จาก คอลัมน์ คลุกวงในบอลไทย โดย.. ปูเป้
ใครบ่นตัวเล็ก อ่านไม่ออก ผมก๊อบมาจากเว็บให้อ่านเพิ่มนะครัช 55555
กระแสเลือกตั้งนายกฯลูกหนังที่ยืดเยื้อกลายเป็นมหากาพย์ผลักให้ผมแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการประชุมประวัติศาสตร์ผ่านมติธรรมนูญฟีฟ่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
บรรยากาศคุกรุ่นขนาดไหน คอลูกหนังบ้านเราคงได้เห็นทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว ผมรู้สึกดีนะครับที่ตัวแทนฟีฟ่าเชิญคณะของ คุณวิรัช ชาญพานิชย์, คุณอรรณพ สิงห์โตทอง, คุณอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ เข้าไปพูดคุยกันก่อนการประชุมเริ่มขึ้น ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมงโดยไม่มี คุณวรวีร์ มะกูดี อยู่ในนั้นด้วย
ก่อนหน้านี้ คุณวรวีร์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แปลงสารของฟีฟ่าเพื่อเข้าข้างตัวเองตลอดมา ทั้งการระบุให้ใช้ระบบ 72 เสียงในการเลือกตั้ง ทั้งข้อกล่าวหาที่ว่าฟีฟ่าเป็นผู้มาดูรายละเอียดโครงสร้างของฟุตบอลไทยจริงหรือ ไล่เรื่อยไปกระทั่งถึงฟีฟ่าตัวปลอม เอะอะอะไรก็จะแบน...เหล่านั้นฝ่ายคุณวิรัช บอกว่าเป็นสิ่งที่คุณวรวีร์ พูดเอาเองทั้งนั้น คราวนี้ได้ไปนั่งคุยด้วยตัวเองผมว่าแฟร์ที่สุดครับ
ผมเชื่อว่าความไม่ได้เรื่องสารพัดสารเพ ในยุคของคุณวรวีร์ ก็โดนถ่ายทอดจากฝั่งคุณวิรัช สู่ตัวแทนฟีฟ่าแบบไม่ยั้งเหมือนกัน ถ้าคุณวรวีร์ มีอะไรที่ปิดบังซ่อนเร้น ฟีฟ่า หรือ ติ๊ต่างพูดไปคนเดียวตลอดมาก็คงนั่งใจหายใจคว่ำอีกห้องหนึ่ง
สโมสรสมาชิก สภากรรมการ สื่อมวลชนก็ลุ้นกันว่าหลังจากพูดคุยเสร็จแล้วจะได้ข้อสรุปยังไง ฟีฟ่าจะถึงบางอ้อ รู้ความจริงต่างๆ แล้วให้เลือกตั้งระบบ 184 เสียงเหมือนเดิมหรือเปล่า?
สุดท้ายแล้ว คุณวิรัช ก็เป็นคนแถลงเองว่า การพูดคุยกับฟีฟ่าเป็นไปในทิศทางที่ดี ฟีฟ่ายืนยันว่ายังไงก็ต้องเลือกตั้งในระบบ 72 เสียงเพราะได้ผ่านการกลั่นกรองตามระบบ วิถีของฟีฟ่าแล้วว่าต้องให้น้ำหนักกับสโมสรที่ทำทีมในระบบอาชีพและสมัครเล่นแตกต่างกัน สัดส่วนที่เหมาะสมก็ควรจะออกมาแบบนั้นแหละ คือไทยลีก 18 ทีม, ดิวิชั่น 1อีก 18 ทีม ที่เหลือเป็นทีมกึ่งอาชีพอย่างดิวิชั่น 2 อีก 30 ทีมและทีมสมัครเล่นถ้วยข,ค,ง อีก 6 ทีม
ฝ่ายคุณวิรัช ต่อรองว่ายอมรับในธรรมนูญฟีฟ่าเกือบทุกข้อ ยกเว้นข้อ 10 เรื่องสิทธิของสมาชิก ที่เคยเป็นสมาชิกของสมาคมฯจะไปอยู่ตรงไหนและการได้มาซึ่ง 30 เสียงของกึ่งอาชีพ ฟีฟ่าเองก็อ่อนข้อเปิดช่องให้ไปหาที่มาของการคัดเลือก 30 เสียงกันใหม่ คุณวิรัช บอกว่าขอเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อไปหารือกันแก้ไขใน 2 ข้อนี้
