..........ภคพร และเพียงพรช่วยกันดูแลน้องนวพลหรือน้องเจเจ ลูกชายของนวพรรษที่เพิ่งลืมตาออกมาดูโลกได้แค่เพียงสองเดือน
ทุกวันทั้งภคพรและเพียงพรต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเพื่อดูแลทั้งหลาน ชายและลูกสาวที่ยังเจ็บกะเสาะกะแสะจนหายดี
แม้ว่านวพรรษยังมีอาการเจ็บป่วยเหนื่อยล้าให้เห็น แต่ถ้าก็ดูดีขึ้นมากถ้าเทียบจากตอนแรกที่เธอเพิ่งเข้าโรงพยาบาล
“เมื่อไหร่คุณพ่อจะกลับจากต่างประเทศคะ”
นวรรษถามแม่ของเธอด้วยความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นในใจ ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่เธอนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
พ่อไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลย แม้แต่ครั้งเดียว
“คุณพ่อท่านทำธุระที่สำคัญมากจริงๆอยู่ทางโน้น อีกไม่นานท่านต้องกลับมาหาเธอ”
ภคพรกลั้นใจพูด ไม่กล้าสบตาน้องสาว
“เมย์อยากกลับบ้านค่ะ เมย์หายดีแล้ว เรากลับบ้านกันนะคะ”
นวพรรษเอื้อมมือมากุมมือพี่สาวตาละห้อย
“รอให้เมย์กับหลานแข็งแรงมากกว่านี้ก่อนนะ พี่สัญญาว่าจะรีบพาเมย์กลับบ้านทันทีเลย”
ภคพรยิ้มเศร้าๆ
“พี่กับคุณแม่จะออกไปทำธุระข้างนอก พี่จะฝากให้คุณพยาบาลดูแลเมย์กับเจเจไปก่อนนะ พี่จะรีบกลับมา”
ภคพรพยายามกลั้นน้ำตา เดินเข้ามาลูบหัวน้องสาวของเธอด้วยความสงสารจนจับหัวใจ ไม่มีทางเลยที่นวพรรษจะยอมรับเรื่องการตาย
ของพ่อเธอได้ในช่วงเวลาที่มันแย่ๆ แบบนี้
“แอ๊ด!!”
ประตูถูกเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคนที่ทำให้นวพรรษแทบหยุดหายใจ
“คุณ...”
หญิงสาวเบิกตากว้าง ความเกลียดชังเข้ามาเกาะกินทุกพื้นที่ในหัวใจ
“ออกไป! ออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้! ออกไป ออกไป ออกไป !!”
นวพรรษหวีดร้องสุดเสียง การต้องมาพบหน้ากันมันทำให้เธอทรมาน
“คุณเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า”
กันย์พูดเสียงแผ่วเบา นวพรรษดูผอมและโทรมลงจากเดิมมาก
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ออกไปนะ ออกไป เพราะคุณทำให้พ่อฉันต้องไปต่างประเทศแบบนั้น ฉันเกลียดคุณ เกลียดคุณ ฮือๆๆๆๆๆๆ”
นวพรรษกรีดร้อง ร้องไห้ฟูมฟายอย่างขาดสติ กันย์ยืนนิ่งเฉย พูดอะไรไม่ออก
“ผม...ผม...”
กันย์ไม่กล้าที่จะพูดในสิ่งที่เขารู้สึกออกไป เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้แต่พูดกรอกหูตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะไม่รักใครอีกแล้ว
“ทุกสิ่งที่คุณทำมันเลวร้ายเกินกว่าที่ฉันจะกลับไปรักคุณได้อีกแล้ว เราสองคนไม่ควรรู้จักกันตั้งแต่ต้น...ออกไปจากชีวิตของฉัน
ออกไป ออกไป!!”
