กองทัพเรือและอู่เรือเอกชนของไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากบริษัท DSME ในโครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูง

บริษัท DSME ได้แบ่งการดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีออกเป็น ๓ ระยะ
ระยะที่ ๑ เป็นการถ่ายทอดความรู้และการปฏิบัติพร้อมกับการสร้างเรือ (ถูกระบุไว้ในสัญญาครั้งนี้)
ระยะที่ ๒ เป็นการต่อเรือร่วมกับอู่ต่อเรือภายในประเทศ โดยสร้างเรือส่วนหนึ่งในเกาหลีและมาประกอบขั้นสุดท้ายที่อู่เรือในประเทศไทย
ระยะที่ ๓ อู่เรือในประเทศ ต่อเรือฟริเกตได้เอง โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากบริษัท

"ตามสัญญาจ้างสร้างเรือฟริเกต กำหนดให้บริษัท DSME ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้านการออกแบบการวิศวกรรมและการต่อเรือ (Engineering and Construction) รวมทั้งการวางแผนและบริหารโครงการให้แก่กำลังพลของ ทร. และอู่เรือเอกชนของไทย จำนวนรวมถึง ๑๔๗ นาย โดยเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีระยะที่ 1 ตามที่ระบุไว้ในสัญญา"


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
           คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ ทร. ดำเนินการด้านงบประมาณสำหรับโครงการจัดหาเรือฟริเกต เมื่อ ๓๐ ก.ค.๕๖
และหลังจากนั้น เมื่อ ๗ ส.ค.๕๖ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. ได้ลงนามในสัญญาจ้างสร้างเรือฟริเกต จาก
บริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering Co., Ltd. (DSME) สาธารณรัฐเกาหลี โดย MR. Ko Jaeho
ประธานบริษัท DSME ในวงเงินประมาณ ๑๔,๖๐๐ ล้านบาท ระยะเวลาส่งมอบเรือ ๑,๘๐๐ วัน โดยมี
พณฯ Mr.Jeon Jae Man เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย และ Maj.Sung Woo Young
ผชท.ทหาร สาธารณรัฐเกาหลี/กรุงเทพ ร่วมเป็นสักขีพยาน

          ประมาณต้นปี ๒๕๖๑ ทร. จะได้รับมอบเรือฟริเกตสมรรถนะสูงไว้ประจำการ เพื่อนำไปใช้ในการป้องกัน
รักษาอธิปไตยของชาติ และการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยสามารถปฏิบัติการรบร่วมในลักษณะกองเรือ
(Battle Group) ร่วมกับเรือรบหลักของ ทร. ชุดอื่นที่ได้รับการปรับปรุงแล้วเสร็จ ได้แก่เรือฟริเกต ชุด ร.ล. นเรศวร
และ ร.ล.จักรีนฤเบศร ได้ รวมทั้งสามารถปฏิบัติการรบร่วมกับอากาศยานของกองทัพอากาศได้อย่างสมบูรณ์ จึงเป็น
การพัฒนากำลังรบทางเรือก้าวสำคัญของ ทร. ซึ่งทำให้มีสมรรถนะที่ได้เปรียบในกรณีที่เกิดความขัดแย้งจนถึงขั้นการ
ใช้กำลังทางเรือ และได้เปรียบในการป้องปรามเพื่อระงับความขัดแย้ง ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมทั้ง
ได้เปรียบในการเจรจาตกลง เพื่อแบ่งสรรหรือครอบครองผลประโยชน์ในคราวจำเป็น ซึ่งจะเป็นหลักประกันในการ
สร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจทางทะเลได้

          การสร้างเรือฟริเกตมีรายละเอียดทางเทคนิคมากและมีความยุ่งยากซับซ้อน ตั้งแต่การออกแบบ การสร้าง การติดตั้งและ
เชื่อมต่อ ตลอดจนการทดสอบทดลอง ใช้ระยะเวลานานในการสร้างเรือ ดังนั้น เพื่อให้ ทร. ได้รับมอบเรือที่มีคุณลักษณะและขีด
ความสามารถตามที่ระบุไว้ในสัญญาและทันตามกำหนดเวลาส่งมอบ รวมทั้งลดความเสี่ยงในการดำเนินโครงการฯ ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น จึงได้เตรียมจัดส่งคณะกรรมการตรวจการจ้าง ผู้ควบคุมงาน และเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน รวมทั้งสิ้น ๑๘ นาย ไปปฏิบัติราชการ ตลอด
ระยะเวลาการสร้างเรือ ณ อู่เรือบริษัท DSME สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ ควบคุม กำกับดูแล และติดตามงานสร้างเรือฯ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งตรวจรับงานงวดต่างๆ ก่อนการชำระเงินงวดนั้นๆ เมื่อดำเนินงานเสร็จสิ้น เรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว

          ตามสัญญาจ้างสร้างเรือฟริเกต กำหนดให้บริษัท DSME ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้านการออกแบบการวิศวกรรมและการต่อเรือ (Engineering and Construction) รวมทั้งการวางแผนและบริหารโครงการให้แก่กำลังพลของ ทร. และอู่เรือเอกชนของไทย จำนวนรวมถึง ๑๔๗ นาย โดยเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยี ระยะที่ ๑ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้และการปฏิบัติพร้อมกับการสร้างเรือ โดยบริษัท DSME ได้แบ่งการดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีออกเป็น ๓ ระยะ ได้แก่ ระยะที่ ๑ ตามที่ระบุไว้ในสัญญา ส่วนระยะที่ ๒ เป็นการต่อเรือร่วมกับอู่ต่อเรือภายในประเทศ โดยสร้างเรือส่วนหนึ่งในเกาหลีและมาประกอบขั้นสุดท้ายที่อู่เรือในประเทศไทย และระยะที่ ๓ อู่เรือในประเทศ ต่อเรือฟริเกตได้เอง โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากบริษัท ในการเตรียมการดังกล่าว ทร. จะได้จัดเตรียมกำลังพลของ ทร. และเชิญชวนอู่เรือไทยที่มีความสนใจจัดส่งบุคลากรเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยี พร้อมกับกำลังพลของ ทร. โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของหลักสูตรการรับถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งผลที่ได้รับจะทำให้เพิ่มขีดความสามารถให้อู่เรือไทยและบุคคลากรทั้ง ทร. และภาคเอกชนให้มีความรู้ความชำนาญ รองรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี การพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการบำรุงรักษาได้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือรบในประเทศได้

           นอกเหนือจากการเตรียมกำลังพลดังกล่าวข้างต้น ทร. จะจัดเตรียมกำลังพลประจำเรือ และกำลังพลจาก
หน่วยซ่อมบำรุงเข้ารับการฝึกอบรมในแต่ละห้วงเวลา ให้มีความพร้อมที่จะนำเรือกลับภายหลังการส่งมอบ และซ่อม
บำรุงรักษาให้เรือสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดอายุการใช้งานของเรือ

ที่มา http://www.navy.mi.th/sctr/frigate_news_3.pdf
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่