เหตุการณ์ทำท่าจะเป็นไปได้ด้วยดี ทุกคนกลับเข้ามาสู่วิถีการเลือกตั้งแบบสบายใจทุกฝ่ายเพราะได้ยินจากปากฟีฟ่าด้วยหูของตัวเองแล้ว คุณวิรัช ก็พูดชัดเจน ในการประชุมร่วมกับสมาชิกห้องใหญ่ในเวลาต่อมาอีก 163 เสียง คุณวิรัชก็บอกกับสโมสรสมาชิก ที่ใส่เสื้อทีมเดียวกัน นั่งรถคันเดียวกัน ว่าตกลงกับฟีฟ่าอย่างนั้น ตกลงรับธรรมนูญฟีฟ่าเหลือแค่ร่วมกันประชุมแก้ใน 2 ข้อที่ว่า คุณวรวีร์ ก็เปิดโอกาสให้คุณวิรัช ได้บอกกล่าวเล่าสิบกับสโมสรสมาชิกเต็มที่เลยว่า คุยกับฟีฟ่ามายังไงบ้าง ตกลงจะเอายังไง
สุดท้ายเมื่อคุณวิรัช บอกอย่างนั้นคุณวรวีร์ ก็ขอเสียงโหวตในที่ประชุมว่าใครเห็นด้วยกับธรรมนูญฟีฟ่า คุณพินิจ งามพริ้ง ก็ยังบอกว่าต้องให้ยกมือ ...คุณวรวีร์ ก็ให้ยกมือปรากฏว่า มีไม่เห็นด้วย 2 เสียงนอกนั้นเห็นด้วย นั่นหมายถึงว่า มติที่ประชุมโหวตให้ผ่านแบบเอกฉันท์ การกีฬาแห่งประเทศไทยก็บันทึกไปแล้ว เหลือเพียงแก้ไขข้อย่อยในรายละเอียดเท่านั้น
แต่เหตุการณ์ทำท่าจะพลิกล็อก หลังจากกลับบ้านอาบน้ำอาบท่า เปิดอ่านเว็บบอร์ดแล้วสโมสรด่ายับคุณวิรัช ถึงขั้นไล่จากแกนนำ แถม "นายอ๊อด" คู่ซี้ก็ไปออกวิทยุว่าไม่ได้ตกลงอย่างนั้นคุณวิรัชก็เลยออกแถลงการณ์ว่าไม่ได้ยอมรับธรรมนูญฟีฟ่า เล่นเอางงเป็นไก่ตาแตก
สื่อมวลชนที่อยู่นอกห้องอาจจะไม่ได้ยินกับหู แต่บังเอิญมีการบันทึกเทปไว้ด้วยรถโอบี กล้อง 5 ตัวชัดเป๊ะ ทั้งภาพและเสียงผมเปิดดูกี่ที ก็มั่นใจว่าตัวเองฟังภาษาไทยแตกพอสมควรและเข้าใจอย่างเหตุการณ์ที่เกิดข้างต้น และก็เชื่อเช่นกันว่าทุกเสียงที่ยกมือโหวตได้ยินเหมือนผม
ระดับบิ๊กก๊องที่จบวิศวะ ทำธุรกิจเป็นพันล้าน คงไม่โดนใครหลอกให้พาพรรคพวกยกมือแล้วมาเข้าใจทีหลังหรอก ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นถึงกลับลำ กลับคำพูดอย่างนั้นเสียเครดิตไปจมหู แต่ถึงจะกลับลำยังไงก็คงไม่มีผลแล้ว เพราะมติที่ออกมา มีสักขีพยานทั้ง ฟีฟ่า, การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่สำคัญเทปบันทึกความยาว 70 นาทีชัดเจนยิ่งกว่าระบบ HD
เดิมผมคิดว่าบิ๊กก๊อง, บิ๊กป๋อม หรือ คุณอรรณพ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯก็ดูเหมาะสมดีเพราะคลุกคลีกับวงการฟุตบอลไทยมาเยอะ แม้กระทั่งจะเป็นหุ่นเชิดของบิ๊กอะไรที่เป็นนายกฯตัวจริงก็แล้วแต่ ...แต่ถึงชั่วโมงนี้สงสัยว่านายกฯตัวจริงจะเป็น ''นายอ๊อด'' ที่ทำทีมปลวกแดงแพ้ลูกอีสาน 0-12 แถมไม่มีเสื้อผ้าไปแข่งจนต้องแพ้บายซะแล้ว ถ้าบิ๊กก๊องเป็นนอมินีของนายอ๊อด จริง ละก็ขำกลิ้งเลยครับ 555
ปูเป้
ที่มา :
http://www.siamsport.co.th/Column/130815_103.html