นวพรรษกรีดร้อง กันย์ยืนนิ่งเงียบ น้ำตาซึม
“ได้เวลาทานนมของน้องแล้วค่ะ”
นางพยาบาลเดินยิ้มหวานเข้ามาในห้อง พร้อมกับน้องเจเจ แต่เพราะท่าทางบึ้งตึงของกันย์กับนวพรรษทำให้เธอนิ่งไป
“ส่งลูกมาให้เมย์ค่ะ”
นวพรรษยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา เอื้อมมือไปรับลูกชาย กันย์มองตามด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก เด็กคนนี้หน้าตาเหมือน
เขาตอนเด็กๆไม่มีผิดเพี้ยน
“ถ้าไม่อยากเห็นฉันตายไปต่อหน้าต่อตากลับไปซะ แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
นวพรรษมองจ้องหน้ากันย์อย่างแสนเกลียดชังเพราะครั้งนึงเขาเคยทำให้เธอและลูกเกือบต้องตาย
“คุณต้องออกไปข้างนอกกับผม”
กันย์ออกคำสั่งอย่างหมดหนทาง ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกรักที่แน่นอยู่ในอกของเขาในตอนนี้ยังไงดี
“ฉันกับลูกเกือบจะต้องตายก็เพราะคุณ คุณยังกล้าพูดแบบนี้กับเราอีกหรอ ฉันไม่มีอะไรจะให้คุณอีกแล้ว คุณยังจะต้องการอะไรจากฉันอีก”
นวพรรษเสียงดังใส่กันย์อย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
“คุณพยาบาลช่วยอุ้มเด็กคนนี้เอาไว้ทีครับ”
กันย์หันไปหานางพยาบาลด้วยความเย็นชา
“อย่ามาออกคำสั่งที่นี่”
นวพรรษกอดลูกชายเอาไว้แนบอก
“ถ้าไม่อยากให้ลูกของคุณเป็นอันตราย ส่งเข้าให้นางพยาบาลไปซะ”
กันย์มองจ้องนวพรรษด้วยความเลือดเย็น หญิงสาวรีบส่งลูกชายให้นางพยาบาลก่อนจะหันมาเล่นงานกันย์แทน
“ออกไปจากชีวิตของฉันซักที ออกไปซักที ไปให้พ้น ไป ไป ไป!!”
นวพรรษโดดลงจากเตียง ทุบตีหน้าอกกันย์เต็มแรงอยู่อย่างนั้นด้วยความโมโห
“ผม...ผม...”
กันย์พูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง เขาทำได้แค่ฉุดร่างบางของนวพรรษเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่นรักแสนรัก
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย ปล่อย”
นวพรรษดิ้นรนอยู่ในอ้อมอกของกันย์
“.....”
ชายหนุ่มยืนนิ่งน้ำตาเอ่อไหล เจ็บปวดเหลือเกินกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยทำกับเธอ วันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องพานวพรรษ
ไปกับเขาด้วยให้ได้
“ไปกับผม!!”
กันย์ลั่นวาจาสุดท้าย ก่อนจะฉุดกระชากรากถูนวพรรษออกจากห้องไปกับเขาด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย
ภคพรเบิกตากว้างด้วยความแค้นเคืองเมื่อได้รับข่าวร้ายจากนางพยาบาลว่ากันย์มาพานวพรรษออกไปแล้ว
“แม่ดูหลานนะคะ หนูจะออกไปตามน้องกลับมาเอง”
ภคพรรีบร้อนออกจากโรงพยาบาลด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
ประพนธ์นอนหลับสนิทอยู่บนตักนุ่มๆของเกตุแก้วบนเปลชิงช้าที่สวนหน้าบ้าน แต่เพราะเกตุแก้วตีแขนทำให้เขาต้องลืมตาตื่นขึ้นมา
“เนย์”
ประพนธ์เบิกตากว้างรีบลุกขึ้นนั่ง
“พี่ชายคุณอยู่ที่ไหน”
ภคพรเสียงดังใส่เกตุแก้ว
“เกิดอะไรขึ้นหรอคุณ”
ประพนธ์เอ่ยปากถาม
“ฉันถามว่าพี่ชายคุณอยู่ที่ไหน”
ภคพรตะวาดใส่เกตุแก้วอีกครั้ง
“พี่กันย์บอกแค่ว่าจะไม่อยู่บ้านซักระยะ แต่ไม่ได้บอกว่าเขาจะไปไหน มีอะไรหรอคะ”
