เมื่อวันจันทร์ บินกลับจากเชียงใหม่มาลงดอนเมืองตอนห้าทุ่มเศษ ๆ ยังดีใจว่ากับตันเหยีบมาเนื่องจากมีเคสบนเครื่องถึงสนามบิน เร็วกว่ากำหนดเกือบ 20 นาที
พอลงเครื่องนั่นแหละ เห็นฝนปลอย ๆ ตามประสบการณ์ เราจะไม่รอแท็กซี่ในสนามบิน แอบมองไป เห็นคนเป็นร้อย ยืนหลายแถว มะรุมมะตุ้มอยู่
ตรงนี้ เราเดินข้ามสะพานลอย (สะพานที่จะข้ามไปโรงแรมอมารีดอนเมือง) ไปขึ้นแท็กซี่หน้าขอบรั้วสนามบิน
**อันนี้แนะนำเพื่อนๆ เลย นะ เผื่อใครยังไม่รู้ ว่าหาแท็กซี่ตรงนี้ได้ง่ายกว่า
ปกติตรงนี้แท็กซี่เรียงกันเป็นตับ แต่วันนี้ เห็นคนเรียงกันเป็นแถว มีฝนปลอย ๆ ด้วย โอ้ พระเจ้า
เข้าแถวยืนรออยู่ได้สิบห้านาที เห็นแววว่าไม่ประสบความสำเร็จแล้วแหละ เดินขึ้นสะพานลอยกลับมาในสนามบินอีกรอบตันสินใจว่า
ต้องเดินไปดังสะพานลอยหน้าแล้วแหละ เพราะแท็กซี่โดนดักไปหมดมาไม่ถึงตรงสะพานลอยนี้เลย
ระหว่างเดินไป ก็เห็นคนเดินตามกันมาเป็นแถว
เห็นคนไทยบางครอบครัวว่าข้ามไปรอฝั่งโรงแรมให้รถวนมา
ระหว่างที่เดินผ่านมา เห็นครอบครัว ญี่ปุ่น คนจีน มากันหกเจ็ดคนนั่งรอบนเก้าอี้อย่างเซ็งๆ ว่าเอาไงดี ลูกสาวตัวน้อยๆบนตักแม่ที่หลับไปแล้ว(ก็เที่ยงคืนแล้วนิ หนาวก็หนาว ฝนก็ปลอย)
มองไปดูคิวคนรอแท็กซี่ในสนามบิน แหม่ อย่างกับ ทำแค้มปิ้งรอซื้อไอโฟนหก
เห็นฝรั่งผัวเมียยืนเซ็งกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หยิบบุหรี่ออกมาสูบอย่างเซ็ง
เห็นคนไทยเดินนำ คนญี่ปุ่น เดินลงไปชั้นล่างลานจอดรถ (คงเป็นแท็กซี่ป้ายดำ)
เราเป็นคนไทยรู้ทางหนีทีไล่ทันเจนจัดช่ำชองยังเหนื่อยเลย เดินไปหลายร้อยเมตรไปดัก อีกประตูนึง
แท็กซี่นาน ๆ ก็จะมาซักคนก็ใช่ว่าโบกแล้วจะไปน๊ะ นู้น คันที่สามถึงจะไป
แถมมีคนไทยจอมฉกด้วย เขาตั้งแถวกัน เจ๊มากับสามี เห็นแท็กซี่ชะลอเข้ามาก็วิ่งแย่งไปเปิดประตู
ไม่สนใจสายตาเป็นสิบคู่ที่เขาเข้าคิวกันหรอก
เมืองไทยนิ สนุกตั้งแต่มาเลยแหละ
welcome to thailand kub
ระบบขนส่งสาธารณะที่มีปัญหาการเชื่อมต่อของไทย เห็นแล้วก็เศร้าใจกับนักท่องเที่ยว
พอลงเครื่องนั่นแหละ เห็นฝนปลอย ๆ ตามประสบการณ์ เราจะไม่รอแท็กซี่ในสนามบิน แอบมองไป เห็นคนเป็นร้อย ยืนหลายแถว มะรุมมะตุ้มอยู่
ตรงนี้ เราเดินข้ามสะพานลอย (สะพานที่จะข้ามไปโรงแรมอมารีดอนเมือง) ไปขึ้นแท็กซี่หน้าขอบรั้วสนามบิน
**อันนี้แนะนำเพื่อนๆ เลย นะ เผื่อใครยังไม่รู้ ว่าหาแท็กซี่ตรงนี้ได้ง่ายกว่า
ปกติตรงนี้แท็กซี่เรียงกันเป็นตับ แต่วันนี้ เห็นคนเรียงกันเป็นแถว มีฝนปลอย ๆ ด้วย โอ้ พระเจ้า
เข้าแถวยืนรออยู่ได้สิบห้านาที เห็นแววว่าไม่ประสบความสำเร็จแล้วแหละ เดินขึ้นสะพานลอยกลับมาในสนามบินอีกรอบตันสินใจว่า
ต้องเดินไปดังสะพานลอยหน้าแล้วแหละ เพราะแท็กซี่โดนดักไปหมดมาไม่ถึงตรงสะพานลอยนี้เลย
ระหว่างเดินไป ก็เห็นคนเดินตามกันมาเป็นแถว
เห็นคนไทยบางครอบครัวว่าข้ามไปรอฝั่งโรงแรมให้รถวนมา
ระหว่างที่เดินผ่านมา เห็นครอบครัว ญี่ปุ่น คนจีน มากันหกเจ็ดคนนั่งรอบนเก้าอี้อย่างเซ็งๆ ว่าเอาไงดี ลูกสาวตัวน้อยๆบนตักแม่ที่หลับไปแล้ว(ก็เที่ยงคืนแล้วนิ หนาวก็หนาว ฝนก็ปลอย)
มองไปดูคิวคนรอแท็กซี่ในสนามบิน แหม่ อย่างกับ ทำแค้มปิ้งรอซื้อไอโฟนหก
เห็นฝรั่งผัวเมียยืนเซ็งกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หยิบบุหรี่ออกมาสูบอย่างเซ็ง
เห็นคนไทยเดินนำ คนญี่ปุ่น เดินลงไปชั้นล่างลานจอดรถ (คงเป็นแท็กซี่ป้ายดำ)
เราเป็นคนไทยรู้ทางหนีทีไล่ทันเจนจัดช่ำชองยังเหนื่อยเลย เดินไปหลายร้อยเมตรไปดัก อีกประตูนึง
แท็กซี่นาน ๆ ก็จะมาซักคนก็ใช่ว่าโบกแล้วจะไปน๊ะ นู้น คันที่สามถึงจะไป
แถมมีคนไทยจอมฉกด้วย เขาตั้งแถวกัน เจ๊มากับสามี เห็นแท็กซี่ชะลอเข้ามาก็วิ่งแย่งไปเปิดประตู
ไม่สนใจสายตาเป็นสิบคู่ที่เขาเข้าคิวกันหรอก
เมืองไทยนิ สนุกตั้งแต่มาเลยแหละ
welcome to thailand kub