แฟนเราไปสัมภาษณ์มาเช้าวันนี้ค่ะ แต่โดนปฏิเสธด้วยถามคำถามเพียงแค่ 3 ข้อ เสียใจจัง T_T
คือเราวางแผนจะไปเยี่ยมยายที่อยู่อเมริกา (เป็น citizen อายุมากแล้ว) แล้วก็จะถือโอกาสไปเที่ยวด้วย
โดยจะเดินทางไปกับแม่ เลยอยากพาแฟนไปด้วยกันค่ะ เราและแม่มีวีซ่าแล้ว เคยเข้าออกอเมริกาครั้งนึง
ครั้งนี้อยากไปเยี่ยมอีกครั้ง เลยพาแฟนไปขอวีซ่า B2 โดยกรอกข้อมูลว่าเดินทางไปด้วยกัน 3 คน
แม่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ กรอกชื่อที่อยู่ลุง ว่าจะไปพักที่บ้านลุง (ยายพักอยู่กับลุง ลุงเป็นเจ้าบ้าน ลุงก็เป็น citizen ค่ะ)
ซึ่งทำงานสุจริต ไม่เคยมีประวัติเสียหายใดๆ แจ้งความสัมพันธ์ว่าเป็นญาติ
เตรียมหลักฐานทุกอย่าง ทั้งหนังสือรับรองการทำงาน (ระบุเงินเดือน), statement แฟน, สมุดบัญชี, statement แม่,
พาสปอร์ตของแม่และของเรา ทั้งสำเนาที่เซ็นรับรองและเล่มจริง แต่แฟนไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ เล่มพาสปอร์ตเลยขาวสะอาด
อ่อ ลืมบอกค่ะว่าแฟนทำงานบริษัทที่มั่นคง เป็นบริษัทมหาชน อายุงาน 6 ปีพอดี
statement แฟนมีเงินเข้าออกตลอด แต่ไม่มาก, statement แม่ก็มีเงินหมุนเวียน 6 หลัก ค่ะ
ก่อนนี้เราเฝ้าคอยติดตามอ่านการสัมภาษณ์ของหลายๆคนในพันทิปมาเยอะพอสมควรค่ะ คราวนี้ถึงเวลาของตัวเองละ
จริงๆได้คิวสัมภาษณ์กับฝรั่ง ผช ช่อง 12 แต่ตอนยืนรอเป็นจังหวะ ผญ ช่อง 11 ว่าง เลยเรียกเข้าไป
จนท. ผญ ช่อง 11 หน้าตาไม่ยิ้มแย้มเลย จะใช่คนที่กล่าวขานกันว่าโหดมั๊ยนะ
และนี่คือบทสนทนาค่ะ ที่ถามแฟนมาอย่างละเอียด...
จนท. : เชิญค่ะ
แฟน : ยกมือไหว้ พูดสวัสดีครับ แล้วก็ยื่นเอกสาร
จนท. : คุณจะไปทำคะ
แฟน : ผมจะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ แล้วจะถือโอกาสไปท่องเที่ยวด้วยครับ
จนท. : จะไปที่ไหนคะ
แฟน : เมือง XXXXXXX ครับ (แจ้งตามที่กรอกใน DS-160)
จากนั้น จนท. ก็หยิบหนังสือรับรองการทำงานไปดูอยู่ครึ่งนาที แล้วก็คีย์ๆที่คอม
จนท. : ญาติที่นู่นทำงานอะไรคะ
แฟน : ทำงาน XXXXXXX ครับ (แจ้งตามที่กรอกใน DS-160)
พอจบการสนทนาไม่ถึง 5 วิ มือซ้ายเธอก็เอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นสีขาวมา แล้วประทับตราวันที่+เซ็นชื่อ
แล้วยื่นมาให้ พร้อมบอกว่า "เสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ผ่านการพิจารณา"
จบสั้นมาก แฟนเราก็ยืนงงอยู่ หลักฐานที่เตรียมไปทั้งหมด เค้าไม่ได้ขอดูอะไรอีกเลย
เลยถามไปว่า "ขอโทษนะครับ ผมติดปัญหาตรงไหนรึป่าว เพราะหลักฐานอื่นๆผมก็เตรียมมา แต่ยังไม่ได้ยื่นเลย"
จนท.ก็ตอบกลับมาว่า "เราไม่สามารถให้คุณเข้าประเทศได้ค่ะ"
แฟนบอกว่า ณ ตอนนั้นเค้ารู้สึกเหมือนเป็นผู้ก่อการร้าย อึ้งไปเลย