หวัดดีนายกฯอ๊อด
ใครบ่นตัวเล็ก อ่านไม่ออก ผมก๊อบมาจากเว็บให้อ่านเพิ่มนะครัช 55555
กระแสเลือกตั้งนายกฯลูกหนังที่ยืดเยื้อกลายเป็นมหากาพย์ผลักให้ผมแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการประชุมประวัติศาสตร์ผ่านมติธรรมนูญฟีฟ่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
บรรยากาศคุกรุ่นขนาดไหน คอลูกหนังบ้านเราคงได้เห็นทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว ผมรู้สึกดีนะครับที่ตัวแทนฟีฟ่าเชิญคณะของ คุณวิรัช ชาญพานิชย์, คุณอรรณพ สิงห์โตทอง, คุณอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ เข้าไปพูดคุยกันก่อนการประชุมเริ่มขึ้น ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมงโดยไม่มี คุณวรวีร์ มะกูดี อยู่ในนั้นด้วย
ก่อนหน้านี้ คุณวรวีร์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แปลงสารของฟีฟ่าเพื่อเข้าข้างตัวเองตลอดมา ทั้งการระบุให้ใช้ระบบ 72 เสียงในการเลือกตั้ง ทั้งข้อกล่าวหาที่ว่าฟีฟ่าเป็นผู้มาดูรายละเอียดโครงสร้างของฟุตบอลไทยจริงหรือ ไล่เรื่อยไปกระทั่งถึงฟีฟ่าตัวปลอม เอะอะอะไรก็จะแบน...เหล่านั้นฝ่ายคุณวิรัช บอกว่าเป็นสิ่งที่คุณวรวีร์ พูดเอาเองทั้งนั้น คราวนี้ได้ไปนั่งคุยด้วยตัวเองผมว่าแฟร์ที่สุดครับ
ผมเชื่อว่าความไม่ได้เรื่องสารพัดสารเพ ในยุคของคุณวรวีร์ ก็โดนถ่ายทอดจากฝั่งคุณวิรัช สู่ตัวแทนฟีฟ่าแบบไม่ยั้งเหมือนกัน ถ้าคุณวรวีร์ มีอะไรที่ปิดบังซ่อนเร้น ฟีฟ่า หรือ ติ๊ต่างพูดไปคนเดียวตลอดมาก็คงนั่งใจหายใจคว่ำอีกห้องหนึ่ง
สโมสรสมาชิก สภากรรมการ สื่อมวลชนก็ลุ้นกันว่าหลังจากพูดคุยเสร็จแล้วจะได้ข้อสรุปยังไง ฟีฟ่าจะถึงบางอ้อ รู้ความจริงต่างๆ แล้วให้เลือกตั้งระบบ 184 เสียงเหมือนเดิมหรือเปล่า?
สุดท้ายแล้ว คุณวิรัช ก็เป็นคนแถลงเองว่า การพูดคุยกับฟีฟ่าเป็นไปในทิศทางที่ดี ฟีฟ่ายืนยันว่ายังไงก็ต้องเลือกตั้งในระบบ 72 เสียงเพราะได้ผ่านการกลั่นกรองตามระบบ วิถีของฟีฟ่าแล้วว่าต้องให้น้ำหนักกับสโมสรที่ทำทีมในระบบอาชีพและสมัครเล่นแตกต่างกัน สัดส่วนที่เหมาะสมก็ควรจะออกมาแบบนั้นแหละ คือไทยลีก 18 ทีม, ดิวิชั่น 1อีก 18 ทีม ที่เหลือเป็นทีมกึ่งอาชีพอย่างดิวิชั่น 2 อีก 30 ทีมและทีมสมัครเล่นถ้วยข,ค,ง อีก 6 ทีม
ฝ่ายคุณวิรัช ต่อรองว่ายอมรับในธรรมนูญฟีฟ่าเกือบทุกข้อ ยกเว้นข้อ 10 เรื่องสิทธิของสมาชิก ที่เคยเป็นสมาชิกของสมาคมฯจะไปอยู่ตรงไหนและการได้มาซึ่ง 30 เสียงของกึ่งอาชีพ ฟีฟ่าเองก็อ่อนข้อเปิดช่องให้ไปหาที่มาของการคัดเลือก 30 เสียงกันใหม่ คุณวิรัช บอกว่าขอเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อไปหารือกันแก้ไขใน 2 ข้อนี้