เกตุแก้วเริ่มไม่สบายใจ ภคพรไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินหนีทันทีเมื่อรู้ว่ากันย์ไม่ได้อยู่ที่นี่
“ผมจะไปถามเขาเอง”
ประพนธ์ตบบ่าภรรยาเบาๆ เดินตามภคพรไปติดๆ
“เกิดอะไรขึ้นคุณ”
ประพนธ์ตามมาขาวงหน้า ภคพรมองจ้องตาขวางและรีบเดินหนี
“ผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น”
ประพนธ์คว้ามืออดีตภรรยา ร้อนใจ
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”
ภคพรสะบัดแขน
“พี่กันย์ทำอะไร”
ประพนธ์ยังคงพยายามต่อไป
“อย่ามายุ่ง”
ภคพรผลักอกประพนธ์ที่เอาแต่ขวางหน้าเธอ
“นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นแง่ เล่นง่ามนะคุณ พี่กันย์ทำอะไร”
ประพนธ์ขึงขึง
“จะทำอะไรได้อีกล่ะ นอกจากทำลายชีวิตคนอื่นอย่างเลือดเย็นเหมือนไอ้โจรใจอำมหิตคนนึง ถ้ายายเมย์เป็นอะไรไปแม้แต่ปลายเล็บ
ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนฆ่าผู้ชายคนนั้นด้วยมือของฉันเอง”
ภคพรกัดฟันพูด แววตาของเธอตอนนี้กลับมาเต็มไปด้วยไฟแห่งความแค้นเคืองอีกครั้ง
“พี่กันย์เอาตัวน้องสาวคุณไปหรอ”
ประพนธ์คาดเดา
“ฉันจะแจ้งตำรวจ”
ภคพรเสียงดัง
“พี่กันย์รักน้องสาวคุณ เธอจะปลอดภัย”
ประพนธ์พูดในสิ่งที่เขาคิด
“รักหรอ? ทุเรศสิ้นดี อย่ามายุ่งกับฉัน เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้”
ภคพรเดินหนีแต่ประพนธ์ก็ตามไปหยิบกุญแจรถในมือเธอ
“ผมจะพาคุณไปหาเขาเอง”
ประพนธ์เสนอตัวและบังคับขู่เข็ญภคพรให้ไปกับเขาอย่างไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
นวพรรษเดินหน้านิ่งลงจากรถด้วยหน้าตาบึ้งตึงไร้ซึ่งรอยยิ้ม การกระทำของกันย์มันทำให้เธอรู้สึกทรมาน
“ลูกรอฉันอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันต้องกลับไปให้นมลูก พาฉันกลับไปส่งที่โรงพยาบาลเดี่ยวนี้”
นวพรรษขึ้นเสียง
“ผมมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องบอกคุณ...เรื่องพ่อของคุณ”
กันย์พูดเสียงแผ่วเบา มองสบตากับนวพรรษอย่างมีความหมาย
“พ่อฉันเป็นอะไร”
นวพรรษเริ่มน้ำตาคลอ อ่อนไหวกับคำพูดของกันย์
“ผมจะบอกคุณเย็นวันพรุ่งนี้ หลังจากที่เราอยู่ด้วยกันที่นี่”
กันย์เดินนำนวพรรษเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางสบายๆ
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม เราไม่ควรมีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณแม้แต่วินาทีเดียว พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
นวพรรษตามไปขางหน้ากันย์เสียงดังใส่เขาทั้งน้ำตา
“ผมไม่ให้คุณไป”
กันย์ฉุดร่างของนวพรรษเข้ามากอดอย่าหวงแหน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำแบบนี้ทำไม
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ปล่อยฉันนะ ปล่อยๆ”
นวพรรษดิ้นรนขัดขืน
“ปล่อย..”
นวพรรษผลักกันย์เต็มแรง ก่อนจะต้องยืนนิ่งอึ้งไปเพราะหยดน้ำตาของกันย์ที่ไหลอาบบนใบหน้า
“คุณเป็นคนเริ่มเรื่องทั้งหมดด้วยตัวของคุณเอง คุณเป็นคนทำให้พวกเราทุกคนต้องมาพบกับความทุกข์ทรมานแบบนี้เอง คุณมันคนเลว
คนชั่ว คนไม่มีหัวใจ...”