ได้ยินห้องสัมภาษณ์ผู้ชายข้างๆดูเค้าคุยการไหลลื่น แต่นี่ถามแค่นี้แล้วปฏิเสธเลยหรอ
คนที่ถูกสัมภาษณ์ก่อนหน้าแฟน ก็สัมภาษณ์แป๊บเดียวแล้วไม่อนุมัติให้เหมือนกันค่ะ
ในกระดาษแผ่นสีขาว บอกเหตุผลมาว่า "ท่านไม่สามารถแสดงหลักฐานที่เพียงพอ ที่แสดงถึงความผูกพันมั่นคงทางครอบครัว สังคม หรือเศรษฐกิจภายนอกสหรัฐอเมริกา ที่สามารถทำให้ท่านเดินทางออกจากสหรัฐฯ หลังจากได้พำนักอาศัยเป็นการชั่วคราว"
.
.
แต่เท่าที่เราลองมาวิเคราะห์ดูแล้ว อาจเป็นเพราะไม่ได้เป็นญาติโดยตรงรึป่าวคะ
คือเป็นญาติของแฟนอีกที เค้าเลยไม่เชื่อ คิดว่าเราโมเม อ้างอิงรึป่าว
อย่างงี้ถ้าให้แฟนบอกว่า แฟนจะไปเยี่ยมญาติ เลยขอติดตามไปด้วย จะเข้าใจง่ายขึ้นมั๊ยคะ
หรือต้องทำอย่างไรให้เค้าเชื่อว่าไปแล้วกลับมา
**กรณีของเรา ถ้าจะไปขอวีซ่าอีกครั้งควรทำอย่างไรคะ ควรกรอก DS-160 อย่างไรดี หรือควรเพิ่มหลักฐานตรงไหน
แล้วเค้าจะเอาผลสัมภาษณ์ครั้งนี้มาพิจารณารวมกับครั้งต่อไปมั๊ย จะยิ่งขอยากขึ้นไปอีกมั๊ยคะ
รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ร้อนใจมากๆเลย
ขอโทษด้วยนะคะถ้าเล่าวกวน ยังใจเสียอยู่เลยค่ะ สมองตื้อ
ขอบคุณคำแนะนำทุกท่านล่วงหน้านะคะ
/Edit คำผิด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้ามา Update เพิ่มเติมค่ะ
จากที่เล่าว่าแฟนขอวีซ่าไม่ผ่าน ตอนนั้นเราก็เลยเดินทางไปกับแม่ 2 คน แล้วเมื่อเมษายนปีที่แล้ว (2559) ก็มาขอวีซ่ากันใหม่ เรากับแม่วีซ่าหมดอายุ ของแฟนยังไม่มี ก็เลยขอใหม่พร้อมกันทั้ง 3 คนเลยค่ะ สัมภาษณ์พร้อมกัน สรุปว่าผ่านนะคะ ได้คนละ 10 ปี ดีใจมากเลยค่ะ
ของเรากับแม่ จนท. ไม่ได้ถามอะไรมากเลย ไม่ขอดูเอกสารอะไรเลยค่ะ เราเตรียมไปหมด ทั้งหนังสือเชิญจากลุง, หนังสือรับรองการทำงาน (ระบุเงินเดือน ระบุวันลา), แปลทะเบียนการค้าของแม่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วครั้งนี้ก็เตรียมทะเบียนสมรสทั้งตัวจริงและแปลภาษาอังกฤษติดไปด้วย จนท. ก็ไม่ได้ขอดูเลยค่ะ
ครั้งนี้สัมภาษณ์กับ จนท. ผู้ชาย ท่าทางใจดี ตอนที่สัมภาษณ์ จนท. ถามแค่ว่าเราสามคนมีความสัมพันธ์กันยังไง เรากับแฟนแต่งงานกันเมื่อไหร่ ดูเล่ม Passport ของแฟนเรา ดูประวัติการเข้าออก แล้วถามนิดหน่อยค่ะ ครั้งที่แล้ว Passport แฟนขาวสะอาดตอนนี้ก็มีเดินทางไปประเทศใกล้ๆบ้าง ไปพม่า และไปญี่ปุ่นด้วยกัน จนท. ดูแล้วถามว่าคุณไปเที่ยวด้วยกันหรอครับ ประมาณนี้ เสร็จแล้วคีย์ๆในคอม แล้วก็เงยหน้ามาบอกแฟนเราว่า ผมทราบมาว่าเมื่อสิงหาคม 2556 คุณมาสัมภาษณ์วีซ่าที่นี่แล้วถูกปฏิเสธ (ตอนได้ยินประโยคนี้นี่ใจไม่ดีเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก) แล้ว จนท. ก็บอกว่า “ไม่เป็นไร ครั้งนี้เราจะออกวีซ่าให้คุณ” โหย โล่งอกมากเลย
.
