ช่วงนี้เห็นหลายกระทู้เกี่ยวกับเรื่องการใช้รถใช้ถนนแบบผิดๆ ในประเทศไทย เลยอยากจะรวบรวมและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ
ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครเข้ามาแก้ปัญหาให้ได้ เนื่องจากส่วนตัวผมไม่เชื่อในการทำงานของตำรวจไทย
ที่คาดหวังได้ก็คือให้คนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาพูดคุยกันในนี้ เข้าใจและเปลี่ยนพฤติกรรมหากทำไม่ถูกต้องอยู่ และแนะนำต่อคนรู้จัก ถนนเมืองไทยจะดีขึ้นจากจุดเล็กๆ ครับ
เริ่มต้นจากใบขับขี่ เมืองไทยเป็นประเทศที่ได้ใบขับขี่ง่ายมาก และไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันนอกเสียจากเป็นตัวประกันเวลาได้ใบสั่ง
ผมเคยสอบใบขับขี่ที่เวอร์จิเนีย อเมริกาครับ
จำรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบภาคทฤษฎีไม่ได้ แต่เค้ามีจำกัดจำนวนครั้ง เช่นหากสอบตกครบ 3 ครั้ง จะต้องไปเสียเงินเข้าคอร์สอบรมก่อนกลับมาสอบใหม่
สอบภาคปฏิบัติจะต้องมีการนัดหมายหากคิวเยอะ ผู้สอบจะต้องขับรถโดยมีผู้คุมสอบนั่งโดยสานไปด้วย จากนั้นก็ขับวนในบริเวณใกล้ๆ สถานีสอบผู้คุมสอบก็จะเช็คว่าเราทำผิดอะไรตรงไหนบ้าง และหากทำผิดเครื่องหมายจราจรแม้แต่ครั้งเดียว "สอบตก" ครับ
ตอนผมสอบ เริ่มต้นสตาร์ทเครื่อง แล้วถอยออกจากซอง ด้วยความตื่นเต้น เลยกะผิด ยางหลังแตะทางเท้า เจ้าหน้าที่สั่งหยุดรถ ดับเครื่อง ให้ลงจากรถแล้วปรับตกทันที อยากสอบใหม่มาวันหลัง T T
เรื่องการใช้สัญญาณไฟ ไฟฉุกเฉินนี่ สากลเค้าใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นครับ รถจอดเสีย หรือมีอุบัติเหตุ ถ้าไปเปิดไฟฉุกเฉินซื้อของที่เมืองนอก ระวังจะมีคนใจดีเข้ามาถามนะครับว่า รถเสียเป็นอะไร ให้ช่วยมั้ย? โชคดีหน่อยคนมาช่วยเป็นตำหนวดก็เจอใบสั่งไปครับ
กรณีจะจอดชิดขอบทาง เลี้ยวซ้ายหรือขวา หรือแม้แต่ขอทางเข้าจอดในซอง "ต้องใช้ไฟเลี้ยวเท่านั้น" ครับ มีแต่บ้านเมืองเรานี่แหละที่เปิดฉุกเฉินมันทุกกรณีแม้แต่ฝนตก
จากกระทู้เกี่ยวกับเรื่องไฟฉุกเฉินข้างล่าง สำหรับการเปิดไฟฉุกเฉินผ่านแยก มีคนแย้งว่าทำถูกต้องแล้ว ในต่างจังหวัดมีหลายแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟบอก หากไม่เปิดไฟฉุกเฉินเกรงว่าจะถูกชนกลางลำ
เรื่องนี้ผิมคิดว่าผิดเต็มๆ ครับ อย่างที่กล่าวไว้ว่าไฟฉุกเฉินก็ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ที่ถูกที่ควรก็เริ่มต้นจากว่ารถทุกคันก่อนนำออกมาวิ่งบนทาง ต้องมีสภาพสมบูรณ์ก่อน ดังนั้น รถทุกคันที่ขับตอนกลางคืนต้องมีไฟหน้าครับ ต่อจากนั้น ตามกฏหมายสากล และเป็นสิ่งที่พึงกระทำก็คือ "หยุดรถทุกครั้งเมื่อถึงแยก" ครับ
ฟังดูยาก เพราะถนนเมืองไทย รถติด วุ่นวาย หยุดทีจะยิ่งติดยาว แต่ว่าถ้าเราทำแบบนี้ได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะเวลาถนนดูโล่งๆ เนี่ย จะลดอุบัติเหตุลงไปได้เยอะเลยครับ