เหตุการณ์ทำท่าจะเป็นไปได้ด้วยดี ทุกคนกลับเข้ามาสู่วิถีการเลือกตั้งแบบสบายใจทุกฝ่ายเพราะได้ยินจากปากฟีฟ่าด้วยหูของตัวเองแล้ว คุณวิรัช ก็พูดชัดเจน ในการประชุมร่วมกับสมาชิกห้องใหญ่ในเวลาต่อมาอีก 163 เสียง คุณวิรัชก็บอกกับสโมสรสมาชิก ที่ใส่เสื้อทีมเดียวกัน นั่งรถคันเดียวกัน ว่าตกลงกับฟีฟ่าอย่างนั้น ตกลงรับธรรมนูญฟีฟ่าเหลือแค่ร่วมกันประชุมแก้ใน 2 ข้อที่ว่า คุณวรวีร์ ก็เปิดโอกาสให้คุณวิรัช ได้บอกกล่าวเล่าสิบกับสโมสรสมาชิกเต็มที่เลยว่า คุยกับฟีฟ่ามายังไงบ้าง ตกลงจะเอายังไง
สุดท้ายเมื่อคุณวิรัช บอกอย่างนั้นคุณวรวีร์ ก็ขอเสียงโหวตในที่ประชุมว่าใครเห็นด้วยกับธรรมนูญฟีฟ่า คุณพินิจ งามพริ้ง ก็ยังบอกว่าต้องให้ยกมือ ...คุณวรวีร์ ก็ให้ยกมือปรากฏว่า มีไม่เห็นด้วย 2 เสียงนอกนั้นเห็นด้วย นั่นหมายถึงว่า มติที่ประชุมโหวตให้ผ่านแบบเอกฉันท์ การกีฬาแห่งประเทศไทยก็บันทึกไปแล้ว เหลือเพียงแก้ไขข้อย่อยในรายละเอียดเท่านั้น
แต่เหตุการณ์ทำท่าจะพลิกล็อก หลังจากกลับบ้านอาบน้ำอาบท่า เปิดอ่านเว็บบอร์ดแล้วสโมสรด่ายับคุณวิรัช ถึงขั้นไล่จากแกนนำ แถม "นายอ๊อด" คู่ซี้ก็ไปออกวิทยุว่าไม่ได้ตกลงอย่างนั้นคุณวิรัชก็เลยออกแถลงการณ์ว่าไม่ได้ยอมรับธรรมนูญฟีฟ่า เล่นเอางงเป็นไก่ตาแตก
สื่อมวลชนที่อยู่นอกห้องอาจจะไม่ได้ยินกับหู แต่บังเอิญมีการบันทึกเทปไว้ด้วยรถโอบี กล้อง 5 ตัวชัดเป๊ะ ทั้งภาพและเสียงผมเปิดดูกี่ที ก็มั่นใจว่าตัวเองฟังภาษาไทยแตกพอสมควรและเข้าใจอย่างเหตุการณ์ที่เกิดข้างต้น และก็เชื่อเช่นกันว่าทุกเสียงที่ยกมือโหวตได้ยินเหมือนผม
ระดับบิ๊กก๊องที่จบวิศวะ ทำธุรกิจเป็นพันล้าน คงไม่โดนใครหลอกให้พาพรรคพวกยกมือแล้วมาเข้าใจทีหลังหรอก ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นถึงกลับลำ กลับคำพูดอย่างนั้นเสียเครดิตไปจมหู แต่ถึงจะกลับลำยังไงก็คงไม่มีผลแล้ว เพราะมติที่ออกมา มีสักขีพยานทั้ง ฟีฟ่า, การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่สำคัญเทปบันทึกความยาว 70 นาทีชัดเจนยิ่งกว่าระบบ HD
เดิมผมคิดว่าบิ๊กก๊อง, บิ๊กป๋อม หรือ คุณอรรณพ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯก็ดูเหมาะสมดีเพราะคลุกคลีกับวงการฟุตบอลไทยมาเยอะ แม้กระทั่งจะเป็นหุ่นเชิดของบิ๊กอะไรที่เป็นนายกฯตัวจริงก็แล้วแต่ ...แต่ถึงชั่วโมงนี้สงสัยว่านายกฯตัวจริงจะเป็น ''นายอ๊อด'' ที่ทำทีมปลวกแดงแพ้ลูกอีสาน 0-12 แถมไม่มีเสื้อผ้าไปแข่งจนต้องแพ้บายซะแล้ว ถ้าบิ๊กก๊องเป็นนอมินีของนายอ๊อด จริง ละก็ขำกลิ้งเลยครับ 555
ปูเป้
ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Column/130815_103.html