นวพรรษยืนกัดฟันพูดกับกันย์ ก่อนที่หยดน้ำตาของเธอจะไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสายเช่นกัน
“อยู่กับผมแค่วันนี้วันเดียว หลังจากนี้ผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย”
กันย์พูดขึ้นอย่างเลือดเย็น ค่อยๆเอื้อมมือมาจับมือนวพรรษและพาเธอเดินเข้าบ้านด้วยบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความเศร้า
และความทุกข์ทรมาน
ทางด้านประพนธ์ก็ขับรถพาภคพรวนไปรอบเกาะเมืองอย่างไม่มีทางเลือก เพราะคำขอร้องของกันย์ที่บอกกับเขาว่าอยากจะอยู่
กับนวพรรษเป็นครั้งสุดท้ายและชดใช้ในทุกความผิดที่เขาเคยทำไว้กับเธอ
“คุณ คุณพาฉันวนมาที่นี่หลายรอบแล้วนะ ฉันต้องรีบไปเอาตัวน้องสาวฉันกลับโรงพยาบาล ฉันไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาขับรถเล่น
กับคุณหรอกนะ”
ภคพรโวยวาย ตาเขียวใส่ประพนธ์อย่างอารมณ์เสีย
“คุณ ผมหลอนไปหมดแล้วก็เพราะคุณเอาแต่จ้องผมยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ เลิกกังวลเรื่องน้องสาวคุณได้แล้ว เธอปลอดภัยดี
พรุ่งนี้เช้าพี่กันย์ก็จะพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลแน่นอน เหลือก็แต่ตัวคุณนั่นแหละ นั่งรถทรมานตัวเองทั้งวี่ทั้งวัน ข้าวปลาไม่ยอมกิน
ถ้าลูกของเราพูดได้ เขาคงตะโกนออกมาเสียงดังแล้วแหละว่าเขาหิวข้าว”
ประพนธ์ต่อปากต่อคำ ภคพรยิ่งจ้องเขาหนักกว่าเดิม
“ลูกของฉันคนเดียว ไม่ใช่ลูกของเรา อย่ามาพูดพล่อยๆ”
ภคพรตะวาดแว้ดขึ้นมาเสียงดังจนประพนธ์ต้องเอามือปิดหู
“โอเคๆๆ สติคุณ สติ คุมสติตัวเองเอาไว้ให้ดี อย่าเพิ่งเป็นบ้าไปซะก่อนนะคุณ ลูกของคุณก็ลูกของคุณผมไม่เถียง
แต่เขาก็เป็นลูกของผมด้วยเหมือนกันใช่ป่ะล่ะ”
ประพนธ์ยังคงเถียงต่ออย่างกวนโมโห
“.....”
ภคพรมองจ้องเขาตาไม่กระพริบ
“ก็มันจริงอ่ะคุณ ถ้าไม่มีผม คุณทำลูกขึ้นมาเองคนเดียวได้ป่ะล่ะ”
ประพนธ์ยังคงกวนประสาท ก่อนจะต้องหันไปสนใจกับการขับรถต่อเมื่อเห็นท่าทางเอาจริงของภคพร
“อ้วกๆๆ”
ภคพรเกิดคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อประพนธ์เริ่มขับรถเข้าสู่หนทางที่มันคดเคี้ยวไปมา
“อย่าเพิ่งคุณ อย่าเพิ่ง รอก่อนๆ”
ประพนธ์เสียงดัง รีบเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเข้าข้างทาง ทันทีที่รถจอดสนิทภคพรก็ทะลึ่งพรวดออกมานอกรถและนั่งอยู่บนพื้นถนนริมหาดทราย
ตรงนั้น ลมทะเลที่พัดมาโดนตัวทำให้เธอรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งร่างกาย
“นี่คุณไม่ได้กินอะไร แล้วคุณอ้วกได้ไงอ่ะ”
ประพนธ์เดินเข้ามาใกล้ๆลูบหลังให้ภคพรที่นั่งอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายจนหน้าแดงไปหมด
“ออกไปไกลๆ...อย่าเข้ามานะ....”
ภคพรกระหืดหระหอบ หันมาผลักไสประพนธ์อย่างนึกอาย
“ไม่ใช่เรื่องเลยคุณ เราสองคนไม่มีอะไรที่ต้องอายกัน”
ประพนธ์ดื้อดึงยืนอยู่ข้างๆและลูบหลังให้เธออย่างเป็นห่วงเป็นใย
“คุณ ฉันไม่ไหวแล้ว หัวฉันมันหมุนไปหมดแล้ว”
ภคพรหอบเบาๆอย่างรู้สึกเหนื่อย
“ลุกขึ้นคุณ”
ประพนธ์ประคองอดีตภรรยา ก่อนจะบ่นเธอด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ไม่สบายใจ
“ผมบอกแล้วว่าให้แวะกินข้าว คุณก็ไม่ยอมเชื่อผม ป่านนี้ลูกหิวตายไปแล้วมั้ง”
