50 สุดยอดนักถ่ายหนังมือทอง (ตอนที่2)

หลังจากลงตอนแรกไปก็มีคนให้ความสนใจอยู่พอตัวจึงกลับมาในตอนที่2 ครับ

อันนี้คือตอนแรกครับ  http://pantip.com/topic/30776295

การจัด 50 สุดยอดช่างภาพทางภาพยนตร์ จากเว็บ Total Film
ตอนที่ 2 จะเริ่มจากคนที่ 40- 31

40 - Daniel L. Fapp




ผลงานถ่ายหนังที่ได้เครดิต 81 เรื่อง (หนึ่งในงานที่มีชื่อเสียง The Great Escape (1963)) Fapp ทำงานหลากหลายแนวทั้งยังเป็นนักถ่ายภาพและคนคุมกล้องอีกด้วย

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : West Side Story (1961) เขาสร้างความโรแมนติกฉากในเมือง ทำให้ Fapp ได้ออสการ์ไปครอง


39 - Oswald Morris




มอร์ริส สร้างชื่อของเขาในการผลักดันการพัฒนาหนังสีในทศวรรษ 1950   งานที่สะดุดตามากที่สุดคือการถ่ายหนัง Moulin Rouge (1952) ของผู้กำกับ Josh Huston

เขาทำงานกับ Huston ทั้งหมดแปดครั้ง

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : Fiddler On The Roof (1971) เป็นงานที่ มอร์ริสได้รับคำชมมากที่สุด แม้ว่าไม่ควรมองข้ามเรื่อง Oliver! (1968) กับความงามสกปรกที่น่ารื่นรมย์ก็ตาม


38 - Armand Thirard




คนทำหนังชาวฝรั่งเศสคนนี้มีหนังที่มีชื่อของอย่างมากมายถึง 127 เรื่อง โดยเขาเข้ามาสู่อาชีพนี้เมื่อปลายทศวรรษ 1920

กว่า 40 ปีในอาชีพ เขาทำงานเคียงข้างกับคนที่ชอบทั้ง Duvivier ,Clouzot และ  Vadim

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : The Wages Of Fear (1953) เป็นเรื่องที่น่าจดจำสำหรับแนวทางการสร้างความตึงเครียดที่ช่วยเรียกเหงื่อได้เพิ่มมากขึ้น


37 - Eduard Tisse




ภูมิหลังของ Tisse เป็นจิตรกรรมและช่างถ่ายภาพนิ่งช่วยให้ทำงานได้ดีเมื่อย้ายมาถ่ายหนัง เขาเริ่มสร้างงานถ่ายภาพยนตร์ที่ไม่เคยถูกลบเลือนกับผู้กำกับ เซอร์ไก ไอเซนสไตน์ ระหว่างปี 1924-1946

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : Battleship Potemkin (1925) บางทีอาจเป็นการฉลองชัยของการใช้การตัดต่อแบบมองทาจ - แต่ภาพเหล่านั้นจะมีประสิทธิภาพไม่ถึงครึ่งถ้าไร้สายตาของ Tisse


36 - Tak Fujimoto




ผ่านการทำงานคนคุมกล้องใน Star Wars: Episode IV – A new Hope ปี 1977 ฟูจิมโมโตะได้ชิมลางงานถ่ายภาพครั้งแรกในปี 1973 กับหนังของเทอร์เรนซ์ มาลิค เรื่อง Badlands ตั้งแต่นั้นเขาก็ได้ทำงานกับผู้กำกับอเมริกันที่ดีหลายคน ทั้ง John Hughes, M. Night Shyamalan และ Jonathan Demme

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : เขาไม่เคยได้รับการเสนอเข้าชิงออสการ์เลยสักครั้ง แต่เขาควรได้จาก The Silence Of The Lambs (1991)


35 - John Alton




อัลท์ตัน รับหน้าที่ถ่ายหนังฟิล์มนัวร์คลาสสิคหลายต่อหลายเรื่องในช่วงทศวรรษที่ 1930-1940 และชอบใช้มุมกล้องที่ไม่เป็นไปตามแบบแผน (จากงาน He Walked By Night (1948) และ The Big Combo (1955))

เขายังเขียนหนังสือ ,วาดภาพด้วยแสง ซึ่งนำมาประยุกต์ในการถ่ายหนังที่แปลกตาของเขา

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : An American In Paris (1951) ทำให้เขาได้ออสการ์

รูป  : ผู้กำกับ Allan Dwan , Arlene Dah และ John Alton ในฉากหนังเรื่อง Slightly Scarlet (1956)


34 - Thomas Mauch




คนทำหนังเยอรมันคนนี้เคยทำงานกับ แวร์เนอร์ แฮร์โซก หลายครั้ง เขามีงานหนังที่เคยเป็นผู้กำกับภาพถึง 98 เรื่อง

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : เรื่อง Aguirre, The Wrath Of God ปี 1972

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นหนังที่เขาถ่ายได้แย่ที่สุดแต่ Mauch ประสบความสำเร็จในการสร้างภาพในหนังที่น่าประหลาดใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งลย


33 - Michael Chapman




แช็ปแมนได้เรียนรู้การเป็นผู้ควบคุมกล้องในหนังเรื่อง Jaws (1975) ก่อนจะจบการศึกษาในการถ่ายภาพแล้วได้มาทำงานกับ มาร์ติน สกอร์เซซี ในหนังสุดมหัศจรรย์เรื่อง Taxi Driver (1976)

งานของเขาเป็นแบบอย่างของสีที่ทรงพลังและขัดแย้ง และเขาก็มีเชื่อเสียงในการสร้างสิ่งสดใหม่หน้ากองอยู่เสมอ

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : ไม่มีปัญหาเลยว่า Taxi Driver เป็นงานที่น่าประหลาดใจ แต่ต้องยกให้ Raging Bull (1980) ซึ่งวางกล้องที่ไม่ได้เตรียมมาก่อนมากมายต่อหน้านักแสดง นั่นแสดงถึงความเฉลียวฉลาดของแช็ปแมนอย่างแท้จริง


32 - Gianni di Venanzo




งานชุกตลอดทศวรรษ 1950 และ 1960 Venanzo ทำงานร่วมกับผู้กำกับหนังอิตาลีเก่งๆหลายคนก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วยโรคไวรัสตับอักเสบ ในวัย 45 ปี

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : งานขาว-ดำเก๋ๆของ เฟเดอริโก้เฟลลินี่ อย่าง 8½ (1963)

ไม่เพียงแต่เสียงที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น(Nina Rito แต่งเพลง) ต้องขอบคุณ Venanzo ด้วยที่ทำให้มันอัศจรรย์


31 - Slawomir Idziak




งานช่วงต้นของ Idziak จะมีลักษณะใกล้ชิดกับสไตล์หนังยุโรป ที่โดดเด่นมากสุดคืองานผู้กำกับ Krzysztof Kieślowski.

หลายปีต่อมา Idziak มาทำหนังเมนสตรีม อย่าง Black Hawk Down (2001), Harry Potter And The Order Of The Phoenix (2007) และ Gattaca (1997)

งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด :Three Colours: Blue (1993) งานชิ้นเอกที่สะท้อนความรู้สึกที่ท้าทายมากที่สุดชิ้นหนึ่ง

จบตอน 2 แล้วครับ คนที่เหลือไว้ติดตามต่อในครั้งหน้า

ฝากติดตามบล็อกเกี่ยวกับภาพยนตร์ด้วยครับ : http://a-bellamy.com
ส่วนนี่เพจเฟซบุ๊กครับ : https://www.facebook.com/A.Surrealism
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่