.
มาทบทวนดู เราก็พอจะเข้าใจการพิจารณาของทางสถานทูตนะคะ ครั้งที่แล้วเราอาจจะไม่มีหลักฐานความสัมพันธ์ที่ชัดเจน ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ตอนนั้นยังไม่จดทะเบียนสมรส แต่ให้แม่เราเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ ระบุความสัมพันธ์เป็นญาติ ก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ โดยส่วนตัว เราคิดว่าข้อมูลที่คีย์ใน DS-160 คงจะถูกตรวจสอบทั้งหมดก่อนหน้านี้แล้ว น่าจะพิจารณาตรงนั้นเป็นหลักและสัมภาษณ์เพื่อพูดคุย และขอหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติมหากเห็นว่าแสดงไม่เพียงพอใน DS-160
สุดท้ายนี้อยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะขอวีซ่าทุกคน ให้สมหวังตามที่ตั้งใจนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้างเล็กน้อย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นพูดคุยกันค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เพิ่งโดนปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามาค่ะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะว่ากรณีนี้ติดปัญหาอะไร
คือเราวางแผนจะไปเยี่ยมยายที่อยู่อเมริกา (เป็น citizen อายุมากแล้ว) แล้วก็จะถือโอกาสไปเที่ยวด้วย
โดยจะเดินทางไปกับแม่ เลยอยากพาแฟนไปด้วยกันค่ะ เราและแม่มีวีซ่าแล้ว เคยเข้าออกอเมริกาครั้งนึง
ครั้งนี้อยากไปเยี่ยมอีกครั้ง เลยพาแฟนไปขอวีซ่า B2 โดยกรอกข้อมูลว่าเดินทางไปด้วยกัน 3 คน
แม่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ กรอกชื่อที่อยู่ลุง ว่าจะไปพักที่บ้านลุง (ยายพักอยู่กับลุง ลุงเป็นเจ้าบ้าน ลุงก็เป็น citizen ค่ะ)
ซึ่งทำงานสุจริต ไม่เคยมีประวัติเสียหายใดๆ แจ้งความสัมพันธ์ว่าเป็นญาติ
เตรียมหลักฐานทุกอย่าง ทั้งหนังสือรับรองการทำงาน (ระบุเงินเดือน), statement แฟน, สมุดบัญชี, statement แม่,
พาสปอร์ตของแม่และของเรา ทั้งสำเนาที่เซ็นรับรองและเล่มจริง แต่แฟนไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ เล่มพาสปอร์ตเลยขาวสะอาด
อ่อ ลืมบอกค่ะว่าแฟนทำงานบริษัทที่มั่นคง เป็นบริษัทมหาชน อายุงาน 6 ปีพอดี
statement แฟนมีเงินเข้าออกตลอด แต่ไม่มาก, statement แม่ก็มีเงินหมุนเวียน 6 หลัก ค่ะ
ก่อนนี้เราเฝ้าคอยติดตามอ่านการสัมภาษณ์ของหลายๆคนในพันทิปมาเยอะพอสมควรค่ะ คราวนี้ถึงเวลาของตัวเองละ
จริงๆได้คิวสัมภาษณ์กับฝรั่ง ผช ช่อง 12 แต่ตอนยืนรอเป็นจังหวะ ผญ ช่อง 11 ว่าง เลยเรียกเข้าไป
จนท. ผญ ช่อง 11 หน้าตาไม่ยิ้มแย้มเลย จะใช่คนที่กล่าวขานกันว่าโหดมั๊ยนะ
และนี่คือบทสนทนาค่ะ ที่ถามแฟนมาอย่างละเอียด...