ประพนธ์เสียงดัง
“ตาคุณบอดหรือไง มองไม่เห็นหรอว่าฉันแพ้ท้อง มันทรมานนะคุณที่ต้องคอยมานั่งอ้วกของที่เรากินเข้าไป”
ภคพรเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“ปัญญาอ่อนคุณ ยังจะกล้าเถียงอีกหรอ ไปหาข้าวกินเลย อ้วกก็ปล่อยให้มันอ้วกออกมาเลย ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง”
ประพนธ์พูดในสิ่งที่ทำให้ภคพรหยุดชะงักและไม่ก้าวเท้าเดินต่อ
“เดินสิคุณ หยุดทำไม”
ประพนธ์ก้มหน้าลงไปมองหญิงสาวที่เขาประคองอยู่ในอ้อมแขน ที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่อซึมออกมาเพราะคำพูดที่กระทบจิตใจเธอ
ต่อด้านล่างนะคะ 
ไร้หัวใจ ตอนที่ 35
ทุกวันทั้งภคพรและเพียงพรต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเพื่อดูแลทั้งหลาน ชายและลูกสาวที่ยังเจ็บกะเสาะกะแสะจนหายดี
แม้ว่านวพรรษยังมีอาการเจ็บป่วยเหนื่อยล้าให้เห็น แต่ถ้าก็ดูดีขึ้นมากถ้าเทียบจากตอนแรกที่เธอเพิ่งเข้าโรงพยาบาล
“เมื่อไหร่คุณพ่อจะกลับจากต่างประเทศคะ”
นวรรษถามแม่ของเธอด้วยความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นในใจ ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่เธอนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
พ่อไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลย แม้แต่ครั้งเดียว
“คุณพ่อท่านทำธุระที่สำคัญมากจริงๆอยู่ทางโน้น อีกไม่นานท่านต้องกลับมาหาเธอ”
ภคพรกลั้นใจพูด ไม่กล้าสบตาน้องสาว
“เมย์อยากกลับบ้านค่ะ เมย์หายดีแล้ว เรากลับบ้านกันนะคะ”
นวพรรษเอื้อมมือมากุมมือพี่สาวตาละห้อย
“รอให้เมย์กับหลานแข็งแรงมากกว่านี้ก่อนนะ พี่สัญญาว่าจะรีบพาเมย์กลับบ้านทันทีเลย”
ภคพรยิ้มเศร้าๆ
“พี่กับคุณแม่จะออกไปทำธุระข้างนอก พี่จะฝากให้คุณพยาบาลดูแลเมย์กับเจเจไปก่อนนะ พี่จะรีบกลับมา”
ภคพรพยายามกลั้นน้ำตา เดินเข้ามาลูบหัวน้องสาวของเธอด้วยความสงสารจนจับหัวใจ ไม่มีทางเลยที่นวพรรษจะยอมรับเรื่องการตาย
ของพ่อเธอได้ในช่วงเวลาที่มันแย่ๆ แบบนี้
“แอ๊ด!!”
ประตูถูกเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคนที่ทำให้นวพรรษแทบหยุดหายใจ
“คุณ...”
หญิงสาวเบิกตากว้าง ความเกลียดชังเข้ามาเกาะกินทุกพื้นที่ในหัวใจ
“ออกไป! ออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้! ออกไป ออกไป ออกไป !!”
นวพรรษหวีดร้องสุดเสียง การต้องมาพบหน้ากันมันทำให้เธอทรมาน
“คุณเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า”
กันย์พูดเสียงแผ่วเบา นวพรรษดูผอมและโทรมลงจากเดิมมาก
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ออกไปนะ ออกไป เพราะคุณทำให้พ่อฉันต้องไปต่างประเทศแบบนั้น ฉันเกลียดคุณ เกลียดคุณ ฮือๆๆๆๆๆๆ”
นวพรรษกรีดร้อง ร้องไห้ฟูมฟายอย่างขาดสติ กันย์ยืนนิ่งเฉย พูดอะไรไม่ออก
“ผม...ผม...”
กันย์ไม่กล้าที่จะพูดในสิ่งที่เขารู้สึกออกไป เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้แต่พูดกรอกหูตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะไม่รักใครอีกแล้ว
“ทุกสิ่งที่คุณทำมันเลวร้ายเกินกว่าที่ฉันจะกลับไปรักคุณได้อีกแล้ว เราสองคนไม่ควรรู้จักกันตั้งแต่ต้น...ออกไปจากชีวิตของฉัน
ออกไป ออกไป!!”
