คอนโดตัวนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งยอมรับว่าเป็นคอนโดที่มีlocationค่อนข้างสวย เรากับที่บ้านเลยคิดว่าจองเพื่อลงทุน ซึ่งห้องนี้ไม่ใช่ห้องแรกที่เราลงทุน คอนโดนี้เปิดตัวมาเกือบๆปีนึงแล้วขายได้ ประมาณ 40-50% ซึ่งเราก็สงสัยว่าทำไมขายไม่ดี เพราะต่อชั้นมียอดจองแค่ 20-30% เท่านั้น (ผ่านไปปีนึง) แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะโปรโมชั่นใหม่มันน่าสนใจ....ในที่สุดเราเลยตกหลุมพราง และได้ห้องที่ค่อนข้างดีที่สุดในชั้น
แต่แล้วการผ่อนเงินดาวน์ของเรานี่เหละเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา และการจัดการที่ดูแล้วไม่เป็นมืออาชืพเอาซะเลย ยังกับเด็กเล่นขายของ
เกริ่นกันซะยาวเข้าเรื่องกันเลย....
เราต้องโทรตามบิลตัวจริงทุกๆเดือน ไม่ตามไม่ส่ง ส่งมาให้ใบแรกคือเงินจองใช้เวลา1เดือนในการจัดส่ง!!! เราเลยโทรไปบอกตั้งแต่เดือนแรก ว่าช่วยจัดส่งมาแบบemsได้มั๊ย เพราะลงทะเบียนใช้เวลา3อาทิตย์ และเราไม่ได้อยู่บ้านคอยโทรเชคตลอดเวลา คำตอบที่ได้คือโอเครได้ค่ะๆ เดือนหน้าส่งให้.....แล้วเดือนถัดไปบิลหายไปอีกละโทรตามคราวนี้บัญชีบอกว่าส่งแล้ว ให้เหตผลว่าบริษัทย้าย ออฟฟิทที่กรุงเทพ เลยนานไปหน่อยขอให้เข้าใจ
แต่เวลาผ่านไป2เดือนกว่าใบเสร็จตัวจริงยังไม่มา และมีของงวดใหม่อีก รวมๆแล้ว2ใบ ผ่านไป 2 เดือนครึ่งเลยโทรตามอีกรอบ นี่เลยกำหนดที่ต้องจ่ายของเดือนนี้แล้วใบเสร็จก็ยังไม่มา ซึ่งเคยบอกไปแล้วว่าให้ส่งemsแต่ก็ไม่ส่ง ด้วยความงกของบริษัทส่งแบบลงทะเบียนอีก เลยต้องโทรไปตามจิกที่head office ที่กรุงเทพ. โทรไปตามเจอบัญชีคนใหม่ บอกว่านู๋เพิ่งเข้ามาทำงานนู๋ไม่ทราบ (เดือนหน้าจะเปลี่ยนอีกคนใหม่มั๊ย?)
ถามเซลล์ทำไมต้องพิมพ์ใบเสร็จรับเงินจากกรุงเทพ ตอบว่าเพราะความมั่นคงของบริษัท และจริงๆใบเสร็จรับเงินชั่วคราวของที่คอนโดไม่มีความน่าเชื่อถือเอาซะเลย เพราะพิมพ์จากคอม แล้วก็มีลายมือผู้รับเงินมาเท่านั้น.....แบบนี้เราพริ้นออกมาจากคอมมั่งแล้วบอกว่าจ่ายแล้วดีมั๊ย?
