
จากทุ่งลาเวนเดอร์เรามาบุกโรงสกัดน้ำมันดอกลาเวนเดอร์กัน
ครั้งแรกนะครับที่จะลองเขียน รีวิวการเที่ยว รายระเอียดค่อนข้างแยอะ เพราะชอบเทียวแบบ ซอกแซก สอดรู้สอดเห็น รายระเอียดของทริปนี้
เริ่มต้นออกเดินทางจาก Paris ไปเรื่อยๆที่จนถึง Nice,Monaco ความสนใจของผู้เขียนเอง จะเป็นพวก ธรรมชาติ นาสวน อาหารการกิน ความเป็นอยู่ รีวิวนี้ก็จะประกอบไปด้วย เนื้อหาดังกล่าว วันนี้เป็นการทดลองโพส คงลงทดสอบ แค่หนึ่งรูป และรายชื่อเมือง ใน 11 คืน
จากปารีส ดังนี้ครับ
Paris,StarsBourg,Annecy,Chamonix,Lyon,Avignon,Gordes,Apt,Sault,Provance,Valensole,Rize,Sainte Croix,Grasse,Nice,Eze,Monaco,Paris
กระทู้สอง เมือง Annecy เริ่มแล้วนะครับ แต่จะเป็นการค่อยๆเพิ่มรายระเอียดที่ละ คอมเม้น นะครับ
http://pantip.com/topic/30854920
การไปเที่ยวทุกครั้ง เราต้องมีสถานหลักๆที่เราอยากไป แน่นอน ทริปนี้ทุกคนคงสนใจ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ แห่งที่ราบสูง Provance
ผู้เขียนเองก็เช่นกัน แต่ในระหว่างเดินทางจริงๆ ก็เหมือนทุกๆครั้ง การเดินทางทำให้เรา ได้เห็นได้สัมผัส กับสิ่งที่คาดไม่ถึง เสมอ
เช่นเมืองนี้
Strasbourg สตาทส์บ๊วก
จากประวัติศาสตร์กว่า 2000 ปี ของ เมือง Strasbourg เริ่มต้นจากการเป็นเมืองการค้าที่เจริญรุ่งเรืองปัจจุบันกลายมาเป็นเมืองหลวงของชาวยุโรป เป็นที่ตั้งของรัฐสภายุโรปที่ลืมไปดู
การเดินทาง นั่ง TGV จาก gare de l'est กา ดู แลท์ ออกเสียงไม่น่าถูก แต่ถ้าถามทางพูดแบบนี้ ไปถึงแน่ๆ
ทริปนี้ซื้อ France rail pass save สำหรับเดินทาง 2 คนพร้อมกัน
เจอค่าจอง ไปคน 18 Eu อ่านรีวิวอื่นเห็นบอกว่า ค่าจอง 1.5 Eu
คิดว่าคงเป็นอดีตไปแล้ว หรืออาจจะสำหรับรถนอน หรือ เส้นทางอื่นๆ เพราะเส้นทางอื่นที่จองก็มี 3 Eu บ้าง
ได้ตั๊วมาแล้ว อย่าลืม ก่อนจะขึ้นรถ Varify ตั๋ว ซึ่งก็คือ การพิมษ์วันเวลาก่อนใช้ตั๋ว ถ้าไม่ทำอาจโดนปรับ
ตู้เหลืองสำหรับTGVสอดตั๋วมั่วๆเข้าไป พิมษ์วันเวลาออกมาคือจบ (ตู้เขียวติดตามในริวิวเมือง อื่น ต่อไป)

ลงสถานี TGV ของเมือง Strasbourg มีสถานีเดียว อย่าลืมเมืองนี้เป็นเมืองผ่าน ท่านอาจนั่งรถเลยได้ ถ้าจะหลับตั้งเวลาปลุกไว้ได้เลย
ตรงเวลา กว่าเครื่องบิน

จากสถานี TGV ถ้าชอบเดิน เดินลุยไปเลยก็ได้ ต่อให้โรงแรมอยู่กลางเมืองเก่า เดินเรื่อยๆคงไม่เกิน 45 นาที จะได้ชมอาคารบ้านเรือนไปด้วย