นวพรรษกรีดร้อง กันย์ยืนนิ่งเงียบ น้ำตาซึม
“ได้เวลาทานนมของน้องแล้วค่ะ”
นางพยาบาลเดินยิ้มหวานเข้ามาในห้อง พร้อมกับน้องเจเจ แต่เพราะท่าทางบึ้งตึงของกันย์กับนวพรรษทำให้เธอนิ่งไป
“ส่งลูกมาให้เมย์ค่ะ”
นวพรรษยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา เอื้อมมือไปรับลูกชาย กันย์มองตามด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก เด็กคนนี้หน้าตาเหมือน
เขาตอนเด็กๆไม่มีผิดเพี้ยน
“ถ้าไม่อยากเห็นฉันตายไปต่อหน้าต่อตากลับไปซะ แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
นวพรรษมองจ้องหน้ากันย์อย่างแสนเกลียดชังเพราะครั้งนึงเขาเคยทำให้เธอและลูกเกือบต้องตาย
“คุณต้องออกไปข้างนอกกับผม”
กันย์ออกคำสั่งอย่างหมดหนทาง ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกรักที่แน่นอยู่ในอกของเขาในตอนนี้ยังไงดี
“ฉันกับลูกเกือบจะต้องตายก็เพราะคุณ คุณยังกล้าพูดแบบนี้กับเราอีกหรอ ฉันไม่มีอะไรจะให้คุณอีกแล้ว คุณยังจะต้องการอะไรจากฉันอีก”
นวพรรษเสียงดังใส่กันย์อย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
“คุณพยาบาลช่วยอุ้มเด็กคนนี้เอาไว้ทีครับ”
กันย์หันไปหานางพยาบาลด้วยความเย็นชา
“อย่ามาออกคำสั่งที่นี่”
นวพรรษกอดลูกชายเอาไว้แนบอก
“ถ้าไม่อยากให้ลูกของคุณเป็นอันตราย ส่งเข้าให้นางพยาบาลไปซะ”
กันย์มองจ้องนวพรรษด้วยความเลือดเย็น หญิงสาวรีบส่งลูกชายให้นางพยาบาลก่อนจะหันมาเล่นงานกันย์แทน
“ออกไปจากชีวิตของฉันซักที ออกไปซักที ไปให้พ้น ไป ไป ไป!!”
นวพรรษโดดลงจากเตียง ทุบตีหน้าอกกันย์เต็มแรงอยู่อย่างนั้นด้วยความโมโห
“ผม...ผม...”
กันย์พูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง เขาทำได้แค่ฉุดร่างบางของนวพรรษเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่นรักแสนรัก
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย ปล่อย”
นวพรรษดิ้นรนอยู่ในอ้อมอกของกันย์
“.....”
ชายหนุ่มยืนนิ่งน้ำตาเอ่อไหล เจ็บปวดเหลือเกินกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยทำกับเธอ วันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องพานวพรรษ
ไปกับเขาด้วยให้ได้
“ไปกับผม!!”
กันย์ลั่นวาจาสุดท้าย ก่อนจะฉุดกระชากรากถูนวพรรษออกจากห้องไปกับเขาด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย
ภคพรเบิกตากว้างด้วยความแค้นเคืองเมื่อได้รับข่าวร้ายจากนางพยาบาลว่ากันย์มาพานวพรรษออกไปแล้ว
“แม่ดูหลานนะคะ หนูจะออกไปตามน้องกลับมาเอง”
ภคพรรีบร้อนออกจากโรงพยาบาลด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
ประพนธ์นอนหลับสนิทอยู่บนตักนุ่มๆของเกตุแก้วบนเปลชิงช้าที่สวนหน้าบ้าน แต่เพราะเกตุแก้วตีแขนทำให้เขาต้องลืมตาตื่นขึ้นมา
“เนย์”
ประพนธ์เบิกตากว้างรีบลุกขึ้นนั่ง
“พี่ชายคุณอยู่ที่ไหน”
ภคพรเสียงดังใส่เกตุแก้ว
“เกิดอะไรขึ้นหรอคุณ”
ประพนธ์เอ่ยปากถาม
“ฉันถามว่าพี่ชายคุณอยู่ที่ไหน”
ภคพรตะวาดใส่เกตุแก้วอีกครั้ง
“พี่กันย์บอกแค่ว่าจะไม่อยู่บ้านซักระยะ แต่ไม่ได้บอกว่าเขาจะไปไหน มีอะไรหรอคะ”