จนท. : เชิญค่ะ
แฟน : ยกมือไหว้ พูดสวัสดีครับ แล้วก็ยื่นเอกสาร
จนท. : คุณจะไปทำคะ
แฟน : ผมจะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ แล้วจะถือโอกาสไปท่องเที่ยวด้วยครับ
จนท. : จะไปที่ไหนคะ
แฟน : เมือง XXXXXXX ครับ (แจ้งตามที่กรอกใน DS-160)
จากนั้น จนท. ก็หยิบหนังสือรับรองการทำงานไปดูอยู่ครึ่งนาที แล้วก็คีย์ๆที่คอม
จนท. : ญาติที่นู่นทำงานอะไรคะ
แฟน : ทำงาน XXXXXXX ครับ (แจ้งตามที่กรอกใน DS-160)
พอจบการสนทนาไม่ถึง 5 วิ มือซ้ายเธอก็เอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นสีขาวมา แล้วประทับตราวันที่+เซ็นชื่อ
แล้วยื่นมาให้ พร้อมบอกว่า "เสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ผ่านการพิจารณา"
จบสั้นมาก แฟนเราก็ยืนงงอยู่ หลักฐานที่เตรียมไปทั้งหมด เค้าไม่ได้ขอดูอะไรอีกเลย
เลยถามไปว่า "ขอโทษนะครับ ผมติดปัญหาตรงไหนรึป่าว เพราะหลักฐานอื่นๆผมก็เตรียมมา แต่ยังไม่ได้ยื่นเลย"
จนท.ก็ตอบกลับมาว่า "เราไม่สามารถให้คุณเข้าประเทศได้ค่ะ"
แฟนบอกว่า ณ ตอนนั้นเค้ารู้สึกเหมือนเป็นผู้ก่อการร้าย อึ้งไปเลย
ได้ยินห้องสัมภาษณ์ผู้ชายข้างๆดูเค้าคุยการไหลลื่น แต่นี่ถามแค่นี้แล้วปฏิเสธเลยหรอ
คนที่ถูกสัมภาษณ์ก่อนหน้าแฟน ก็สัมภาษณ์แป๊บเดียวแล้วไม่อนุมัติให้เหมือนกันค่ะ
ในกระดาษแผ่นสีขาว บอกเหตุผลมาว่า "ท่านไม่สามารถแสดงหลักฐานที่เพียงพอ ที่แสดงถึงความผูกพันมั่นคงทางครอบครัว สังคม หรือเศรษฐกิจภายนอกสหรัฐอเมริกา ที่สามารถทำให้ท่านเดินทางออกจากสหรัฐฯ หลังจากได้พำนักอาศัยเป็นการชั่วคราว"
.
.