แต่ในกรณีนี้ อยากขึ้นรถรางมากกว่า ชอบ รถรางเหลือสายเดียว สายอื่นกำลังปรับปรุงหรือ ก่อสร้าง ซื้อตั๋วด้วยเครื่อง ก่อนขึ้น Varify ตั๋วทุกครั้ง แต่ถ้าไปวันอาทิตย์ หมวยรีเซฟชั่นบอกว่า แอบขึ้นมาได้เลย เค้าไม่ตรวจ อยากลองก็ลองกันเองนะครับ มีค่าปรับ

เข้าเมืองเข้าที่พัก จองได้โรงแรม ใกล้ๆท่าเรือ เดินไม่ไกลจาก The Cathedral Notre Dame de Strasbourg
เป็นความสะดวกอย่างบังเอิญห้องดีวิวมีคลาส แต่เสียอย่างเดียว ปีนบันได 4 ชั้น ไม่มี ลิฟล์
เริ่มเทียว
The Cathedral Notre Dame de Strasbourg
วิหาร Notre Dame de Strasbourg สร้างอยู่บนรากฐานของคริสตจักรโรมัน เริ่มสร้างในปี 1015
ว่ากันว่า โครงสร้างและงานปฎิมากรรมต่างของวิหารถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ สถาปนิก แห่งยุคนั้น ด้วยรูปแบบจากโรมันไป ถึง กอธิค (12-15 C)
เอาแค่ว่าความสูง ก็น่าจะกินแล้ว
รายระเอียดงานสร้างที่พอค้นเจอ มีดังนี้
ด้านหน้าตะวันตก (1277-1318) เป็นผลงานของ Erwin of Steinbach และลูกศิษย์
อาคารโครงสร้างแปดเหลี่ยมของ NORTH TOWER (1399-1419) ถูกสร้างขึ้นโดย Ulrich von Ensingen of Ulm,
ส่วนยอดแหลมฉลุของวิหาร สร้างโดย Johannes Hoeltz of Cologne (1420- 1439)
The Astronomical clock

นาฬิกาดาราศาสตร์ เป็นจักรกลประดิษฐ์โดยความร่วมมือของศิลปินนักคณิตศาสตร์และช่างเทคนิค ชาวสวิส รวมถึงประติมากรจิตรกรอีกหลายท่านร่วมมือกัน
เพื่อสร้างนาฬิกาที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจนี้ ตัวนาฬิกามีกลไกการแสดงเวลาที่พิเศษมาก จะมีการแสดงของหุ่นกลต่างๆวันละครั้ง นาฬิกาเริ่มเดินปี 1842
ทุกวันเมื่อถึง เวลา กลางดึก 12:30 หุ่นกลไกต่างๆจะเริ่มแสดง การเคลื่อนไหวและเสียงตีที่ไพเราะกังวาน ปัจุบันน่าจะปรับเป็น 12.30 กลางวันแทนแล้ว ไม่ได้อยู่ดู เลยไม่แน่ใจ
เราเทียวกันสูง จ่ายค่าปีนขึ้นดาดฟ้าวิหาร 10 Eu
เพื่อปีนบันได 332 ขั้น ขึ้นไปสู่ดาดฟ้าวิหารเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น บันไดเวียนในปล่องหินทรายที่ไม่น่ารอดแผ่นดินไหวมาได้จะนำคุณไปสู่หัวใจของอาคารที่คุณสามารถค้นพบมุมมองบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ของโครงสร้างสถาปัตยกรรม
มองเห็นทิวทัศน์จากจุดสูงสุด ที่น่าทึ่งที่สามารถมองเห็นหลังคาของตึกรามอาคารต่างๆที่สวยงาม และอาจมองเห็นป่าดำในประเทศเยอรมนีถ้าสภาพอากาศดี
เมืองนี้ มีนายคนนี้ เป็นบุคคลที่ ต้องระลึกถึง

โยฮันน์ กูเทนแบร์ก Johannes Gensfleisch zur Laden zum Gutenberg