เกตุแก้วเริ่มไม่สบายใจ ภคพรไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินหนีทันทีเมื่อรู้ว่ากันย์ไม่ได้อยู่ที่นี่
“ผมจะไปถามเขาเอง”
ประพนธ์ตบบ่าภรรยาเบาๆ เดินตามภคพรไปติดๆ
“เกิดอะไรขึ้นคุณ”
ประพนธ์ตามมาขาวงหน้า ภคพรมองจ้องตาขวางและรีบเดินหนี
“ผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น”
ประพนธ์คว้ามืออดีตภรรยา ร้อนใจ
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”
ภคพรสะบัดแขน
“พี่กันย์ทำอะไร”
ประพนธ์ยังคงพยายามต่อไป
“อย่ามายุ่ง”
ภคพรผลักอกประพนธ์ที่เอาแต่ขวางหน้าเธอ
“นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นแง่ เล่นง่ามนะคุณ พี่กันย์ทำอะไร”
ประพนธ์ขึงขึง
“จะทำอะไรได้อีกล่ะ นอกจากทำลายชีวิตคนอื่นอย่างเลือดเย็นเหมือนไอ้โจรใจอำมหิตคนนึง ถ้ายายเมย์เป็นอะไรไปแม้แต่ปลายเล็บ
ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนฆ่าผู้ชายคนนั้นด้วยมือของฉันเอง”
ภคพรกัดฟันพูด แววตาของเธอตอนนี้กลับมาเต็มไปด้วยไฟแห่งความแค้นเคืองอีกครั้ง
“พี่กันย์เอาตัวน้องสาวคุณไปหรอ”
ประพนธ์คาดเดา
“ฉันจะแจ้งตำรวจ”
ภคพรเสียงดัง
“พี่กันย์รักน้องสาวคุณ เธอจะปลอดภัย”
ประพนธ์พูดในสิ่งที่เขาคิด
“รักหรอ? ทุเรศสิ้นดี อย่ามายุ่งกับฉัน เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้”
ภคพรเดินหนีแต่ประพนธ์ก็ตามไปหยิบกุญแจรถในมือเธอ
“ผมจะพาคุณไปหาเขาเอง”
ประพนธ์เสนอตัวและบังคับขู่เข็ญภคพรให้ไปกับเขาอย่างไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
นวพรรษเดินหน้านิ่งลงจากรถด้วยหน้าตาบึ้งตึงไร้ซึ่งรอยยิ้ม การกระทำของกันย์มันทำให้เธอรู้สึกทรมาน
“ลูกรอฉันอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันต้องกลับไปให้นมลูก พาฉันกลับไปส่งที่โรงพยาบาลเดี่ยวนี้”
นวพรรษขึ้นเสียง
“ผมมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องบอกคุณ...เรื่องพ่อของคุณ”
กันย์พูดเสียงแผ่วเบา มองสบตากับนวพรรษอย่างมีความหมาย
“พ่อฉันเป็นอะไร”
นวพรรษเริ่มน้ำตาคลอ อ่อนไหวกับคำพูดของกันย์
“ผมจะบอกคุณเย็นวันพรุ่งนี้ หลังจากที่เราอยู่ด้วยกันที่นี่”
กันย์เดินนำนวพรรษเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางสบายๆ
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม เราไม่ควรมีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณแม้แต่วินาทีเดียว พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
นวพรรษตามไปขางหน้ากันย์เสียงดังใส่เขาทั้งน้ำตา
“ผมไม่ให้คุณไป”
กันย์ฉุดร่างของนวพรรษเข้ามากอดอย่าหวงแหน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำแบบนี้ทำไม
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ปล่อยฉันนะ ปล่อยๆ”
นวพรรษดิ้นรนขัดขืน
“ปล่อย..”
นวพรรษผลักกันย์เต็มแรง ก่อนจะต้องยืนนิ่งอึ้งไปเพราะหยดน้ำตาของกันย์ที่ไหลอาบบนใบหน้า
“คุณเป็นคนเริ่มเรื่องทั้งหมดด้วยตัวของคุณเอง คุณเป็นคนทำให้พวกเราทุกคนต้องมาพบกับความทุกข์ทรมานแบบนี้เอง คุณมันคนเลว
คนชั่ว คนไม่มีหัวใจ...”