แต่เท่าที่เราลองมาวิเคราะห์ดูแล้ว อาจเป็นเพราะไม่ได้เป็นญาติโดยตรงรึป่าวคะ
คือเป็นญาติของแฟนอีกที เค้าเลยไม่เชื่อ คิดว่าเราโมเม อ้างอิงรึป่าว
อย่างงี้ถ้าให้แฟนบอกว่า แฟนจะไปเยี่ยมญาติ เลยขอติดตามไปด้วย จะเข้าใจง่ายขึ้นมั๊ยคะ
หรือต้องทำอย่างไรให้เค้าเชื่อว่าไปแล้วกลับมา
**กรณีของเรา ถ้าจะไปขอวีซ่าอีกครั้งควรทำอย่างไรคะ ควรกรอก DS-160 อย่างไรดี หรือควรเพิ่มหลักฐานตรงไหน
แล้วเค้าจะเอาผลสัมภาษณ์ครั้งนี้มาพิจารณารวมกับครั้งต่อไปมั๊ย จะยิ่งขอยากขึ้นไปอีกมั๊ยคะ
รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ร้อนใจมากๆเลย
ขอโทษด้วยนะคะถ้าเล่าวกวน ยังใจเสียอยู่เลยค่ะ สมองตื้อ
ขอบคุณคำแนะนำทุกท่านล่วงหน้านะคะ
/Edit คำผิด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้ามา Update เพิ่มเติมค่ะ
จากที่เล่าว่าแฟนขอวีซ่าไม่ผ่าน ตอนนั้นเราก็เลยเดินทางไปกับแม่ 2 คน แล้วเมื่อเมษายนปีที่แล้ว (2559) ก็มาขอวีซ่ากันใหม่ เรากับแม่วีซ่าหมดอายุ ของแฟนยังไม่มี ก็เลยขอใหม่พร้อมกันทั้ง 3 คนเลยค่ะ สัมภาษณ์พร้อมกัน สรุปว่าผ่านนะคะ ได้คนละ 10 ปี ดีใจมากเลยค่ะ
ของเรากับแม่ จนท. ไม่ได้ถามอะไรมากเลย ไม่ขอดูเอกสารอะไรเลยค่ะ เราเตรียมไปหมด ทั้งหนังสือเชิญจากลุง, หนังสือรับรองการทำงาน (ระบุเงินเดือน ระบุวันลา), แปลทะเบียนการค้าของแม่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วครั้งนี้ก็เตรียมทะเบียนสมรสทั้งตัวจริงและแปลภาษาอังกฤษติดไปด้วย จนท. ก็ไม่ได้ขอดูเลยค่ะ
ครั้งนี้สัมภาษณ์กับ จนท. ผู้ชาย ท่าทางใจดี ตอนที่สัมภาษณ์ จนท. ถามแค่ว่าเราสามคนมีความสัมพันธ์กันยังไง เรากับแฟนแต่งงานกันเมื่อไหร่ ดูเล่ม Passport ของแฟนเรา ดูประวัติการเข้าออก แล้วถามนิดหน่อยค่ะ ครั้งที่แล้ว Passport แฟนขาวสะอาดตอนนี้ก็มีเดินทางไปประเทศใกล้ๆบ้าง ไปพม่า และไปญี่ปุ่นด้วยกัน จนท. ดูแล้วถามว่าคุณไปเที่ยวด้วยกันหรอครับ ประมาณนี้ เสร็จแล้วคีย์ๆในคอม แล้วก็เงยหน้ามาบอกแฟนเราว่า ผมทราบมาว่าเมื่อสิงหาคม 2556 คุณมาสัมภาษณ์วีซ่าที่นี่แล้วถูกปฏิเสธ (ตอนได้ยินประโยคนี้นี่ใจไม่ดีเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก) แล้ว จนท. ก็บอกว่า “ไม่เป็นไร ครั้งนี้เราจะออกวีซ่าให้คุณ” โหย โล่งอกมากเลย
.
.
มาทบทวนดู เราก็พอจะเข้าใจการพิจารณาของทางสถานทูตนะคะ ครั้งที่แล้วเราอาจจะไม่มีหลักฐานความสัมพันธ์ที่ชัดเจน ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ตอนนั้นยังไม่จดทะเบียนสมรส แต่ให้แม่เราเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ ระบุความสัมพันธ์เป็นญาติ ก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ โดยส่วนตัว เราคิดว่าข้อมูลที่คีย์ใน DS-160 คงจะถูกตรวจสอบทั้งหมดก่อนหน้านี้แล้ว น่าจะพิจารณาตรงนั้นเป็นหลักและสัมภาษณ์เพื่อพูดคุย และขอหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติมหากเห็นว่าแสดงไม่เพียงพอใน DS-160
สุดท้ายนี้อยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะขอวีซ่าทุกคน ให้สมหวังตามที่ตั้งใจนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้างเล็กน้อย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นพูดคุยกันค่ะ
ขอบคุณค่ะ