ช่างเหล็กและนักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน มีชื่อเสียงจากการมีส่วนพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ ในช่วงราวคริสศตวรรษ 1450
ซึ่งรวมถึงตัวพิมพ์โลหะอัลลอย และหมึกพิมพ์ที่ใช้น้ำมันเป็นฐาน แม่พิมพ์สำหรับหล่อตัวพิมพ์ได้อย่างแม่นยำ
และแท่นพิมพ์แบบกดแบบใหม่ ซึ่งพัฒนาจากเครื่องกดที่ใช้ในการทำไวน์
อาหารมื้อ บ่าย

ไม่ได้จดจำชื่ออาหาร แต่มันคือขาหมูตุ๋นเครื่องเทศ มีกระหล่ำดองและแป้งก้อนที่เหมือนมันฝรั่งเสริฟมาด้วยกัน

จานนี้เป็นปลาสามอย่างห่อกระหล่ำปลีดอง เยอรมันนะครับอาหารแบบนี้
เช้าเราทานมาจากปารีส มื้อนี้ทานบ่ายหน่อย เย็นเราไปทานกันหลังสี่ทุ่ม เพราะเราต้องไปจองโต๊ะดูการแสดง แสงสีเสียงที่หน้า วิหาร
แต่ ทุ่มกว่าจะสองทุ่ม เราไปล่องเรือชมเมืองก่อน

BATORAMA, การล่องเรือชมเมือง ใช้เวลา 70 นาที ต่อเทียว ให้บริการตลอดทั้งปี

เราจะล่องเรือลอดใต้สะพานสวยมีโครงสร้างและประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันหลายสะพาน
มีสะพานที่โครงสร้างสามารถยกตัวได้ เพื่อให้เรือลอดผ่านได้ เห็นเขื่อน Vauban dam ซึ่งเป็นเขื่อนสำหรับรักษาระดับน้ำในคลองรอบเมือง
ผ่านอาคารสถาบันอะไรสักอย่างของ EU และที่ชอบมากๆ คือ การผ่านระบบประตูน้ำที่สามารถให้เรือผ่านเข้าออกได้โดยอาศัยการปรับระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สร้างไว้
ใช้สำหรับ ให้เรือเข้าออกได้
และแทบเขือนยังมี Floating restaurant สวยๆหลายลำ จอดให้บริการอยู่ น่านั่งชิวๆมาก แต่อด ไม่มีเวลาพอ ต้องไปดูแสงสีเสียง ของ Cathedral Notre Dame de Strasbourg ต่อ
หลังจากล่องเรือแล้วก็ไปจองโต๊ะ ร้านอาหารหน้าวิหาร มื้อเย็นเราไม่ได้สั่งอาหารอะไรมาก
ทานสลัดหนึ่งจาน ไวน์ 2 แก้ว นอนได้
หลับฝันดีด้วย ภาพแสงสีแสงหน้า The Cathedral Notre Dame de Strasbourg
เวลานั้น ตอนนั้น ไวน์แก้วนั้น ทำให้ภาพในความทรงจำ สวยซึ้ง จนเกินบรรยาย
คงเห็นภาพกลับหัวหางกันมาบ้างแล้ว ต้องเรียนให้ทราบว่า กลัวว่าจะรอกัน ขอลงให้ก่อนจะกลับมาแก้ไขที่หลังนะครับ
ถ้าผู้อ่านท่านใด มีคำแนะนำดีๆเรื่องรูปก็รบกวนด้วยนะครับ
และหวังว่าคงไม่ซีเรียสกับการใช้ภาษา วกวนผิดถูกของผู้เขียน โดยอาชีพแล้วผู้เขียนแทบไม่ค่อยได้ใช้ภาษา ใดๆเลย
สำหรับท่านที่รอชม ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ถ้าจะค่อยๆทำ รีวิวไปเรื่อย ๆ โดยจะต้องผ่าน Annecy , Chamonix, ก่อนจะรอกันได้ไหมครับ วานบอกกันด้วยนะครับ