และการที่ใบเสร็จรับเงินไม่น่าเชื่อถือ เราเลยขอให้รูดบัตรเดบิท ซึ่งตอนแรกเงินมัดจำ และเงินจองสามารถรูดได้ สมัยนี้ใครจะถือเงินอยู่กับตัว
รับเงินไปแล้วจะได้มีหลักฐาน สลิปจากบัตรที่รูดไปนั่นเหละดีที่สุด เพราะเราไม่สะดวกโอนเงินผ่านแบงค์ บางเดือนอยู่ต่างประเทศ ให้คนที่บ้านมาจ่ายให้อีก จ่ายเสร็จได้ใบเสร็จรับเงินชั่วคราวกลับบ้านเลย ให้อากงอาม่าไปจ่ายเงินที่แบงค์คงจะยุ่งยาก
ความเดิมยังไม่ทันจบ....ด้วยความขึ้งกเรื่องไม่เป็นเรื่องของบรรดาผู้บริหารรวมหัวกันแล้วบอกว่า "ไม่อนุญาติให้รูดบัตรได้ เพราะอยากจะประหยัด 2% ที่แบงค์ตัดเงินไป " วันก่อนเราเลยต้องกลับไปใหม่อีกรอบเพื่อ กดเงินสด และโทรไปหาที่ head office เพื่อที่จะทวงบิลเก่า และถามเรื่องเครื่องรูดบัตร ว่าทำไมโครงการใหญ่ๆอื่นๆ สามารถให้รูดบัตรได้
วันนี้เลยเข้าไปจ่ายเงินสด อีกรอบและตามใบเสร็จรับเงินที่ค้างลูกค้ามา2เดือนกว่า สรุปผู้บริหารที่เพิ่งมาจากกรุงเทพไม่กล้าออกมาพบลูกค้านั่งอยู่ในห้องแอร์ และเซลล์ให้คำตอบว่ามีนโยบายใหม่ จะรูดบัตรก็ได้แต่ลูกค้าจะต้องเสียค่ารูด 3% เอาเข้าไป (เพิ่งเจอโครงการณ์นี้ตัวแรกเขี้ยวขนาดนี้)
นี่ยังไม่นับรวมว่าห้องที่เราแถมเฟอร์นิเจอร์ ที่จองไปแล้วได้เฟอร์นิเจอร์ไม่ตรงตามที่โชว์ เช่น เอาโต๊ะเครื่องแป้งเอาของราคาถูกมาให้ (อันนี้มาทราบที่หลัง เซลล์ที่เคยดิวด้วยก็ออกไปแล้ว)
สรุป เป็นคอนโดที่มีปัญหาเรื่องการจัดการบริหารตั้งแต่ยังไม่สร้างเลย แบบนี้ทำอะไรได้บ้าง โวยไปก็แล้วเหมือนทองไม่รู้ร้อน ปัญหาทั้งหมดเกิดจากพวกผู้บริหาร จะลงทุนใหญ่โฆษณาว่าเป็นโครงการพันล้าน เอาเงินลูกค้าไปเกือบ2ล้าน แต่ไม่สามารถอำนวยความสะดวกเล็กๆน้อยๆแก่ลูกค้าได้ ซึ่งคิดว่าในอนาคตคอนโดตัวนี้มีปัญหาเรื่องการจัดการแน่ๆ เห็นหนทางไม่สู้ดี คิดว่าจะทำไงต่อดีคะ
- ให้เงิน 500บาท ให้ผู้บริหารแล้วบอกว่าจัดส่งบิลแบบems ให้หน่อย
- โทรจิกใบเสร็จตัวจริงทุกๆเดือน ทนจนกว่าคอนโดสร้างเสร็จแล้วค่อยขายทิ้ง
- ขายใบจองทิ้งเลย ขายได้รึเปล่าก็ไม่รู้ห้องเหลืออีกบานนนน
แล้วมีคำถามอยู่ว่า
- ถ้าโครงการณ์ไม่ได้สร้างจริงๆ ใบเสร็จรับเงินชั่วคราว สามารถเรียกเงินคืนในศาลได้หรือไม่คะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ เจอมาหลายอย่าง เริ่มเกิดความไม่มั่นใจ
พลาดซื้อคอนโดที่ไม่เป็นมืออาชืพทำไงต่อดีคะ แค่ผ่อนเงินดาวน์ก็มีปัญหาแล้ว
แต่แล้วการผ่อนเงินดาวน์ของเรานี่เหละเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา และการจัดการที่ดูแล้วไม่เป็นมืออาชืพเอาซะเลย ยังกับเด็กเล่นขายของ
เกริ่นกันซะยาวเข้าเรื่องกันเลย....
เราต้องโทรตามบิลตัวจริงทุกๆเดือน ไม่ตามไม่ส่ง ส่งมาให้ใบแรกคือเงินจองใช้เวลา1เดือนในการจัดส่ง!!! เราเลยโทรไปบอกตั้งแต่เดือนแรก ว่าช่วยจัดส่งมาแบบemsได้มั๊ย เพราะลงทะเบียนใช้เวลา3อาทิตย์ และเราไม่ได้อยู่บ้านคอยโทรเชคตลอดเวลา คำตอบที่ได้คือโอเครได้ค่ะๆ เดือนหน้าส่งให้.....แล้วเดือนถัดไปบิลหายไปอีกละโทรตามคราวนี้บัญชีบอกว่าส่งแล้ว ให้เหตผลว่าบริษัทย้าย ออฟฟิทที่กรุงเทพ เลยนานไปหน่อยขอให้เข้าใจ
แต่เวลาผ่านไป2เดือนกว่าใบเสร็จตัวจริงยังไม่มา และมีของงวดใหม่อีก รวมๆแล้ว2ใบ ผ่านไป 2 เดือนครึ่งเลยโทรตามอีกรอบ นี่เลยกำหนดที่ต้องจ่ายของเดือนนี้แล้วใบเสร็จก็ยังไม่มา ซึ่งเคยบอกไปแล้วว่าให้ส่งemsแต่ก็ไม่ส่ง ด้วยความงกของบริษัทส่งแบบลงทะเบียนอีก เลยต้องโทรไปตามจิกที่head office ที่กรุงเทพ. โทรไปตามเจอบัญชีคนใหม่ บอกว่านู๋เพิ่งเข้ามาทำงานนู๋ไม่ทราบ (เดือนหน้าจะเปลี่ยนอีกคนใหม่มั๊ย?)