กลับมาที่เรื่องต่างจังหวัด หากเจอแยกสิ่งที่ต้องทำคือ หยุดรถ มองซ้ายขวาจนมั่นใจว่าทางปลอดภัย จึงออกรถ ส่วนรถที่มาจากทางอื่น ก็จะเห็นไฟหน้ารถคุณอยู่แล้วแม้จะมาจากด้านข้าง ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟฉุกเฉินช่วยหรอกครับ
อีกเรื่องเกี่ยวกับแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟบอกนี้ ตามกฏหมายจะมีการกำหนดว่า ให้รถทางซ้ายมือไปก่อน ที่อเมริกากำหนดว่าให้รถทางขวามือไปก่อน และปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดมากครับ หากรถคันใดมาถึงแยกก่อนก็ไปก่อน หากมาถึงพร้อมกัน เค้าจะหยุดรอจนกว่ารถทางขวาตัวเองจะไปก่อน เพราะถ้าไม่รอแล้วเกิดเหตุขึ้นมาก็รับผิดไปเต็มๆ ครับ
ไหนๆ มีเรื่องแยก ก็อยากจะพูดเรื่องวงเวียนสักหน่อย
กฏข้อหนึ่งที่สั้นและเข้าใจง่ายมากเกี่ยวกับการใช้วงเวียคือ "ให้รถในวงเวียนไปก่อน" ในทางปฏิบัติจริง ผมแทบไม่เห็นใครทำเลยครับ ต่างคนต่างแย่งจะไปก่อน มีรถอยู่ในวงเวียนหรือไม่มีก็ไม่สน อุบัติเหตุเกิดขึ้นง่ายๆ จากความเห็นแก่ตัวแบบนี้แหละครับ
เรื่องรถมอเตอร์ไซค์ขับเลนขวา อันนี้มีกระทู้ให้เห็นแทบทุกวัน โดยส่วนตัวที่ผมเองทั้งขับและขี่ คิดว่า ถนนเมืองไทยและนิสัยการขับขี่ของคนไทยมันแย่เกิดกว่าที่มอเตอร์ไซค์จะไปวิ่งเลนซ้ายจริงๆ ครับ ไม่นับเรื่องมีทั้งรถบรรทุก หลุมบ่อฝาท่อ ก็ยังมีรถจอดรถตัดหน้า รวมถึงพวกพุ่งออกจากซอยโดยไม่มองซ้ายมองขวาอีก ได้แต่หวังลม แล้งๆ ว่าจะแก้กฏหมายข้อนี้ซักที
อย่างไรก็ตาม แม้การวิ่งเลนกลางหรือขวาจะดูปลอดภัยกว่าสำหรับมอเตอร์ไซค์ แต่อยากให้ระวังเรื่องการใช้ความเร็วซักนิดครับ หากว่ามีรถยนต์ตามหลัง ก็หลบให้เค้าด้วยครับ จะปลอดภัยและไม่บาดหมางกันทั้งสองฝ่าย
ทิ้งท้ายไว้เกี่ยวกับเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย ที่เมืองนอกนี่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนจะกลัวตำรวจมากครับ ความเร็วเกินไปหน่อยเดียวพี่ท่านพุ่งออกมาจากซอกไหนไม่รู้ เปิดไฟสูงใส่เหมือนเราเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหมกศพเลยทีเดียว ค่าปรับก็แพงชนิดไม่อยากเจออีกบ่อยๆ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะยัดใต้โต๊ะ เพราะจะได้ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานเพิ่ม โดนหนักเข้าไปอีก เรื่องติดสินบนนี่ผมคิดเอาเองว่าคงเพราะพี่หนวดเมืองนอกเค้าเงินเดือนดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเก็บเล็กเก็บน้อย เลยรักษากฏหมายได้เต็มที่ นอกจากนี้หากทำผิดครบ 3 ครั้งจะถูกยึดใบขับขี่และต้องไปเสียเงินอบรมใหม่ก่อนจะได้รับการอภัยให้มาขับขี่บนท้องถนนอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสำหรับคนคนที่จำเป็นต้องใช้รถอยู่ทุกวัน
.............................................................................................................................................................................