นวพรรษยืนกัดฟันพูดกับกันย์ ก่อนที่หยดน้ำตาของเธอจะไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสายเช่นกัน
“อยู่กับผมแค่วันนี้วันเดียว หลังจากนี้ผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย”
กันย์พูดขึ้นอย่างเลือดเย็น ค่อยๆเอื้อมมือมาจับมือนวพรรษและพาเธอเดินเข้าบ้านด้วยบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความเศร้า
และความทุกข์ทรมาน
ทางด้านประพนธ์ก็ขับรถพาภคพรวนไปรอบเกาะเมืองอย่างไม่มีทางเลือก เพราะคำขอร้องของกันย์ที่บอกกับเขาว่าอยากจะอยู่
กับนวพรรษเป็นครั้งสุดท้ายและชดใช้ในทุกความผิดที่เขาเคยทำไว้กับเธอ
“คุณ คุณพาฉันวนมาที่นี่หลายรอบแล้วนะ ฉันต้องรีบไปเอาตัวน้องสาวฉันกลับโรงพยาบาล ฉันไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาขับรถเล่น
กับคุณหรอกนะ”
ภคพรโวยวาย ตาเขียวใส่ประพนธ์อย่างอารมณ์เสีย
“คุณ ผมหลอนไปหมดแล้วก็เพราะคุณเอาแต่จ้องผมยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ เลิกกังวลเรื่องน้องสาวคุณได้แล้ว เธอปลอดภัยดี
พรุ่งนี้เช้าพี่กันย์ก็จะพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลแน่นอน เหลือก็แต่ตัวคุณนั่นแหละ นั่งรถทรมานตัวเองทั้งวี่ทั้งวัน ข้าวปลาไม่ยอมกิน
ถ้าลูกของเราพูดได้ เขาคงตะโกนออกมาเสียงดังแล้วแหละว่าเขาหิวข้าว”
ประพนธ์ต่อปากต่อคำ ภคพรยิ่งจ้องเขาหนักกว่าเดิม
“ลูกของฉันคนเดียว ไม่ใช่ลูกของเรา อย่ามาพูดพล่อยๆ”
ภคพรตะวาดแว้ดขึ้นมาเสียงดังจนประพนธ์ต้องเอามือปิดหู
“โอเคๆๆ สติคุณ สติ คุมสติตัวเองเอาไว้ให้ดี อย่าเพิ่งเป็นบ้าไปซะก่อนนะคุณ ลูกของคุณก็ลูกของคุณผมไม่เถียง
แต่เขาก็เป็นลูกของผมด้วยเหมือนกันใช่ป่ะล่ะ”
ประพนธ์ยังคงเถียงต่ออย่างกวนโมโห
“.....”
ภคพรมองจ้องเขาตาไม่กระพริบ
“ก็มันจริงอ่ะคุณ ถ้าไม่มีผม คุณทำลูกขึ้นมาเองคนเดียวได้ป่ะล่ะ”
ประพนธ์ยังคงกวนประสาท ก่อนจะต้องหันไปสนใจกับการขับรถต่อเมื่อเห็นท่าทางเอาจริงของภคพร
“อ้วกๆๆ”
ภคพรเกิดคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อประพนธ์เริ่มขับรถเข้าสู่หนทางที่มันคดเคี้ยวไปมา
“อย่าเพิ่งคุณ อย่าเพิ่ง รอก่อนๆ”
ประพนธ์เสียงดัง รีบเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเข้าข้างทาง ทันทีที่รถจอดสนิทภคพรก็ทะลึ่งพรวดออกมานอกรถและนั่งอยู่บนพื้นถนนริมหาดทราย
ตรงนั้น ลมทะเลที่พัดมาโดนตัวทำให้เธอรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งร่างกาย
“นี่คุณไม่ได้กินอะไร แล้วคุณอ้วกได้ไงอ่ะ”
ประพนธ์เดินเข้ามาใกล้ๆลูบหลังให้ภคพรที่นั่งอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายจนหน้าแดงไปหมด
“ออกไปไกลๆ...อย่าเข้ามานะ....”
ภคพรกระหืดหระหอบ หันมาผลักไสประพนธ์อย่างนึกอาย
“ไม่ใช่เรื่องเลยคุณ เราสองคนไม่มีอะไรที่ต้องอายกัน”
ประพนธ์ดื้อดึงยืนอยู่ข้างๆและลูบหลังให้เธออย่างเป็นห่วงเป็นใย
“คุณ ฉันไม่ไหวแล้ว หัวฉันมันหมุนไปหมดแล้ว”
ภคพรหอบเบาๆอย่างรู้สึกเหนื่อย
“ลุกขึ้นคุณ”
ประพนธ์ประคองอดีตภรรยา ก่อนจะบ่นเธอด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ไม่สบายใจ
“ผมบอกแล้วว่าให้แวะกินข้าว คุณก็ไม่ยอมเชื่อผม ป่านนี้ลูกหิวตายไปแล้วมั้ง”
ประพนธ์เสียงดัง
“ตาคุณบอดหรือไง มองไม่เห็นหรอว่าฉันแพ้ท้อง มันทรมานนะคุณที่ต้องคอยมานั่งอ้วกของที่เรากินเข้าไป”
ภคพรเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“ปัญญาอ่อนคุณ ยังจะกล้าเถียงอีกหรอ ไปหาข้าวกินเลย อ้วกก็ปล่อยให้มันอ้วกออกมาเลย ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง”
ประพนธ์พูดในสิ่งที่ทำให้ภคพรหยุดชะงักและไม่ก้าวเท้าเดินต่อ
“เดินสิคุณ หยุดทำไม”
ประพนธ์ก้มหน้าลงไปมองหญิงสาวที่เขาประคองอยู่ในอ้อมแขน ที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่อซึมออกมาเพราะคำพูดที่กระทบจิตใจเธอ
ต่อด้านล่างนะคะ