[CR] ฝรั่งเศส กับการเที่ยวเรื่อยๆในหน้าร้อน 2013
จากทุ่งลาเวนเดอร์เรามาบุกโรงสกัดน้ำมันดอกลาเวนเดอร์กัน
ครั้งแรกนะครับที่จะลองเขียน รีวิวการเที่ยว รายระเอียดค่อนข้างแยอะ เพราะชอบเทียวแบบ ซอกแซก สอดรู้สอดเห็น รายระเอียดของทริปนี้
เริ่มต้นออกเดินทางจาก Paris ไปเรื่อยๆที่จนถึง Nice,Monaco ความสนใจของผู้เขียนเอง จะเป็นพวก ธรรมชาติ นาสวน อาหารการกิน ความเป็นอยู่ รีวิวนี้ก็จะประกอบไปด้วย เนื้อหาดังกล่าว วันนี้เป็นการทดลองโพส คงลงทดสอบ แค่หนึ่งรูป และรายชื่อเมือง ใน 11 คืน
จากปารีส ดังนี้ครับ
Paris,StarsBourg,Annecy,Chamonix,Lyon,Avignon,Gordes,Apt,Sault,Provance,Valensole,Rize,Sainte Croix,Grasse,Nice,Eze,Monaco,Paris
กระทู้สอง เมือง Annecy เริ่มแล้วนะครับ แต่จะเป็นการค่อยๆเพิ่มรายระเอียดที่ละ คอมเม้น นะครับ
http://pantip.com/topic/30854920
การไปเที่ยวทุกครั้ง เราต้องมีสถานหลักๆที่เราอยากไป แน่นอน ทริปนี้ทุกคนคงสนใจ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ แห่งที่ราบสูง Provance
ผู้เขียนเองก็เช่นกัน แต่ในระหว่างเดินทางจริงๆ ก็เหมือนทุกๆครั้ง การเดินทางทำให้เรา ได้เห็นได้สัมผัส กับสิ่งที่คาดไม่ถึง เสมอ
เช่นเมืองนี้
Strasbourg สตาทส์บ๊วก
จากประวัติศาสตร์กว่า 2000 ปี ของ เมือง Strasbourg เริ่มต้นจากการเป็นเมืองการค้าที่เจริญรุ่งเรืองปัจจุบันกลายมาเป็นเมืองหลวงของชาวยุโรป เป็นที่ตั้งของรัฐสภายุโรปที่ลืมไปดู
การเดินทาง นั่ง TGV จาก gare de l'est กา ดู แลท์ ออกเสียงไม่น่าถูก แต่ถ้าถามทางพูดแบบนี้ ไปถึงแน่ๆ
ทริปนี้ซื้อ France rail pass save สำหรับเดินทาง 2 คนพร้อมกัน
เจอค่าจอง ไปคน 18 Eu อ่านรีวิวอื่นเห็นบอกว่า ค่าจอง 1.5 Eu
คิดว่าคงเป็นอดีตไปแล้ว หรืออาจจะสำหรับรถนอน หรือ เส้นทางอื่นๆ เพราะเส้นทางอื่นที่จองก็มี 3 Eu บ้าง
ได้ตั๊วมาแล้ว อย่าลืม ก่อนจะขึ้นรถ Varify ตั๋ว ซึ่งก็คือ การพิมษ์วันเวลาก่อนใช้ตั๋ว ถ้าไม่ทำอาจโดนปรับ
ตู้เหลืองสำหรับTGVสอดตั๋วมั่วๆเข้าไป พิมษ์วันเวลาออกมาคือจบ (ตู้เขียวติดตามในริวิวเมือง อื่น ต่อไป)
ลงสถานี TGV ของเมือง Strasbourg มีสถานีเดียว อย่าลืมเมืองนี้เป็นเมืองผ่าน ท่านอาจนั่งรถเลยได้ ถ้าจะหลับตั้งเวลาปลุกไว้ได้เลย
ตรงเวลา กว่าเครื่องบิน
จากสถานี TGV ถ้าชอบเดิน เดินลุยไปเลยก็ได้ ต่อให้โรงแรมอยู่กลางเมืองเก่า เดินเรื่อยๆคงไม่เกิน 45 นาที จะได้ชมอาคารบ้านเรือนไปด้วย