ถามเซลล์ทำไมต้องพิมพ์ใบเสร็จรับเงินจากกรุงเทพ ตอบว่าเพราะความมั่นคงของบริษัท และจริงๆใบเสร็จรับเงินชั่วคราวของที่คอนโดไม่มีความน่าเชื่อถือเอาซะเลย เพราะพิมพ์จากคอม แล้วก็มีลายมือผู้รับเงินมาเท่านั้น.....แบบนี้เราพริ้นออกมาจากคอมมั่งแล้วบอกว่าจ่ายแล้วดีมั๊ย?
และการที่ใบเสร็จรับเงินไม่น่าเชื่อถือ เราเลยขอให้รูดบัตรเดบิท ซึ่งตอนแรกเงินมัดจำ และเงินจองสามารถรูดได้ สมัยนี้ใครจะถือเงินอยู่กับตัว
รับเงินไปแล้วจะได้มีหลักฐาน สลิปจากบัตรที่รูดไปนั่นเหละดีที่สุด เพราะเราไม่สะดวกโอนเงินผ่านแบงค์ บางเดือนอยู่ต่างประเทศ ให้คนที่บ้านมาจ่ายให้อีก จ่ายเสร็จได้ใบเสร็จรับเงินชั่วคราวกลับบ้านเลย ให้อากงอาม่าไปจ่ายเงินที่แบงค์คงจะยุ่งยาก
ความเดิมยังไม่ทันจบ....ด้วยความขึ้งกเรื่องไม่เป็นเรื่องของบรรดาผู้บริหารรวมหัวกันแล้วบอกว่า "ไม่อนุญาติให้รูดบัตรได้ เพราะอยากจะประหยัด 2% ที่แบงค์ตัดเงินไป " วันก่อนเราเลยต้องกลับไปใหม่อีกรอบเพื่อ กดเงินสด และโทรไปหาที่ head office เพื่อที่จะทวงบิลเก่า และถามเรื่องเครื่องรูดบัตร ว่าทำไมโครงการใหญ่ๆอื่นๆ สามารถให้รูดบัตรได้
วันนี้เลยเข้าไปจ่ายเงินสด อีกรอบและตามใบเสร็จรับเงินที่ค้างลูกค้ามา2เดือนกว่า สรุปผู้บริหารที่เพิ่งมาจากกรุงเทพไม่กล้าออกมาพบลูกค้านั่งอยู่ในห้องแอร์ และเซลล์ให้คำตอบว่ามีนโยบายใหม่ จะรูดบัตรก็ได้แต่ลูกค้าจะต้องเสียค่ารูด 3% เอาเข้าไป (เพิ่งเจอโครงการณ์นี้ตัวแรกเขี้ยวขนาดนี้)
นี่ยังไม่นับรวมว่าห้องที่เราแถมเฟอร์นิเจอร์ ที่จองไปแล้วได้เฟอร์นิเจอร์ไม่ตรงตามที่โชว์ เช่น เอาโต๊ะเครื่องแป้งเอาของราคาถูกมาให้ (อันนี้มาทราบที่หลัง เซลล์ที่เคยดิวด้วยก็ออกไปแล้ว)
สรุป เป็นคอนโดที่มีปัญหาเรื่องการจัดการบริหารตั้งแต่ยังไม่สร้างเลย แบบนี้ทำอะไรได้บ้าง โวยไปก็แล้วเหมือนทองไม่รู้ร้อน ปัญหาทั้งหมดเกิดจากพวกผู้บริหาร จะลงทุนใหญ่โฆษณาว่าเป็นโครงการพันล้าน เอาเงินลูกค้าไปเกือบ2ล้าน แต่ไม่สามารถอำนวยความสะดวกเล็กๆน้อยๆแก่ลูกค้าได้ ซึ่งคิดว่าในอนาคตคอนโดตัวนี้มีปัญหาเรื่องการจัดการแน่ๆ เห็นหนทางไม่สู้ดี คิดว่าจะทำไงต่อดีคะ
- ให้เงิน 500บาท ให้ผู้บริหารแล้วบอกว่าจัดส่งบิลแบบems ให้หน่อย
- โทรจิกใบเสร็จตัวจริงทุกๆเดือน ทนจนกว่าคอนโดสร้างเสร็จแล้วค่อยขายทิ้ง
- ขายใบจองทิ้งเลย ขายได้รึเปล่าก็ไม่รู้ห้องเหลืออีกบานนนน
แล้วมีคำถามอยู่ว่า
- ถ้าโครงการณ์ไม่ได้สร้างจริงๆ ใบเสร็จรับเงินชั่วคราว สามารถเรียกเงินคืนในศาลได้หรือไม่คะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ เจอมาหลายอย่าง เริ่มเกิดความไม่มั่นใจ