ไม่มีใครที่ขับรถแล้วไม่เคยทำผิดหรอกครับ เพียงแค่อาจจะรู้หรือไม่รู้เท่านั้นเอง บางทีที่เราด่าเค้าวันนี้ เราอาจจะเคยทำโดยที่ไม่รู้ตัวไปแล้วก็ได้ (โดยเฉพาะในเวลารีบๆ) ดังนั้น ปรับเปลี่ยนนิสัยการขับขี่ให้ดี มีน้ำใจและให้อภัยแก่ผู้ร่วมทางทุกคน ถนนเมืองไทยจะน่าวิ่งกว่านี้ขึ้นเยอะเลยครับ
สุดท้ายนี้ อยากให้ใครที่มีเรื่องอะไรที่ผมคิดไม่ถึงหรือมองข้ามไป(ซึ่งน่าจะเยอะ)ช่วยกันเสนอแนะความเห็นด้วยครับ
คุยกันนะครับ ไม่ทะเลาะกันนะ
เรื่องผิดๆ ของผู้ใช้รถใช้ถนนบนเมืองไทย
ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครเข้ามาแก้ปัญหาให้ได้ เนื่องจากส่วนตัวผมไม่เชื่อในการทำงานของตำรวจไทย
ที่คาดหวังได้ก็คือให้คนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาพูดคุยกันในนี้ เข้าใจและเปลี่ยนพฤติกรรมหากทำไม่ถูกต้องอยู่ และแนะนำต่อคนรู้จัก ถนนเมืองไทยจะดีขึ้นจากจุดเล็กๆ ครับ
เริ่มต้นจากใบขับขี่ เมืองไทยเป็นประเทศที่ได้ใบขับขี่ง่ายมาก และไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันนอกเสียจากเป็นตัวประกันเวลาได้ใบสั่ง
ผมเคยสอบใบขับขี่ที่เวอร์จิเนีย อเมริกาครับ
จำรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบภาคทฤษฎีไม่ได้ แต่เค้ามีจำกัดจำนวนครั้ง เช่นหากสอบตกครบ 3 ครั้ง จะต้องไปเสียเงินเข้าคอร์สอบรมก่อนกลับมาสอบใหม่
สอบภาคปฏิบัติจะต้องมีการนัดหมายหากคิวเยอะ ผู้สอบจะต้องขับรถโดยมีผู้คุมสอบนั่งโดยสานไปด้วย จากนั้นก็ขับวนในบริเวณใกล้ๆ สถานีสอบผู้คุมสอบก็จะเช็คว่าเราทำผิดอะไรตรงไหนบ้าง และหากทำผิดเครื่องหมายจราจรแม้แต่ครั้งเดียว "สอบตก" ครับ
ตอนผมสอบ เริ่มต้นสตาร์ทเครื่อง แล้วถอยออกจากซอง ด้วยความตื่นเต้น เลยกะผิด ยางหลังแตะทางเท้า เจ้าหน้าที่สั่งหยุดรถ ดับเครื่อง ให้ลงจากรถแล้วปรับตกทันที อยากสอบใหม่มาวันหลัง T T
เรื่องการใช้สัญญาณไฟ ไฟฉุกเฉินนี่ สากลเค้าใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นครับ รถจอดเสีย หรือมีอุบัติเหตุ ถ้าไปเปิดไฟฉุกเฉินซื้อของที่เมืองนอก ระวังจะมีคนใจดีเข้ามาถามนะครับว่า รถเสียเป็นอะไร ให้ช่วยมั้ย? โชคดีหน่อยคนมาช่วยเป็นตำหนวดก็เจอใบสั่งไปครับ
กรณีจะจอดชิดขอบทาง เลี้ยวซ้ายหรือขวา หรือแม้แต่ขอทางเข้าจอดในซอง "ต้องใช้ไฟเลี้ยวเท่านั้น" ครับ มีแต่บ้านเมืองเรานี่แหละที่เปิดฉุกเฉินมันทุกกรณีแม้แต่ฝนตก
จากกระทู้เกี่ยวกับเรื่องไฟฉุกเฉินข้างล่าง สำหรับการเปิดไฟฉุกเฉินผ่านแยก มีคนแย้งว่าทำถูกต้องแล้ว ในต่างจังหวัดมีหลายแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟบอก หากไม่เปิดไฟฉุกเฉินเกรงว่าจะถูกชนกลางลำ
เรื่องนี้ผิมคิดว่าผิดเต็มๆ ครับ อย่างที่กล่าวไว้ว่าไฟฉุกเฉินก็ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ที่ถูกที่ควรก็เริ่มต้นจากว่ารถทุกคันก่อนนำออกมาวิ่งบนทาง ต้องมีสภาพสมบูรณ์ก่อน ดังนั้น รถทุกคันที่ขับตอนกลางคืนต้องมีไฟหน้าครับ ต่อจากนั้น ตามกฏหมายสากล และเป็นสิ่งที่พึงกระทำก็คือ "หยุดรถทุกครั้งเมื่อถึงแยก" ครับ
ฟังดูยาก เพราะถนนเมืองไทย รถติด วุ่นวาย หยุดทีจะยิ่งติดยาว แต่ว่าถ้าเราทำแบบนี้ได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะเวลาถนนดูโล่งๆ เนี่ย จะลดอุบัติเหตุลงไปได้เยอะเลยครับ