แต่ในกรณีนี้ อยากขึ้นรถรางมากกว่า ชอบ รถรางเหลือสายเดียว สายอื่นกำลังปรับปรุงหรือ ก่อสร้าง ซื้อตั๋วด้วยเครื่อง ก่อนขึ้น Varify ตั๋วทุกครั้ง แต่ถ้าไปวันอาทิตย์ หมวยรีเซฟชั่นบอกว่า แอบขึ้นมาได้เลย เค้าไม่ตรวจ อยากลองก็ลองกันเองนะครับ มีค่าปรับ
เข้าเมืองเข้าที่พัก จองได้โรงแรม ใกล้ๆท่าเรือ เดินไม่ไกลจาก The Cathedral Notre Dame de Strasbourg
เป็นความสะดวกอย่างบังเอิญห้องดีวิวมีคลาส แต่เสียอย่างเดียว ปีนบันได 4 ชั้น ไม่มี ลิฟล์
เริ่มเทียว
The Cathedral Notre Dame de Strasbourg
วิหาร Notre Dame de Strasbourg สร้างอยู่บนรากฐานของคริสตจักรโรมัน เริ่มสร้างในปี 1015
ว่ากันว่า โครงสร้างและงานปฎิมากรรมต่างของวิหารถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ สถาปนิก แห่งยุคนั้น ด้วยรูปแบบจากโรมันไป ถึง กอธิค (12-15 C)
เอาแค่ว่าความสูง ก็น่าจะกินแล้ว
รายระเอียดงานสร้างที่พอค้นเจอ มีดังนี้
ด้านหน้าตะวันตก (1277-1318) เป็นผลงานของ Erwin of Steinbach และลูกศิษย์
อาคารโครงสร้างแปดเหลี่ยมของ NORTH TOWER (1399-1419) ถูกสร้างขึ้นโดย Ulrich von Ensingen of Ulm,
ส่วนยอดแหลมฉลุของวิหาร สร้างโดย Johannes Hoeltz of Cologne (1420- 1439)
The Astronomical clock
นาฬิกาดาราศาสตร์ เป็นจักรกลประดิษฐ์โดยความร่วมมือของศิลปินนักคณิตศาสตร์และช่างเทคนิค ชาวสวิส รวมถึงประติมากรจิตรกรอีกหลายท่านร่วมมือกัน
เพื่อสร้างนาฬิกาที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจนี้ ตัวนาฬิกามีกลไกการแสดงเวลาที่พิเศษมาก จะมีการแสดงของหุ่นกลต่างๆวันละครั้ง นาฬิกาเริ่มเดินปี 1842
ทุกวันเมื่อถึง เวลา กลางดึก 12:30 หุ่นกลไกต่างๆจะเริ่มแสดง การเคลื่อนไหวและเสียงตีที่ไพเราะกังวาน ปัจุบันน่าจะปรับเป็น 12.30 กลางวันแทนแล้ว ไม่ได้อยู่ดู เลยไม่แน่ใจ
เราเทียวกันสูง จ่ายค่าปีนขึ้นดาดฟ้าวิหาร 10 Eu
เพื่อปีนบันได 332 ขั้น ขึ้นไปสู่ดาดฟ้าวิหารเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น บันไดเวียนในปล่องหินทรายที่ไม่น่ารอดแผ่นดินไหวมาได้จะนำคุณไปสู่หัวใจของอาคารที่คุณสามารถค้นพบมุมมองบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ของโครงสร้างสถาปัตยกรรม
มองเห็นทิวทัศน์จากจุดสูงสุด ที่น่าทึ่งที่สามารถมองเห็นหลังคาของตึกรามอาคารต่างๆที่สวยงาม และอาจมองเห็นป่าดำในประเทศเยอรมนีถ้าสภาพอากาศดี
เมืองนี้ มีนายคนนี้ เป็นบุคคลที่ ต้องระลึกถึง
โยฮันน์ กูเทนแบร์ก Johannes Gensfleisch zur Laden zum Gutenberg
