงินเต็มจำนวนที่จ่ายไปก็ได้ ได้คืนมา 8000 ก่อนจะออกมาทางร้านยังคิดกล้าคิดอีกว่าควรจะหักเงินเราค่าอุปกรณ์ที่คืนให้มาไม่ครบขาดที่ชาร์จ
อยากถามว่ายังจะกล้าอีกหรอค่ะ เหมือนเราเสียค่าเช่าใช้โทรสับไปแล้ว 500 บาท แถมไปซื้อที่ชาร์จใหม่เองด้วย สมอลทอคก็ให้คืนไปด้วย ยังกล้าอีกนะค่ะ ยอมเข้าเนื้อสุดๆ ค่ะ
เล่าให้ฟังไว้จะได้ระวัง สังเกตดีๆ ทุกครั้งที่จะซื้อของมือสองที่มาบุญครอง ปกติจะบอกว่าซื้อบ่อยมากแลกซื้อขายประจำ เพราะชอบเปลี่ยนเล่นไปเรื่อยก็ไม่เคยเจอปัญหา มากขนาดนี้
แต่ครั้งบทเรียนนี้สอนเราได้เยอะทีเดียวค่ะ เราไม่ดีเองด้วยที่ไม่ดูให้ดี ไม่โทษทางร้านมากนัก แต่ทางร้านก็แสบใช้ได้เลย ที่จะหักเงินเรา ไม่ก็จะขอเงินเพิ่มอีก ระวังกันด้วยค่ะ
โดนร้านขายมือถือที่มาบุญครองทำร้ายอีกแล้ว
วันแรกก็เจอปัญหาสายชาร์จแบตชาร์จไม่เข้า ก็ไม่เป็นไรอีกเลยไปซื้อมาใหม่ พิมพ์ไม่ได้ ก็โหลดคีย์บอดมา แรมเหลือน้อยตลอดเวลา เครื่องร้อนก็ไม่บ่น เข้าใจเรื่องดี เพราะชอบที่จอใหญ่เล่นวีดีโอดูหนังสะใจกว่าไอโฟนเยอะ สีสันสดใส ใช้สองวัน แต่ชอบเปลี่ยนเคสก็ซื้อไว้ 3 อัน เรียกว่าจัดกะไว้สลับเปลี่ยนกัน จัดเต็มเพราะชอบจริงๆ
วันนี้เลิกงานไว ตัดสินใจจะไปแฟลชที่ร้าน ไปถึง 17.40 ก็รอเวลาให้ทำเสร็จ กลับมาเอาเครื่องก็ไม่ดีเองที่ไม่ได้ลองเครื่องที่หน้าร้าน เริ้มสังเกตุเครื่องเหมือนจะไม่ใช่ของเดิมแปลกๆไปก็ไม่ดีเองอีกที่ปล่อยผ่าน คิดแค่ว่าใช้งานก็พอ เดินสักพัก ใส่ซิมแต่ไม่มีสัญญาณอีก ไปเปลี่ยนซิมใหม่ก็แล้วลองหลายทางไม่ได้ ที่ศูนย์ก็บอกว่าเครื่องแปลกๆ ทำไมดำครึ่งขาวครึ่ง เค้าถามว่าเครื่องซ่อมมาหรือเปล่าเริ่มใจไม่ดีเลยกลับไปที่ร้าน
ร้านบอกจะแก้ไขให้ เพราะเหมือนเลขอีมี่เครื่องหายไม่ตรง สุดท้ายร้านเอาไปให้ร้านเดิมในเครือข่ายแก้คืน ก็นั่งรอเกือบ 3ทุ่มก็ยังไม่ได้ เราเลยบอกว่าถ้างั้นขอเงินคืน เค้าก็พยายามจะให้เรารอ โทรตามร้านในเครือข่ายนานมากก็ไม่รับสาย และเครื่องก็หายไปเลย เรารอไม่ได้แล้ว ร้านเลยยื่นข้อเสนอให้เอาs3เครื่องให้เราจ่ายเพิ่มอีก 1000 บาทได้เครื่องใหม่ เราบอกว่าขอเงินคืนเถอะยอมไม่เอาเงินเต็มจำนวนที่จ่ายไปก็ได้ ได้คืนมา 8000 ก่อนจะออกมาทางร้านยังคิดกล้าคิดอีกว่าควรจะหักเงินเราค่าอุปกรณ์ที่คืนให้มาไม่ครบขาดที่ชาร์จ
อยากถามว่ายังจะกล้าอีกหรอค่ะ เหมือนเราเสียค่าเช่าใช้โทรสับไปแล้ว 500 บาท แถมไปซื้อที่ชาร์จใหม่เองด้วย สมอลทอคก็ให้คืนไปด้วย ยังกล้าอีกนะค่ะ ยอมเข้าเนื้อสุดๆ ค่ะ
เล่าให้ฟังไว้จะได้ระวัง สังเกตดีๆ ทุกครั้งที่จะซื้อของมือสองที่มาบุญครอง ปกติจะบอกว่าซื้อบ่อยมากแลกซื้อขายประจำ เพราะชอบเปลี่ยนเล่นไปเรื่อยก็ไม่เคยเจอปัญหา มากขนาดนี้
แต่ครั้งบทเรียนนี้สอนเราได้เยอะทีเดียวค่ะ เราไม่ดีเองด้วยที่ไม่ดูให้ดี ไม่โทษทางร้านมากนัก แต่ทางร้านก็แสบใช้ได้เลย ที่จะหักเงินเรา ไม่ก็จะขอเงินเพิ่มอีก ระวังกันด้วยค่ะ