กลับมาที่เรื่องต่างจังหวัด หากเจอแยกสิ่งที่ต้องทำคือ หยุดรถ มองซ้ายขวาจนมั่นใจว่าทางปลอดภัย จึงออกรถ ส่วนรถที่มาจากทางอื่น ก็จะเห็นไฟหน้ารถคุณอยู่แล้วแม้จะมาจากด้านข้าง ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟฉุกเฉินช่วยหรอกครับ
อีกเรื่องเกี่ยวกับแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟบอกนี้ ตามกฏหมายจะมีการกำหนดว่า ให้รถทางซ้ายมือไปก่อน ที่อเมริกากำหนดว่าให้รถทางขวามือไปก่อน และปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดมากครับ หากรถคันใดมาถึงแยกก่อนก็ไปก่อน หากมาถึงพร้อมกัน เค้าจะหยุดรอจนกว่ารถทางขวาตัวเองจะไปก่อน เพราะถ้าไม่รอแล้วเกิดเหตุขึ้นมาก็รับผิดไปเต็มๆ ครับ
ไหนๆ มีเรื่องแยก ก็อยากจะพูดเรื่องวงเวียนสักหน่อย
กฏข้อหนึ่งที่สั้นและเข้าใจง่ายมากเกี่ยวกับการใช้วงเวียคือ "ให้รถในวงเวียนไปก่อน" ในทางปฏิบัติจริง ผมแทบไม่เห็นใครทำเลยครับ ต่างคนต่างแย่งจะไปก่อน มีรถอยู่ในวงเวียนหรือไม่มีก็ไม่สน อุบัติเหตุเกิดขึ้นง่ายๆ จากความเห็นแก่ตัวแบบนี้แหละครับ
เรื่องรถมอเตอร์ไซค์ขับเลนขวา อันนี้มีกระทู้ให้เห็นแทบทุกวัน โดยส่วนตัวที่ผมเองทั้งขับและขี่ คิดว่า ถนนเมืองไทยและนิสัยการขับขี่ของคนไทยมันแย่เกิดกว่าที่มอเตอร์ไซค์จะไปวิ่งเลนซ้ายจริงๆ ครับ ไม่นับเรื่องมีทั้งรถบรรทุก หลุมบ่อฝาท่อ ก็ยังมีรถจอดรถตัดหน้า รวมถึงพวกพุ่งออกจากซอยโดยไม่มองซ้ายมองขวาอีก ได้แต่หวังลม แล้งๆ ว่าจะแก้กฏหมายข้อนี้ซักที
อย่างไรก็ตาม แม้การวิ่งเลนกลางหรือขวาจะดูปลอดภัยกว่าสำหรับมอเตอร์ไซค์ แต่อยากให้ระวังเรื่องการใช้ความเร็วซักนิดครับ หากว่ามีรถยนต์ตามหลัง ก็หลบให้เค้าด้วยครับ จะปลอดภัยและไม่บาดหมางกันทั้งสองฝ่าย
ทิ้งท้ายไว้เกี่ยวกับเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย ที่เมืองนอกนี่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนจะกลัวตำรวจมากครับ ความเร็วเกินไปหน่อยเดียวพี่ท่านพุ่งออกมาจากซอกไหนไม่รู้ เปิดไฟสูงใส่เหมือนเราเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหมกศพเลยทีเดียว ค่าปรับก็แพงชนิดไม่อยากเจออีกบ่อยๆ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะยัดใต้โต๊ะ เพราะจะได้ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานเพิ่ม โดนหนักเข้าไปอีก เรื่องติดสินบนนี่ผมคิดเอาเองว่าคงเพราะพี่หนวดเมืองนอกเค้าเงินเดือนดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเก็บเล็กเก็บน้อย เลยรักษากฏหมายได้เต็มที่ นอกจากนี้หากทำผิดครบ 3 ครั้งจะถูกยึดใบขับขี่และต้องไปเสียเงินอบรมใหม่ก่อนจะได้รับการอภัยให้มาขับขี่บนท้องถนนอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสำหรับคนคนที่จำเป็นต้องใช้รถอยู่ทุกวัน
.............................................................................................................................................................................
ไม่มีใครที่ขับรถแล้วไม่เคยทำผิดหรอกครับ เพียงแค่อาจจะรู้หรือไม่รู้เท่านั้นเอง บางทีที่เราด่าเค้าวันนี้ เราอาจจะเคยทำโดยที่ไม่รู้ตัวไปแล้วก็ได้ (โดยเฉพาะในเวลารีบๆ) ดังนั้น ปรับเปลี่ยนนิสัยการขับขี่ให้ดี มีน้ำใจและให้อภัยแก่ผู้ร่วมทางทุกคน ถนนเมืองไทยจะน่าวิ่งกว่านี้ขึ้นเยอะเลยครับ
สุดท้ายนี้ อยากให้ใครที่มีเรื่องอะไรที่ผมคิดไม่ถึงหรือมองข้ามไป(ซึ่งน่าจะเยอะ)ช่วยกันเสนอแนะความเห็นด้วยครับ
คุยกันนะครับ ไม่ทะเลาะกันนะ