ช่างเหล็กและนักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน มีชื่อเสียงจากการมีส่วนพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ ในช่วงราวคริสศตวรรษ 1450
ซึ่งรวมถึงตัวพิมพ์โลหะอัลลอย และหมึกพิมพ์ที่ใช้น้ำมันเป็นฐาน แม่พิมพ์สำหรับหล่อตัวพิมพ์ได้อย่างแม่นยำ
และแท่นพิมพ์แบบกดแบบใหม่ ซึ่งพัฒนาจากเครื่องกดที่ใช้ในการทำไวน์
อาหารมื้อ บ่าย
ไม่ได้จดจำชื่ออาหาร แต่มันคือขาหมูตุ๋นเครื่องเทศ มีกระหล่ำดองและแป้งก้อนที่เหมือนมันฝรั่งเสริฟมาด้วยกัน
จานนี้เป็นปลาสามอย่างห่อกระหล่ำปลีดอง เยอรมันนะครับอาหารแบบนี้
เช้าเราทานมาจากปารีส มื้อนี้ทานบ่ายหน่อย เย็นเราไปทานกันหลังสี่ทุ่ม เพราะเราต้องไปจองโต๊ะดูการแสดง แสงสีเสียงที่หน้า วิหาร
แต่ ทุ่มกว่าจะสองทุ่ม เราไปล่องเรือชมเมืองก่อน
BATORAMA, การล่องเรือชมเมือง ใช้เวลา 70 นาที ต่อเทียว ให้บริการตลอดทั้งปี
เราจะล่องเรือลอดใต้สะพานสวยมีโครงสร้างและประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันหลายสะพาน
มีสะพานที่โครงสร้างสามารถยกตัวได้ เพื่อให้เรือลอดผ่านได้ เห็นเขื่อน Vauban dam ซึ่งเป็นเขื่อนสำหรับรักษาระดับน้ำในคลองรอบเมือง
ผ่านอาคารสถาบันอะไรสักอย่างของ EU และที่ชอบมากๆ คือ การผ่านระบบประตูน้ำที่สามารถให้เรือผ่านเข้าออกได้โดยอาศัยการปรับระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สร้างไว้
ใช้สำหรับ ให้เรือเข้าออกได้
และแทบเขือนยังมี Floating restaurant สวยๆหลายลำ จอดให้บริการอยู่ น่านั่งชิวๆมาก แต่อด ไม่มีเวลาพอ ต้องไปดูแสงสีเสียง ของ Cathedral Notre Dame de Strasbourg ต่อ
หลังจากล่องเรือแล้วก็ไปจองโต๊ะ ร้านอาหารหน้าวิหาร มื้อเย็นเราไม่ได้สั่งอาหารอะไรมาก
ทานสลัดหนึ่งจาน ไวน์ 2 แก้ว นอนได้
หลับฝันดีด้วย ภาพแสงสีแสงหน้า The Cathedral Notre Dame de Strasbourg
เวลานั้น ตอนนั้น ไวน์แก้วนั้น ทำให้ภาพในความทรงจำ สวยซึ้ง จนเกินบรรยาย
คงเห็นภาพกลับหัวหางกันมาบ้างแล้ว ต้องเรียนให้ทราบว่า กลัวว่าจะรอกัน ขอลงให้ก่อนจะกลับมาแก้ไขที่หลังนะครับ
ถ้าผู้อ่านท่านใด มีคำแนะนำดีๆเรื่องรูปก็รบกวนด้วยนะครับ
และหวังว่าคงไม่ซีเรียสกับการใช้ภาษา วกวนผิดถูกของผู้เขียน โดยอาชีพแล้วผู้เขียนแทบไม่ค่อยได้ใช้ภาษา ใดๆเลย
สำหรับท่านที่รอชม ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ถ้าจะค่อยๆทำ รีวิวไปเรื่อย ๆ โดยจะต้องผ่าน Annecy , Chamonix, ก่อนจะรอกันได้ไหมครับ วานบอกกันด้วยนะครับ